ฉันเหลือบมองนาฬิกา จะตีสองแล้ว ความง่วงงุนคืบคลานเข้ามา
หากแต่ใจฉันไม่ยอมหลับ ร่างกายเพลีย แต่สมองยังสั่งการยึดเยื้อ
กลับเรื่องที่ผ่านเข้ามาในวันนี้
ความเครียดเกาะกุมฉันตั้งแต่ช่วงบ่าย ฉันรู้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โต
อะไรนักหนา แต่ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ มันทำให้ฉันฟุ้งซ่าน
ฉันมองเห็นมิตรภาพอาบยาพิษ ของคนบางคน ที่เพียงมองฉันแค่
เพียงสะพานให้เขาได้ไต่เต้าได้ดังปรารถนา
ใช่สิฉันต้องยอมรับมัน ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดทั้งมวล
ฉันต้องเรียนรู้ที่จะต้องเป็นผู้แย่งชิงแล้ว มิใช่เป็นแต่เพียงผู้ให้
แต่เพียงฝ่ายเดียว คำปรามาสที่เขาว่านั้น คงมีแต่เพียงฉันเท่านั้นที่เข้าใจ
เขาใช้เวลาเพียงแค่สองสามเดือนเท่านั้นที่ตัดสินฉัน แต่คุณความดีที่สั่งสม
มานั้นเขาไม่เคยเห็น ไม่เคยได้รับรู้ จะโทษเขาสักทีเดียวก็ไม่ได้ เพราะเขา
ไม่รู้จักเราจริง ๆ แต่มิตรภาพที่ฉันเคยให้กับใครบางคนช่างบางนัก แม้รู้อยู่
แก่ใจแต่เพื่อผลประโยชน์กับตนนั้น ทำให้มองไม่เห็นว่า มีฉันอยู่ตรงนี้ด้วย
การเป็นเพื่อนกันมาอย่างยาวนานนั้น มันขาดสะบั้นลงนะวันนี้ ความรู้สึกดี ๆ
ที่เคยมีให้นั้นมันหมดลงแล้ว หมดลงพร้อมกับน้ำตาของฉัน
ฉันไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ เงินเพียงแค่เศษเสี้ยวนั้นฉันหาได้มากกว่านั้นด้วยซ้ำ
แต่ที่ฉันเสียดาย คือ ความจริงใจที่ฉันให้ไป มันจ่ายแสนแพง ด้วยคำว่า
ผลประโยชน์
หรือลองนึกย้อนอีกทีนึง ฉันคงเป็นแบบเค้าว่า ไม่มีผลงาน อะไรออกมาเป็นที่ประจักษ์
ไอ้งานที่เขาโยน ๆ มากองไว้ให้ฉันสาง ฉันแก้นั้น มันก็เพียงแค่เศษงานที่เขา
จะเอาไปสานต่อ เติมสี ตีไข่ดี ๆ ก็งามแล้ว
ฉันกำลังบอกตัวเองว่า หัวเราะสิ หัวเราะกับความโง่เง่าเต่าตุ่นของฉัน บทเรียนครั้งนี้
แพงนัก ฉันแลกมันด้วยหัวใจ ซื้อมันมาด้วยความจริงใจ และฉันจะขายมันไปในสักวัน
วันนี้อาจจะไม่ใช่วันของฉัน แต่วันต่อ ๆ ไปเล่า จะไม่มีสักวันหรือ สักวันฉันจะยืนอย่าง
ผงาด ฉันไม่เสียใจกับสิ่งที่ไม่ใช่ในวันนี้ แต่ฉันเสียใจในความอ่อนแอของตัวเอง
เสียใจกับภาพลวงตาที่ฉันหลง คำว่าคนย่อมเห็นแก่ตัวในที่สุด ฉันน่าจะประจักษ์ในข้อนี้ดี
ถ้าคิดอีกทีแล้ว นี่คงเป็นโอกาสให้ฉันหลุดพ้น ให้ฉันได้ทำในสิ่งที่ตนเองรักเสียที
บางทีองค์กรนี้ คน ๆ นี้ คงต้องการสอนอะไรเรา แต่การตบหน้ากันแบบนี้
ขอให้คุณรู้ไว้เถอะว่า ครูดี ๆ คนหนึ่งกำลังจะกลายพันธุ์