"กุ้ง!!.." น้ำเสียงที่เรียกฉันปนกระแสยินดี "ปิน ... หวัดดีจ้ะ" ฉันตอบรับ ... นานเท่าไหร่แล้วนะที่เราไม่ได้พบกัน .. สองปี ..หรือกว่านั้น?? .. เขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น .. ร่างกายกำยำ ดูมั่นคงแข็งแรง มากขึ้นกว่าเก่า "กุ้งผอมลงไปมากนะ ..." ฉันยิ้มตอบ ... วันนี้ฉันมางานแต่งงาน ของโต้ .. อดีตเพื่อนร่วมงาน ..ที่แม้ปัจจุบันจะไม่ได้ทำงานร่วมกันแล้ว แต่ความเป็นเพื่อนระหว่างฉันกับเจ้าบ่าว .. ยังคงเป็นมิตรภาพที่ดีเสมอ.. และปินก็เป็นเพื่อนสนิทของโต้ .... ....เรื่องราวครั้งอดีตพรั่งพรูกลับเข้ามาในความนึกคิด ....
"กุ้ง ... อีกสิบห้านาที .. ปินจะถึงบ้านกุ้งแล้วนะ .." เสียงหนุ่มน้อยระรื่นมาตามสาย "หืม??.. นี่มันห้าทุ่มกว่าแล้วนะปิน .. มีอะไรด่วนหรอ?" เราทำงานร่วมกัน แบบว่า หามรุ่งหามค่ำ ... หากมีเรื่องด่วน .. ปินจะมานั่งทำงานที่บ้านฉัน หลังเลิกงานหรือในวันหยุดเสมอ และพักนี้ ... มักมีเรื่องด่วนแทบทุกวัน .. "ปินเพิ่งได้ลูกค้ามาน่ะ .. ว่าจะปรึกษากุ้งหน่อย .. นัด present พรุ่งนี้ตอนเที่ยง ..เดี๋ยวไม่ทัน .." งานเหมือนเดิม .. "อื้ม .. รีบๆ ละกัน ก่อนที่กุ้งจะหลับ.." อีกสักพัก .. เขาก็ถึงบ้านฉัน .. เรานั่งคุยเรื่องงานกันพักใหญ่ ... ".. ทำไมกุ้งถึงทุ่มเทกับงานมากขนาดนี้ .." อยู่ๆ ปินก็ถาม "ก็มันเป็นงานนี่ ... ไม่ทำงานแล้วจะกินอะไรล่ะ .." ฉันตอบทั้งที่ยังก้มหน้าก้มตากับกองเอกสารตรงหน้า "แล้วที่กุ้งดีกับปินมากขนาดนี้ล่ะ .. เพราะอะไร?" ฉันเงยหน้ามองเขา ... "มันก็เป็นงานไง.. ต้นปีหน้า ปินต้องเป็นผู้จัดการแล้วนะ .. นี่ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนเอง .." "แค่นั้นหรือ?" ปินถามเสียงเบา .. ฉันพยักหน้า ... "เอาล่ะ .. ข้อมูลนี่เรียบร้อย .. เดี๋ยวพรุ่งนี้กุ้งจะเข้าออฟฟิศแต่เช้าเตรียมเอกสารให้ .. ปินรีบมาแล้วกัน ... วันนี้กลับบ้านได้ จะตีหนึ่งแล้ว .." ฉันรีบสรุป ... พร้อมช่วยเก็บเอกสารลงกระเป๋าเขา ฉันเดินไปส่งเขาหน้าบ้าน .. เขาไขกระจกรถ ลง... "..ถ้า...ไม่มีเชอรี่ ... ปินจะมาหากุ้งโดยไม่มีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวข้อง..ได้ไหม?" .. เขาถามฉัน .. ฉันยิ้ม .. ".. ปินมาหากุ้งได้เสมอ ..เพราะเราเป็นเพื่อนกัน.. แต่อย่าให้เชอรี่เข้าใจผิดแล้วกัน .."
"ขอเสียงปรบมือแสดงความยินดีแก่ .. คุณปาณชีพ... ผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่อายุน้อยที่สุดในบริษัทของเราครับ .. " เสียงพิธีกรบนเวทีประกาศ ในงานประจำปีของบริษัท ปิน เดินขึ้นบนเวที พร้อมเสียงปรบมือกึกก้องประกาศศักดาแห่งความสำเร็จ ในอ้อมแขนมีดอกไม้ช่อโตสองช่อ ... ฉันยืนยิ้ม .. อยู่มุมหนึ่งในงาน .. เฝ้ามองความสำเร็จของเขา .. ที่เราร่วมสร้างมาตลอดสองปี .. "ขอบคุณครับ ..ผมยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่บริษัทมอบความไว้วางใจ ให้ผมรับหน้าที่นี้ .. ตลอดสองปีที่ผมทำงานที่นี่ .. ผมได้รับความช่วยเหลือจากทุกฝ่ายในบริษัทเป็นอย่างดี .. และที่สำคัญ .. ที่มีผมในวันนี้ได้ เพราะหัวหน้าของผม และ ผู้ช่วยคนสำคัญ .. ขอเสียงปรบมือสำหรับสองท่านนี้แทนคำขอบคุณจากใจของผมด้วยครับ ..." สิ้นเสียงปิน .. เสียงปรบมือดังกึกก้อง .. เขาเดินลงจากเวทีตรงไปหา คุณโอ๋ ..หัวหน้าของเขาและของฉัน .. ..มอบดอกลิลลี่สีขาวช่อโต .. และ .. เดินตรงมาหาฉัน .. มอบกุหลาบขาวช่อโต.. ..เขาจำได้ว่าเป็นดอกไม้โปรดของฉัน .. แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปสว่างวาบ .. รอยยิ้มของเขาแสดงความดีใจ .. แววตาส่งประกายวาวแทนคำขอบคุณจริงใจ .. ฉันยิ้มตอบ ..ภาคภูมิใจกับวันนี้ของเขาเช่นกัน...
ฉันนั่งมองรูปบนปกวารสารของบริษัท ... รูปปินกำลังมอบช่อกุหลาบขาวแก่ฉัน ..ในงานประจำปีที่เพิ่งผ่านพ้นไป .. ...กุลาบขาวช่อนั้น..บัดนี้เริ่มโรยอยู่ในแจกันบนโต๊ะทำงาน ... โทรศัพท์มือถือดัง ...ปลุกฉันจากภวังค์ ... "สวัสดีค่ะ .." ฉันกรอกเสียงลงไป ...เบอร์ไม่คุ้น .. "ฮัลโหล .. นี่เชอรี่นะ .. แฟนปิน.. จำได้ไหม?" เสียงหวานหากเข้มดังมาตามสาย "อ้อ .. ค่ะ จำได้" ฉันตอบแบบ งง ๆ ... รำลึกถึงใบหน้าสวย ..หวาน ..ที่เคยปรากฎโฉมในโฆษณาสินค้า บนจอทีวี .. "ขอบคุณนะ ที่มีส่วนช่วยให้ปินได้เลื่อนตำแหน่ง .." เสียงหวานแจ้วมาตามสาย "เป็นหน้าที่อยู่แล้วค่ะ .. " ฉันตอบ "งั้นตอนนี้..ก็หมดหน้าที่ของคุณแล้วสินะ .. " เสียงหัวเราะดัง ก่อนเธอจะวางสาย ..
"นั่งก่อน .." คุณโอ๋ ..หัวหน้าของฉัน เรียกฉันมาพบ "เป็นไง .. ดังกันทั้งสามคน .. พี่ .. ปิน แล้วก็กุ้ง .." เสียงทักทายแจ่มใส คงจะอารมณ์ดี เพราะเรื่องปินดังกระฉ่อน ทั้งบริษัท ...ฉันยิ้ม... "ผู้ใหญ่เสนอมาว่าให้กุ้ง ไปเป็นผู้ช่วยปิน .. เพราะเขาเป็นผู้จัดการใหม่ .. ส่วนพี่น่ะ .. เดี๋ยวจะหาผู้ช่วยมาแทน .. กุ้งว่าไง?" ฉันนิ่ง ... "กุ้งยังอยากอยู่ตรงนี้มากกว่า ...แต่ก็ต้องแล้วแต่พี่และผู้ใหญ่ค่ะ.." ฉันตอบตามแบบฉบับที่ผู้น้อยควรตอบ .. แต่ในใจกังวล .. เล็ก ๆ .. "อื้ม .. งั้นเดี๋ยวพี่บอกอีกที ..คงต้องถามปินด้วย "
"พี่กุ้งคะ .. ยุ่งอยู่หรือป่าวคะ?" เจ้าอ้อม เลขาชั้น 25 โทรสายในมาหาฉัน "มีอะไรจ้ะ ..ว่ามาได้เลย .." ฉันตอบ ทั้งที่ยังก้มหน้าก้มตากับเอกสารบนโต๊ะ "เอ่อ .. คือ .. มีแฟกซ์เกี่ยวกับพี่น่ะค่ะ .. เอ่อ..." เสียงเจ้าอ้อมตะกุกตะกัก "เอ..แฟกซ์ถึงพี่ ..ทำไมส่งไปที่อ้อมล่ะ ..เดี๋ยวพี่ให้นุ๊กกี้ลงไปเอา .." ฉันตอบ "เอ่อ ..พี่คะ ..มันไม่..ค่อยดีเลยน่ะค่ะ ..เดี๋ยวอ้อมใส่ซองไปให้นะคะ " เสียงเจ้าอ้อม ฟังแปลกๆ สักพัก เจ้านุ๊กกี้กลับขึ้นมาพร้อมซองเอกสาร ... ฉันเปิดดู ... ... ขายตัวแลกตำแหน่ง ... ข้อความตัวหนาปรากฎในกระดาษแฟกซ์พร้อมระบุชื่อ และ เบอร์โทรศัพท์ของฉัน ..
"เรื่องส่วนตัวของคุณ ไม่ควรให้เกิดขึ้นในบริษัท ..." เสียงของคุณแหม่ม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ที่สนับสนุนให้ฉันไปเป็นผู้ช่วยปิน "มีแฟกซ์น่าอายแบบนี้ไปทั่วทั้งตึก ... คุณจะทำยังไง ? " เสียงเข้มยังไล่เบี้ยฉันอย่างไม่ลดละ ฉันได้แต่นิ่ง ... ตึกสำนักงานให้เช่าสูง 40 ชั้น มีกว่า 30 บริษัท อยู่ในตึกนี้ ได้รับแฟกซ์สนเท่ฉบับนั้นทุกบริษัท ...ส่วนในบริษัทของฉัน ได้รับทุกแผนก เรียกได้ว่า ได้รับทุกที่ที่มีเครื่องแฟกซ์ ... ".............................................." ฉันเงียบ ไม่รู้จะตอบประการใดได้ "เรื่องย้ายคุณไปเป็นผู้ช่วยปาณชีพ คงต้องพักไว้ก่อน ... ...พี่ขอเตือน ... อย่าให้เรื่องส่วนตัวมาทำให้งานเสีย.." ฉันเดินออกมาจากห้องผู้อำนวยการ ด้วยหัวสมองว่างเปล่า ... "กุ้ง ..."เสียงใครเรียกฉัน ... "คุณแหม่มว่ายังไงบ้าง ..?" ปินนั่นเอง .. "ก็ไม่มีอะไร.. โดนดุนิดหน่อย.." ฉันตอบ..ทำท่าไม่สนใจ ... "แล้วรู้ไหมว่าเป็นฝีมือใคร ?" ปินถาม ฉันมองหน้าเขา ..."ช่างมัน .. จะเป็นใครก็เหอะ ...ไม่ต้องไปตามหาหรอก " "ไม่ต้องคิดมากหรอก ...อีกไม่นาน คนก็จะลืมไปเอง ..." เขาปลอบฉัน ฉันเงยหน้ามองรอบข้าง ... คนในแผนก มองฉันและปิน พลางซุบซิบ .. แต่พอสบตาฉัน .. ก็หยุด .. "คุณโอ๋บอกปินว่า...กุ้งจะมาเป็นผู้ช่วยปินหรอ? .. ปินดีใจจัง" น้ำเสียงมีแววยินดี "คุณแหม่มสั่งพักเรื่องไว้นี้ก่อนน่ะ .. " ฉันบอกเขา "อ้าว .. เพราะแฟกซ์งี่เง่านั่นหรือ?" เขาถาม ฉันยิ้ม ... ...เราเดินมาถึงห้องทำงานของฉัน ... "กุ้ง ... ปินมีเรื่องจะคุยด้วย ...ขอเวลาสักครู่ได้ไหม?" แววตาเขาดูจริงจัง ... ฉันพยักหน้า ... "ปินจะบอกเชอรี่ ..ว่า ..ปินไม่ได้รักเขา ..." เสียงปินเบาแทบกระซิบ ...ฉันนิ่ง ... "กุ้งจะว่ายังไง?" เขาถาม.. แววตาอ่อนโยนสบตาฉัน.. "เป็นเรื่องระหว่างปินกับเชอรี่ ...ไปคุยกันสองคนเถอะ ... คนนอกอย่างกุ้งบอกได้แค่ว่า .. คิดให้ดี .. ปินจะทำเขาเสียใจนะ..." "ถ้า..ปินไม่มีเชอรี่ .. ระหว่างเราจะเป็นยังไง..?" เขาถามฉัน "ปินจะให้เป็นยังไง?" ฉันสบตาเขา "กุ้งก็รู้นี่ .. " เขาตอบ แววตาละห้อย "เราก็ยังเป็นเรา ...และบางที กุ้งอาจจะได้เป็นผู้ช่วยปิน ..." ฉันตอบ .. "แค่นั้น ..??" เสียงห้าวสงสัย ... ฉันพยักหน้า ... "ยังไง...ปินก็จะบอกเชอรี่อยู่ดี ...."
เสียงโทรศัพท์มือถือดัง ... เอ..ใครกัน? ..ดึกป่านนี้แล้ว ..เบอร์ไม่คุ้นเลย ... "ฮัลโหล..." ฉันกรอกเสียงลงไป "คราวที่แล้วมันยังน้อยไปใช่ไหม?...ถึงให้ปินมาพูดกับฉันแบบนี้ ... กล้ามากนะ ... ต้องมากกว่านี้ใช่ไหม? .. เธอถึงจะยอมปล่อยปิน .. ...ได้ ... แล้วเราจะได้เห็นกัน ..!!!" ตามด้วยเสียงวางหูโทรศัพท์ ...พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับฉันอีกนะ ?...
"นั่งก่อนกุ้ง ..." เสียง เครียด บอกฉัน... คุณโอ๋เรียกฉันมาพบหลังจากออกมาจากห้องคุณแหม่ม ... "พี่มีทั้งข่าวดี และ ไม่ดี ... อยากฟังข่าวไหนก่อน.." เสียงเครียดพยายามจะทำให้เป็นเรื่องสนุก "พี่เล่ามาเถอะค่ะ ...คุณแหม่มเรียกพี่ไปพบ ด้วยเรื่องของกุ้งใช่ไหม?" ฉันถาม "กุ้งมีปัญหากับใครหรือป่าว?" คุณโอ๋ถามฉัน ...ฉันนิ่ง ... "เรื่องปินใช่ไหม?" คุณโอ๋ยังคงถามต่อ ...ฉันเงียบ ... "เล่ามาเถอะ ...พี่รู้เรื่องหมดน่ะแหละ ..มองปินก็รู้แล้ว .. เฮ่อ...!! พ่อของเชอรี่น่ะ เขาเป็นเพื่อนกับหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทเรา ... เลยมีคำสั่ง..ย้ายกุ้งไปเป็นเลขาของคุณสมพงษ์ .." ...คุณสมพงษ์ เป็นหัวหน้าธุรการ .. หึ ..หึ.. เท่ากับลดตำแหน่งฉัน.. แบบนี้...คำสั่งจริงๆ น่าจะเป็น..ไล่ฉันออกเสียมากกว่า .. "พี่ก็เลยถือโอกาสบอกพี่แหม่มเสียเลย ...ว่าพี่จะออกไปเปิดสำนักงานเอง ... ตามแผนที่เราเคยวางเอาไว้ ... มันเร็วกว่าที่เรากำหนดไว้นิดหน่อย ... แต่ก็ดีเหมือนกัน .. กุ้งว่ายังไง?" "ลุยเลยค่ะพี่ ... " ฉันตอบพร้อมรอยยิ้ม ... ฉันเดินออกจากห้องทำงานคุณโอ๋ ... "กุ้ง ..." เสียงเรียกฉัน "ปินรู้เรื่องแล้ว ...กุ้งจะทำยังไง ?" เสียงเขาร้อนรน ...เดินตามฉันมายังห้องทำงาน ฉันยิ้ม .. "ก็ไม่ทำยังไง ...อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด" "ปินขอโทษ ...เป็นเพราะปินใช่ไหม? .." "ไม่ต้องคิดมากหรอก ...ยังไง คุณโอ๋กับกุ้งก็วางแผนไว้ว่า .. จะออกไปเปิดสำนักงานเองอยู่แล้ว ..ดีซะอีก ..ได้ทำก่อนกำหนด .."ฉันตอบ "ปินจะเลิกกับเชอรี่แน่ๆ ..ยิ่งปินรู้ว่าเขาทำแบบนี้ด้วยแล้ว ...." ...ฉันนิ่ง ... "ปิน ..ที่เขาทำ .. คงเพราะรักปินมากน่ะ ..ไม่อยากเสียปินไป .. กุ้งว่า ..ปินอธิบายให้เขาเข้าใจดีกว่า .. ว่า ระหว่างเรา ..เป็นเพื่อนร่วมงาน.." ฉันออกความเห็นในเรื่องนี้ยาวกว่าที่เคย... "มันเป็นไปไม่ได้เลยหรือ...ระหว่างเรา?" เสียงห้าวแห้งแล้ง ...ฉันนิ่ง...
"ขอเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นบนเวทีเลยคร๊าบบบบบบบบบบ" เสียงพิธีกรในงานแต่งงานดังขึ้น .. "นั่งคุยกันก่อนสิ ..." เสียงปินเชื้อเชิญ "ปินมาคนเดียว ... ปินไปไหนมาไหนคนเดียว ตั้งแต่คุณโอ๋กับกุ้ง ออกจากบริษัทน่ะแหละ ..แล้วกุ้งล่ะ ..มากับใคร .." เขาชวนคุย ..ด้วยรอยยิ้ม และสายตาอ่อนโยนคู่เดิม ... "กุ้งไปไหนมาไหน คนเดียวเสมอจ้ะ ... เหมือนเดิม .." ฉันตอบพร้อมรอยยิ้ม ... "คำถามแรกคร๊าบบบบบบบบบบบบบ...ถามคุณเจ้าบ่าวก่อนแล้วกัน... ...คุณพบรักกับเจ้าสาวได้ยังไงครับผม...??" ใจเจ้าเอ๋ย ... โปรดเฉลย เอ่ยวาจา มายืนยัน ตัวของเจ้า เถ้าชีวี มิมีผัน เปลี่ยนแปลงปัน เป็นของใคร มิใช่เขา ใจเจ้าเอ๋ย... แม้จะเคย เป็นของใคร ในวันเก่า แต่วันนี้ และต่อไป ใจคงเฝ้า มีเพียงเขา ในก้นบึ้ง ตรึงนิรันดร์...
23 มีนาคม 2548 10:44 น. - comment id 83731
....
24 มีนาคม 2548 00:09 น. - comment id 83746
ถ้ามันใช่ ถึงยังไง มันก็ใช่ ถ้าไม่ใช่ ถึงไขว่คว้า ก็หลุดมือ คนที่ใช่ในวันนี้ใช่ว่าใช่ คนไม่ใช่ในวันนี้กลับเป็นใช่ ไม่มีใครรู้หรอกว่าคนที่ใช่ในวันนี้จะใช่คนที่เราใช้ชีวิตอยู่กับเขาในวันข้างหน้า ไม่มีใครรู้อนาคตได้ เพียงแต่คิดว่าจงทำวันนี้ให้ดีที่สุดและทำให้ทุกคนที่อยู่ข้างเรามีความสุขเท่านั้นก็พอแล้ว นี่คือความเป็นจริงที่เราทำได้และเราจะมีความสุขด้วยเช่นกัน ขอบคุณที่ถ่ายทอดความรู้สึกอีกแง่ของคุณให้เราฟังนะ :-->