ระเห็จ เตร็ดเตร่ เร่ร่อน รอนแรม
ร้อยฝัน
ระเห็จ เตร็ดเตร่ เร่ร่อน รอนแรม โหอ่านแต่ชื่อ ก็เสียวสะดือวาบ อะไรมันจะไร้รัง บ้านผุพัง จะพักพิง คงไม่มี ละเหี่ยใจ (ว่าเข้านั่น)
จะเริ่มยังไงดีล่ะ ก็เราชอบเรียกตัวเองว่านักเดินทาง หายที่นั่น โผล่ที่นี่ ผลุบ ๆ โผล่ เป็นผีไม่มีหลุม อะฮ้า ถึงคราวนี้ ก็ต้องจรลี มีคำสั่งให้ระเห็จจากที่ทำงาน ไปโผล่แถว เมืองภูเก็ตโน่น ไปทำงานสามวัน แต่อะฮั้นลาพักร้อนต่อ 1 อาทิตย์ ที่ทำงานเค้าก็ให้ค่าเดินทาง ค่าที่พัก เบี้ยเลี้ยง อิอิ แต่ไม่ยักกะให้เงินเที่ยวแฮะ (เจ้านาย โค - ตะ - ระ - งก ) แรกเริ่มเดิมที ตั้งใจจะไปรถไฟ แฮะ ๆ ความเป็นคนดั้งน้อย จะเข้าเมือง ก็สอบ ก็ถาม ถึงรู้ว่ารถไฟ บ่ไปถึงภูเก็ตดอกเด้อ เปลี่ยนแผน จะไปรถทัวร์ เข้ากรุงเทพ ฯ แล้วล่องลงใต้ ไอ้เจ้าเพื่อนที่ไม่ได้รู้ใจ แต่ดันนัดกันไว้ บอกอย่างเร็วไว เฮ้ย นั่งรถไฟมาถึงบ้านข้า ที่ลพบุรี แล้วค่อยไปกันต่อ ด้วยความเชื่อเพื่อนก็จะไปจองตั๋วรถไฟ แต่ลืมคิดไป เป็นช่วงที่ฉันทนาจะกลับมากรุงเทพ ฯ เต็มขอรับ เต็ม เลยนั่งรถจากชัยภูมิ ลงที่ โคราช แล้ว ก็โคราช ไปลพบุรี เฮ้อ (ถอนหายใจ ไม่ใช่โล่งอก แต่เป็นปลง ขอรับปลง) รถแน่นมาก ร่างอันบาง(น้อย) ถูกเบียด ถูกอัด กระดูกแทบป่น แต่ก็ทนไป เด็กรถก็สั่งชิดในหน่อยเพ่ ชิดในหน่อย ห่างกันแค่ 4 - 5 เซ็น ยังบอกว่ามีที่ว่าง เฮ้อ เอากลับเค้าซี่
การอัดแน่นกว่าปลากระป๋อง ผู้ใหญ่อย่างเรายังพอทนไหว แต่เด็กเล็ก ๆ อย่างนั้นน่าเป็นห่วง ในรถคันนั้นน่าจะมีเด็กเล็กราว ๆ 2 - 3 คน ส่งเสียงร้องกันจ้า คนนั้นร้อง คนนี้ร้องมั่ง ทั้งรถระงมไปด้วยเสียงเด็กร้องไห้ และเสียงบ่น
แต่ที่น่าสงสาร ที่สุดน่าจะเป็นเด็กที่อยู่ข้าง ๆ เราน่ะเอง ถามแม่เด็กจึงได้รู้ว่าเด็กเพิ่งไปผ่าตัด ตกแต่งเพดานโหว่มา ด้วยความสงสัย อันเป็นนิสัยตั้งเดิมอยู่แล้ว จึงถามถึงสาเหตุที่ต้องผ่าตัด แม่เด็กเล่าให้ฟังด้วยความหดหู่ว่าน้องน้ำหวาน(ชื่อเด็กจริง ๆ) มีเพดานโหว่ตั้งแต่เกิด ถามไถ่ไปเรื่อยจึงทราบว่า ในช่วงท้อง แม่น้ำหวานเครียด น้ำหวานจึงมีเหตุอันไม่ครบสมบูรณ์ แต่ยังไม่ปักใจเชื่อนัก เลยโทรถามเจ้าคุณหมอเพื่อนยา บอกว่าเป็นไปได้จริง เฮ้อ เพิ่งรู้นะเนี่ย ความเครียดร้ายกาจขนาดนี้ โชคดีเราเกิดมา มีเวลาเครียดน้อยจริงๆ
นั่งปลงไป กับความเมื่อยล้า จนถึงลพบุรี เจ้าเพื่อนตัวดี เอารถตู้มารับ
พร้อมกับลากเราล่องลงไปกรุงเทพ ฯ ยังไม่หายเมื่อย มันก็บอกว่า จองตั๋วเครื่องบินไว้แล้ว พร้อมโดยสาร ไปกับการบินไทย โห มันเป็นความตื่นเต้นสุด ๆ
เกิดมาจากท้องนา เพิ่งจะก้าวขาไปขึ้นเครื่องบิน พยายามทำตัวให้กร่าง ไอ้เพื่อนที่น่ารัก มันก็บอกว่า อย่าทำตัวบ้านนอก เราก็เลยบอกไปนอกเทศบาล แต่ในเขาโว้ย มันหัวเราะ ไม่ทิ้งถิ่นเก่า เลย
ก่อนจะขึ้นเครื่องบิน เพื่อนมันลากไปไหนบ้างไม่รู้ แต่มีการตรวจอาวุธแฮะ พอเราเดินผ่าน เครื่องมันร้อง ติ๊ด ๆ เค้าก็บอกมีคัตเตอร์ เฮ้ยรู้ได้ไง ขนาดเรายังไม่รู้เลย เราก็เทมันหมดกระเป๋า มีจริงแฮะ คัตเตอร์เก่า ๆ มันอยู่ได้ไงไม่รู้ เค้าก็ขออนุญาตอย่างนอบน้อมให้เราถอดใบคัตเตอร์ ด้วยความเป็นคนดี(ยังไม่หมด) เราก็ยื่นให้ แต่ไงเจ้าหน้าที่อมยิ้ม เราเหลือบไปดู ต๊าย อาย
คัตเตอร์ที่เราพกนอกจากจะเก่าแล้ว ใบยังสั้นกุด เหลือ สัก 2 เซ็นได้มั๊ง แถมขึ้นสนิมด้วย เราเลยพูดเบา ๆ ถ้าเอาไปจี้ใคร เค้าคงไม่กลัว แต่ที่จะกลัวน่าจะเป็นเค้ากลัวติดเชื้อบาดทะยักจากมีดมากกว่านะ เจ้าหน้าที่สุดหล่อ(ลืมบอกตะแรก)
ยิ้มให้ โอ้ย บาดใจ คมยิ่งกว่าคัตเตอร์ อีกให้ตาย
(วันนี้พอก่อนไว้ตอนหน้าเน้อ จาเล่าให้ฟัง)