ครูใต้
SoftWriting
วันนี้วันแห่งความรัก วันแห่งความสุข
สำหรับเขาแล้ว คืออีกวันหนึ่งที่ต้องไปสอนหนังสือ
นักเรียนตัวน้อยๆที่ยังคงยิ้มรับเขาด้วยความสนิทสนม
เขาคือครูคนหนึ่งที่เพิ่งได้บรรจุเป็นปีที่สอง
งานการทุกอย่างทำท่าว่าจะดี
เพราะถึงแม้ปีที่ผ่านมาจะเกิดเหตุร้ายต่างๆ รายวัน
แต่ในชุมชนของเขา ไม่เคยมีข่าวอย่างนี้เลย
อาจเป็นเพราะไม่เคยปรากฎคนแปลกหน้าภายในหมู่บ้านเขา
ครูที่นี่ก็เช่นกัน ถ้าไม่นับครูแก่ๆที่เตรียมปลดเกษียณอีกไม่กี่ปีนี้น่ะ
ครูทุกคน คือคนในหมู่บ้านนี้แทบทั้งหมด
เขามุ่งมั่นกับการสอนของเขามาโดยตลอดหนึ่งปีที่ผ่าน
เขาเข้ากับผู้คนได้ดีมาก
ใครๆต่างก็รักเขา และชื่นชมในสิ่งที่เขาทำมาตลอด
ครั้นเมื่อยังเรียนอยู่ที่ วค.ภูเก็ต(ในสมัย ที่ยังเป็นสถาบันราชภัฏฯอยู่)
เขาต้องจากบ้านไกล เพราะสอบที่ไหนๆก็ไม่ติดเลย
ถึงเขาไม่หัวดี เหมือนใครเขา
แต่ความเพียรพยายามของเขา และชื่อเสียงของพ่อเขาเอง
ทำให้ใครๆต่างก็ยินดี และติดตามเรื่องราวเขามาตลอดสี่ปีที่เรียนเลย
ก่อนที่เขาจะเรียนจบ ปัญหาเรื่องเงินทอง เกือบจะทำให้เขาต้องทิ้งการเรียนไป
เป็นปกติอยู่แล้วที่ คนๆหนึ่งต้องเรียนต่างแดน (แถมยังเป็นจ.ภูเก็ตด้วย)
จำเป็นต้องใช้จ่ายสูงกว่าคนอื่น ที่ได้เรียนในมหาลัยเสียอีก
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ
ก็สามปีที่แล้วท่านคงจำได้
ผลไม้แถวสามจังหวัด ขายไม่ได้เลย
ถึงจะขายได้ ก็ได้มาไม่ดีเท่าไหร่
หักลบกับค่าใช้จ่ายที่ผ่านแล้ว ก็มีไม่พอกินอยู่แล้ว
คงไม่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับเขา ถ้าไม่ถูกพ่อค้าคนกลางเบี้ยวอีก....
จริงๆแล้วจะโทษพ่อค้าคนนั้นก็ไม่ได้ซะทีเดียว
ตัวพ่อค้าเองก็ล้มละลาย ติดหนี้เป็นแสนๆ
อืม พ่อของเขาเป็นคนดี เห็นใจผู้คน
เขาไม่ได้ทวงอะไรมากมาย มีเมื่อไหร่ก็จ่าย
ปัญหาคนอื่นเขา เรากลับต้องแบกเสียเอง
พ่อจึงไม่มีเงิน จ่ายค่าเล่าเรียนลูกที่ยังต้องรออีกปี
ถึงจะหารายได้ด้วยตัวเองบ้าง โดยไปเป็นพนักงานประจำห้างฯในเมือง
แต่ก็ช่วยได้ไม่มากนัก
ทางออกสุดท้าย ก็ต้องไปกู้เงินแล้วล่ะ
ก่อนจะรับปริญญาก็เหมือนกัน
เรียนจบพร้อมปริญญาหนึ่งใบ และหนี้สินอีกแสนกว่า
กลับมาเริ่มหางานทำทันที
แต่ช่วงนั้นสมัครเป็นครูที่ไหนก็ยากมาก
ก็เลยตัดใจ เปิดร้านขายผ้า
หางบเปิดร้าน กู้อีกแสน
แต่แล้ว ไปไม่รอด ต้องกลับไปทำสวนกับพ่อที่บ้าน
โชคชะตาของเขาตกต่ำอีกครั้ง
เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิต ด้วยโรคหัวใจ ที่เคยคร่าชีวิตแม่เขาแล้วสมัยเขายังเรียนอยู่ระดับมัธยม
ทิ้งมรดกส่วนหนึ่ง พร้อมหนี้สองแสน
โชคดีหน่อยที่เขาได้ประกอบอาชีพครูหลังจากนั้น
เขาจึงทุ่มเทกับมันมาก เพราะกลัวติดชื่อท้ายๆในโรงเรียน
ตามโครงการ เออลี่ไทร์ อะไรสักอย่างของรัฐบาล
เวลาก็ผ่านไปด้วยดี
จนเขาสามารถหารายได้พิเศษ จากความขยันของเขา
จ่ายหนี้หมดไปกว่าครึ่ง ภายในหนึ่งปี
และนี่คือปีที่สองของชีวิตการเป็นครูของเขา
วันวาเลนไทน์ นักเรียนก็ครึกครื้นกันเป็นพิเศษ
อาจเป็นอีกวันที่การสอนของเขา ไม่หนักเท่าไหร่
ยังพอมีแรงที่จะไปดูแลสอนในตอนเย็น
แต่แล้ววันนี้เองกลับเปลี่ยนตัวเขา
หลังจากไปในสวนได้ไม่นาน เขาก็กลับมาด้วยหน้าตาที่ซีดจัด
ถามไถ่ก็รู้ว่า ในช่วงบ่ายของวันนี้ ตอนเขายังอยู่ในโรงเรียน
มีคนแปลกหน้าสามคนกำลังเดินสำรวจแถวๆสวนของเขา
มีชาวบ้านเข้าไปถาม ก็ได้คำตอบว่า
"จะมายิงกระรอก"
เป็นภาษาท้องถิ่นของคนที่นี่ แต่เพี้ยน!!!
และอีกอย่าง ในช่วงที่ต้นยังไม่ออกดอก ออกผล
ยังไม่ใช่ช่วงที่จะมาล่าสัตว์พวกนี้กัน
ไหนจะเป็นเรื่องเมื่อคืน ที่มีคนถามหาตัวเขา ตอนมืดๆค่ำๆ
ซึ่งจะรู้กันดีว่า ช่วงสถาณการณ์ยังงี้
ไม่มีใครกล้าไปไหน มาไหนเวลานี้หรอก
มันแปลกมาหลายวันแล้ว แต่เขาเพิ่งมาสังเกตได้
ตอนที่คนแปลกๆเข้าไปในสวนเขา
ผมเห็นความกลัวบนใบหน้าเขาได้อย่างชัดเจน
เพื่อนๆครูจากโรงเรียนในหมู่บ้านใกล้เคียงเพิ่งจะโดนยิงไป
ที่นี่สงบมานาน
ใครกันน่ะ ช่างโหดร้ายทำกับคุณครูอย่างนี้
โจรน่ะเหรอ.....
ใช่ ทุกคนคิดว่าเป็นฝีมือโจร
แต่ใครล่ะ คือบุคคลที่อยู่ภายใต้ชื่อนั้น
คนกลุ่มไหนกันที่เกลียดชังชาวบ้าน
ใครคนไหนกัน ที่ฆ่าได้แม้แต่พวกเดียวกัน!!
หากท่านคิดจะส่งทหารสามหมื่นนายลงมาแก้ปัญหา
หากท่านคิดได้แค่จะลงมากินน้ำชา แล้วจากไป
หากท่านคิดว่า ไฟจะดับด้วยไฟ
ท่านผิดแล้ว....
ถ้าท่านเป็นคนที่นี่
ท่านจะเห็นครูดังกล่าว นอนพักในห้องไอซียู
ทุกคนเฝ้าแต่จะเห็นเขารอด และรอคอยสันติภาพ
โดยไม่อยากรู้หรอกว่า
ใครคือโจรที่แท้จริง....