วังวนแห่งสายฝน
ระเบียงดาว
ท่ามกลางความร้อนและแห้งแล้ง น้ำเพียงหยดก็มีความสำคัญ สายฝนที่โปรยปรายลงมาย่อมมีคุณค่า ชุ่มฉ่ำ ฟื้นชีวิตที่แห้งเหือดให้กลับสดใส เธอเคยคิดจะเดินออกไปบ้างไหม? ออกจากร่มที่บดบังความชุ่มฉ่ำ สู่สายฝนแห่งความสดชื่น ซึมซาบความสุขของหยดฝนที่ร่วงหล่นจากฟากฟ้า ฉันเคยหลงใหลวิ่งวนกลางสายฝน ฉันยื่นมือไปรับน้ำฝนหวังอยากเก็บความสุขสดชื่นไว้ตลอดไป แต่ยิ่งพยายามเก็บเท่าไหร่ หยดฝนก็ยิ่งไหลรั่วออกไปเท่านั้น และโดยที่ไม่รู้ตัวความฉ่ำเย็นของสายฝนกลับกลายเป็นความเหน็บหนาวที่วิ่งซึมลึก...ลึกลง...ลึกจนถึงหัวใจ ความสุขที่ได้รับเหลือเพียงความเยือกเย็นที่ทิ่มแทงให้ต้องปวดร้าว จนต้องวิ่งหลบเข้าร่มคันน้อยเพื่อรักษาความเจ็บนั้น แต่อีกนั่นแหละความสุขจากสายฝนยังคงไม่จางหาย ความสดชื่นจากหยดน้ำที่ตกจากฟ้ายังคงเรียกให้ฉันเดินไปกลางสายฝน ทั้งที่รู้ว่าต้องเหน็บหนาวปวดร้าว แต่ก็ไม่อาจตัดใจเดินออกมาจากเวียนวนแห่งสายฝน คงไม่ต่างกันที่ฉันไม่อาจจะตัดใจจากความสุขเล็กๆน้อยๆของความรักที่เคยให้ความชุ่มชื่นหัวใจ แม้รู้ว่าตัวฉันไม่อาจจะเก็บมันไว้เป็นของฉันตลอดไป ถึงต้องแลกกับความเจ็บช้ำเหน็บหนาวใจ แต่ฉันก็ยังคงวิ่งตรงเข้าไปหาเขาคนนั้นอย่างไม่สนใจสิ่งใด อาจจะเจ็บกลับมาสักกี่ครั้ง ร้องไห้กลับมาสักกี่หน ความหวังก็ไม่เคยจะลดน้อยลง ไม่ว่าใครจะมองฉันว่าเป็นคนไม่รู้จักหลาบจำ ได้แต่เดินไปให้เขาทิ่มแทงด้วยความเย็นชา แต่ฉันก็ยังจะเดินต่อไปโดยหวังเพียงความสุขที่เธอจะหันกลับมามองแม้จะไม่นาน ฉันเต็มใจจะเดินอยู่ในวังวนของสายฝนโดยไม่สนต่อความหนาวเย็น เพราะฉันรู้ว่าสิ่งใดที่ทำให้ฉันมีความสุข และพร้อมจะเดินไปไขว่คว้าด้วยตัวของฉันเองบนเส้นทางแห่งสายฝนของเขาคนนั้น
เวลาแห่งความสุข อาจสั้นกว่าเวลาแห่งความเจ็บปวด แต่เวลาของความรักไม่มีวันเวลาสิ้นสุดไปจากใจ