หลังจากนั้นมาก็มีบางเวลาที่เค้าเจอหน้าเราก็ยิ้มให้บ้าง ทักทายกันบ้าง และในระยะเวลาที่ยังคงมองเค้าอยู่ก็มักจะสรรหาสิ่งของต่าง ๆ ไปให้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกินอะไรกระจุกกระจิกต่าง ๆ นา ๆ ก็รู้สึกดีนะที่เค้ารับไว้ซึ่งเค้าเองก็ค่อนข้างเป็นคนที่ขี้เกรงใจ ยอมรับว่าเค้าเป็นผู้ชายที่มีน้ำใจมีมารยาทดีเหมือนกันถึงแม้ว่าท่าทางเค้าเป็นคนที่เย็นชาพอสมควรต่างจากการที่เรามองเค้าเพียงผิวเผินอย่างมากแถมยังไม่ถือตัวยิ่งเป็นความหยิ่งคงเป็นที่ว่ากันว่ารุ่นน้องชอบเค้ามากในเรื่องนี้ เราเองก็ถือว่าเป็นรุ่นพี่อายุก็ห่างกันไม่มากนักหรอกถ้าจะถือว่าเป็นเพื่อนกันก็คงจะไม่แปลกห่างกันไม่ถึงปีด้วยซ้ำ ก็มีบ้างที่ได้โทรคุยกันบ้างบางเวลามีเป็นบางช่วงที่โทรมาหาเค้าค่อนข้างบ่อยแต่พักหลัง ๆ เพื่อนของเราเองที่พักอยู่ห้องข้าง ๆ กับเค้าก็บอกว่ามีหญิงสาวแวะเวียนเข้ามาหาเค้าอยู่บ่อย ๆ เราเองก็เลยเริ่มรู้สึกว่าคงไม่ดีหรอกถ้าเราจะโทรไปในเวลาที่ไม่เหมาะไม่ควรก็ปล่อยให้เค้าได้ใช้เวลากับเพื่อนกับคนที่เค้ากำลังมองอยู่ซึ่งตรงนี้เราก็พอมารู้ว่าเค้าเองก็มีใครคนอื่นอยู่แล้วก็อย่างว่าล่ะนะ ความรู้สึกมันตัดกันได้ลำบากมันไม่ใช่การตัดด้ายตัดกระดาษซักหน่อย.ห้ามก็ห้ามไม่ได้ลำบากล่ะคราวนี้เค้าเองก็น่าจะพอเดาใจเราออกเหมือนกันนะว่าเรารู้สึกยังไงทุกเรื่องที่ผ่านมาเรื่องคนที่เค้าคบอยู่หรือไปมาหาสู่อยู่บ่อย ๆ เราก็พอรู้เค้าเองก็ไม่พูดอะไรซักอย่างเกี่ยวกับคน ๆ นั้น อาจจะด้วยความรู้สึกที่เกรงใจถนอมน้ำใจเราด้วยเค้าถึงไม่พูดและไม่ทำให้เราเห็น..ว่าเค้าไปไหน กับใคร ที่ไหน เมื่อไรก็ไม่ใช่ว่าเราเองจะสอดรู้สอดเห็นหรอกแต่เวลาที่ได้คุยกันก็เหมือนกับว่าคุยกันได้ทุกเรื่องนะบางทีเรื่องที่ไม่น่าจะพูดเค้าก็เป็นฝ่ายพูดเองและเค้ามักจะพูดเสมอว่า พูดไปก็ไม่เสียหาย รู้ไว้ก็ไม่เสียหลายซักหน่อย และเค้าคงจะไม่ถือด้วยมั๊งว่าเราอาจจะไม่ใช่คนอื่นก็ได้ก็ดีใจนะที่พูดให้เราฟัง อยู่ใน รร ก็มีรุ่นน้องหลาย ๆ และรุ่นพี่บางคนด้วยที่ชอบเค้ามองเค้าบางคนถึงขั้นที่ว่าออกปากชมเค้าแถมยังบอกอีกนะว่ารักเค้าเอาซะมาก ๆ เลยล่ะ (ส่วนตัวเราเองก็ไม่ได้ออกตัวไปหรอกนะว่าเราก็เป็นคนหนึ่งที่มองเค้าเหมือนกันจะรู้กันเฉพาะคนสนิทเท่านั้น) ที่มีคนมาพูดแบบนี้ให้ได้ยินและที่เรารู้จักมาเองด้วยก็รู้สึกว่าจะไม่ใช่แค่คนสองคนเท่านั้นนะยังคงจะมีอีกมากแต่เราก็ภูมิใจอย่างนะว่าหนึ่งในนั้นคือเราเองที่สามารถได้รู้จัก ได้ใกล้กับเค้า ได้พูดได้คุย เค้าส่งยิ้มให้ เค้าพูดด้วย ทักทาย ถึงจะไม่สนิทอะไรมากมายก็ตามทีนะ เวลาที่มองเค้ารู้สึกเหมือนกับว่ามองเค้ายังไงในสายตาเราก็ไม่เคยอิ่ม ไม่เคยเบื่อ แทบไม่อยากจะละสายตาไปจากเค้าเลยซักที (บางครั้งก็มีการหลบสายตากันบ้างนะเราเองแค่เห็นเค้าอยู่ในระยะห่าง ๆ เนี่ยก็รู้สึกใจสั่น ถ้าเค้ามาใกล้ ๆ ก็จะทำเป็นเฉยไม่งั้นก็ทำเป็นมองไม่เห็นบ้างล่ะ คงจะอายมากกว่ามั๊ง) อยากจะให้คนอื่น ๆ ไม่มองเค้ามีแค่เราคนเดียวที่มองเป็นอย่างนั้นได้ก็คงจะดีนะ.แต่ในทางกลับกันที่เราเห็นมาทุกอย่างก็ถือได้ว่ามันก็ปวดใจอย่างมากเลยนะ ที่คอยจะมารับรู้ว่าเค้าไปไหนต่อไหนกับใครและอะไรอีกมากมายที่ถึงมันจะเป็นอะไรที่เล็ก ๆ ในสายตาของเค้าแต่มันก็เป็นสิ่งที่เหยียบความรู้สึกของเราซะจมดิน..ในวันนี้เราเองก็ลองคิดว่า..ถ้าวันนั้นไม่เดินเค้าไปหาเค้าซะ ไม่ต้องมารู้จักกัน แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ในวันนี้ที่เราเป็นอยู่จะเป็นยังไง..หรืออย่างไหนจะดีกว่า.
23 พฤศจิกายน 2545 21:31 น. - comment id 66995
เศร้าดีนะค่ะ แต่เมื่อคุณรักเขาแล้วควรรักเขาอาจจะถือว่ารักเขาข้างเดียวก้อตาม แต่เมื่อคุณเลิกคุณจะรู้สึกไม่ดีกับใจตัวเองนะค่ะ "สายตากคุณเลิกมอง แต่ในใจยังรักเขา" อ่านกลอนนี้สิค่ะ+*+* +*+*เพราะฉันเป็นหญิง รักมากแต่ต้องนิ่งทนเก็บไว้ ไม่สามารถแสดงอะไรออกไป เพราะกลัวเป็นผู้หญิงง่ายๆในสายตาเธอ