...เด็กปี2546...
ใบบอนแก้ว
ในงานวันเด็กปี 2546 ที่จัดขึ้นอย่างใหญ่โตมโหฬาร..มีการแข่งขันตอบคำถามในข้อสุดท้าย...ซึ่งใช้เป็นข้อตัดสิน...ระหว่างเด็กที่เข้ารอบสุดท้ายจำนวนสามคน...โดยจะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น..ที่จะเป็นผู้ชนะเลิศ...
พิธีกร บนเวทีประกาศเรียกชื่อ ผู้เข้ารอบสุดท้ายทั้งสามคนออกมายืนอยู่หน้าเวที...ซึ่งประกอบด้วย...เด็กชายดี...เด็กชายแดง..และ..เด็กชายดำ...
พิธีกร : พ่อแม่พี่น้องที่เคารพ..นี่คือสุดยอดของเด็กบนเวทีนี้..ที่ขับเคี่ยวกันมาจากแปดสิบโรงเรียนในอำเภอนี้...เด็กชายดี..เด็กชายแดง..และเด็กชายดำ..รู้มั้ยครับ..คำขวัญวันเด็กปีนี้มีว่าอย่างไร..บอกให้พ่อแม่พี่น้อง..ของเราให้รู้อีกครั้งซิครับ...
เด็กทั้งสาม : คำขวัญวันเด็กปีสองพันห้าร้อยสี่สิบหก มีว่า...เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี...
พิธีกร : ดีมาก...ใช่ครับ...เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ รู้ทันเทคโนโลยี...เอาล่ะครับ..ต่อไปเป็นคำถามข้อสุดท้าย...เพื่อเป็นการยุติธรรมต่อหนูๆ...ทางพี่..ป้า..น้า..อา..ที่ตัดสินจะใช้คำถามเดียวกันเพื่อตัดสิน...ผู้รับชมที่ยืนอยู่รอบเวทีช่วยตัดสินด้วยนะครับ..เด็กคนใดจะเป็นสุดยอดของเด็กในวันนี้...ด้วยคำถามที่ว่า...หนูอยากเป็นอะไรเมื่อโตขึ้น...ตามคำขวัญในวันเด็กปีนี้...
...และเพื่อเป็นการยุติธรรม..ทางคณะกรรมการจะให้หยิบหมายเลขตามลำดับตอบก่อนหลัง..โดยให้หมายเลขสามตอบก่อน..และ..สอง..หนึ่ง..ตามลำดับ
พิธีกร : เด็กชายแดง..ในฐานะที่หนูจับได้หมายเลขสามจึงต้องตอบก่อน...หนูอยากเป็นอะไรเมื่อโตขึ้น..ตามคำขวัญในวันเด็กปีนี้...
เด็กชายแดง : ผมอยากเป็นตำรวจครับ..
พิธีกร : เพราะอะไรครับถึงอยากเป็นตำรวจ...
เด็กชายแดง : เพราะตำรวจคอยทำหน้าที่รักษาความเรียบร้อยของสังคม คอยจับบุคคลที่ทำผิดกฏหมายของบ้านเมือง...คอยจับกุมสิ่งไม่ดีต่อสังคม เช่นยาเสพติด..แหล่งก่อเกิดอาชญากรรมทั้งหลาย ครับ...
พิธีกร : เอาล่ะครับ..ท่านได้ฟังสิ่งที่เด็กชายแดงอยากจะเป็นเมื่อโตขึ้น...ท่านว่าเป็นอย่างไรบ้าง...ต่อไปถึงทีของ..เด็กชายดี..ที่จับได้หมายเลขสองแล้วล่ะครับท่าน...เด็กชายดีครับ...หนูอยากเป็นอะไรเมื่อโตขึ้น...ตามคำขวัญในวันเด็กปีนี้...
เด็กชายดี : ผมอยากเป็นหมอครับ...
พิธีกร : เพราะอะไรครับถึงอยากเป็นคุณหมอ...
เด็กชายดี : เพราะจะได้ช่วยเหลือผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วย..ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ...อย่างที่ผู้ใหญ่พูดว่า..คนไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ...ผมจึงอยากเป็นหมอ..เพื่อให้สังคมนี้ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บครับ...
พิธีกร : เอาล่ะครับ..ท่านได้ฟังสิ่งที่เด็กชายดีอยากจะเป็นเมื่อโตขึ้น...ท่านว่าเป็นอย่างไรบ้าง...และต่อไป..ไม่ใช่ใครที่ไหน..เด็กชายดำ..นักเรียนประจำโรงเรียนที่ได้ชื่อว่าชนบทที่สุด...หลังคามุงจาก..ฝากั้นด้วยไม้ไผ่..ต้องนั่งเรียนกลับพื้น..เพราะไม่มีโต๊ะและเก้าอี้...แต่เด็กชายดำคนนี้..ก็ฝ่าฟันจนถึงรอบสุดท้าย...นั่นไม่ได้หมายความว่า...สภาพโรงเรียนที่แตกต่างกัน..จะทำให้เด็กของเราที่จะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต..จะแตกต่างกัน...เด็กชายดำครับ..หนูอยากเป็นอะไรเมื่อโตขึ้น...ตามคำขวัญวันเด็กปีนี้...
เด็กชายดำ : ผมอยากเป็นนายกรัฐมนตรีครับ..
พอสิ้นเสียงของเด็กชายดำ..เสียงฮือฮารอบเวที..ดังขึ้นอย่างไม่ได้นัดหมาย...
พิธีกร : อย่าพึ่งตกใจครับพ่อแม่พี่น้องที่เคารพ...เรามาฟังสาเหตุกันดีกว่าว่าทำไม..เด็กชายดำถึงอยากเป็นนายกรัฐมนตรี...
เด็กชายดำ : ที่ผมอยากเป็นนายกรัฐมนตรี..เพราะว่า..นักเรียนในโรงเรียนของผมไม่เคยมีใครเคยเป็นนายกรัฐมนตรีเลย..หากผมได้เป็นนายกรัฐมนตรีรับรอง...โรงเรียนของผมจะไม่มีสภาพเป็นอย่างนี้แน่นอน...สิ่งเจริญทั้งหลายจะเข้ามา..ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง..ไฟฟ้า..ประปา..โทรศัพท์...ตลอดจนอุปกรณ์เทคโนโลยี..คอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในการเรียนการสอนและสิ่งดำรงชีวิตทั้งหลาย...จะไม่ไปยัดเยียดอยู่ในแต่ตัวเมืองซึ่งมีแต่ความเจริญ..ไม่ใช่ผมใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปบังคับ...แต่ทุกสิ่งจะไปหาเองในฐานะที่โรงเรียนนี้เคยสอนให้เด็กคนหนึ่ง..เป็นถึงนายกรัฐมนตรีครับ...
พิธีกร : เป็นอย่างไรบ้างครับ...สำหรับ..หนูอยากเป็นอะไรเมื่อโตขึ้น..ของเด้กชายทั้งสามคนนี้...ถ้าท่านเป็นคณะกรรมการ...ท่านจะให้ใครเป็นผู้ชนะเลิศครับ...