วันหนึ่งในเมืองนั้น:ไก่ทอดที่ไม่อร่อยที่สุดในโลก
เจ้าขาว
สิบเอ็ดโมงตรง
ผมแวะไปที่ซุปเปอร์มาเก็ตแห่งหนึ่งแถววังหิน
ตั้งใจจะหาอะไรกินก่อนออกไปทำธุระต่อ
พอเลี้ยวรถเข้าไป ภาพที่เจอคือกลางลานจอดนั้นถูกกั้นด้วยสังกะสี
่เข้าใจเอาเองว่าทางซุปเปอร์ฯคงกำลังปรับปรุง อาจจะเพิ่มร้านค้ากลางแจ้งขึ้น
ที่จอดรถวันนั้นจึงแลดูวุ่นวายสับสน เนื่องจากรถต้องถอยเข้าๆออกๆอยู่ตลอดเวลา
ขณะที่ผมกำลังหันรีหันขวางถอยรถอยู่
ก็มีชายคนหนึ่งมาช่วยโบกรถให้
ผมค้อมศรีษะให้ด้วยความขอบคุณ
แต่พอผมจะลง จึงสังเกตเห็นว่าเค้ามากับเด็กตัวเล็กๆอีก1คน
และทั้งคู่ส่งสายตาวิงวอน พร้อมแบมือขอบางอย่างจากผม
นอกจากเงิน20บาทที่ผมส่งให้ อะไรบางอย่างก็หลุดลอยจากผมไปพร้อมกัน
----------
ไก่ทอด 2ชิ้น ไก่กระเทียม 6ชิ้น มันบดเล็ก 1ถ้วย โคล่าแก้วใหญ่ ทั้งหมดถูกจัดลงบนถาดอย่างรวดเร็ว
ผมค่อยๆยกถาดออกจากเคาเตอร์ ขณะกวาดตาเลือกทำเลอยู่นั้น
สายตาคู่เดิมจับจ้องผมผ่านกระจกร้าน ก่อนจะค่อยๆมองจ้องตรงมื้อเที่ยงของผม
ผมหลบตาอย่างรวดเร็ว และรีบหาที่นั่ง
แต่อนิจจา....ฟ้ากำหนดให้ผมนั่งลงตรงโต๊ะริมกระจกบานนั้นพอดี
ผมพยายามทำตัวปกติ และตั้งใจจะรีบกินรีบไป
ซักพักทั้งคู่ก็จากไป แต่ครั้งนี้พวกเขากลับทิ้งบางอย่างไว้กับผม
อาหารพร่องลงไปอย่างรวดเร็วตามขนาดความหิวของผม
แต่อย่างไรก็ตาม ตอนหิวๆ ผมมักสั่งเกินพอดีเสมอ
ไก่ทอดชิ้นสุดท้าย ผมใช้เวลาละเลียดอยู่นานเกินปกติ
ช่วงเวลานั้นเองที่สมองผมเริ่มเปิดฉากสงคราม
ฝ่ายหนึ่งบอกผมว่า ผมควรทำอะไรสักอย่าง
ฝ่ายหนึ่งบอกผมว่า ผมไม่ควรจะทำอะไร
ทั้งสองฝ่ายยกเหตุผลร้อยแปดมาโรมรันกัน
ชั่วเวลาไม่ถึง10นาที แต่เหมือนสงคราม 100 วัน
สงครามที่เหมือนจะสูญเสียเพียงไก่ทอด 1 ชิ้น
แต่นี่ไม่ใช่สงครามครั้งแรก และคงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
ตราบเท่าที่เมืองแห่งนี้ยังทำตัวเป็นเมืองหลุมดำที่คอยดูดดึงสารพัดสิ่งเข้ามา เพื่อเมือง ไม่ใช่คนในเมือง
สิ่งที่ผมควรจะทำ อาจจะเป็นแค่เพียงความคิดตลอดกาล
ในเมืองที่ความดีมีเงื่อนไข
การทำอะไร ที่ผมคิดว่าดี หลายครั้งมีราคาสูงเกินกว่าผมยอมรับได้ ส่วนหนึ่งเพราะผมเองก็ไม่มั่นใจในผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น
ประสบการณ์ชีวิตเมืองสั่งสอนผมจนหวาดกลัว
เงิน และเวลาที่เสียไปไม่เคยเท่าเทียมความรู้สึกที่สูญเสีย
การอยู่นิ่งๆกลายเป็นหลุมหลบภัย ที่หลายๆคนในเมืองใช้หยุดพักรวมถึงตัวผมเอง
เมืองเหมือนพายุทอร์นาโด
มันดูดกลือนทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป
แต่ท้ายสุด มันเองก็กลับว่างเปล่า
. . . . . . .
คุณพ่อลูกสามเดินไปสั่งอาหาร
เด็กๆส่งเสียงเลือกเมนูกันวุ่นวาย
ถ้าย้อนภาพกลับไปตอนที่ทั้งสี่กำลังเดินเข้ามา
คุณพ่อดึงประตูออกเด็กๆวิ่งเข้าไป
ชั่วขณะนั้น พ่อทำตัวเป็นหลุมหลบภัยให้กับลูกๆ
เบื้องหลังของพ่อคือเด็กมอมแมมคนหนึ่งที่โดนบังไว้มิดชิด
อาหารถูกยกมาที่โต๊ะ
พ่อลูกสามก็วุ่นวายกับการดูแลจัดจานช้อนให้เด็กๆ คอยดูแลเช็ดปาก บีบซอสมะเขือเทศ ตักมันบดให้
ผู้พ่อนั่งฝั่งเดียวกับผม ฝั่งตรงข้ามของพ่อเป็นฉากเดียวกับที่ผมมอง
ผมพึ่งรู้สึกว่า ลูกๆเองก็คงกลายเป็นหลุมหลบภัยสำหรับพ่อเช่นกัน
พนักงานบรรจงจัด ไก่ทอดสูตรเผ็ด 2 ชิ้น มันบด และมันฝรั่งทอดเต็มกล่อง ลงในถุงกระดาษ
ไม่ใช่ผมคนเดียวที่รู้สึกว่าไก่ทอดไม่อร่อย
มันเป็นรสชาติเดียวกับแฮมเบอร์เกอร์ในคืนนั้น........