นิยามคำว่ารัก....นะจึงเป็นแบบนี้
เพชรสีฟ้า
ความรัก คือ การที่ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุขเราก็สุขด้วย
บ้างก็ว่ารัก คือ การเสียสละ
หรืออีกนัยหนึ่งก็ว่ารัก คือ การที่ได้อยู่ใกล้ใครสักคนแล้วเรามีความสุข.ฯลฯ
และอีกหลายๆ นิยามของคำว่ารัก แต่ไม่ว่าใครจะตีความหมายของคำว่ารักเป็นแบบใดก็ตาม เราก็คงไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ว่า พวกเราทุกคนต่างก็ยังคงเพรียกหาความรักนั้นอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นความรักในรูปแบบใดก็ตาม
เมื่อมีคำว่าความรัก ไม่ว่าจะเป็นรักแบบพ่อแม่ พี่น้องเพื่อนหรือคนรักก็ตาม ย่อมหนีไม่พ้นเจ้าความรู้สึกต่างๆ เหล่านี้ นั่นคือ ความคิดถึง คิดถึงคนที่เรารัก กระวนกระวายใจ อยากพบอยากเจอหน้าเขา อยากพูดคุย อยากอยู่ใกล้ ไม่ว่าจะทำอะไรหรือเห็นของอะไรที่เขาชอบ หรือของที่เห็นว่าเหมาะสมกับเขา หรือแม้แต่เพลงที่ฟังแล้วมีความหมาย ก็อยากมอบเพลงนี้ให้เขาก่อนใครๆ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เราจะทำ เราก็จะนึกถึงเขาก่อนเสมอ ว่าเหมาะกับเขานะ เรามาเจอของชิ้นนี้ถูกใจน่าจะให้เป็นของขวัญเขา หรือเรามาเที่ยวสนุก เดินซื้อของหรือทำอะไรก็แล้วแต่ ก็จะคิดว่าหากมีเขาเดินเคียงมาด้วยก็คงจะดีและมีความสุขนะ อะไรทำนองนี้เป็นต้น
ความห่วงใย ห่วงใยคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง สุขภาพร่างกาย อาหารการกิน หน้าที่การงาน ห่วงใยแม้กระทั่งความรู้สึกต่างๆ ของเขา ห่วงใยสารพัดที่จะห่วง เป็นต้นว่า ป่านนี้เขาจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ วันนี้ฝนตกเขาจะมีร่มไหมนะ ตากฝนหรือเปล่า ดึกขนาดนี้เขากลับบ้านหรือยัง นอนหรือยัง หรืออากาศเปลี่ยนแปลง สุขภาพเขาจะเป็นอย่างไรนะ แล้วเขาจะได้ทานข้าวหรือยัง เขาไม่สบายทานยาหรือเปล่า พักผ่อนไหม ทำงานหนักไหม เหนื่อยไหมฯลฯ และเราก็อยากเข้าไปดูแลเขาใกล้ๆ อยากดูแลเอาใจใส่เขาเป็นต้น
ความหึงและความหวง ไอ้เจ้าความหึงนี่จะใช้กับคนที่เป็นคู่รัก คนรัก แฟนหรือสามีภรรยา มันเป็นอารมณ์ความรู้สึกที่เป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ไม่อยากให้คนอื่นมาแย่งชิงไป หรือไม่อยากให้เขาสนใจใครอื่นนอกจากเรา เป็นความรู้สึกที่ออกจะเห็นแก่ตัวไปซักนิด
ส่วนเจ้าความหวงนี่ ใช้ได้กับทุกรูปแบบ เป็นความรู้สึกที่หวงแหนสิ่งอันเป็นที่รัก ไม่อยากให้ใครเข้ามาใกล้แตะต้องสิ่งอันเป็นที่รัก ทะนุถนอมดูแลเอาใจใส่อย่างดีราวกับสิ่งล้ำค่า เป็นอารมณ์และความรู้สึกที่ต่างกันกับความหึง เพราะความหวงนี่นะ ยังยอมให้คนอื่นยุ่งได้ภายใต้ขอบเขตที่จำกัด แต่ทว่าถ้าหึงนี่ ห้ามยุ่งโดยเด็ดขาด! และอีกนั่นแหล่ะนะ หากเอาทั้งหึงทั้งหวงมารวมกันล่ะก็ หึๆ ไม่ต้องคิดเลย คำตอบมีกันเห็นๆ ตบตีฆ่ากันลงข่าวบ่อยๆ เพราะไอ้เจ้าความหึงหวงจนหน้ามืดนั่นแหล่ะ
ความสุข อันนี้คือตัวสำคัญที่สุดเลยล่ะมั้ง เป็นสุดยอดปรารถนาของทุกคนเลยเชียว เป็นความรู้สึกสุขใจ อิ่มเอมใจ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ได้ทั้งวันเลยเชียว มองโลกทางไหนก็สวยงามสดชื่นไปหมด ทำไมหน่ะเหรอ ก็เวลานึกถึงหน้าเขาก็ยิ้มอย่างมีความสุข ไปทำอะไรมาด้วยกันนึกถึงก็สุข พูดคุยเจอหน้ากัน เดินเล่นเดินเที่ยวดูหนังฟังเพลงก็มีความสุข เห็นของขวัญดอกไม้ที่เขาให้มาทีไรแหมยิ้มสุขใจทุกที และอีกสารพัดฯลฯ แล้วเมื่อเรามีความสุขกับอะไรก็อยากให้เขาเข้ามามีส่วนรับรู้และแบ่งปันความสุขนั้นด้วย แม้ว่าเวลาทุกข์ เราไม่อยากให้เขารับรู้แต่ถ้ามีเขาอยู่เคียงข้างคอยให้กำลังใจ คอยปลอบโยน แค่นี้เราก็มีความสุขแล้ว หืม..อะไรจะสุขีสโมสรขนาดนั้นหนอ.
สุดท้ายและท้ายที่สุดที่จำจะต้องกล่าวถึง แม้ไม่อยากพูดถึงก็ตามทีนั่น คือ ความทุกข์ ความเสียใจ ความผิดหวัง ความเหงา ความเศร้าและการอกหัก การพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก ย่อมนำมาซึ่งสิ่งเหล่านี้ เมื่อมีรักสิ่งเหล่านี้ก็ย่อมจะมีตามควบคู่กันมาเสมอ ดังคำกล่าวที่ว่า "ที่ใดมีรักที่นั่นย่อมมีทุกข์" สุขทุกข์เป็นของคู่กันไงล่ะ อาทิเช่น อีกใจหนึ่งกำลังมีความสุขกับการที่ได้อยู่ใกล้คนที่เรารัก แต่ทว่าอีกใจหนึ่งลึกๆ ทุกคนก็คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ก็มีความหวาดระแวง หวั่นไหวอยู่ปะปนไปด้วย หวาดหวั่นใจกลัวว่าความสุขนี้มันจะอยู่กับเราได้นานไหมหนอ และหวาดกลัวยามอยู่ห่างไกลกัน เขาจะเป็นอื่นไหม หรือคำพูดบางคำของเขาก็อาจมากระทบใจกระทบความรู้สึกของเราได้แบบไม่ตั้งใจ และมันก็ทำให้เราเสียใจก็เป็นได้ หรือแม้แต่ความห่วงหาอาวรณ์ ซึมเศร้าและเหงาก็มีปะปนตามมาอยู่ด้วยเสมอ และเมื่อความรักไม่สมหวัง ก็ย่อมนำมาซึ่งความเจ็บปวดรวดร้าวและความโศกศัลย์เสียใจมาด้วยเสมอ นี่แหล่ะนะที่รวมกันแล้วเรียกว่า "ความรัก"