หิ่งห้อยน้อยใจ
บทที่ 10 คำสาปหายนะ
เมื่อแสงจ้าหายไป ทุกคนตกใจ เพราะปู่ศลหายไปแล้ว
หันไปมองรอบๆ จึงทำให้รู้ว่าปู่ศลไมได้หายไป แต่เป็นพวกเขาที่มาโผล่ที่ใหม่ ใกล้ๆ มีต้นไม้ต้นหนึ่งยืนเด่นอยู่
ต้นไม้ต้นนั้น ไม่มีกิ่ง ก้าน ใบ ดอก ผล ใดๆ ทั้งสิ้น มีแต่ลำต้น - -"
"อ้าววว แล้วไหนล่ะพุทรา"
หมูเตยร้องลั่นผิดหวัง หนูลิยิ้มกว้าง
"ก็นี่แหละ พุทรา ทั้งแท่งนี่เลย เอาล่ะ ถ้าเราเอากลับไปหาท่านปู่พีทจังได้ ทุกอย่างก็เรียบร้อยซะที แล้วอีจูน้อยก็ฟื้นแล้วด้วย
ท่านปู่จะได้ปลดรัดเกล้ามณีนาคาให้นายพี่หมี(อะ)โกโก้นะ กุญแจข้ามภพจงพาพวกเราทั้งหมดพร้อมกับต้นพุทราวิเศษนี้กลับไปหาปู่พีทจังที่ปราสาทเดี๋ยวนี้"
หนูลิไม่รอช้าที่จะนำพาความสำเร็จกลับไปหาปู่เฒ่าจอมคาถา วาบบบบ! ทันทีที่แสงสว่างจากกุญแจข้ามภพเลือนหายไปทุกคนพบว่าตนเองยังคงยืนอยู่ที่เดิมแบบนิ่งสนิท
เว้นแต่มีพีทจังเฒ่ามาปรากฏยืนอยู่เบื้องหน้าเพียงเท่านั้น
"เวง ลืมเขย่ากุญแจ"
หนูลิบ่นงึมงำ
"พวกท่านทำได้ดีมาก"
ปู่เคราขาวยาวเหยียดประกาศก้อง
"รวมทั้งหนูลิหลานปู่ด้วย แต่ที่จริงข้าแค่ขอให้พวกท่านนำกุญแจกลับมาให้ข้าเท่านั้น เพราะข้าจะเป็นผู้ **ปลิด** พุทราวิเศษด้วยตัวเอง
แต่ไหนๆ พวกท่านก็อยู่ด้วยกันหมดแล้ว ข้าก็จะ **ปลิด** ให้ดูละกัน"
ว่าแล้วก็ยกไม้เท้าในมือขึ้น ฉับพลัน ก็มีลมหมุนอ่อนโยนพัดล้อมเหล่าผู้กล้าที่เริ่มโทรม แล้วต้นพุทราที่เหมือนเสามากกว่าต้นไม้
ก็เริ่มแตกกิ่งก้าน ผลิดอก ออกใบ เขียวครึ้มเต็มไปหมด เพียงครู่เดียว ตรงปลายยอดก็มีผลพุทราขนาดเท่าแตงโมปูดออกมา
"โห พุทราวิเศษเป็นแบบนี้นี่เอง กินอิ่มเป็นชาติแน่อย่างนี้ โอ้วววว"
เสียงน้องหมูอุทานก่อนเพื่อน คนที่เหลือยังคงยืนตะลึงค้างกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า
"คุณปู่พีทจัง เจอพุทราแล้ว ทีนี้ก็เอารัดเกล้าออกจากหัวให้โก้ด้วย"
พี่หมีรีบทวงคำมั่น
"แน่นอน ข้ารักษาสัญญาแน่"
ปู่พุทซิง เอ๊ย พีทซุงโบกไม้เท้า แล้วพุทราผลเท่าแตงโมนั้นก็ลอยละล่องลงมาสู่อ้อมแขน ดูไปคล้ายนักบาสอุ้มลูก (บาส)
"แต่เรากลับไปกันก่อนดีกว่า เอ้าหนูลิ พาพวกเรากลับไปที่ปราสาทสิหลาน"
หนูลิเขย่าๆ กุญแจข้ามภพแบบสุดแรงเกิดอยู่สามรอบ ก่อนออกคำสั่งกับสิ่งที่ถืออยู่ในมือ
"กุญแจข้ามภพจงพาพวกเราทั้งหมดรวมทั้งผลพุทราในมือปู่พีทกลับไปยังปราสาทเดี๋ยวนี้"
พลันแสงสว่างจ้างที่เปล่งจากกุญแจก็วาบขึ้น ครู่หนึ่งจึงจางลงพร้อมกับที่คนทั้งหมดปรากฏตัวขึ้นในปราสาทพร้อมผลพุทราวิเศษ
"เอาล่ะเจ้าลิไปเตรียมหม้อสองใบสำหรับทำน้ำพุทราหนึ่งใบ และสำหรับกวนเนื้อพุทราอีกหนึ่งใบ เตรียมแก้คำสาป"
ปู่พีทสั่งการ
"หนูหิ่ง ขอบใจเจ้ามากเลยนะ ที่ช่วยนำทางมาแต่ต้น แล้วยังโดนดึงเข้าร่วมผจญภัยจนถึงตอนนี้ ส่วนท่านครุฑลูกครึ่ง
ท่านกระต่ายหมูเตย และท่านหมี(อะ)โกโก้ จงไปอาบน้ำอาบท่าพักผ่อนซะก่อน แล้วจงไปที่ห้องอาหารภายในหนึ่งชั่วโมงนี้ อย่าไปสายเด็ดขาด"
พอทุกคนแยกย้ายกันไป (แบบโทรมๆ) ท่านปู่ก็พูดกับพุทราวิเศษ
"ข้าไม่ให้ใครกินเจ้าหรอก พุทโธ่พุทถัง พุดซ้อนพุทราเอ๋ย โอมมมม..."
ชูแขนขึ้นสูง แล้วเคาะป๊อกลงไป
ทันใดนั้น ผลพุทราลูกเท่าแตงโตก็แตกโพละ เปลือกและเนื้อกระเด็นไปรอบห้องครัว ตรงกลางซากมีร่างของทอมบอยหน้ากลมผมสั้นยืนเด๋อด๋าอยู่
สิ่งมีชีวิตชนิดนั้นขยับตัวยุกยิกนิดหน่อย ก่อนจะยกมือขยี้ตา...แล้วบ่นว่า
"ง่วงนอนจัง ยังนอนไม่พอเลยอ่ะ"
ปู่พีทส่ายหน้า
"ตื่นขึ้นมาก็ง่วงเลยนะไอ้หนู เดี๋ยวก่อน ช่วยกันทำงานก่อน"
"คร่อกกกก..."
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนโกหก ทุกคนอาบน้ำอาบท่าเสร็จก็ไปรวมตัวกันที่ห้องอาหาร หนูลิหอบหม้อมาด้วยสองใบ
ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์กระดิกนิ้วเรียกพี่หมีมาใกล้ๆ พอพี่หมีก้าวมาถึงปุ๊บ ตาเฒ่าหัวงูก็ก้มลงจูจุ๊บหน้าผากพี่หมีหนึ่งที
พี่หมีเป็นลมล้มตึง ส่วนรัดเกล้ามณีนาคาก็ปลิวคว้างหลุดออกมา เปล่งแสงสีรุ้งระยิบระยับจนทุกคนมองอะไรไม่เห็น พอแสงจ้าจางลง เด็กๆ ก็อ้าปากค้างกันเป็นแถว
เมื่อรัดเกล้าที่ทุกคนเห็นกลายกลับมาเป็นร่างอ้อนแอ้นอรชรของหญิงสาวผมยาว ยืนอยู่เบื้องหน้า
"โอ้แม่จ๋า"
ครุฑอีจูหายตะลึงก็โผเข้ากอดมารดาที่เพิ่งพ้นจากคำสาป
"เอาล่ะ ทุกคนนั่งล้อมโต๊ะได้ ใครช่วยปลุกท่านหมีอะโกโก้ กับพุทราพุดซ้อนพุทโธ่พุทถังให้ด้วย"
สายตาหลายคู่มองไปยังร่างที่ฟุบหงุบโงกอยู่ตรงโต๊ะอย่างงุนงง เสียงฮือฮาฟังดูคล้ายๆ
"ใครวะ น้ำลายยืดเชียว"
ปู่พีทเดินไปนั่งหัวโต๊ะ สะบัดข้อมือสองที แล้วหม้อสองใบก็ลอยมาวางบนโต๊ะ คนอื่นที่เหลือก็พากันขยับเข้าประจำที่ ปู่พีทกวาดตาดูรอบๆ จากทางซ้ายมือ
1. หนูลิหลานรัก
2. หมูเตยกระต่ายยักษ์
3. หมีพี่โก้
4. นาคสาวมณีนาคา อยู่หัวโต๊ะฝั่งตรงข้าม
5. อีจู ครุฑลูกครึ่ง ตรงข้ามหมีพี่โก้
6. หิ่งน้อย เกาะอยู่บนโต๊ะ ไม่ได้นั่งเก้าอี
7. พุทรา ฯลฯ อยู่ทางขวาของตัวเอง
"พวกท่านคงจะได้ยินจากกระจกวารีแล้วว่า ขณะนี้โลกเราต้องคำสาป ทางเดียวที่จะแก้คำสาปนี้ได้ ก็คือใช้กุญแจข้ามภพ"
ทุกคนส่งเสียงจ๊อกแจ๊ก ฮือฮา เพราะต่างก็ลืมเรื่องคำสาปไปหมดแล้ว -_-"
"คำสาปอะไรเหรอท่านปู่"
หนูลิถามเป็นคนแรก เพราะอยากจะปฏิบัติภารกิจให้เสร็จซักกะที ปู่พีทอึกอัก ก้มหน้า ก่อนจะตอบเสียงตะกุกตะกัก
"เอ่อ... คำสาปของปู่เองแหละ เจ้าลิเอ๋ย ตอนนั้นปู่กำลังเมา เดินชนซากที่ตายแล้วของต้นพุทราวิเศษดึกดำบรรพ์ในภพแห่งฝัน
แล้วเลยด่ามันว่า นี่ถ้าอีกร้อยปีเจ้ายังยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ล่ะก็ โลกคงแตกแน่ๆ ไม่รู้ตัวเลยว่ามันจะกลายเป็นคำสาปไปได้ และร้อยปีที่ว่าก็จะครบคืนนี้แล้ว"
ทุกชีวิตมองหน้าท่านปู่พีทซังกันตาโต
"เพราะเมาเนี่ยนะ ทำเอาพวกเราเกือบเอาชีวิตไม่รอด รอดมาได้ก็บักโกรกเลย ดูดิ๊เนี่ย หมูนำหนักลดไปตั้ง 2 ขีด หมูไม่ยอม ไม่ยอม ไม่ยอม จริงๆด้วย"
หมูเตยโวยวาย ในขณะที่คนอื่น... เซ็ง
"ใจเย็นๆ ก่อน หมูเตย"
นาคสาวมณีนาคาพยายามปลอบหมูเตยให้สงบ ก่อนจะหันไปถามปู่พีท
"แล้วเราจะทำยังไง เพื่อแก้คำสาปนี้ล่ะคะ"
"ข้าได้ช่วยเจ้าพุดซ้อนพุทรา พุทโธ่พุทถัง ออกมาจากซากต้นพุทราวิเศษแล้ว เพราะฉะนั้นเราก็สามารถทำลายซากดึกดำบรรพ์นั้นได้ แต่พวกท่านทุกคนจะต้องช่วยข้าด้วย"
ตาเฒ่าขี้เมาโยนกุญแจข้ามภพใส่ลงไปในหม้อที่ว่างเปล่ากลางโต๊ะดังแคร้ง แล้วโบกมือขึ้นเหนือหัว
ก็มีดินก้อนโตโผล่มาจากกลางอากาศ ร่วงลงไปในหม้อข้างๆ ที่มีน้ำอยู่ครึ่งนึง
"ดินกับน้ำ ต่อไปก็คือลมกับไฟ"
พูดจบก็ชูไม้เท้าไปข้างหน้า ตรงปากหม้อก็มีเปลวไฟลุกท่วมขึ้น ใต้ไฟนั้นมีระยะห่างระหว่างปากหม้อกับผิวน้ำ ซึ่งมีอากาศอยู่
"ขอให้พวกท่านทุกคนหลับตา สำรวมจิตให้เป็นสมาธิ เพื่อที่ข้าจะได้หยิบยืมพลังส่งข้ามภพไปทำลายซากโบราณนั่นได้"
"แล้วก็ เอ็ง ไอ้พุทรา ข้าให้หลับตาตั้งสมาธิ ห้ามหลับนะเอ็ง"
ปู่พีทซังหันมากำชับ ไอ้ตัวดีที่เอาแต่จะหลับ
"แฮะ แฮะ จะพยายามเต็มที่ ที่จะไม่หลับคับปู่"
พุทรารับคำ คนทั้งแปดหลับตานิ่ง แม้แต่หมูเตยก็ยังไม่กล้าปริปากบ่นหิว ปู่พึมพำบริกรรมคาถา แล้วทันใดนั้น
หม้อที่มีกุญแจข้ามภพอันเท่าฝ่ามือก็มีแสงพวยพุ่งออกมา ดูดเอาหม้อที่ใส่ดินน้ำลมไฟให้ตีลังกาคว่ำลงไปประกบโดยไม่มีอะไรหกแม้แต่น้อย
แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีเสียงอะไรอีก ทุกคนยังคงหลับตานิ่งเป็นสมาธิเพื่อรวมจิตให้เป็นหนึ่ง
จนปรากฏแสงสว่างดวงเล็กๆ ขึ้นที่กึ่งกลางหน้าผากของแต่ละคนเป็นรูปอักขระที่ต่างกันออกไป จากตัวอักษรตัวเล็กๆ ค่อยขยายใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น
จนเต็มพี้นที่ว่างบนหน้าผากก่อนจะค่อยๆ ลอยออกมาอยู่กลางอากาศ อย่างช้าๆ
เริ่มจากของตาเฒ่าจอมคาถา นาคสาว ครุฑน้อย หนูลิ หิ่งน้อย พุทรา พี่หมี และน้องหมูเตย ตามลำดับ แต่ดูเหมือนว่าของเจ้ากระต่ายน้องหมูจะอืดกว่าเพื่อน
ตัวอักษรเปล่งแสงสีทองของแต่ละคนค่อยเคลื่อนมาอยู่เหนือหม้อประกบคู่นั้นจนครบ ต่างเรียงล้อมติดกันเป็นแปดเหลี่ยมแปดทิศ
ค่อยหมุนวนทักษิณาอย่างเชื่องช้า จนค่อยเร็วขึ้น เร็วขึ้น เร็วขึ้นอีก เร็วขึ้นอีกนิด และเร็วขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนจะรวมกัน แล้วปลดปล่อยพลังเจิดจ้า ครอบคลุมทุกคนที่นั่งล้อมหม้ออยู่
สัมผัสจากลมเย็นสดชื่นพัดแผ่วๆ ผ่านผิว ทำให้ทุกคนลืมตาขึ้น หลังจากหลับตากันอยู่นาน
ตรงกลาง... บนโต๊ะ... ภาพของอีกภพ ภพแห่งฝัน ปรากฏขึ้นเป็นเงาเลือนลาง เหมือนกับโฮโลแกรมสามมิติพิมพ์สี่สีสวยงาม (หยึ้ย)
และในภาพนั้น ต้นพุทราวิเศษที่มีทั้งกิ่ง ก้าน ใบ ดอก ที่ปู่พีทเสกเอาไว้ก่อนที่จะช่วยพุดซ้อนออกมา ตอนนี้ค่อยๆ เลือนสลาย
กลายเป็นฝุ่นละอองสุกปลั่งเหมือนผงทองคำ และถูกสายลมอ่อนบางพัดวนเป็นวง จนปลิวหายไปหมดในที่สุด