วิสาข ...ปารมี

tiki

เพ็ญเดือนหกวกมา ณ ครานี้
วิสาขปารมีพิสุทธิ์แสง
น้อมรำลึกวิสาข..ธ แสดง
ประสูติ ..ตรัสรู้แจ้ง..แห่งนิพพาน.
       ปีสองพันห้าร้อยสี่สิบสอง
โลกาผองยกสากลให้ขับขาน
วันสมาธิโลก..โบกศรัทธา..ประชาทาน
เผื่อบุญจาร..สงบนิ่ง..อิงแสงธรรม
     หลีก ละ ลด และ เลิก..เศิกมารผอง
ไกลชั่วปอง..สงบบุญ...ดุลดื่มด่ำ
ประคองตน..อยู่ในบุญ จุนเจือนำ
สงบล้ำ...พบตน..บนความดี
ถ้อยแถลง หนังสือวิญญาณ ชุดที่ ๔๐ ฉบับที่ ๑-๕ มกราคม ถึง พฤษภาคม ๒๕๔๖
ขอยกความจากบรรทัดที่ ๘ หน้า ๑๐๔ มาว่าดังนี้
        ."ในช่วงต้นปี  ๒๕๔๖ สืบต่อเนื่องมาถึงกลางปี (สืบต่อมาถึงวันนี้ ๒๕๔๘_ผู้เขียน)
เหตุการณ์ของบ้านเมืองและของโลก  มีความเดือดร้อนวุ่นวาย มีสงครามแย่งชิง
ความเป็นใหญ่ของมิจฉาทิฏฐิ  เกิด ฉาตกภัย  ข้าวยากหมากแพง  และมี
ภัยพิบัติ  เกิดโรคระบาด ทำให้ผู้คนเดือดร้อน ยากจน เจ็บป่วย ล้มตาย
เป็นจำนวนมาก
        คนทุกวันนี้เป็นโรคเครียด และ โรคประสาทกันมาก  เพราะปัญหา
ในชีวิตประจำวันที่สร้างความขัดข้อง  ความขัดแย้ง  ความไม่สบายใจมีมาก
กว่าแต่ก่อนหลายเท่า   คนเหล่านี้    ไม่สามารถที่จะปัดความคิดที่ก่อให้เกิด
ความไม่สบายใจออกไปได้  เมื่อความไม่สบายใจเกิดขึ้นบ่อยๆ   สะสมมากขึ้น
   ก็ต้องเป็นโรคประสาทอย่างแน่นอน  แต่บางคนแม้สิ่งแวดล้อมจะเลวร้าย
เพียงใด    ถ้าใจยังเกาะเกี่ยว  ยังติด   ยังปล่อยวางสิ่งต่างๆ ไม่ได้อย่าง
เด็ดขาด  ใจจะเป็นอิสระอย่างแท้จริงไม่ได้   ไม่สามารถจะรู้แจ้งสิ่งต่างๆ 
ตามความเป็นจริง
	การสร้างกำลังใจ
	พระพุทธองค์ตรัสว่า
	  ภิกษุทั้งหลาย  เธอจงวิดน้ำออกจากเรือ 
 เพราะเรือที่วิดน้ำออกแล้ว จะถึงฝั่งได้เร็ว
และเมื่อ ตัดราคะ โทสะ ได้แล้ว ก็จะถึงฝั่ง คือ นิพพาน 
         	การใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและมีความสุข หมายถึง การเข้าใจ
ตนเอง รู้จักตั้งเป้าหมาย   รู้จักวางแผน และต้องรู้จัก เลือกเฟ้นสิ่งดีๆ
ให้กับชีวิต แม้บางครั้ง อาจจะเผขิญกับความทุกข์และความยากลำบากบ้าง 
 ให้คิดว่าเป็นแบบฝึกหัดของชีวิตที่ต้องมีทั้งสุขและทุกข์คละเคล้ากันไป
	แม้จะมีความทุกข์ความยากลำบากเกิดขึ้นกับชีวิตอยู่เนืองๆ 
แต่ในขณะเดียวกัน หลายคนอาจลืมไปว่า ในบางครั้งการคลายทุกข์  
สามารถหาได้จากสิ่งที่มีรอบตัว มองโลกให้สดใส ด้วยจิตใจที่เบิกบาน 
และ สรรหาความสุขจากสิ่งเล็กๆน้อยๆ รอบตัวให้มากที่สุด
	การตั้งสติให้มั่น  คิดหาทางออกโดยให้กำลังใจกับตนเองว่า 
ไม่มีปัญหาใดที่แก้ไขไม่ได้...ไม่เกรงกลัว และเชื่อมั่นว่า สามารถนำชีวิต
รอดพ้นจากมรสุม และ อุปสรรคทั้งปวง
	การให้กำลังใจตนเองอยู่เสมอ เมื่อเกิดปัญหาจะช่วยให้
สภาพจิตใจมีพลังมากขึ้น   จิตใจเยือกเย็น  ไม่รู้สึกกดดัน  หากยิ่งมีความ
เชื่อมั่นในตนเองว่าสามารถแก้ปัญหาได้โดยไม่เกรงกลัว
ย่อมมีโอกาสในการขจัดเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดี
ถ้อยแถลง หนังสือวิญญาณ ชุดที่ ๔๐ ฉบับที่ ๑-๕ มกราคม ถึง พฤษภาคม ๒๕๔๖
ขอยกความจากบรรทัดที่ ๘ หน้า ๑๐๔ มาว่าดังข้างต้นนี้				
วันวิสาขบูชา   มีความสำคัญต่อชาวโลก

	องค์การสหประชาชาติ ได้รับรองความสำคัญของ   วันวิสาขบูชา  และ ประกาศให้เป็น
วันสำคัญสากลแห่งสหประชาชาติ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๒
	   วันวิสาขบูชา  ปีนี้ ตรงกับวัน....อาทิตย์ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๘(ขออนุญาต
เปลี่ยนให้ตรงปีนี้.._ผู้เขียนทิกิ_tiki)
	   วันวิสาขบูชา หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ หรือ เดือน ๖ เนื่องในโอกาส
คล้ายวันที่พระพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ และเสด็จดับขันธปรินิพพาน  เวียนมาบรรจบ
ในวันและเดือนเเดียวกันอย่างน่าอัศจรรย์

	   วันวิสาขบูชา  เป็นวันสำคัญที่สุดทางพุทธศาสนา	เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเกิดขึ้นในโลกนี้
คือวันประสูติและเกิดโดยการตรัสรู้ เพื่อเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดจน การดับสูญ
คือการปรินิพพาน 
   วันวิสาขบูชา  เป็นวันที่โลก ได้รับหลักธรรมอันทรงคุณค่าเสมือนแสงสว่างที่ส่องสว่าง
ให้เราเห็นความจริงของชีวิตและโลก  แม้พระพุทธเจ้าจะปรินิพพานไปแล้ว
 แต่หลักธรรมคำสั่งสอน ยังคงดำรงอยู่เพื่อประโยชน์แก่ชาวโลกทั้งปวง



ถ้อยแถลง หนังสือวิญญาณ ชุดที่ ๔๐ ฉบับที่ ๑-๕ มกราคม ถึง พฤษภาคม ๒๕๔๖
ขอยกความหน้า ๑๐๔ มาว่าดังข้างต้นนี้
ทิกิ_tiki				
พุทธประวัติ ..
	พระพุทธเจ้าประสูติ ณ สวนลุมพินีวัน อยู่ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะ  แคว้น
สักกะ ( ปัจจุบันอยู่ในเมือง ลุมมินเด ประเทศเนปาล)  เมื่อเช้า วันศุกร์ 
ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ปี จอ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี

          ในกาลนั้นเป็นมหามงคลมหุติฤกษ์  พระบรมโพธิสัตว์เจ้า ประสูติจาก 
มาตุคัพโภทร
ท้าวสุทธาวาส มหาพรหมทั้ง ๔ พระองค์ ทรงถือข่ายทองรับพระกายไว้ 
 ขณะนั้นท่ออุทกธาราทั้งสองก็ไหลหลั่งลงมาจากอากาศ  ท่อธารหนึ่งเป็น
น้ำร้อน  ท่อธารหนึ่งเป็นน้ำเย็น ตกลงมาโสรจสรงพระกาย
พระกุมาร กับ พระราชมารดา

พระกุมารเจ้า บ่ายพระพักตร์ไปทางอุตรทิศ  เสด็จย่างพระบาทไปบน
พื้นแผ่นทองอันท้าวจตุโลกบาท ถือรองรับไว้ได้ ๗ ก้าว  แล้วทรงหยุด
ประทับยืนบนทิพยปทุมบุปฝาชาติ อันมีกลีบได้๑๐๐ กลีบ  ทรงเปล่ง
พระสุรเสียงอันไพเราะดุจเสียงท้าวมหาพรหม ดำรัสอาสภิวาจา
ด้วยพระคาถาว่า

	อคฺโคหมสฺมิ  โลกสฺส	ดชฏโฐ  เสฏโฐหมสฺมิ
	อยมนฺติมา   เม ชาติ 	นตฺถิทานิ  ปุนพฺภโว
       
	ในโลกนี้ เราเป็นยอด เป็นผู้เจริญที่สุด  ประเสริฐที่สุด 
 การเกิดของเรานี้เป็นครั้งสุดท้ายภพใหม่ต่อไปไม่มี


ถ้อยแถลง หนังสือวิญญาณ ชุดที่ ๔๐ ฉบับที่ ๑-๕ มกราคม ถึง พฤษภาคม ๒๕๔๖
ขอยกความจากหน้า ๑๐๖ มาว่าดังข้างต้นนี้
ทิกิ_tiki				
การตรัสรู้ ..
	ต่อมาเมื่อพระชนมายุได้ ๒๙ ปี มีพระโอรสประสูติแต่พระนางยโสธรา พระองค์หนึ่ง 
ทรงพระนามว่า ราหุลกุมาร    พระสิทธัตถะ ทรงน้อมพระทัยในการออกบรรพชา 
เสด็จออกจากพระนครในราตรีกาล    มาถึงฝั่งแม่น้ำอโนมานที   ทรงเปลื้องเครื่องประดับสำหรับขัตติยราช
ทั้งหมด มอบให้แก่นายฉันนะ...ทรงจับพระโมลีด้วยพระหัตถ์ซ้าย  
พระหัตถ์ขวาทรงพระขรรค์  ตัดพระโมลีให้ขาดออกเรียบร้อยด้วยพระองค์เอง  
แล้วทรงจับพระโมลีนั้นขว้างขึ้นไปบนอากาศ
ทรงอธิษฐานว่า

       ถ้าอาตมาจะได้ตรัสรู้สัมโพธิญาณโดยแท้แล้ว  ขอจุฬาโมลีนี้จงตั้งอยู่
ในอากาศ      ผิว่าจะมิได้บรรลุสิ่งต้องประสงค์ ก็จงตกลงมายังพื้นพสุธา 
 ในทันใดนั้น จุฬาโมลีก็มิได้ตกลงมา  คงลอยอยู่ในอากาศ 
 สมเด็จพระอมรินทราธิราช ก็เอาผอบแก้วมารองรับไว้ 
แล้วนำไปบรรจุยัง จุฬามณี เจดีย์สถานในเทวโลก
         ขณะนั้น  ฆฏิการพรหม ก็น้อมนำ ไตรจีวรและบาตรมาจากพรหมโลก  
เข้าไปถวาย    พระสิทธัตถะทรงรับผ้าไตรจีวรกาสาวพัสตร์และบาตรแล้ว
 ก็ทรงนุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ อันเป็นธงชัยของพระอรหันต์ 
ทรงอธิษฐานเพศเป็นบรรชิตอุดมเพศ    แล้วทรงมอบผ้าทรงเมื่อยังเป็น
คฤหัสถ์เพศทั้งคู่ให้แก่ ฆฏิการพรหม ซึ่งน้อมรับผ้าคู่นั้นไปบรรจุไว้
ในทุสสเจดีย์ในพรหมโลก

	
หนังสือวิญญาณ ชุดที่ ๔๐ ฉบับที่ ๑-๕ มกราคม ถึง พฤษภาคม ๒๕๔๖
ขอยกความจาก หน้า ๑๐๖ -๑๐๗ มาว่าดังข้างต้นนี้				
พระองค์ทรงผนวชแล้ว ทรงบำเพ็ญเพียรอย่างหนักเป็นระยะเวลา ๖ ปี
จนได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ณ ตำบล อุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธ
(ปัจจุบันอยู่ในเขตเมือง พุทธคยา แคว้นพิหาร ประเทศอินเดีย) เมื่อเช้ามืด
วันพุธ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีระกา ก่อน พุทธศักราช ๔๕ ปี 

	รุ่งอรุโณทัย ทรงเบิกบานพระหฤทัยอย่างสูงสุดในการตรัสรู้ 
ทรงพบว่าชีวิตของคนเรา ได้เวียนว่ายตายเกิดมานานแล้วนับชาติไม่ถ้วน 
ทรงเปล่งอุทานเป็น..ปฐมพุทธภาษิตคาถาว่า

	 อเนกชาติสํสารํ	สนฺธาวิสฺสํ	อนิพฺพิสํ
	คหการํ คเวสนฺโต	ทุกฺขา ชาติ ปุนปุปุนํ
	คหการก  ทิฏโฐสิ	ปุน  เคหํ น กาหสิ
	สพฺพา  เต ผาสุกา  ภคฺคา	คหกูฏํ     วิสงฺขตํ
	วิสงฺขารคตํ  จิตฺตํ	ตณฺหานํ  ขยมชฺฌคา

	เราได้เสาะแสวงหามานานแล้วว่า    ใครหนอเป็นผู้สร้างเรือน  (คืออัตตภาพของเรานี้ )
แต่ไม่พบ  จึงได้ท่องเที่ยวไปสู่สังสารวัฏนับชาติไม่ถ้วน  การเกิดบ่อยๆ เป็นทุกข์
นี่แน่ะ นายช่างผู้สร้างเรือน  บัดนี้เราได้เห็นแจ้าแล้ว  เจ้าจะสร้างเรือนให้กับเรา
อีกไม่ได้ เพราะซี่โครงของเจ้า   เราก็ได้หักหมด  ศีรษะของเจ้า เราก็ได้ทำลายแล้ว
 จิตของเราได้เข้าถึงวิสังขาร ไม่มีอะไรปรุงแต่งได้อีกต่อไป เพราะได้เข้าถึงความสิ้นไป
แห่งตัณหาแล้ว

	การตรัสรู้ เป็นเครื่องเตือนให้ระลึกว่า  สิ่งสำคัญที่เป็นจุดมุ่งหมายและผลสำเร็จ
แห่งความเพียรพยายาม รวมทั้งการใช้สติปัญญาของพระพุทธเจ้า ได้บรรลุถึงความดีงาม
เต็มเปี่ยมสมบูรณ์  พระธรรมคำสอนเป็นดุจแสงสว่าง ส่องนำทางการดำเนินชีวิต
ให้พ้นจากความทุกข์มืดมน ไปสู่ความสงบสุขร่มเย็น

หนังสือวิญญาณ ชุดที่ ๔๐ ฉบับที่ ๑-๕ มกราคม ถึง พฤษภาคม ๒๕๔๖
ขอยกความจาก หน้า -๑๐๗ มาว่าดังข้างต้นนี้
ทิกิ_tiki				
การปรินิพพาน ..
หลังจากตรัสรู้แล้ว   พระองค์ทรงบำเพ็ญพุทธกิจโปรดผู้ควรแนะนำสั่งสอน
ให้บรรลุมรรคผลจนนับไม่ถ้วนเป็นระยะเวลา ๔๕ ปี และเสด็จดับขันธปรินิพพาน
เมื่อวันอังคารขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะเส็ง ณ สาววโนทยาน ของมัลละกษัตริย์
เมืองกุสินารา  แคว้นมัลละ (ปัจจุบันอยู่ในเมืองกุสีนคระ)อุตตรประเทศ ในอินเดีย
สิริรวมพระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา
	การปรินิพพาน    คือการเตือนจิตสำนึก  ของความไม่ประมาท   สิ่ง
ทั้งหลายมีความไม่เที่ยงแท้ไม่คงทน   และมีความเปลี่ยนแปลงเป็นไปตามเหตุ
ปัจจัยตลอดเวลา  เพราะชีวิตนั้นจะสิ้นสุดลงด้วยความตาย   สิ่งที่มีการเกิดย่อม
มีการดับในที่สุด    ไม่มีอะไรยับยั้งต้านทาน
	พระผู้มีพระภาคเจ้า  ประทานโอวาทแก่ภิกษุทั้งหลาย  ตอนหนึ่งว่า
"วินัยที่เราได้บัญญัติแก่ท่านทั้งหลายก็ดี  ธรรมที่เราได้แสดงแล้วแก่ท่านก็ดี
เมื่อเราล่วงลับไปธรรมและวินัยนั้นๆ จักเป็นศาสดา ของท่านทั้งหลาย
หนังสือวิญญาณ ชุดที่ ๔๐ ฉบับที่ ๑-๕ มกราคม ถึง พฤษภาคม ๒๕๔๖
ขอยกความจาก หน้า -๑๐๘ มาว่าดังข้างต้นนี้				
ปัจฉิมโอวาท ..
           "หันฺททานิ   ภิกฺขเว   อามนฺตยามิ   โว  : วยธมฺมา   สงฺขารา  อปฺปมาเทน 
  สมฺปาเทถาติ.  อยํ  ตถาคตสฺส  ปจฺฉิมา  วาจา  ฯ

	ดูก่อนภิกษุ   บัดนี้เราผู้ตถาคตขอเตือนท่านทั้งหลาย  
สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมสิ้นไปเป็นธรรมดา  
ท่านทั้งหลาย  จงยังประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่น
ให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด"

	จากหนังสือ  พุทธประวัติทัศนศึกษา ของ  พระพิมลธรรม 
(ชอบ  อนุจารีมหาเถระ  ร.บ.)
	การเริ่มต้นและสิ้นสุดของชีวิต  ที่เรียกว่า    การเกิดการตาย
นั้น  มนุษย์ทุกคนมีเสมอกัน...ต่างกันที่ระหว่างจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด  
 เราได้ทำอะไรให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและสังคมส่วนรวมบ้าง

หนังสือวิญญาณ ชุดที่ ๔๐ ฉบับที่ ๑-๕ มกราคม ถึง พฤษภาคม ๒๕๔๖
ขอยกความจาก หน้า -๑๐๘ มาว่าดังข้างต้นนี้				
วันสมาธิโลก ..
	ในปีนี้ (พ.ศ๒๕๔๖) องค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก 
หรือ พ.ส.ล. ที่มีสมาชิกจาก ๒๗ ประเทศ ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่วันที่ ๒๕ พฤษภาคม
พ.ศ. ๒๔๙๓ เป็นเวลา ๕๓ ปีแล้ว     ได้กำหนดให้ วันวิสาขบูชา เป็น
วันสมาธิโลก นับแต่ปีนี้เป็นต้นไป (พ.ศ.๒๕๔๘)เป็นการจุดประกายให้ชาวโลก 
 ได้เจริญเมตตาจิตระลึกถึงความสงบ  ความดีงามของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
ขอให้ทุกคนได้รวมพลังจิตบำเพ็ญสมาธิพร้อมกัน    โดยมุ่งแผ่พลังเมตตา
ไปยังผู้ตกเป็นเหยื่อของสงคราม  ความรุนแรง  และภัยธรรมชาติ 
 เพื่อให้สรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่ร่วมกันด้วยสันติภาพ และมีความสงบสุข

หนังสือวิญญาณ ชุดที่ ๔๐ ฉบับที่ ๑-๕ มกราคม ถึง พฤษภาคม ๒๕๔๖
ขอยกความจาก หน้า -๑๐๘ มาว่าดังข้างต้นนี้

ขอความสุขร่มเย็นมีแด่สาธุชนพุทธชนทั่วโลก
ทิกิ_tiki				
สำหรับท่านที่ต้องการอ่านรายละเอียดการประชุมสหประชาชาติ
มีลงไว้ในกระทู้เมื่อปีก่อนดังนี้

http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story2605.html

วิสาขะบูชา...สหประชาชาติ ๏ ๏  

 แหล่งที่มา ..http://www.worldbuddhism.net/buddhism-day/visak-day.html 
 
ข้อความฝากถึง ๏ ๏ วิสาขะบูชา...สหประชาชาติ ๏ ๏ 
 

1 : ในการเขียนกลอนไว้ที่ ส่วนกลอนเมื่อวานนี้
ทิกิ_tiki ก็ใช้เวลาส่วนหนึ่งค้นหาข้อมูลด้านนี้ คิดว่า ถ้าวันนี้พอมีเวลาว่าง
จะได้เขียนเรื่องนี้ต่ออีกสักหน่อยในหน้าเรื่องสั้น เป็นสารคดีที่น่าสนใจ
      ก็เห็น หัวข้อ วันสำคัญของโลก ก็ทำให้คิดถึงว่า วัน วิสาขบูชา นี้ 
เป็นวันรักแห่งมนุษยชนที่แท้จริง หนึ่งวัน 

      ขออนุญาตทาง พุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก นำบทความลง ณ.ที่นี้
http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=2605

เรียนมาด้วยความเคารพทุกท่านก่อนค่ะ

2605  
: 4895 - tiki  
Source :   ..http://www.worldbuddhism.net/buddhism-day/visak-day.html 
Date - Time:   02 มิ.ย. 47 - 09:47 
Note :      ๏   ๏ วิสาขะบูชา...สหประชาชาติ   ๏   ๏ 
tiki 02 มิ.ย. 47 - 10:25				
comments powered by Disqus
  • ChorChongKoh

    19 พฤษภาคม 2548 21:12 น. - comment id 84737

    คุณ ทิกิ ค่ะ
    
          น่ายินดีมากนะคะ ที่ประเทศไทย
    
    เป็นแผ่นดินที่งดงามอร่ามด้วยแสงธรรม
    
    มหานุภาพแห่งแสงเทียน เจียระไนหัวใจ
    
    ของเหล่าเวไนยะ ให้สะอาด สว่างและ สงบ
    
    ณ บ้านกลอนไทย ในวารวิสาขปารมีนี้ได้พบ
    
    บทกวีที่น้อมนบสามคำรบนบพระไตรรัตน์ 
    
    มากมายหลายบท หลายรส หลายคนลิขิต
    
    ได้ยินเสียงธรรมสนั่นกังวานกังสดาลไปทั่ว
    
    หมอก เมฆ ที่เคยกลบฟ้ามืดมัว พลันสลาย
    
    เฉิดฉายด้วยประกายเทียน ประกายธรรม
    
    ปากกาเงิน ปากกาทอง ของนักศิลป์บ้านนี้
    
    มีค่ามากกว่าราคาเกินคณานับ ต้องยอมรับ
    
                 ขอให้อ่านกลอนวัดโพธิ์ซาบซึ้งสนิท
    
    และนำมาลิขิตเรียงร้อยฝากคนไกลทั้งหลาย
    
    ที่หมายมุ่งความสงบแห่งสวรรค์ในใจทุกคน
    
    ด้วยกุศลผลและแรงบันดาลใจที่ลุกโชนแสง
    
                    วิสาข์สวัสดิ์ค่ะ 42.gif
  • tiki

    20 พฤษภาคม 2548 14:50 น. - comment id 84740

    ขอบคุณ คุณ ช่อชงโคมากค่ะ
    
          เห็นด้วยกับงานกลอนโคลงวิสาขบูชา
    ในปีนี้ งดงามเหมือนเดิมค่ะ
             ธรรมะในกลอนย่อมใสกระจ่าง
    เยือกเย็นใจดีค่ะ
    
           ขอบคุณคุณ ช่อชงโค
    ที่แวะมาอ่านนะคะ 
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/story5202.html#สำหรับ
    เรื่อง วัดโพธิ์ ขอยกไปตอบที่กระทู้เชิญ
    นัดเที่ยวเจ้าพระยา และ กระทู้คุณ นกตะวัน
    ด้วยนะคะ
    
    กลบทที่จะพาไปดูนั้น ได้แค่ แล ค่ะ อ่าน
    ไม่ทันและ จะต้องไปหาหนังสือคู่มือกลบท
    ซึ่งตนเองเคยซื้อมาแล้วจากงานสมาคมนักเขียนค่ะ  เพราะ โบราณท่านเข้ากลบทไว้
    มิได้แจกแจงการอ่านค่ะ
    
            เคยไปแว้บอ่านครั้งหนึ่ง อ่านยากมาก
    ค่ะ แต่อยากให้น้องๆรุ่นใหม่ ได้รู้ว่า
    มหาวิทยาลัยทางอักษรศาสตร์ของไทย
    ต้นรัตนโกสินทร์นั้นเรียนกันมาอย่างไร
    
     และ ที่สำคัญ วัดโพธิ์ เป็นจิตวิญญาณแต่
    ครั้ง รัชกาลที่ ๑ ถึง รัชกาลที่ ๓ ไล่เรื่อยมา
    ถึงปัจจุบันในการวางรากฐานกานท์กลอน
    ไทย  น่าที่คนไทยสมัยใหม่จะได้พบค่ะ
  • พี่ดอกแก้ว

    20 พฤษภาคม 2548 19:29 น. - comment id 84742

    มาอ่านงานที่มีคุณค่าค่ะคุณทิกิ
  • tiki

    20 พฤษภาคม 2548 22:57 น. - comment id 84744

    คุณ พี่ดอกแก้ว ขอบคุณที่แวะมาเขียนค่ะ
  tiki

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน