องค์กร
windsaint
นั่งลงเถอะ อย่ามัวแต่เดินอยู่เลย เสียงนุ่มๆสุภาพของเขาก้องกังวาน
ก็ฉันไม่มีอะไรทำนี่นา นับจากวันนั้น ผมตอบเขาพร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้นวมตรงข้ามเขา
ก็เพราะนายเองไม่ใช่หรอ ที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ เขาตอบกลับด้วยความขุ่นเคือง
แต่มันเป็นสิ่งที่ฉันควรจะทำไม่ใช่หรือ ก็เขาทำแบบนั้นแล้วความยุติธรรมมันอยู่ที่ไหนล่ะ
นายจะถามหาอะไรกับความยุติธรรม ในเมื่อความยุติธรรมนั้นไม่สามารถแสวงหาได้ อย่ามัวหาความยุติธรรมอยู่เลยโลกนี้หาความยุติธรรมที่แท้จริงได้ที่ไหนล่ะ ก็ในเมื่อขนาดมนุษย์ผู้แสวงหาความยุติธรรม ยังไม่เคยให้ความยุติธรรมกับใครหรือสิ่งใด แม้กระทั่งมดตัวเล็กๆเลย
แต่เขาก็ไม่ควรทำนี่นา ทั้งเรื่องกีดกัน อ้างโน่นอ้างนี่อ้างไปว่ามีงาน ทั้งๆที่จริงๆแล้วตัวเองไม่ได้ทำงานอะไรเลย มันก็แค่เอาคนอื่นมาอ้างอีกที ทำตัวว่าเป็นคนสำคัญซะประดา แล้วไอ้เด็กนั่นทั้งโขยงอีก ทำตัวไม่ได้เรื่อง ทั้งๆที่ตัวเองก็มาใหม่เพียงไม่เท่าไหร่แท้ๆ หรือว่าจะมีดีที่เพื่อนใหญ่ก็ไม่รู้ ไอ้ประทงประธานอะไรนั่น ฉันล่ะไม่เข้าใจพวกคางคกขึ้นวอจริงๆ ผมสวนกลับไปบ้าง
นายพูดแบบนี้ใช่มั๊ยล่ะ แล้วไงล่ะ ก็เลยต้องมานั่งอยู่อย่างนี้ไง
เอ้า ก็ความจริงนี่นา มันก็คือความจริงนั่นล่ะ ผมเริ่มพูดไม่ออก
แล้วความจริงของนายล่ะ เขาซัก
ความจริงของฉันรึ จะมีอะไร นอกจากที่จะต้องการให้หน่วยงานของฉันที่ฉันสังกัด มันราบรื่นและพัฒนาไปได้ด้วยดีอย่างที่ฉันคิดไว้ ก็เท่านั้นเอง
แต่นายน่ะถูกเขาเฉดหัวออกมาจากหน่วยงานไม่ใช่หรอ จะบอกให้รู้ นายน่ะถูกเขาลืมไปตั้งแต่วันนั้นแล้วเขาไม่มีทางเห็นความสำคัญของนายหรอก ไอ้องค์กรบ้าๆอะไรของนายน่ะ มีคนเข้ามาแทนที่นายไม่รู้จักหยุดหย่อน นายมันก็แค่ลิ่วล้อที่เขามีไว้ใช้งานเท่านั้นเอง ไม่ได้มีความสำคัญอะไรขนาดที่เขาจะมาใส่ใจนี่ พูดง่ายๆเลยนะ นายน่ะอยู่เฉยๆเหอะ แล้วก็ไม่ต้องสนใจอะไรอีก ปล่อยมันไปตามทางเหอะ องค์กรที่รักของนายน่ะ เขาเตือนผม
ปล่อยเรอะ ฉันปล่อยแน่ แต่ปล่อยแล้วมันจะตกแตกรึเปล่า ฉันไม่รับประกันนะ ยิ่งเปราะบางอยู่ด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า
ผมตอบเขาและยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะเดินไปเปิดกล่องที่บรรจุแท่งสี่เหลี่ยมที่มีตัวอักษรภาษาอังกฤษกับตัวเลขอย่างละตัว พร้อมกับเดินเปิดประตูออกไปด้วยรอยยิ้มอย่างมีชัย