{หนังสือ ๒ เล่ม} ใน {สมอง 2 ซีก} โดย กิตติคุณ ธรรมศิริ ร้านปั๊มหนังสือ 285/3 ม.1 อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี 61140 ความจริงผมคุ้นเคยกับคุณปราย ผ่านตัวหนังสือ มานานแล้ว ...., จวบจนผมไปเยี่ยมชมร้านหนังสือที่สุขุมวิทของคุณปราย จึงได้ฝากงานบางชิ้นให้ช่วยเผยแพร่ ซึ่งชิ้นหนึ่งคือการ์ตูนแผ่นเดียวจบในตอน เรื่อง แก้ววิเศษ & แก้วธรรมดา อันมีตัวการ์ตูนหัวกลมใส่แว่น ผมชี้โด่ชี้เด่คล้ายคุณปู่ไอน์สไตน์ชื่อว่า หมู ปั๊มหนังสือ สิ่งนั้นก็คือบางส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างกันที่ผ่านสื่อกลางอย่างงานเขียน/ตัวหนังสือ แต่คงไม่ใช่อาศัยความคุ้นเคยพอควรมาชี้วัดว่า หนังสือที่ผมรักมีกี่เล่ม อะไรบ้าง เพื่อแลกของกำนัล (ความจริงคือสินน้ำใจ) แต่น่าจะเป็นความปรารถนาส่วนตัวของผมที่แรงกล้ามากกว่า อาจจะรีรออยู่สักนิด แต่เมื่อมาถึงคราวนี้แล้ว คงต้องลงมือเสียที อันว่าหนังสือที่ผ่านตามาก็มากมี แต่ถ้าจะให้คัดออกมาแบบคั้นหัวกะทิ ย่อมได้จัดให้ครับ หนังสือเงาสีขาวกับสมองซีก ๑ เริ่มจากหนังสือด้านอารมณ์ สมองซีกนี้ผมยอมรับเงานั้นสีขาว ของคุณแดนอรัญ แสงทอง เข้ามาใน ห้วงหนึ่งแห่งจักรวาลการอ่านของผม ขณะนั้นผมเองก็ถือเป็นคนบ้าหนังสือคนหนึ่งที่มักเลือกเอาการอ่านเป็นกิจกรรมสำคัญ แต่ละวันผมจะต้องหาอะไรมาอ่านเพื่อก่อยอดความคิดจากหนังสือ(สารสกัดความคิด) จนป่านนี้ความเป็นเงาสีขาวยังโลดแล่นอยู่ในชีวิตผม ราวกับเป็นมโหรีโรงใหญ่ที่ประโคมเสียงกระหนาบให้การดำรงอยู่ของผมสาสมอารมณ์หมาย ด้วยเหตุผลที่ว่าหลังจากการอ่านเงาสีขาวมาหลายปีก่อน จากการซื้อจากแผงลดราคาที่อิมพีเรียล สำโรง !!!!!!!!!! ในราคาครึ่งหนึ่งจากปก แต่เมื่อคว้าติดมือมาผมนั่งอ่านพร้อมดื่มเบียร์สี่ขวดในร้านเหล้าเล็กๆชั้นใต้ดินอิมพีเรียล สำโรงนั้น ได้ร้อยกว่าหน้า (หนึ่งในคุณสมบัติการอ่านที่ดีอย่างหนึ่งของผม คือ อ่านได้ทุกที่ อ่านได้ทนทาน อ่านได้รวดเร็ว ถ้าหนังสือเล่มนั้น น่าอ่านจริงๆเหมาะกับจริตผมเอง) ด้วยความติดหนับผมอ่านจบภายในนับชั่วโมงได้ สาบาน หลายปีต่อมาเงาสีขาวมันฉายเงาให้ผมมาพบบรรณารักษ์สาวคนหนึ่งที่รู้จักเงาสีขาว และมีในครอบครองด้วย แต่เธอไม่เคยอ่านมันจบ (เพราะเธอรักงาน มักเลือกทำงานก่อนจะทำตามใจรัก บุคคลจำพวกนี่น่าจะพำนักพักอาศัยอยู่เขต ประชาอุทิศ) จากนั้นอีกประการหนึ่ง คือการลาออกจากสำนักราชการ มาเขียนหนังสือ เปิดร้านหนังสือเช่า/จำหน่ายชื่อ ปั๊มหนังสือ (เติมปัญญา หล่อลื่นจินนาการ) ที่อำเภอชายขอบ พร้อมทั้งทำงานด้านศิลปะไปด้วยอย่างไม่เร่งรีบกับตัวเอง เพราะเชื่อว่าเราไม่ใช่คนหมุนลานนาฬิกาตรงเม็ดมะยม แต่กาลเวลาโดยระบบของตัวมันเองจะหลอมเหลวให้เราได้เป็นบางอย่าง เท่าที่เรามุ่งมั่น ศรัทธา และทำใจกับมันได้ ...,ความสุขจะมีจริง หนังสือวาทกรรมกับการพัฒนากับสมองอีกซีกที่มีอยู่ แรกทีเดียว เมื่อผมเปิดใจให้เพริศไปกับรถรางสายปรารถนา(รถรางเป็นสัญญะของความฝัน ของอดีต)ต่อมาโลกทางวิชาการก็ผ่านเข้ามาประทับลงที่สมองส่วนเหตุผลทำงานอยู่ รถไฟขบวนนี้(เป็นสัญญะแห่ง วิทยาการ ความรู้) พาให้ผมก้าวเข้าไปสู่ความจริงอีกอย่างของโลกที่จับต้อง คำนวณ อธิบายได้อย่างชัดเจน หนังสือเล่มนี้ เขียนโดยอาจารย์ไชยรัตน์ เจริญสินโอฬาร ซึ่งได้เปิดโลกทัศน์ของผมว่าวิชาการไม่ใช่เรื่องแบนราบน่าเบื่อเป็นมิติเดียวอย่างที่เคยพบมาแล้ว ในกระบวนการศึกษาเท่าที่ผมผ่านมา หรือเป็นเพราะการเติบโตของผมอีกร่างหนึ่งในโลกเร้นคู่ขนาน (pararelle planet) จึงซึมซับเอาความหมายของคำว่าวาทกรรมไปเจริญงอกงามในมโนทัศน์ของผมในไม่ช้า และสิ่งนี้เองก็ไปงอกเงยเผยร่างบนวิทยานิพนธ์ของผมในหลักสูตรสิ่งแวดล้อมศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ในนาม วาทกรรมสิ่งแวดล้อมศึกษาผ่านสื่อมวลชนในสังคมไทย ระหว่าง พศ.2530-40 ซึ่งวันหน้าอีกไม่นานคงได้สอบป้องกันวิทยานิพนธ์สักที การช่วงชิง ครอบครอง ปกปิด ประกอบสร้าง ความจริง เป็นความน่ากลัว น่าพรั่นพรึ่ง ถ้าความจริงที่ถูกขนานนามว่า วาทกรรม ขัดแย้ง สวนทางกับ คุณธรรม ศีลธรรม โลกย์จึงทุรนทุรายร่านอย่างนี้กระมัง ผมจึงเลือกหนังสือ ๒ เล่ม เป็นเล่มทวิเอก [ DUEL SINGULAR ] ในสมองทั้ง 2 ซีกของผมมาให้คุณปรายได้ทัศนา ผมไม่เคยหวาดกลัวต่อการอดข้าว อดน้ำ อดหายใจ ผมกลัวเกรงว่าจะอดอ่านหนังสือ อดเขียนหนังสืออดวาดรูป มากกว่า มันเป็นความหวั่นเกรงในระดับนามธรรม ซึ่งผมเชื่อว่าลึกๆลงไปในใจทุกคนต่างมีสิ่งหมายมั่นในใจ หรือ พันธสัญญาบางประการ ที่เป็นข้อตกลงเดียวกันกับจิตวิญญาณของเราที่ซื่อตรงต่อธรรมชาติแท้จริงภายในโครงสร้าง มวลรวม ในความเป็นเรา หรือ เราจะกล้าหักหลัง ทรยศตัวเราเอง....:{ ผมไม่มีวันเชื่อตามนั้นเลย จริงๆ ให้ไฟดับตอนกลางคืนในขณะอ่านดอกไม้พันปีเลย สิเอ้า ;}
26 มกราคม 2548 03:14 น. - comment id 82305
iรออ่านตอนต่ออีกไหมคะ ตรงหน้านี้นะ... ลงทะเบียนแล้วจะมีช่องให้เติมขัอความนะคะ แล้วจะมาอ่านใหม่ คืนนี้เข้าดึกนิดหนอย สวัสดีค่ะ
26 มกราคม 2548 12:22 น. - comment id 82309
มีหนังสือชุดหนึ่ง น่าจะ 10 หรือ 12 เล่มจบ คนเขียนเป็น ทหารอากาศ , หรือ ทหารเรือ หว่า .. เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อต้นปีที่แล้ว มีคนมาขอความช่วยเหลือ ให้หาซื้อหนังสือชุดนี้ให้ที เนื่องจากเป็นหนังสือหายาก เขาไปยืมเพื่อนมาอ่าน แต่ยังไม่ทันได้อ่าน ทั้งกระเป๋า .. หาย เขาไม่มีคืนเพื่อนเขาด้วย อุตส่าห์ไปที่สำนักพิมพ์ คุรุสภา ก็เข้าใจว่า เลิกพิมพ์ไปแล้ว นิทานชาวไร่ หรือ นิทานบ้านไร่ .. จำไม่ค่อยแม่นนักนะคะ คุ้นตาคุณบ้างมั๊ย
27 มกราคม 2548 21:31 น. - comment id 82331
คุณทิกินอนดึกนะครับ แต่อย่าให้ติดต่อกันนะครับ เดี๋ยวร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนหลับเหมือนการชาร์จแบตในตัวเราครับ แต่ผมเคยนอน นอน แล้วก็นอน รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหมีโคอาล่ายังไงไม่รู้ สำหรับหนังสือที่คุณอัลมิตราถามมา จนด้วยเกล้าครับ แต่ถ้าเกิดไปเห็นหนังสือที่มีลักษณะอย่างนี้จะส่งข่าวให้ เพราะบางครั้งชีวิตเราจะพบกับความบังเอิญบ่อยๆเหมือนกัน