สงกรานต์ปีนี้ได้หยุดถึงห้าวัน เป็นช่วงเวลาที่มีความหมายสำหรับคนทำงานมากมาก เพราะจะได้พักผ่อน ได้เดินทางไปไหนไกลๆ โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องเวลามากนัก เลยวางแผนไว้ว่าจะไปเยี่ยมคุณยายที่พำนักอยู่กับน้าชายที่จังหวัดเพชรบุรี พอดีน้าคนนี้เป็นข้าราชการเพิ่งย้ายไปประจำการสอนที่นั่น คุณยายสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไรนักเนื่องจากอายุมากแล้ว ก็หลงๆ ลืมๆ บ้าง คุณยายจะรักน้าคนนี้มากเพราะเป็นลูกคนสุดท้องของคุณยาย อีกประการหนึ่งน้าสะใภ้ก็เป็นคนเอาใจเก่ง คุณยายจึงได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ลืมบอกไปว่าน้าเขาไม่มีลูก อยู่กันเพียงลำพังกับสุนัขอีกสองตัว เมษายนสี่แปดที่ได้ผ่าน เทศกาลสงกรานต์แสนสุขสันต์ เดินทางไปเพชรบุรีเยี่ยมยายกัน ตระเตรียมขันน้ำอบครบพานบัว แวะรับน้าสองคนที่ปากเกร็ด รวมเบ็ดเสร็จผู้ใหญ่สามเด็กอีกหัว ลูกผู้น้องอายุห่างหลายช่วงตัว สัมภาระถ้วนทั่วบรรทุกท้าย เก้าโมงกว่าขึ้นทางด่วนแจ้งวัฒนะ ต่างคนกะเวลาถึงที่หมาย สองชั่วโมงแน่นอนสบายสบาย นั่งผ่อนคลายเปิดเพลงบรรเลงฟัง ถึงสะพานพระรามเก้าเสากระโดง เชือกระโยงขึงแขวนแล่นข้ามฝั่ง ธงไตรรงค์ธนาคารผืนใหญ่จัง สะบัดดังตามแรงกระแสลม จราจรเริ่มติดขัดมหาชัย มองออกไปปริมาณรถสะสม แน่ถนนพระรามสองต้องปรารมย์ ประเพณีนิยมมุ่งมั่นไป ข้ามสะพานท่าจีนดังปีนเขา อยู่ที่เก่าตั้งนานกว่าผ่านได้ ห้าหกช่องสัญจรจอดซ้อนใน แย่งกันไปคอขวดตรงปลายทาง จราจรจัดช่องทางพิเศษ แก้สาเหตุรถมากมายดูหลายหาง รีดเหลือสองกั้นแบ่งจัดแจงพลาง เหลือเลนว่างหนึ่งเดียวขาเข้าเมือง
กะแล้วเชียวเช้าวันเสาร์ที่ 13 เมษายน ยังไงรถก็ต้องติด ใครน๊อบอกว่าเขาทยอยออกไปกันหมดแล้วตั้งแต่เย็นวันศุกร์ ดูซ้ายรถปิคอัพบรรทุกลังอะไรไปหว่าคล้ายๆ ตู้เย็น จะย้ายบ้านหรือไงเนี่ย ? ดูรถคันข้างหน้าเห็นน้องหมาชูคอ นั่นแน่ต้องไปหลายวันแน่นอน รถติดอยู่เชิงสะพานเหมือนปีนเขาเลยค่อย ๆ กระดึบ ๆ ไป ขอฮอลล์หน่อยเผื่อจะเย็นซ่าชุ่มคอขึ้นมาบ้าง เปิดเพลงบรรเลงฟังไปเบา ๆ เพราะคุยกันซะมาก ตามประสาน้า ๆ หลาน ๆ ถามปัญหาเชาว์กันบ้าง ตอบได้บ้างไม่ได้บ้าง ตามเรื่องตามราว.. คุยกันจนคอแห้งแบ่งขนม ขอลูกอมฮอลล์น้ำผึ้งซึ่งห่อเหลือง ถามปัญหาเชาว์นิดอย่าคิดเคือง คุยกันเรื่องปูหกขาหาที่ใด ที่ตลาดใช่หรือเปล่ายังเย้าแหย่ หรือปูแก่ปูพิการโปรดขานไข ปูเสื่อนอนสามคนหกขาไง โปรดไปปูไกลไกล..ไอ้น้องเอย
และแล้วก็ผ่านสะพานแห่งนั้นมาได้ รถค่อย ๆ ไหลไป จนกระทั่งแล่นมาฉลุย วางใจแล้วละเห็นป้ายร้านก๋วยเตี๋ยวปลา และเวลาปาเข้าไปเกือบเที่ยง มิน่า หิวชะมัด แวะซัดก๋วยเตี๋ยวกันคนละชาม สองชาม ลมพัดเย็นสบายเครื่องปรุงแทบกระจาย โดยเฉพาะพริกป่น ต้องเอามือบังกันจ้าล่ะหวั่นเดี๋ยวจะน้ำตาร่วงกันซะเปล่า ๆ หลังจากรับประทานอาหารและทำภาระกิจส่วนตัวเรียบร้อย อาทิ ล้างหน้า ล้างตา ก็สำรวจบริเวณประหนึ่งว่าจะมาประมูลร้านก๋วยเตี๋ยวนั่นแหละ จึงนึกขึ้นได้ว่าต้องเดินทางกันต่อ..ว่าแล้วขึ้นรถ ฮุยเลฮุย
ระหว่างทางน้าชายโทรศัพท์มาถามเป็นระยะ ๆ ว่าทำไมมาช้าจัง (รถมันติดนี่นา..ไม่ได้ขับช้านะ อิอิ แก้ตัวไป ) ปกติไม่ขับเร็วอยู่แล้ว ญาติผู้ใหญ่นั่งมา ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่เคยขับเกินไมล์เลยน่ะ ปฏิบัติตนตามกฏหมายเป๊ะเลย ป้ายทางกำหนดไว้แปดสิบ กม/ ชั่วโมงนี่ยังงง ๆ อยู่ว่าถ้าเราขับ แค่หกสิบต้องเหยียบขึ้นไปให้ถึงแปดสิบไหม เป็นที่ถกเถียงกันในรถ555)
สองข้างทางลิ้นจี่มีวางเข่ง สีแดงเปล่งถามราคาพาเฉลย ห้าสิบบาทต่อกิโล ..พ่อค้าเอ่ย ต่อตามเคยสองกิโล..อะร้อยนึง (จะต่อทำไมเนี่ย) ขับมานิดปลาสลิดเขาวางขาย นำเรียงรายบนกระจาดไผ่พาดขึง เจ้าของร้านให้เบอร์มา..เค็มด่าปึง ถ้าอร่อยกริ๊งนึง..โทรสั่งมา ลูกอะไรดำดีสีไม่ตก เฉาะโป๊กปกเป็นสีขาวเรียกจาวหนา คือตาลสดใส่ถุงมัดถัดร้านปลา ซื้อดีกว่าเห็นแล้วลอยแก้วดี เห็นไก่ต้มซีอิ้วริมถนน ไม่เห็นคนมาขายในวิถี แขวนเอาไว้ไม่หายบ่ายเต็มที กลัวจะมีหวัดนกวิตกไป เห็นมะนาวลูกใหญ่จอดไถ่ถาม ขนาดงามสามลูกสิบหยิบเลือกได้ ซื้อเตรียมไปยำทะเลเก๋ขาดใจ พูดมากไปจับยัดปากแทนหมากพลู รถแล่นถึงเพชรบุรีสู่ที่หมาย จอดสบายขนเสบียงกางเตียงหรู สวัสดีคุณยายน้าชายดู ขอนอนพักสักครู่แล้วคุยกัน ในที่สุดก็ถึงที่หมาย หลังจากแวะรายทางแทบทุกซุ้มเลย ดีน่ะไม่มีซุ้มมือปืน ไม่งั้นคงยิงกันอุตลุต ขอพักสักงีบนึงน่ะ ใครจะทำอะไรก็ตามสบายจ๊ะ คร๊อก ฟี๊
ครั้นลืมตาเห็นน้องโดดกระหยองกระแหยง รวบรวมแรงไปชะอำจำผายผัน เตรียมเสื้อผ้าชูชีพรีบไปพลัน หาดสวรรค์อยู่ใกล้แค่นี้เอง ได้จอดรถริมหาดอากาศร้อน ลมพัดย้อนจากทะเลถ่ายเทเจ๋ง เห็นส้มตำแม่ค้าหาบกระเตง ถาดโหรงเหรงไก่พร่องต้องหาเติม ของฝากมีโมบายหลายเปลือกหอย เขานำร้อยระโยงลูกปัดเสริม พวงกุญแจมีบ้างแบบดั้งเดิม ไม้กวาดเพิ่มสีสันดูแสบตา คนหนุ่มสาวเล่นน้ำนำแป้งประ เลอะเทอะซะเกินงามน่าขำหนา เด็กเล็กเล็กลงน้ำดำอย่างกา คนชรานั่งผ้าใบในร่มกาง เห็นฝรั่งพุงขาวนอนอาบแดด ชุดว่ายน้ำสีแดงแจ๊ดนอนข้างข้าง ต้องผินตามองอื่นฝืนปล่อยวาง ยายอยู่ข้างหยิกขา..ยายจ๋ายาย.. อดดูเลย เดี๋ยวยายหลับค่อยแอบดูใหม่ก็ได้ โด่เอ๋ย!
สักพักนึง เริ่มจะเย็นแล้วเห็นว่าเล่นน้ำกันพอเพียง ก็ชวนกันขึ้นมาอาบน้ำจืด ตัวเราไม่ได้ลงน้ำหรอกนั่งเป็นเพื่อนยาย เปิดโอกาสให้น้ากับหลาน (ลูกผู้น้อง) เขาเล่นน้ำกัน ส่วนเราก็นั่งหม่ำส้มตำ บนชายหาดนั้นแล ตอนเย็นที่บ้านน้าชาย เมนูก็เป็นอาหารทะเลเผา จิ้มน้ำจิ้ม.รสแซ่บ อร่อยมากๆ แต่เจ้าตัวเล็กกินกุ้งแล้วเกิดแพ้ คือคันคะเยอ น้าเลยไล่ให้ไปอาบน้ำ เพราะไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ทราบว่าแพ้กุ้งหรือแพ้น้ำกันแน่ อาบเสร็จก็มากินต่อ ให้กินต้มจืดแทนแล้วก็ให้ทานยาแก้แพ้เม็ดสีเหลืองเล็ก ๆ เห็นว่าดีขึ้นแล้ว จึงแยกย้ายกันเข้านอน ที่นี่ไม่มียุง น่าแปลกมากเลย หรือยุงกลับบ้านไปเที่ยวสงกรานต์ไม่รู้สิ *หมายเหตุ: ปูตัวนี้เป็นคนละตัวกับตัวข้างบนเด้อ..
ครั้นรุ่งเช้า ก็มีแผนไปส่งเด็กที่ชะอำ ให้เล่นน้ำให้สนุกอีกหนึ่งวัน ส่วนผู้ใหญ่ก็ไปไหว้พระ รุ่นนี้แล้ว กิจกรรมก็ต้องแนวๆ นี้แหละ..เราจึงเดินทางไปสักการะหลวงปู่ทวดที่วัดห้วยมงคลกัน.. ห้วยมงคลเป้าหมายไหว้ปู่ทวด เจอด่านตรวจถามทางช่างงงหลาย บอกเราว่าสิบกิโล โถ..น้าชาย ขับมาหลายสิบโลโปลิศแนะ เมื่อมุ่งมั่นต้องทำถึงที่สุด จึงเร่งรุดตามแผนที่หนีเหลาะแหละ น้ำมันจวนหมดถังยังต้องแวะ เห็นป้ายแปะชี้ทางจึงวางใจ ขับมาถึงหน้าวัดในตอนเที่ยง เกินจะเลี่ยงแดดร้อนตอนนี้ได้ ร.ป.ภ บอกในวัดแออัดไป แนะนำให้จอดหน้าวัดเขาจัดแจง จึงต่อรองขอวนรถเข้าในก่อน แล้วจะย้อนมาจอดออดอ้อนแฝง เห็นใจยายท่านชราอย่าระแวง ไม่ขัดแย้งยิ้มอบอุ่นขอบคุณนัก รถบางคันทะยอยออกจากนอกวัด จึงเร่งรัดจอดแทนใต้ต้นสัก รูปหล่อปู่องค์ดำสูงใหญ่ยักษ์ มองวงพักตร์เมตตา ข้าฯ นมัสการ ขึ้นบันไดหมายมุ่งพยุงยาย ทั้งขวาซ้ายช่วยประคองสองน้าหลาน ครั้นพอถึงที่ตรง องค์ประธาน สวดมนต์ผ่านแผ่นป้ายหลายจบมี มีพิธีสรงน้ำทำไฮเท็ค มีนางฟ้าองค์อินทร์เล็กข้างล่างนี่ รับขันน้ำชักรอกส่งตรงพอดี พราหมณ์รับทีร่ายมนต์สาดชลซัด สายวารีราดอาบองค์ประดิษฐาน สาธุการจากพระปฏิบัติ รวมพุทธพราหมณ์งงแท้ไม่แน่ชัด แต่ไม่ขัดหลักธรรมต่างทำดี ได้ทำบุญทำทานปีใหม่ไทย ขอพรให้ทุกข์ผ่านภัยพาลหนี ไร้โรคภัยสุขภาพแข็งแรงดี โชคลาภมีพอควรครบถ้วนเอย
หลังจากกลับจากวัดห้วยมงคล ก็กลับไปรับเด็กที่ชะอำทานอาหารกลางวันกัน วันนี้เป็นอาหารอีสาน จำพวกลาบส้มตำ ที่ร้านหน้าค่ายนเรศวร คนเยอะมากแต่อาหารอร่อยสมคำล่ำลือ การรอคอยครั้งนี้จึงไม่มีเสียงบ่นเท่าไรนัก.. เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ต้องนอนเอาแรง( อีกแล้ว) ก่อนกลับจะได้ไม่เหนื่อยจนเกินไปนัก คนละงีบ พอตื่นขึ้นมาก็เก็บข้าวของขึ้นรถ ก็กราบสวัสดีคุณยาย ปีนี้ไม่ได้อาบน้ำให้ยาย เพราะยายบอกว่าหนาวเราเลยไม่คะยั้นคะยอขออาบกัน ข้าวของที่เตรียมมาก็เก็บขึ้นรถเรียบร้อย แล้วก็ให้สตางค์คุณยายไว้ใช้บ้างตามสมควร ยายก็ให้พรมาให้ทุกคนมีความสุข งานการก้าวหน้า เราก็ขอให้คุณยายมีความสุขและสุขภาพแข็งแรง เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกหลานไปอีกนาน ๆ ขากลับก็แวะซื้ออีกตามเคย ซื้อเกลือเม็ดไปทำปลาตากแห้งบ้าง เห็นว่าปลาสลิดอร่อย (ก็ร้านที่ให้เบอร์มาไง) ขากลับนี่เย็นมากแล้วออกจากบ้านยายก็สี่โมงเย็น ร้านปลาสลิดที่นัดไว้ว่าจะกลับไปซื้อ (ถ้าอร่อย) ก็ปิดเสียแล้ว เลยต้องเปลี่ยนแผนมาทำกินกันเอง.. ถึงกรุงเทพฯ ก็ประมาณทุ่มครึ่ง ก็เลยนอนพักกับน้าที่ปากเกร็ดอีกหนึ่งคืน..ก่อนขึ้นไปลพบุรี เพื่อไปไหว้พ่อ แม่ อีกวัน..(สงกรานต์ปีนี้ได้ไปเหนือจรดใต้เลยทีเดียว) เกรงว่า เรื่องนี้อาจจะยาวเกินไปจะไม่เหมาะกับคำว่าเรื่องสั้น..เอาเป็นว่าขอจบที่ปากเกร็ดก็แล้วกันน่ะค่ะ..ไว้วันว่าง..จะเล่าเรื่องอื่นๆ ให้ฟังกันอีกค่ะ... ..
20 เมษายน 2548 11:09 น. - comment id 84276
เมื่อไหร่ภาคสองจะมาอ่ะคุณกุ้งฯ...น่าสนุกนะ อิจฉาคนได้เที่ยวนะ ส่วนผมสงกรานต์ทำงานอย่างเดียวครับไม่ได้หยุด...
20 เมษายน 2548 11:28 น. - comment id 84277
ช่วงสงกรานต์อัลมิตราไม่ได้หยุดยาว ๕ วัน เพราะวันที่ ๑๕ ต้องมาทำงาน ค่ะ .. แต่ก็มีความสุขในช่วงสงกรานต์เหมือนกัน นะ วันที่ ๑๓ - ๑๔ เตร่ ๆ แถวลานคนเมือง ตรอกข้าวสาร แต่ปีนี้ไม่ค่อยมีกิจกรรมมากเหมือนปีที่แล้วนะคะ ปีที่แล้วอัลมิตราก็ไปทุกวัน ( เพราะไม่มีที่จะไป ..) จำได้ว่า ยังได้ไปดูการโล้ชิงช้า (พิธีตรียัมปวาย) ไปหัดเขียนตัวอักษรโบราณบนใบลาน ดูเด็กๆเล่นกลองยาว ดูศิลปะป้องกันตัว โอย แยะ ..เดินจนเมื่อย ที่บอกคือของปีที่แล้วนะคะ .. ปีนี้มีแต่คนเล่นน้ำกันมากกว่า อัลมิตราไปที่ลานพลับพลาเจษฎาฯ .. ก็ได้นั่งดูนิดหน่อย เดินข้ามฟากไปสนามหลวง คนเล่นน้ำก็เล่นกันไป คนเล่นว่าวก็เล่นกันไป .. แปลกดี วันที่ ๑๕ ไปทำงาน ต้องเอารถยนต์ไป ขืนซิ่งมอเตอร์ไซด์อย่างทุกวัน มีหวังมะล่อกมะแล่ก .. ( ปูนนี้ ก็ยังหวังว่าจะมีคนสาดน้ำอ่ะ ..) เพื่อนที่ทำงาน ก็เอาปืนฉีดน้ำเล็ก ๆ ไปแกล้งกัน หิวข้าวนะ วันนั้นหาของทานลำบาก .. ร้านค้าไม่ค่อยจะเปิด ยังดีที่ว่ามีข้าวหลามในตู้เย็นประทังชีวิตไปได้หนึ่งวัน ๕ ๕ ๕ .. วันที่ ๑๖ - ๑๗ เดินทางไปต่างจังหวัด ชมฟ้า ชมทะเล ไปเรื่อยเปื่อย .. เห็นเขาเล่นน้ำสนุกสนาน ก็อยากจะไปเล่นกับเขา แต่นั่นสิ..ไม่รู้ยังงัย ขนาดไปตรอกข้าวสาร ยังไม่เปียก.. ต้องพิจารณาตัวแล้ว อัลมิตราเอ๋ย ..
20 เมษายน 2548 15:19 น. - comment id 84284
คุณนกเดี่ยว.. ไว้เจอกันแล้วจะให้เลี้ยงข้าวหนึ่งมื้อ...ดีไหมค่ะ.. รักษาสุขภาพด้วยน่ะค่ะ....ไม่ยอมพักผ่อนเขียนกลอนมาให้อ่านกันเรื่อยๆ ก็ยังดีค่ะ ผ่อนคลายไปในตัว ................................................................... คุณอัลมิตรา เช่นกันค่ะ...ป้าก็ไม่เปียกเหมือนกัน...อิอิ ..................................................................
21 เมษายน 2548 11:18 น. - comment id 84309
13 สวนกระแส เข้ากรุง เที่ยงออกจากขอนแก่น รถว่างมากกกกกกกกก ค่ำๆ ถึง เมืองกรุง ไปกินเนื้อกระทะ ร้านชบา ก่อนถึงซีคอน เบียร์ สองขวด เพื่อนเลี้ยง อิอิอิ อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ 14 เที่ยง ว่าจะไปตรอกข้าวสาร แต่กลัวไปแล้วจะไม่เปียก เหมือนใครบางคน ก็เลยไม่ไป เลยไปนอนดู ทีวี แถวบางกะปิ ตอนเย็น ไปทานหมูกระทะ คนละ 79 จำชื่อร้านไม่ได้แล้วมัวแต่กิน งานนี้เป็นคนจ่าย 15 เกือบเที่ยง ไป เดอะมอลล์ บางกะปิ ทานข้าว แล้วเดินชมห้าง ตากแอร์ เพราะข้างนอกร้อนเหลือเกิน บ่ายๆ ออกมาทานส้มตำข้างๆ น้อมจิตต์ ไม่อร่อยเหมือนที่ขอนแก่นเลย ค่ำๆ กลับขอนแก่น ถึงตีสาม .... สรุปสงกรานต์ปีนี้ ไม่เมา.........ไม่น่าเชื่อเลย....
21 เมษายน 2548 12:12 น. - comment id 84316
คุณเมา.. อิอิ ผ่านการรณรงค์อย่างรุนแรงมาได้ ผู้น้อยขอคารวะ พี่เมาเป็นอย่างยิ่ง... เขียนกลอนมาให้อ่านกันบ้างน่ะค่ะ อย่ามัวแต่กอดขวดอยู่น่ะค่ะ.. ..
22 เมษายน 2548 11:38 น. - comment id 84380
คราวหน้าชวนกันมั่งนะคะ ท่าทางคุณกุ้งจะมีความสุขจัง แบ่งกันบ้าง แบ่งกันบ้าง อิอิอิอิ
23 เมษายน 2548 13:59 น. - comment id 84412
ได้เลยค่ะ คุณเมจิค...ว่าแต่จะไปไหมน๊อ... เร็วๆ นี้ก็มีไปน่ะค่ะ...อิอิ..สนใจหรือเปล่าค่ะ.. ...