คุณค่าแห่งจิตใจ…คุณค่าจากการให้

ทิวสน

โดย ทิวสน ชลนรา
พงษ์ดนัยชายหนุ่มผู้มีชีวิต อาจกล่าวได้ว่าสมบูรณ์แบบ หน้าตาหล่อเหลา การศึกษาสูง 
มีหน้าที่การงานมั่นคง มีความก้าวหน้าในอนาคต คนรอบข้างต่างรักใคร่ ชีวิตที่เพียบพร้อมจนหลายคนต่างชื่นชม 
วันหนึ่งชีวิตที่สมบูรณ์แบบของเขา ก็ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบมากขึ้น เมื่อพี่ชายคนโตยินดีควักเงินก้อนใหญ่ ซื้อรถสปอร์ตคันงามให้เป็นของขวัญวันเกิดแก่เขา ไม่ต้องบอกว่าเจ้าตัวจะยินดีปรีดาเพียงใด เพราะรถสปอร์ตสุดหรูคันนี้ ชายหนุ่มฝันอยากได้เป็นเจ้าของมานานนัก 
เมื่อความฝันเป็นจริง สิ่งที่เขาคิดทำอย่างแรกคือ ขับเจ้ารถสปอร์ตตระเวนไปตามที่ต่างๆ ให้สมอยาก ใจหนึ่งต้องการทดสอบแรงม้าที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องเครื่อง ว่าจะมีเรี่ยวแรงเต็มกำลังสักเพียงไหน อีกใจหนึ่งนั้น เป็นที่แน่นอนว่า ลองใครที่มีรถสวยและแรงขนาดนี้ คงไม่เก็บเอาไว้ชื่นชมเพียงลำพังที่โรงรถในบ้านเป็นแน่ 
ชายหนุ่มขับรถโฉบเฉี่ยวไปยังที่ต่างๆ รอบเมืองพัทยา และยิ้มภูมิใจเมื่อชำเลืองมองพบว่ามีสายตาหลายคู่ข้างทาง ต่างเหลียวหันมองตามรถคันสวยของเขา 
เขาขับโฉบเฉี่ยวไปมาสักพัก จึงชะลอหาที่พักทั้งเครื่องและคน.
แล้วเขาก็ปราดเข้าจอดข้างถนนที่ริมชายหาดจอมเทียน
ระหว่างกำลังพักผ่อนอิริยาบถและทอดสายตาออกไปชมทะเลรับลมยามเย็น เมื่อหันกลับไปมองที่รถ ซึ่งจอดชิดริมฟุตบาธ เขาเห็นเด็กชายอายุราว 10 ขวบ แต่งตัวมอซอแต่ดูสะอาด เดินลูบๆ คลำๆ รอบรถคันงามของเขา ด้วยกิริยาท่าทีชื่นชอบอย่างเห็นได้ชัด 
ชายหนุ่มรู้สึกภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ กับสิ่งที่หลายต่อหลายคนใฝ่ฝัน เขาเดินยืด-อก มาที่รถ พร้อมกระแอมและเอ่ยทักทายเด็กคนนั้นด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ดั่งขุนศึกผู้ชนะสงคราม 
"ระวังหน่อยน้อง เดี๋ยวเป็นรอย" ว่าพลางยิ้มมุมปาก
เด็กน้อยหันมองจ้องชายหนุ่มเจ้าของเสียง ก่อนตอบ 
"รถของพี่เหรอ.. สุดยอด!" เอ่ยพลางตาโตชื่นชมกับสิ่งเบื้องหน้า
"แน่นอน" เขาตอบ พร้อมระบายยิ้ม
"พี่ซื้อมาราคาเท่าไหร่กันเนี่ย " เด็กน้อยถาม 
"อืมม์คนอื่นอาจต้องควักสตางค์ซื้อเองแหละนะ...แต่พี่ไม่ต้องเพราะพี่ชายของพี่เพิ่งซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ตอบพลางยิ้มปลาบปลื้ม
"โอ้โห! ดีจัง ผมอยาก...." เด็กชายพูดตะกุกตะกัก ชะงักในตอนท้าย 
ชายหนุ่มคิดในใจว่า เด็กคนนี้คงไม่กล้าพูดต่อ เพราะที่เด็กอยากจะพูดแต่ยั้งปากยั้งคำไว้นั้น คงจะต้องการบอกว่า อิจฉาและอยากจะเป็นอย่างเขาบ้าง ที่มีพี่ชายแสนดีซื้อรถสุดหรูให้เป็นของขวัญ...
ทว่าสิ่งที่ชายหนุ่มคิด...ผิดถนัด
"โอ้โห ดีจัง ผมอยาก..อยาก เป็นอย่างพี่ชายของพี่จังผมจะได้ซื้อรถให้น้องชายผมนั่งบ้าง" ชายหนุ่มฟังแล้วถึงกับอึ้ง 
ในสังคมทุกวันนี้ ที่ใครต่อใคร ต่างตั้งหน้าตั้งตาเพียงแต่จะรับ หรือบางคนไม่ยอมรอ ต่างใช้กำลังความได้เปรียบแย่งชิงของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง แต่เด็กคนนี้กลับคิดสวนทางใครๆ ที่อยากจะเป็นผู้ให้ มากกว่าเป็นผู้รับ...... 
ชายหนุ่มมองเด็กชายด้วยความรู้สึกทึ่ง และแปลบปลาบในใจ แล้วเอ่ยถาม... 
"อยากนั่งรถเล่นกับพี่มั้ย" 
"ครับ อยากมากเลย" เด็กชายตอบแทบจะทันที
หลังจากขับรถเล่นกินลมไปตามถนนเลาะเลียบชายหาดอยู่พักหนึ่ง เด็กน้อยหันมาพูดกับเขาด้วยดวงตามีประกายว่า
"พี่ครับ...ช่วยขับรถไปทางหน้าบ้านผมได้มั้ยครับ"
ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ เขาคิดว่าเดาไม่ผิด และรู้ดีว่าเด็กน้อยต้องการอะไร คงอยากจะอวดให้เพื่อนบ้านเห็นว่าได้นั่งรถหรูหราคันโตกลับบ้านล่ะสิทว่า
"พี่ช่วยจอดตรงบ้านหลังข้างหน้านั้นนะครับ" เด็กน้อยลงจากรถ แล้ววิ่งขึ้นบันไดหายไปบนบ้าน ซึ่งปลูกแบบง่ายๆ ชั้นเดียว ยกพื้นมีระเบียงแคบๆ ด้านหน้า
สักครู่จึงกลับออกมาแต่ไม่ได้วิ่ง เขาอุ้มน้องตัวเล็กๆ ที่พิการขาลีบทั้งสองข้างมาด้วย และวางน้องลงที่บันไดขั้นแรก กอดน้องไว้ที่ด้านหลังและชี้ไปที่รถ 
"นั่นไงหนุ่ย...รถคันที่พี่เล่าให้ฟัง พี่ชายของเขาซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด เขาไม่ต้องเสียตังค์เลยนะ เอาไว้พอหนุ่ยโตขึ้น แล้ววันหนึ่งพี่จะซื้อให้หนุ่ยบ้าง หนุ่ยจะได้ไปดู ไปเห็นของสวยๆ กับตาของหนุ่ยเอง เหมือนที่พี่เคยเล่าให้ฟังไง" 
ชายหนุ่มได้ยินทุกถ้อยคำชัดเจน....เขาลงจากรถ แล้วเดินมายังเด็กทั้งสอง ก้มลงอุ้มน้องคนเล็ก แล้วนำมาขึ้นรถ 
พี่ชายปีนตามขึ้นมานั่งใกล้ แล้วทั้งสามก็เริ่มออกเดินทาง 
บัดนี้ชายหนุ่มเข้าใจลึกซึ้งแล้วว่า 
"การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ" หมายถึงอะไร 
* * * * * * * * * *				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน