วาเลนไทน์ อีกมุมนึง

แชมป์

ปลาช่อนไหมน้องโลละ 80 เอง ช่อนนาเชียวนา...ฯลฯ คำชักชวนต่าง ๆ นาๆ จากพ่อค้าแม่ขายหลายร้าน ส่งเสียงเซ็งแซ่อย่างอลหม่านและวุ่นวาย หากกลับดูครึกครื้นสนุกสนาน อาจพูดเกินจริงได้ว่านี่คือสีสันยามเช้า ในย่านตลาดสดเมืองนครสวรรค์ ตลาดชุนหงษ์ ตลาดที่คนแถวนี้ทราบกันดีว่า เป็นแหล่งขายของสดที่คนขายส่วนใหญ่มีฐานะการเงินดีกว่าผู้มาจับจ่าย จึงเป็นเหตุให้สินค้าที่นี่ราคาแพงกว่าปกติและผู้ขายไม่ค่อยใส่ใจผู้ซื้อ
แต่ถึงกระนั้นไม่วายที่ผู้คนหลายชนชั้นหลายเชื้อชาติ มาจับจ่ายใช้สอยกันปกติ ใครมีน้อยซื้อน้อย ใครมีมากก็ซื้อมาก เหมือนว่าใคร ๆ ไม่ค่อยหยี่ระกับเรื่องที่คนแถวนี้ทราบ  
ตาสีตาสาซื้อผัก  อาซิ่มอาม่าซื้อปลา อาบังซื้อถั่ว คุณหญิงคุณนายซื้อไม่เลือก รวมไปถึงฉันที่กำลังเดินถือตะกร้าโตงเตงขนาบอยู่ข้างคุณแม่ ในฐานะคุณลูกซึ่งนานครั้งจะมีโอกาสกลับบ้านเหมือนคนอื่นเขา
 เอ้า! หลบหน่อยเพ่ ของมันหนัก ยิ่งรีบ ๆ อยู่... เสียงหนักแน่นแต่ดูกร้าวของเจ้าหนุ่มรถเข็นของ ที่วิ่งฉวัดเฉวียนไปตะโกนไปทั่วตลาด ส่งผลให้เสียงในตลาดโขมงโฉงเฉงมากกว่าเดิม แต่ไม่ค่อยมีใครแลเสียงเหล่านี้มากนัก
  เสียงเซ็งแซ่คงดำเนินต่อเนื่องไปสักระยะ ทว่าน่าแปลกใจที่อยู่ดี ๆ เสียงเอะอะเหล่านี้ก็เริ่มทยอยแผ่วลงเรื่อย ๆ รวมไปถึงอากับกริยาของผู้คนในตลาดที่เนือยลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อมีเสียงของเพลงหนึ่งดังแว่วผ่านขึ้นมา
ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย.... เสียงของเนื้อร้องเพลงชาติ ส่งผ่านพอให้รู้สึกได้ยิน ดูท่าแล้วต้นเสียงคงมาจากลำโพงสภาพคร่ำครึตัวหนึ่ง ที่ติดตั้งอยู่บนเสาคอนกรีตสูงตระหง่านตา จนยากที่จะเห็น หากไม่ลำบากนักถ้าสังเกต
ขณะสายตาที่จดจ้องกับลำโพงตัวนั้น พลันนึกเลยถึงอดีตที่ร้างลาไปนาน เร็วเท่าที่รู้สึก เหมือนภาพแห่งวันวานกำลังเริ่มหวนคืนกลับมา จากปัจจุบันกลับไปหาอดีต จากนายกลับกลายเป็นเด็กชาย จากภาพสีมีชีวิตชีวากลับกลายเป็นภาพขาวดำ แม้ดูไม่สดใสแต่ก็ชัดเจน
...
เสียงระฆังประจำตึกเรียนส่งเสียงกังวานสดใสเป็นระยะในช่วงเช้า ไม่แพ้กับเสียงเจื้อยแจ้วของเหล่านักเรียนตัวน้อย ที่ต่างเล่นกระเซ้าเหย้าแหย่กัน เมื่อได้พบหน้าเพื่อนของตัวเอง หลังจากไม่ได้พบกันเพียงชั่วข้ามคืน หากแต่มีบางคนนั่งร้องไห้เพราะคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ที่เพิ่งจะกลับไป บางคนกำลังนั่งปั่นการบ้านอย่างเร่งรีบ หรือเหล่าเด็กผู้ชายบางคนหัวเราะชอบใจ เมื่อเห็นเด็กผู้หญิงที่ตัวเองแกล้งมีอาการฮึดฮัดไม่พอใจ... 
อาจบอกได้ว่าใครอยากเห็นภาพอาการสดใสและไร้เดียงสาของเด็กเหล่านี้ ส่วนหนึ่งอาจหาดูได้ในช่วงเช้าก่อนเข้าห้องเรียน
 
ทว่าอาการลิงทโมนหรืออาการเศร้าซึมอาจดูบางตาไปทันใด เมื่อเหลือบไปเห็นนาฬิกาตามชั้นเรียนหรือที่พกติดข้อมือกันมา บอกเวลาให้ทราบว่าเข้าใกล้แปดโมงเช้าในอีกไม่ช้า น่าแปลกใจที่ช่วงนั้นฉันดูนาฬิกาไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่พอเดาได้ว่าเมื่อถึงเวลานี้ ทุก ๆ คนในโรงเรียนจะต้องไปร้องเพลงชาติ... 
สมัยนั้นไม่ว่าเด็กเล็กหรือเด็กโต จะต้องมีการจัดแถว (หรือที่กันติดปากว่ารถไฟ) ให้พร้อมเพรียงก่อนจะไปเคารพธงชาติ ส่วนพวกที่ปะแป้งมอมแมมหรือแต่งกายไม่เรียบร้อย (จะใครเสียอีกล่ะ) คุณครูประจำชั้น (เธอชื่อครูเฟื่องฟ้า) ก็จะมาจับแต่งกายผัดแป้งให้เพรียบพร้อมก่อนแปดโมงเช้าเป็นประจำ ประหนึ่งว่าเป็นหน้าที่หลักที่เคียงคู่กับการสอนหนังสือ
จำได้ว่าก่อนจะก่อแถวรถไฟนั้น จะมีเสียงระฆังใบน้อยให้สัญญาณก่อนพิธีเคารพธงชาติ ในความคิดฉันในสมัยนั้น มันฟังดูคล้ายสียงกลองรบในหนังจีน ที่ต้องลั่นก่อนไปออกศึก
แต่ฉันไม่ได้ไปรบ ฉันกำลังจะไปร้องเพลงชาติ...
ไม่เข้าใจว่าทำไมช่วงเวลาร้องเพลงชาติ เหล่าเพื่อน ๆ ทโมนของฉันจึงไม่เกิดอาการคันไม้คันมือแกล้งชาวบ้าน ซึ่งหากเป็นช่วงกล่าวสวดมนต์และช่วงร้องเพลงมาร์ชโรงเรียนแล้ว รับประกันได้เลยว่า แต่ละคนอยู่ไม่เป็นสุขเลยเชียว
ฉันเลยสันนิษฐานเออเองไปว่า ช่วงเวลาร้องเพลงชาติเป็นช่วงเวลาต้องมนต์  
หากเท่าที่ร้องเพลงชาติหน้าเสาธงเป็นมานาน กลับจำไม่ได้ว่าร้องเป็นตั้งแต่เมื่อไร คลับคล้ายคลับคลาว่ามีคุณครูสอน แต่ทำไมจึงจำเนื้อร้องจนขึ้นใจ มันง่ายกว่าท่องแม่ 2 เสียอีกแน่ะ
...
ชั่วเวลาที่ย้อนกลับไปถามหาอดีตดูไม่นานนัก เหมือนเวลากำลังเดินช้าลงพอให้คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ทว่าสายตายังคงจดจ่ออยู่ที่เดิม
ฉันรู้สึกว่าช่วงที่เติบโตมาเรียนในระดับอุดมศึกษา ฉันไม่ค่อยได้ร้องเพลงชาติเท่าไรนัก อาจเพราะที่มหาวิทยาลัยไม่มีการเปิดเพลงชาติตอนแปดโมงเช้าและหกโมงเย็น หรือไม่ฉันก็ตื่นสาย หรือไม่ฉันลืมใส่ใจกับภารกิจสำคัญที่เคยปฎิบัติในวัยเยาว์ ภารกิจที่ทำให้ฉันเคยนึกเพี้ยนเนียนว่ากำลังออกศึก... 
แต่ที่รู้ฉันไม่ได้ร้องเพลงชาติมานานหลายปีแล้ว
ฉันรู้สึกภูมิใจที่ได้ร้องเพลงที่มีเกียรติ มันเป็นเพลงที่เล่าขานอดีตกาลและความเป็นไทอย่างดี และที่สำคัญมันทำให้ฉันรักชาติ มันเป็นจิตสำนึกที่แม้ไม่เคยปริออกจากริมฝีปาก แต่หัวใจฉันมันบอกเช่นนั้น
หากวันหนึ่งมีใครกล้าจัดโครงการประกวดร้องเพลงชาติไทย จะมีเยาวชนชายหญิงบุคลิกดีหน้าตาดีมากล้าสมัครแข่งขันไหมไหม แม้ว่าการประกวดอาจไม่ส่งผลให้เขาหรือเธอเป็นดาวประดับวงการ เพราะรางวัลที่ได้อาจเป็นเพียง ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ประกวดร้องเพลงชาติไทย
...   
 เสียงและภาพของผู้คนในตลาดก่อนหน้านี้ดูจอแจ ทว่าเวลานี้ทุกคนกลับแน่นิ่งอย่างเห็นได้ชัด หรือว่าทุกคนกำลังอยู่ในช่วงเวลาต้องมนต์
วันนี้คงเป็นวันพิเศษสำหรับฉัน ที่ได้ยินเสียงเพลงชาติไทยอีกครั้งจากลำโพงตัวเก่า หากต่างตรงที่นี้ ไม่มีเสียงระฆังบอกสัญญาณ ไม่มีครูเฟื่องฟ้าคนเดิมมาคอยดูแลปะแป้งแต่งกายให้ หรือไม่มีแม้กระทั่งเพื่อนตัวเล็ก ๆ มาคอยเหย้าแหย่
แต่สิ่งน่าประทับใจมากกว่านั้น เมื่อเพลงชาติดังขึ้น ตาสีตาสาที่กำลังซื้อผัก อาซิ่มอาม่าที่กำลังต่อราคาปลาช่อนนา เหล่าคุณหญิงคุณนายที่ยืนจับกลุ่มคุยกัน หรือแม้แต่เจ้าหนุ่มรถเข็นของที่ไม่ยอมพักเสียที ทุกคนกลับยืนตรงสงบนิ่งไร้การเคลื่อนไหว พร้อมเสียงแผ่ว ๆ พลางได้ยินว่า
เป็นประชารัฐ ไผทของไทยทุกส่วน.... ต้นเสียงนั้นไม่ใช่แค่จากลำโพงสภาพคร่ำครึ แต่มันมาจากน้ำเสียงของทุกคนในบริเวณนั้น รวมทั้งคนที่อยู่ข้าง ๆ ฉัน
 
และที่แน่ ๆ ฉันไม่อายเลยที่จะร้องเพลงนี้ให้เต็มเสียง 
                                                                        วรุฒม์ ซิ้มเจริญ
                                                                           14 กุมภาพันธ์ 2547				
comments powered by Disqus
  • ผู้มาเยี่ยม

    11 กุมภาพันธ์ 2548 15:27 น. - comment id 82722

    งงอ่ะ เกี่ยวกะวาเลนไทน์ตรงไหนอ่ะ
  • 4895 - tiki unlogged in

    11 กุมภาพันธ์ 2548 19:11 น. - comment id 82736

    สนุกดีเรื่องตลาดซุนหงส์นี้ 
    แวะอ่านจ้ะ
  • Strawberry

    7 เมษายน 2548 19:54 น. - comment id 84014

    ความจริงแล้วเป็นเรื่องสั้นที่ดีเหมือนกัน คืออ่านแล้วได้คติ และก็แปลกดี แต่งงอยู่อย่างเดียวว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับวันวาเลนไทน์

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน