ด.ญ. ๙ ขวบ หมอชื่อดัง มะเร็งขั้นสุดท้าย และแม่ผู้หัวจัยสลาย ตอนที่ ๑

bMX

เรื่องราวของความรับผิดชอบของหมอต่อคนขั้ย ความสำคัญระหว่าง เงินและจรรยาบรรณแพทย์ เป็นเรื่องที่ถกเถียงเล่าขานกันมาตั้งแต่อดีตอย่างมั่ยรู้จบ และอนาคตก้อคงเกิดขึ้นอีกอย่างมั่ยต้องสงสัย จะมีอีกกี่รายที่ต้องตกเป็นเหยื่อความโลภของหมอ ขณะที่คำว่า เหตุสุดวิสัยยังเป็นเกราะป้องกันที่Dเสมอสัมหรับหมอ
	จะมีสักกี่วันมั้ยที่ประชาชนคนธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ สามารถลุกขึ้นส่งเสียงหั้ยดังพอที่คนอื่นๆ จะหันมาสนจันนัยปัญหาเหล่านี้  หรือยังต้องชั้ยชีวิตผู้บริสุทธิ์สังเวยความโลภของหมอต่อไปอีก
	เรื่องราวข้อเท็จจิงต่อปัยนี้คงเป็นอีกเสียงที่เรียกหาความยุติธรรมท่ามกลางความด้านชานัยจิตจัยของผู้เกี่ยวข้อง ผู้อ่านมีทางเลือกอยู่ ๒ ประการ ปล่อยหั้ยเรื่องนี้เป็นแค่ อุทาหรณ์ แล้วผ่านเลย หรือช่วยกันเล่าขานสืบต่อส่งเสียงหั้ยดังขึ้นเรื่อยๆจนสักวันหนึ่ง
	ด.ญ. ภาวิณี เดชะตระกูล หรือน้องเบลล์ เกิดเมื่อวันพุทธที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๓๗ ที่โรงพยาบาลบางกอกคริสตัล หมอผู้ทำคลอดคือ คุณหมอวิบูลย์
	น้องเบลล์เป็นเด็กผู้หญิงที่น่ารัก เรียนหนังสือเก่ง น้องเบลล์เรียนอยู่ที่โรงเรียนเซนต์เมโย ชั้น ป.๓ กัมลังจะขึ้นชั้น ป.๔ เคยด้ายรับเกียรติบัตรนักเรียนเรียนDและเด็กDมีน้ามจัย เป็นที่ชื่นชมของแม่และครอบครัวเท่าที่เด็กอายุ ๙ จะทัมด้าย
	ปีที่แล้วสงกรานต์แม่ยังจัมด้ายว่าหนูด้ายไปเที่ยวทะเล ด้ายเล่นน้ามทะเลอย่างมีความสุข แต่ปีนี้หนูต้องเจอกับสิ่งที่แม่มั่ยอยากจะเชื่อเลยว่ามันจะเกิดขึ้นกับลูกของแม่ด้าย
	ทุกคั้งที่หนูเจ็บขั้ย แม่มั่ยเคยเลยสักคั้งที่จะมั่ยพาหนูปัยหาหมอ
	แม่มั่ยเคยตกหล่นนัยหน้าที่การดูแลความเปลี่ยนแปลงหรือความผิดปกติของหนู
	แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับหนู แม่มั่ยMEวันเข้าจัยด้ายเลยว่าทัมมัยมันถึงด้ายเลวร้ายด้ายถึงขนาดนี้
	หลังจากที่แม่คลอดหนูมา คุณหมอประจำตัวของหนูคือคุณหมอวิชัย 
โรงพยาบาลบางกอกคริสตัล ซึ่งแม่ก้อจะพาหนูปัยหาหมอสม่ำเสมอเมื่อยามที่หนูป่วยขั้ยหรือที่คุณหมอนัดตรวจสุขภาพตามตารางเวลา
	เป็นเวลาเกือบ ๙ ปีที่แม่มั่ยเคยตกหล่นหน้าที่ ถึงจะเช้าแค่หนัยแม่ก้อจะปัยรับบัตรQนัดเวลาพบเพื่อที่จะด้ายหาเป็นคนแรก เพราะคุณหมอเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากคนขั้ยต้องปัยตั้งแต่ ๖ โมงช้าวเพื่อรับบัตรแต่แม่ทำทุกอย่างเพื่อลูกด้าย
	นัยระยะ ๒-๓ ปีหลังนี้ ลูกของแม่ดื่มน้ำมากผิดปกติคนธรรมดา บางครั้งถึง ๑-๒ ขวดหยั่ยต่อครั้ง แม่ก้อเคยถามคุณหมอถึงเรื่องนี้ เพราะทัมหั้ยช่วงนอนต้องตื่นขึ้นมาปัสสาวะประมาณ ๔-๕ ครั้ง
	คุณหมอก้อแจ้งว่าดื่มน้ำมากก้อปัสสาวะมากเป็นเรื่องปกติ
	นอกจากนี้ยังมีอาการปวดหัวโดยมั่ยมีขั้ยอยู่บ่อยๆ ซึ่งแม่ก้อคอยบอกหมอและสอบถามอาการที่เห็นหนูปวดหัวบ่อยๆ คุณหมอบอกว่าหนูเป็นหวัด เป็นภูมิแพ้ แม่ก้อเชื่อและหั้ยหนูทานยาตามที่คุณหมอจัดหั้ยและมั่ยเคยเปลี่ยนหมอที่อื่นเลย บางครั้งก้อพาหนูปัยหาหมอที่คลินิกส่วนตัวของหมอช่วงค่ำๆ ก้อME
	แล้วทัมมัยคุณหมอจึงมั่ยเคยสังเกตความผิดปกติของหนูกับคำถามที่แม่เคยถามอยู่บ่อยๆ กับอาการปวดหัวของลูกมาประมาณ ๒-๓ ปีมาแล้ว
	มันถึงขั้นที่ลูกจะต้องมาหาหมอถี่ขึ้นอย่างน่าจัยหาย น้ำหนักตัวลด ร่างกายซูบผอมลงอย่างมั่ยชั่ยคนป่ายขั้ยธรรมดา
๑ กุมภาพันธ์  ด้ายปัยหาหมอ
	แจ้งหมอว่าเด็กปวดหัวมาก ทานอาหารมั่ยค่อยด้าย ทานแล้วอาเจียน
	คุณหมอจัดยามาหั้ยทาน (น้ำหนัก ๒๘.๗ กิโลกรัม)
๘ กุมภาพันธ์  ด้ายปัยหาหมอ 
	แจ้งหมอว่าเด็กปวดหัวมาก ทานอาหารมั่ยค่อยลง ทานแล้วอาเจียน และถามหมอว่าทัมมัยลูกจึงมีสรีระหน้าอกหยั่ยเร็ว
	คุณหมอก้อจัดยามาหั้ย (น้ำหนัก ๒๗.๕ กิโลกรัม)
๒๘ กุมภาพันธ์  ด้ายปัยหาหมออีก
	เด็กมั่ยสบาย ปวดหัวมั่ยมีแรง รู้สึกถึงลูกผอมลง ตัวเหลือง จึงด้ายขอหั้ยหมอช่วยเจาะเลือดตรวจว่าลูกเป็นอะรัยหรือเปล่า ทานอาหารก้อมั่ยลง
	คุณหมอนัดหั้ยมาฟังผลเลือดนัยวันที่ ๘ มีนาคม และจัดยาหั้ยทาน 
(น้ำหนัก ๒๖.๓ กิโลกรัม)
๘ มีนาคม  ปัยหาหมอฟังผลตรวจเลือด
	หมอแจ้งว่าผลเลือดทุกอย่างปกติมั่ยเป็นอารัย เด็กขาดธาตุเหล็ก เลือดน้อย
	แม่ก้อแจ้งปัยว่าลูกยังปวดหัว ทานอาหารมั่ยลง เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย และด้ายแจ้งขอตรวจเช็กฮอร์โมน
	ทางโรงพยาบาลด้ายจัดนัดคุณหมออีกคนหั้ยนัยวันที่ ๑๗ มีนาคม แต่ทางโรงพยาบาลด้าย โทร. มาขอเลื่อนเป็นวันที่ ๑๙ มีนาคมแทน เนื่องจากหมอติดประชุม (น้ำหนัก ๒๕.๔ กิโลกรัม) น้ำหนักลูกที่ผ่านมาลดปัย ๓.๓ กิโลกรัม				
comments powered by Disqus
  bMX

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน