และมันเป็นเรื่องของชีวิตและความรัก วันนั้นเป็นวันศุกร์ เรารุดออกไปดับเพลิงตามที่ได้รับแจ้งตั้งแต่เช้าตรู่ว่ามีไฟไหม้ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ระหว่างที่เตรียมอุปกรณ์อยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงแมวร้อง แต่ผมหยุดมือไม่ได้ต้องดับไฟก่อนแล้วจึงจะหาแมวได้ ไฟไหม้ครั้งนี้ลุกลามใหญ่โตมาก เราจึงมีหน่วยงานอื่นๆ มาช่วยสนับสนุนด้วย ทั้งฝ่ายตะขอเกี่ยวและบันได เราได้รับแจ้งว่าทุกคนในอาคารนี้ออกมาได้โดยปลอดภัยแล้ว ผมเองก็หวังเช่นนั้นเพราะที่ปั๊มมีแต่เปลวไฟเต็มไปหมด ใครขืนเข้าไปกู้ภัยคงจะไม่รอดแน่ กว่าจะดับไฟได้ก็คงกินเวลานานมาก และต้องใช้กำลังคนมากมาย ถึงตอนนี้มีเวลามองหาแล้วว่าเสียงแมวมาจากไหน ควันไฟยังพวยพุ่งออกมาจากตัวปั๊มเต็มไปหมด ผมมองอะไรไม่ค่อยเห็น ได้แต่เดินตามเสียงแมวร้องไปเรื่อยๆ จนถึงบริเวณบาทวิถี ห่างจากหน้าปั๊มราวๆ 5 ฟุตเห็นจะได้ ก็เห็นลูกแมวตัวเล็กๆ ท่าทางอกสั่นขวัญแขวนสามตัวกอดกันกลมส่งเสียงร้องกันระงมอยู่ พอมองไปรอบๆ ผมก็เจออีกสองตัวอยู่บนถนนตัวหนึ่งส่วนอีกตัวหนึ่งอยู่อีกฝั่งถนนหนึ่ง แมวพวกนี้คงจะติดอยู่ในอาคารเป็นแน่เพราะขนมันถูกไฟลนเสียจนโกร๋น ผมตะโกนขอลังสักใบและมีนักมุงหามาให้ใบหนี่ง ผมจับลูกแมวทั้งห้าตัวใส่ในลังและอุ้มลังไปพักไว้หน้าระเบียงบ้านหลังหนึ่งแถวนั้น ผมมองหาแม่แมว สังหรณ์ว่าแม่แมวคงจะเข้าไปในปั๊มที่กำลังไฟไหม้ และทยอยคาบลูกออกมาวางไว้บนบาทวิถีทีละตัว ลองคิดดูก็แล้วกันว่าต้องวิ่งเข้าไปในกองไฟที่ลุกโชติช่วงถึงห้าครั้งห้าคราว จากนั้นก็ต้องพยายามให้ลูกแมวไปอยู่อีกฝั่งไกลอาคารออกไปทีละตัวเช่นกัน แต่แม่แมวดูเหมือนจะยังขนลูกออกมาไม่หมด เอ๊ ..แล้วแม่แมวไปอยู่เสียทีไหน ตำรวจคนหนึ่งชี้บอกผมว่าเห็นแม่แมวเข้าไปที่ร้านตรงที่ผมเจอลูกแมวสองตัวสุดท้าย แม่แมวอยู่ที่นั่นจริงๆ มันนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด แผลไฟไหม้ดูสาหัส ตาเป็นแผลพองจนลืมไม่ขึ้น อุ้งเท้าดำเพราะถูกไฟลน ขนถูกไฟลามเสียจนเห็นหนัง บางแห่งจะเห็นเนื้อแดงเหวอะหวะ ตัวอ่อนปวกเปียกจนเคลื่อนไหวอะไรไม่ได้ ผมเดินไปหามันช้าๆ ค่อยๆ พูดกับมันเบาๆ มันคงจะเป็นแมวป่า ผมไม่อยากให้มันตกใจ เมื่อผมอุ้มมันขึ้นมา แม่แมวร้องอย่างเจ็บปวดกลิ่นขนและเนื้อหนังของมันส่งกลิ่นเหม็นไหม้ มันไม่กระดุกกระดิกแต่พยายามจะลืมตามองดูผม แต่ลืมไม่ขึ้น ดูมันเหนื่อยอ่อนเต็มประดา ได้แต่ซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนผม ผมตื้นตันน้ำตาคลอ เมื่อรู้สึกว่าแม่แมวไม่กลัวผม ไว้ใจผม ผมตั้งใจจะช่วยชีวิตแม่แมวผู้กล้าหาญและลูกทั้งห้าตัวของมัน ชีวิตของพวกมันขึ้นอยู่กับผม ผมค่อยๆ วางแม่แมวลงในลังรวมกับลูกๆ ของมัน แม่แมวตาบอดยังอุตส่าห์ใช้จมูกแตะลูกแมวแต่ละตัวจนทั่วเพื่อให้แน่ใจว่า ทุกตัวปลอดภัย มันคงเบาใจที่ลูกของมันอยู่ครบทุกตัว แม้ตัวมันเองจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม แมวทั้งหมดต้องได้รับการรักษาโดยด่วน ผมนึกถึงบ้านสงเคราะห์สัตว์แห่งหนึ่งชื่อสันติบาตสัตว์นอร์ทชอร์ ผมเคยนำสุนัขที่ถูกไฟไหม้อาการสาหัสไปให้ที่นั่นรักษาแผลเมื่อสิบเอ็ดปีก่อน องค์การนี้ช่วยได้แน่ ผมโทรศัพท์ไปแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ว่ากำลังพาแม่แมวและลูกแมวที่ถูกไฟลวกอาการสาหัสไปให้รักษา ผมไม่มีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้ายังสวมชุดดับเพลิงที่มีกลิ่นคราบควันไฟอยู่เต็ม แล้วบึ่งรถบรรทุกของผมไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อไปถึงก็เห็นสัตว์แพทย์และเจ้าหน้าที่สองชุดเตรียมตัวรับแมวอยู่แล้ว ที่ลานจอดรถ พวกเขารีบนำแมวทั้งหมดเข้าไปในห้องพยาบาล ทีมหนึ่งรักษาแม่แมวอยู่บนโต๊ะตัวหนึ่ง และอีกทีมหนึ่งดูแลลูกแมวอยู่บนโต๊ะอีกตัวหนึ่ง ผมรู้สึกเหน็ดเหนื่อยเป็นกำลังจาการกดับไฟ และพยายามไม่เข้าไปเกะกะในห้องพยาบาล ผมไม่ค่อยหวังเท่าใดว่าแมวเหล่านี้จะรอดชีวิต แต่ถึงอย่างไรก็ทิ้งมันไม่ลงจริงๆ หลังจากรออยู่ครู่ใหญ่ สัตว์แพทย์ก็บอกผมว่า เขาต้องเฝ้าอาการแม่แมวและลูกของมันทั้งคืน และไม่มั่นใจว่าตัวแม่จะรอดหรือเปล่า วันรุ่งขึ้นผมกลับไปอีก รอแล้วรอเล่า กำลังจะเลิกล้มความหวัง สัตว์แพทย์ก็เดินเข้ามาบอกข่าวดีกับผมว่า ลูกแมวรอดแล้ว "แล้วแม่แมวล่ะ" ผมกลัวคำตอบเหลือเกิน "ยังบอกไม่ได้ครับ ต้องรอดูก่อน" ผมไปที่นั่นทุกวันเพื่อฟังอาการ แต่ละวันก็ได้ยินแต่คำตอบซ้ำๆ ว่า "ต้องรอดูก่อน" ประมาณหนึ่งสัปดาห์ให้หลังผมไปที่สถานสงเคราะห์อีกครั้งด้วยความหดหู่ใจ นึกในใจว่าถ้าแม่แมวไม่ตาย ป่านนี้ก็รู้แล้วละว่าจะมีอาการร่อแร่อย่างนี้ไปอีกนานเท่าใด ทันทีที่ผมเดินเข้าไป สัตว์แพทย์ก็ยิ้มรับและยกนิ้วให้สัญญาณผมว่า แม่แมวไม่เพียงแต่รอดพ้นจากขีดอันตรายเท่านั้น อีกหน่อยมันจะมองเห็นได้อีกด้วย เอาละในเมื่อแม่แมวไม่ตายอุตส่าห์รอดมาได้ก็ต้องตั้งชื่อกันเสียหน่อย เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตั้งชื่อว่า "สการ์เล็ต" แปลว่าแดงก่ำเพราะผิวที่แดงเถือกของมัน ผมสะเทือนใจที่ได้เห็นแม่แมวเจอหน้าลูกๆ อีกครั้ง เพราะรู้ดีว่ามันต้องกัดฟันต่อสู้ขนาดไหนกว่าจะรอดมาได้ แล้วทายซิว่าสิ่งแรกที่แม่แมวทำคืออะไร มันนับลูกอีกครั้งโดยเอาจมูกแตะลูกทีละตัวๆ เพื่อให้มั่นใจว่าลูกๆ อยู่กันปลอดภัยโดยครบถ้วน มันยอมเสี่ยงภัยเพื่อลูกไม่ใช่ครั้งเดียว แต่ถึงห้าครั้งและได้ผลด้วยลูกๆ ของมันรอดชีวิตทั้งหมด อาชีพอย่างผมนี่มีโอกาสได้เห็นวีรกรรมที่กล้าหาญอยู่ทุกวัน แต่ที่แม่แมวพิสูจน์ให้เห็นในวันนั้นเป็นสุดยอดวีรกรรม เป็นวีรกรรมที่มาจากความรักของแม่โดยแท้! มีหลายๆ สายตาที่ได้มองต่อกันเป็นทอดๆ ดังนี้ สายตา(แม้ว่าจะเกือบบอด)และจมูกของแม่แมวที่พยายามมองและสัมผัสไปยังลูกๆ นักดับเพลิงมองไปยังแม่แมวกับลูกๆ และพยายามช่วยเหลือจนสำเร็จ สายตาและความคิดอ่านของท่าน...... ความรักมีอยู่ในโลกใบนี้เสมอ สิ่งต่างๆ ยังคงกำเนิดมาจากความรักทั้งสิ้น แม้โลกนี้ที่เป็นไปอยู่นี้จะไม่สวยงามอย่างที่คิด แต่โลกก็อยู่ได้ด้วยคนที่มีน้ำใจเมตตา ทำให้โลกใบนี้ยังคงเป็นโลกอยู่เสมอ **************************************************************************************** เพื่อนส่งมาให้อ่าน อ่านแล้ว มีรักที่ยิ่งใหญ่ดีนะ เลยขอยอกต่อ
^_^
จริงเหรอ เหตุการณ์รอบตัวบ่อยครั้งทำให้นึกน้อยใจในโชคชะตา เพราะมันมักเลว > ร้ายกว่าที่ควร เช่น ขับรถมาเป็นสิบปีไม่เคยชนอะไร แต่พอถูกขอร้องให้ถอยรถ > เพื่อนออกจากซอยไม่ถึง 30 เมตร กลับชนเสาไฟฟ้าโครมใหญ่ เหตุการณ์เลวร้าย > เกิดเหมือนสวรรค์แกล้งนี้ เกิดบ่อยกับทุกคน จนมีผู้ตั้งเป็นกฎไว้ เรียกว่า > "กฎของเมอร์ฟี่" ความว่า "ถ้ามันเคยผิดพลาด มันก็จะผิดซ้ำอีก" นอกจากกฎของ > เมอร์ฟี่ ยังมีกฎอื่นๆ ที่มีผู้สังเกตพบมากมาย สมควรรวบรวมไว้ดังนี้ > > 1. กฎความเป็นไปได้ > ขนมปังทาเนยที่พลัดตกพื้น จะเอาหน้าด้านที่มีเนยคว่ำลงเสมอ และโอกาสที่เนย > ตกเปื้อนพรม จะมีมากขึ้นเป็นสัดส่วนกับราคาของพรม > > 2. การดูดวง > หมอดูมักทายหลายเรื่องทั้งดีและเลว แต่เรื่องที่แม่นที่สุดคือเรื่องที่เลว > ที่สุด > > 3. กฎแห่งความแม่นยำ > หากขว้างก้อนหินสะเปะสะปะ มันจะพุ่งตรงเข้าหาวัตถุที่มีราคาแพงที่สุด > > 4. กฎของหาย > ของใช้ที่เราเห็นทุกวันจะหายต่อเมื่อเราต้องการใช้มัน > > 5. กฎของเมธี > เลขเด็ดที่เราไม่ซื้อ คือเลขที่จะออกงวดนั้น และหวยที่เราซื้อมักใกล้เคียง > กับหวยที่ออก หากได้บวกลบคูณหารด้วยเลขอะไรสักตัว หรือกลับหน้ากลับหลัง แต่ > ถ้าเราซื้อเลขกลับ มันจะออกเลขตรง และถ้าเราซื้อทั้งสองแบบมันจะไม่ออกเลย > > 6. กฎแรงโน้มถ่วง > วัตถุ 2 ชิ้นน้ำหนักไม่เท่ากันจะตกถึงพื้นด้วยความเร็วขนาดที่ทำลาย > ทรัพย์สินได้มากที่สุดเท่าๆกัน > > 7. ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อหนังสือ > หนังสือปกสวย เนื้อในมักห่วย หนังสือปกขี้เหร่ เนื้อในห่วยกว่า[Siriporn Suttaya] จริงสุดๆๆ > > 8. กฎห้ามพูด > คนไทยรู้จักกฎนี้ดี จนมีสุภาษิตว่า "เข้าป่าอย่าเรียกหาเสือ" กฎมีว่า ทันที > ที่คุณพูดแสดงความคาดหวัง ถ้าหวังสิ่งเลวสิ่งเลวจะมาหา และถ้าหวังสิ่งดี > สิ่งเลวก็จะมาหา > > 9. กฎของโฮว์ (Howe's Law) > มนุษย์ทุกคนมักจะทำอะไรไม่สำเร็จ > > 10. กฎของไซเมอร์กี้ > ถ้าคุณรื้อชิ้นส่วนออกมาประกอบใหม่จะมีน็อตเหลือเสมอ > > 11. ข้อสังเกตของอีตัวร์ > รถเลนข้างๆ มักเคลื่อนตัวดีกว่าเลนของเรา > > 12. กฎการแก้ปัญหา > ในปัญหาใหญ่ๆ ที่เป็นอุปสรรคให้เราแก้ มักมีปัญหาเล็กๆ อยู่ภายในซึ่งพร้อม > จะขยายตัว แทนที่ทันทีที่ปัญหาใหญ่ได้รับการแก้ไขลุล่วง > > 13. กฎทอง > คนมีทองคือคนออกกฎ > > 14. ธรรมชาติของมนุษย์ > มนุษย์เรามีสองประเภทประเภทแรก คือ คนที่ชอบแยกคนเป็นสองจำพวก ประเภทที่สอง > คือ คนที่รังเกียจพวกแรก > > 15. กฎยิ่งน้อยยิ่งดีของซีกัล > คนที่มีนาฬิกาเรือนเดียว จะรู้เวลาแน่นอน คนที่มีนาฬิกาเพิ่มมาอีกเรือน จะ > ไม่แน่ใจว่า เวลาใดถูกต้อง > > 16. กฎการใช้เวลาเหลื่อมล้ำ > การเริ่มต้นงานเป็นสิ่งยาก เพราะงาน 90 % แรก จะกินเวลาไปถึง 90% ของเวลาใน > โครงการ ส่วนงาน 10% ที่เหลือจะกินเวลาอีก 90% ของเวลาในโครงการ > > 17. กฎของโอ'รีลลี > สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ในโลกนี้ คือ การทำโต๊ะทำงานให้สะอาด > > 18. กฎของลีเบอร์แมน > นักการเมืองทุกคนโกหก แต่ไม่เป็นไรเพราะไม่มีใครฟังใคร > > 19. กฎน้ำพริกถ้วยเก่า > เสื้อผ้าตัวเก่งจะเก่าซอมซ่อทันทีที่เราได้ตัวใหม่ > > 20. ข้อเท็จจริงขององค์กร > ในทุกหน่วยงานมักมีพนักงานคนหนึ่งและคนเดียว ที่มองเห็นปัญหาที่แท้จริงของ > องค์กร และคนๆ นี้จะถูกไล่ออกเสมอ > > 21. กฎการโต้เถียง > คนที่พูดน้อยคือคนที่รู้มาก > > 22. กฎการทำงานเป็นทีม > เมื่องานยุ่งยาก ทุกคนผละหนี > > 23. กฎการมองโลก > มนุษย์ สามสิบคนในร้อยคน ชอบมองโลกในแง่ร้าย ที่เหลือมองร้ายกว่า > > 24. กฏการประกันภัย > เวลาขับรถ มักจะเจออุบัติเหตุรถชน ในวันที่ประกันชั้น 1 หมดอายุได้ 1 วัน > > > > > > > > ^o^ ขอให้มีความสุขกับชีวิตในวันนี้นะค่ะ ^o^ > ข้อคิด"จงมุ่งหมายเป็นผู้ให้ ไม่ใช่ผู้รับ แล้วจะได้รับความอิ่มใจที่แท้ > จริง"
2 มีนาคม 2548 17:49 น. - comment id 83229
อาหมอแนต เคยเล่าให้ฟัง ถึงเจ้าสามขา สุนัขตัวสีขาว มีคนเจอมันถูกรถชนบาดเจ็บสาหัส นอนรอความตายอยู่บนถนน เขาจอดรถลงไปเพื่ออุ้มมันไปรักษา จนถึงทุกวันนี้ เวลาไปเยี่ยมอาหมอที่คลีนิครักษาสัตว์ ก็จะเห็นเจ้าสามขา ยืนอย่างเท่ห์ พร้อมกับขี้ประจบเหลือเกิน .. ไอซ์ ..ถ้าเราเป็นแม่แมวตัวนั้น เราก็คงต้องทำอย่างนั้น นะ ..
2 มีนาคม 2548 17:55 น. - comment id 83230
ความรัก มันช่างยิ่งใหญ่นัก ............
2 มีนาคม 2548 21:21 น. - comment id 83236
ขอบคุณน้ำใจไมตรี เขียนเรือ่งมานะ คุณไอซ์ ความรักเมื่อรักใครแล้วอย่าไปหวังผลตอบ เหมือน หนุ่มดับเพลิงที่ช่วยแมว โดยจิตใจใส สะอาด และพร้อมคาดหวัง อยากให้แมวรอดชวีวิต อยากเป็นแมว 1 แมวกลุ่มนั้นบางจัง เจอคน ใจดี สะอาด ไม่หวังผลตอบแทน แต่สมัยนี้ก็หายากนะ ความรักหลายรูปแบบ
3 มีนาคม 2548 18:44 น. - comment id 83265
แวะมาอ่านอย่างชื่นชมค่ะ