รักแรกพบ
โอ๋ ศิษย์นันท์คนเขียนโคลงกลอน
ชายหนุ่มวัย 18 ปีคนหนึ่งกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็ง...มะเร็งระยะสุดท้ายที่ไม่สามารถเยียวยารักษาให้หายได้อีกแล้ว และก็พร้อมจะจากไปในทุกขณะ เขาใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมาตลอดมีคุณแม่เป็นผู้ดูแล แล้ววันหนึ่งเขาก็เกิด เบื่อหน่ายชีวิตประจำวันอันจำเจซ้ำซาก อยากจะออกไปนอกบ้านสักครั้ง เมื่อรับรู้ความในใจของบุตรชายเช่นนั้นแล้ว ไหนเลยผู้เป็นมารดาจะไม่โอนอ่อนผ่อนตาม เขาจึงมีโอกาสออกไปเดินเล่นละแวกบ้าน ผ่านร้านค้า มากมาย ...
จวบจนพบร้านขายซีดีแห่งหนึ่ง เขาก็ต้องหยุดชะงัก จ้องมองเข้าไปในร้านแห่งนั้น..ที่นั่นเขาได้เห็นเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันคนหนึ่ง และในทันใดชายหนุ่มก็แจ่มชัดอย่างยิ่งว่าเธอคือรักแรกพบของเขาที่อุบัติขึ้น ณ บัดนั้น เขาเดินเข้าไปข้างในร้าน ขณะสายตาจับจ้องอยู่แต่เธอกระทั่งมาหยุดยืนตรงหน้าเธอโดยไม่รู้ตัว " จะให้ฉันช่วยอะไรได้บ้างคะ " เธอเอ่ยถามพร้อมกับส่งยิ้ม ช่างเป็นรอยยิ้มที่หวานที่สุดเท่าที่เขาเคยสัมผัส มันทำให้เขาอยากประทับริมฝีปากเธอในทันที เขาตอบตะกุกตะกักออกไปว่า " เอ้อ ผมอยากได้ซีดีสักแผ่นครับ " จากนั้นก็ทำทีหันไปเลือกซีดีได้แผ่นหนึ่ง ก่อนจะกลับมาอยู่เบื้องหน้าเธออีกครั้งเพื่อชำระเงิน " คุณอยากให้ฉันห่อกระดาษด้วยมั้ยคะ " เธอถามพร้อม ส่งยิ้มหวานมาให้ด้วยอีกหน เขาพยักหน้าเธอจึงหันหลังไปจัดการให้จนเสร็ จ เรียบร้อยแล้วยื่นให้ชายหนุ่ม กลับมาถึงบ้านเขาจัดการเก็บแผ่นซีดีไว้ในตู้ เพราะไม่ได้สนใจบทเพลงในแผ่นซีดีแม้แต่น้อย สิ่งที่เขาสนใจก็คือคนขายนั่นต่างหาก
หลังจากวันนั้นแล้ว ชายหนุ่มก็แวะเวียนไปที่นั่นเป็นประจำทุกวัน ซื้อซีดีมาวันละแผ่นเสมอ พร้อมกับอนุญาตให้หญิงสาวห่อกระดาษทุกครั้ง รวมทั้งเมื่อกลับมาบ้านก็เก็บมันไว้ในตู้เหมือนที่เคยปฏิบัติมา เขารู้สึกขวยเขินที่จะชวนเธอออกไปเที่ยวด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่เบื้องลึกนั้นปรารถนาเหลือเกิน แต่ก็ ...ไม่กล้าพอ เมื่อคนเป็นแม่รับรู้ในเวลาต่อมา ท่านก็คะยั้นคะยอให้ลูกชายทำตามใจปรารถนาของตน
รุ่งขึ้นเขาจึงรวบรวมความกล้าทั้งหมดไปยังร้านนั้นอีกครั้ง ซื้อซีดีหนึ่งแผ่นเหมือนวันก่อน ๆ และระหว่างที่เธอหันหลังให้นั้น เขาก็ตัดสิน ใจทิ้งเบอร์โทรศัพท์ของตนไว้บนโต๊ะก่อนวิ่งออกจากร้านไป สองสามวันต่อมาคุณแม่ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ จึงรับสายและพูดว่า " สวัสดีค่ะ " หญิงสาวในร้านขายซีดีนั่นเองที่เป็นผู้โทรมา เมื่อสาวน้อยถามหาคน เป็นลูกชาย ผู้เป็นแม่ก็เริ่มร่ำไห้ แล้วบอกว่า " หนูคงไม่รู้หรอกว่า ... เขาเพิ่งจากไปเมื่อวานนี้เอง " ถัดจากนั้นเสียงจากคนถามก็คล้ายจะถูกปลิด คงเหลือแต่เพียงเสียงสะอื้นเบา ๆ ของผู้เป็นแม่ ในวันนั้นเอง ผู้เป็นแม่ ก็เข้าไปในห้องของลูกชายเพื่อหวนระลึกถึงเขาอีกครั้ง ... เริ่มด้วยการสัมผัสเสื้อผ้าที่เขาเคยสวมใส่ และทันทีที่เปิดประตูตู้ ก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบซีดีที่ยังห่อกระดาษไว้ กองอยู่เต็มไปหมด คุณแม่เลือก หยิบมาแผ่นหนึ่ง นั่งลงบนเตียงและเริ่มแกะออกดู ทันใดนั้นก็มีกระดาษเล็ก ๆ แผ่นหนึ่งหล่นลงมา คุณแม่หยิบมันขึ้นมาอ่าน " สวัสดีค่ะ คุณดูน่ารักจังเลย คิดอยากออกไปเที่ยวกับฉันบ้างรึเปล่า " กระทั่งเธอแกะซีดีแผ่นถัด ๆ มา ก็ยังพบกระดาษแผ่นเล็ก ๆ มีข้อความเช่นเดิม ...ฟังดูเศร้านะค่ะ บางทีเราไม่รู้หรอกว่าคนที่เราแอบชอบอยู่นั้นจริง ๆ แล้ว เค้าคิดยังไงกับเรา บางครั้งการกล้าที่จะเปิดเผยความในใจก้อเป็นทางเลือกหนึ่งที่คุ้มค่าที่จะทำ แอบชอบแล้วมีความสุข แอบชอบต่อไปเถอะค่ะ แต่ถ้าแอบชอบแล้วมีความทุกข์ เปิดเผยไปเลยดีกว่า อย่างมากถ้าไม่ได้รักตอบ เราจะได้ตัดใจ และให้เวลากับรักครั้งใหม่ไงค่ะ.