วันที่หัวใจอยากพัก เราจึงพบกัน*3*
ความทรงจำ
"อืม... เอาไว้นัทค่อยบอกได้ม๊ะ ตอนนี้นึกไม่ออกอ่า ^^" " เขาก็หัวเราะ
'มีความสุขจังกับการได้เห็นเขาในทุกๆ วัน' เธอคิด
"ขอข้าวกระเพราไก่ไข่ดาวที่นึงครับ" ผมเดินไปสั่งกับป้าร้านขายอาหารตามสั่งที่กำลังเตรียมตัวปิดร้าน
"ผม... มาช้าไปไหมครับ"
"เกือบจ๊ะ ไปนั่งก่อนนะเดี๋ยวป้าทำให้"
ผมเดินไปทิ้งตัวที่เปียกปอนลงยังโต๊ะไม้เข้าชุดกันในร้าน พร้อมกับหยิบซองกันน้ำเออมาจากกล่องใบย่อมในกระเป๋าเป้ ผมค่อยๆ เทของที่อยู่ในซองนั้นออกมา รูปถ่ายสีจำนวน 6-7 ใบ กระจายเกลื่อนอยู่บนโต๊ะ ผมคลี่ให้มันไม่ทับกันแล้วก็มองอยู่อย่างนั้น รูปของผมทั้งหมดที่ให้เธอไป จะดีหน่อยก็ตรงที่รูปเดี่ยวของผม เธอยังเก็บไว้
เมื่อข้าวกระเพรามาเสิร์ฟ ผมก็เก็บรูปทั้งหมดไว้เหมือนเดิม แล้วก็เปิดฝาถ้วยใส่พริกน้ำปลาออก เพื่อจะตักใส่อย่างเคยนิสัย แต่เสียงของเธอทำให้ผมตัดใจ ปิดผามันไว้อย่างเดิม
~"โหพี่ธิป! ไมทานน้ำปลาดุจังใส่ตั้งหลายช้อนเค็มตายเลย ไม่เอานะคะคราวหลังห้ามใส่ ใส่ได้ไม่เกิน 2 ช้อน เดี๋ยวเป็นไรไปผิงก็แย่ซิ ^^ "~ ใบหน้าเปื้อนยิ้มของเธอในวันนั้นผมยังจำได้ติดตาจนถึงตอนนี้ แม้... เราจะเลิกกันแล้วก็ตาม - - -
ผมลากสังขารกลับมาทิ้งตัวบนเตียงได้อย่างไม่น่าเชื่อ แล้วผมก็หยิบไอกล่องของที่เธอคืนมาให้ผม เปิดเทของลงบนเตียง... สร้อยคอจี้รูปผีเสื้อที่ผมโดนใจเมื่อแรกเจอและนึกถึงเธอเป็นคนแรกที่สมควรจะได้ใส่ ตุ๊กตารูปแมวติดกระจกที่ผมไปเดินเล่นกับเพื่อนแล้วกลัวเธอน้อยใจก็เลยซื้อไปฝาก ตุ๊กตาอัดเสียงที่ผมนั่งอัดเป็นคำว่า 'รักผิงนะ' อายแทบตายกว่าจะพูดออกมาได้ แถมอยู่ต่อหน้าเธอด้วย จำได้วันนั้นเธอแซวผมไปหลายที ทำเอาผมงอน จนเธอต้องง้อผมตั้งนาน และรูปของเธอที่ผมเอาไปเรียงกันเป็นรูปหัวใจใหญ่ ต้องถ่างตาจนถึงตี 3 เพื่อให้ให้เธอทันในเช้าวันปีใหม่
~"Happy New Year ค่ะ ผิงรักพี่ธิปมากนะคะ ^^ "เธอเขย่งตัวหอมแก้มผม ผมก็ได้แต่อมยิ้ม~ /
ตกลงจะเอาอะไรเป็นของฝากเอ่ย
555 เอาไว้บอกตอนที่โมทย์โทรมาหานัสได้มั้ย^^
แหม ดักคอเชียวนะ คือต้องให้โมทย์โทรมาหานัสใช่มั้ยจ๊ะ
แล้วโทรไม่ได้เหรอไงล่ะ
โทรอยู่แล้วจ๊ะ ไม่ต้องบอกก็โทรค่า
ดูแลตัวเองดีๆนะ
จ๊ะ เธอมองดูเขาเดินหันหลังจากไปจนลับสายตา
11.46 ไปทานข้าวดีกว่า เธอคิดก่อนจะเก็บของเตรียมตัวลงไปทานข้าว
ขอไข่ตุ๋นกับกะเพราคะ เธอชี้ไปที่ถาดใส่ไข่ตุ๋นและกะเพราแล้วก็รับจานมา จ่ายเงิน แล้วจึงเดินไปนั่ง คนเยอะจัง เธอคิด
เธอเลือกโต๊ะที่อยู่มุมในสุดของร้านแล้วก็ลงมือทานข้าว
ที่ว่างมั้ยคับ เธอเงยหน้าจากจานข้าวไปมองผู้ขออาศัย(นั่ง)ชั่วคราว
คนที่เดินตากฝนทำMvเมื่อหลายวันก่อน
อ่า เชิญคะ เธอหยิบกระเป๋าผ้ายีนออกจากเก้าอี้อีกตัวขึ้นมาวางไว้บนตักแทน แล้วก็ตักข้าวเข้าปากต่อ นี่น้ำอะไรค่ะ เธอมองผู้ที่นั่งร่วมโต๊ะ
ข้าวของเขาก็ดูธรรมดาไม่มีอะไรเป็นพิเศษแต่ไอเจ้าน้ำสีออกอำพันนิดๆบนโต๊ะนี่สิ ที่ทำเอาเธอประหลาดใจจนต้องถามออกมา
เหล้าคับ เขาทำท่างงจัดกับคำถามของเธอแต่ก็ยอมตอบโดยดี
เหล้า? คุณกินตั้งแต่หัววันเลยเหรอไง
เออ...
เธอพูดจบก็หยิบกระเป๋าลุกออกไป อะไรว่ะ เขาได้แต่พึมพำ
ผ่านไปสักพัก น้ำที่มีสีเขียวคล้ำไม่เหมาะแก่การดื่มเป็นอย่างยิ่งในแก้วใบขุ่นก็ถูกยื่นมาตรงหน้า เขาเงยหน้ามองผู้หวังดี
น้ำใบบัวบกคงแก้ช้ำได้มากกว่าสิ่งที่คุณมีอยู่ล่ะมั้ง ว่าแล้วเธอก็เดินออกไปจากร้าน
ตอนแรกก็ดูดีอยู่หรอกเวลาที่ดูมีสติ แต่คนสติดีเค้าดื่มกันแต่หัววันแล้วกินต่างน้ำเหรอไงกัน-*-
ก็คนกำลังเศร้าไงคับ คำพูดของโมทย์ผ่านเข้ามาในความคิด หรือว่า เขาจะ...อกหัก /
ผู้หญิงคนเมื่อกี้แปลกดี ผมมองน้ำใบบัวบกในมือสลับกับแก้วเหล้าที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนหน้า ผมจิบไอน้ำใบบัวบกอย่างกล้าๆกลัวๆแต่จะว่าไปมันก็อร่อยแถมมีประโยชน์กว่า แต่ผมยังไม่พร้อมจะเป็นนราธิปคนเดิม ผมยังไม่ต้องการรับไมตรีจากใครในตอนนี้
ผมวางน้ำใบบัวบกลงกับโต๊ะแล้วก็ยกเหล้าขึ้นดื่ม เมื่อจัดการอาหารมื้อเที่ยงเสร็จ ผมก็เดินกลับไปยังที่สตูดิโอ
พี่ธิป
ผิง?
ขอผิงคุยด้วยสักครู่ได้มั้ยค่ะ
ได้สิ - - -
ผิงจะเข้าที่ไหนล่ะหืม?
ผิงว่าจะEnt.เข้าบัญชีน่ะคะ เพราะว่าจะได้ช่วยพ่อ
งั้นพี่คงแนะนำผิงไม่ได้ หัวดีๆอย่างผิง เข้าได้อยู่แล้วล่ะ^_^ ผมยิ้มให้เธอ
ยิ้มของพี่ธิปอบอุ่นเสมอเลยนะคะ ผิงอิจฉาคนที่จะได้มาเห็น มาอยู่ใกล้กับพี่ธิปจังเลย>..