เราเลิกกันดีกว่านะ เป็นคำถามที่เขา มอบให้ฉันในตอนเที่ยงของวันฝนตก ฟ้าร้องให้ ให้กับฉัน. ฉันเจ็บ ปวดร้าวยามสายฟ้าแลบแปล๊บ แปล๊บ ส่งเสียงเปรี้ยงปร้าง ทุกอณูสั่นสะท้านร่ายกายชุ่มไปด้วยน้ำตาของฝน สายลม ถาโถม จนรู้สึกถึงความเย็นชาของเขา น้ำหลาก ตกลงมาอย่างหนักหน่วง ยามนี้เขาไม่สนใจฉันแม้ จะพูดออกมาสักคำว่า เข้าไปหลบฝนก่อนไหม เขาใจร้าย ยิ่งกว่าความเจ็บปวดที่ตกลงมาบนร่างกายฉัน เขาใจร้ายเหลือเกิน ฉันพร่ำในความรู้สึกลึกๆ แต่ดังกังวานราวระฆังตอนเช้าของวัดบนยอดเขา ฉันไม่ดีหรือ ถึงได้บอกเลิกฉันอย่างนี้ ฉันไม่ดีตรงไหน ทั้งหน้าตาและฐานะ ล้วนสูงกว่าเขาจนเปรียบเสมือน ดาวที่ดิ่งลงมาจากสวรรค์เพื่อสู่อ้อมกอดของหมาจรจัดตัวหนึ่งแต่ไม่เลย เขาทำกับฉันเหมือนไม่มีค่าแม้จะมองหน้าก่อนตอกย้ำคำพูดเดิมออกมา เราเลิกกันน่าจะดีกว่านี้ ไม่ต้องคอยระแวง หรือหึงหวงแบบนี้ เชื่อสิ ต่อไปไม่นานคุณก็หาคนที่เหมาะสมกับคุณได้ไม่ยากหรอก เสียงใจเต้นรัวไม่เป็นจังหว่ะพาร่างกายอันสั่นเทาของฉันจมดิ่งลงธรณีแห่งนี้พร้อมสูปความรู้สึกทั้งปวงลึกหายไปกับตาอันพร่ามัวของฉัน ฉันตื่นมาภายในห้องแคบๆ กลิ่นคลุ้งของยาอบอวนทั่วห้อง เสียงพูดคุยดังกึกก้อง ฉันรู้สึกเจ็บปวดอีกครั้งที่ต้นแขนก่อนหลับไหลลงไปอีกครา ทานข้าวได้แล้วค่ะ เสียงพี่พยาบาลปลุกฉันจากวังวนกับสิ่งที่ผ่านไปในสมอง เข้าสู่ความเป็นจริงของสิ่งรอบกาย ค่ะ น้องเป็นไงบ้าง หายปวดบ้างหรือยังค่ะ พี่พยาบาลถามฉันก่อนส่งอาหารให้ทาน หายแล้วค่ะ แล้วกลับบ้านได้วันไหนค่ะพี่ ต้องดูอาการสักระยะนะคะ พี่ตอบไม่ได้เพราะหมอยังไม่อนุมัติค่ะ ครู่เดียวหลังจากที่พี่พยาบาลออกไป นิรุต ก็เข้ามาหาฉัน ดีขึ้นบ้างไหม เขาถามฉันด้วยเสียงอันแหบแห้งฟังไม่ชัดนัก (แต่สายตาของเขากลับไม่มองมายังตาคู่นี้ของฉันอยู่ดี ดา หลับไปตั้ง 2 วันนะ ผมเป็นห่วงแทบแย่ ถึงแม้เขาแสดงอาการเป็นห่วง แต่กริยาไม่บ่งบอกเท่าไรนัก อย่าทิ้งดาไปได้ไหม ฉันถามกลับไปอีกครั้ง ดาเลิกกับผมดีแล้วเชื่อผมเถอะ ตลอดเวลาดาก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเราไปด้วยกันไม่ได้ ฉันปล่อยหยดน้ำแห่งความเจ็บปวดให้มันชุ่มฉ่ำขึ้นมาอีกครั้ง ฉันได้แต่ฟุบหน้าลงบนหมอน. เขาเดินจากไปปล่อยให้ฉันดำดิ่งลงในห้วงของความโดดเดี่ยวและถูกทอดทิ้ง ฉันหลับไปพร้อมความเศร้าผ่านความอิดโรยทุกค่ำคืน.. นิรุตไม่กลับมาหาฉันอีกเลยหลังจากวันนั้น ความสับสนพาจิตใจที่บอบช้ำสู่ห้วงของคำนึงแต่เขาทุกๆ วินาที ด้วยแรงแห่งความคิดถึงหรือกะไรซักอย่าง นิรุตมาเยี่ยมฉัน สีหน้าของเขาหม่นหมอง. แต่ฉันก็มองไม่เห็นดวงตาคู่นั้นของเขาอีกตามเคย เขาถามฉันว่า ดาเป็นไงบ้าง ดาเสียใจมากนะ ที่นิรุตทอดทิ้งดาแบบนี้ ดาเราคุยกันแล้ว คุณน่าจะเข้าใจ แล้วไงค่ะ ทำไม ทำไม (ฉันกลัว กลัวเขาจากฉันไปแล้วไม่กลับมาหาฉันอีกเลย..แต่ฉันหักห้ามความรู้สึกไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ) ทำไม ทำไม ทำไม ทำไมค่ะนิรุต ประโยคสุดท้ายดังพอจะฉุดความรู้สึกของฉันกลับคืนมา แต่แล้วเขากลับวิ่งออกไปจากห้อง พี่พยาบาลเข้ามาหาฉันด้วยสีหน้าตกใจ ดาน้องเป็นอะไรค่ะ ทำไมตะโกนดังๆ หละ พี่พยาบาลจับตัวฉันไว้แน่นก่อนสวมกอดด้วยความเป็นห่วง ฉันรู้สึกถึงความอบอุ่นและห่วงใย พี่พยาบาล ห้ามนิรุตให้ดาหน่อย เขาทิ้งดาไปอีกแล้ว พี่ตามเขาให้ได้ไหมคะ ใครค่ะดา คนไหนพี่ไม่เห็นนี่ค่ะ พี่ได้ยินเสียงตะโกนมาจากห้องน้องดา พี่จึงรีบเข้ามาอย่างที่เห็นนั้นหละคะ ไม่ค่ะพี่ เมื่อกี่นิรุตมาหาดาจริงๆคะ พี่พยาบาลทำหน้างงกับคำถามของฉัน แต่นั้นมันยิ่งทำให้ฉันเจ็บเข้าไปอีกครา ฉันหยิบรูปในกระเป๋าสตางค์ที่เขาซื้อให้ในวันเกิดและส่งรูปที่ถ่ายคู่กันให้พี่พยาบาลดู .. .. ดาแน่ใจนะว่าคนในรูปนี้ แน่ใจคะ ..พี่เสียใจด้วยนะดา อย่าตกใจและเสียใจถ้าพี่จะบอกความจริงว่า.. คนในรูปนี้ เขา..เสียชีวิตแล้ว ความทรงจำจัดเรียงราย ภาพค่อยๆ ต่อเป็นจิ๊กซอ ผ่านไปอย่างช้า หมุนเคว้งคว้าง กลับจางหายไปพร้อมกับความเย็นชาที่ซึมผ่านผิวหนังลึกจนสุดขั้วหัวใจ หลายๆคน เรียกสิ่งนี้ว่า ช็อก ไม่.. ไม่จริง.. พี่โกหก ดาไม่เชื่อ ไม่เชื่อ .. ฉันตื่นขึ้นมายามเที่ยงคืน สมองอันหนักอึ้ง ฉันปวด ปวด ปวดถึงแก่นกลางของรูปทรงที่ก่อตัวขึ้นมาเป็นหัวใจที่มีเลือดแห่งความรู้สึกทั้งปวง ฉันร้องไห้ อีกครา พร้อมพาจิตใจไร้ที่พึ่งให้ล่องลอยไปไกลแสนไกล .. .. ท้องฟ้าสว่างอาบแสงอบอุ่นลูบไล้ทั่วร่างกายฉัน.. ทุ่งกว้างอันเขียวมีสัตว์ต่างๆ มากมาย ฝูงนกบินว่อน บ้างส่งเสียงเจี้ยวจ้าว บ้างหยอกล้อ ฉันมองออกไปไกล ไกล ..และไกลออกไป ฟ้าฟากโน้น มีคนยืนอยู่ แต่แสงของเขานั้นริบหรี่ ขอร้อง อย่าทิ้งฉันไป อย่า ได้โปรดเถอะ. . นิรุตใช่ไหม อย่าทิ้งดาไปขอร้อง . ร่างกายฉันเคลือบด้วงแสงสีขาวสว่างจ้า อบอวลด้วยความหอมที่แสนอบอุ่น ณ ที่นี่..ฉันอยู่ในอ้อมกอดเขา คุณไม่ทิ้งฉันไป..ใช่ไหมนิรุต.. ทุ่งเขียวขจี บัดนี้ค่อยๆ กลายเป็นสีแดงฉาบด้วยความคิดที่ให้เขาอยู่กับฉันตลอดไป แต่แล้วทุ่งหญ้ากลับกลายเป็นความมืดมิดที่เกาะกุมหัวใจอันสั่นคลอนของฉันให้หลุดจากวังวนแห่งความปรารถนา ฉันตื่นด้วยความเจ็บปวดราวโดนไฟฟ้านับหมื่นโวล์ กระตุ้น ..เคลีย เคลีย เคลีย เสียงคุณหมอพูดดังก้องในสมองฉัน นี่กระมังที่ดึงจิตวิญญาณฉันออกมาสู่โลกของความเป็นจริง.. ฉันมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ด้วยความเจ็บปวดเมื่อดวงตาทั้งสองข้างของฉัน กลับมองไม่เห็นอะไร มีเพียงความมืดมิดที่เกาะกุมหัวใจอันหวาดกลัวสู่โลกของความเจ็บปวดอีกครั้ง.. 1 ปีแล้วสินะ ตอนนี้ฉันมีดวงตาคู่ใหม่ที่มองโลกใบนี้ แต่ตรงกันข้าม.. เขา.. ผู้ซึ่งอยู่ ณ โลกใบใหม่ โลกที่ใครๆ ก็ไม่รู้จัก เศร้าสลด รถบรรทุกบดขยี้ร่างชายหนุ่มเละกลางสายฝน หญิงสาวเจ้าของร่างที่หลับไหลรอวันเวลากลับคืนสู่อ้อมกอดครอบครัว
10 เมษายน 2548 12:04 น. - comment id 84052
ยอดมาก เขียนอีกค่ะ ทั้งน่าติดตามและตื่นเต้น
10 เมษายน 2548 20:59 น. - comment id 84061
ตุง...ไม่เอานะ ยายอยากอยู่กับตาตลอดเวลารู้ไหม มีแค่ตุงคนเดียวนะ อืม....อย่าไปนะ ขอร้อง ต้องจุ๊บก่อนนอนทุกคืนสิ ....ยายจะได้หลับฝันดีตลอดไป นะคะ...รักเสมอ ///ตุง///เขียนได้ดีมากๆๆเลย ชอบมากๆเลย แต่ไม่เอาน่า ตุงต้องอยู่กับยายนะ เพราะยายต้องคู่ตุง แล้วที่สำคัญต้องๆๆๆแกล้งตุงทุกคืนวันด้วยจ๊ะ ----คิดถึงเสมอ----- คุณยายไง
17 เมษายน 2548 21:30 น. - comment id 84181
ไม่อยากรักแล้ว ทรมานและเจ็บอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งๆที่อีกคนอาจจะกำลังระรื่นกับคนอื่นอยู่ สินะ...ใช่ไหม
18 เมษายน 2548 18:16 น. - comment id 84224
ป่าว ........ ขอบคุณที่อ่านนะฮ่ะ
19 เมษายน 2548 17:58 น. - comment id 84255
โครงเรื่องโอเคว่ะ แต่การบรรยายยังไม่ค่อยลื่นและเข้าใจยากไปหน่อย หุ ๆๆ
22 เมษายน 2548 18:51 น. - comment id 84390
ขอบคุณที่ติชมคร๊าปปปปปปปปปป แล้วจะพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมคร๊าป ทุกๆท่าน