" กลับมาแล้วค่ะ " ฉันพูดประโยคเดิมซ้ำกันทุกวันเมื่อกลับมาจากโรงเรียน แต่วันนี้ไม่ได้ยินเสียงป๊อกๆแป๊กๆที่บ่งบอกว่าแม่กำลังทำอาหารอยู่ในครัว ฉันขมวดคิ้วด้วยความสงสัย " หรือว่าแม่จะไปข้างนอก ... มืดขนาดนี้แล้วนี่นะ " ฉันบ่นพึมพัมกับตัวเองแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร ฉันเดินขึ้นห้องตัวเองด้วยความเหนื่อยอ่อน อยากจะนอนพักซักงีบแล้วค่อยลงมากินข้าวกับแม่ดีกว่า เมื่อถึงห้องนอน ฉันก็ทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วหลับไป นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่หลับ ... แต่ฉันได้ยินเหมือนเสียงแม่เรียก " นัทสึมิ ... แม่ขอโทษนะลูก แม่ขอโทษ " ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยเหงื่อแตกพลั่กเต็มใบหน้า " แม่... " ฉันรีบวิ่งลงมาข้างล่าง ร้องเรียกหาแม่หลายครั้งแต่แม่ก็ไม่ตอบ จนมาถึงห้องครัว ภาพตรงหน้านั้นทำให้ฉันช๊อค น้ำตาไหลลงมาแบบไม่รู้ตัว ฉันพูดอะไรไม่ถูก และคิดอะไรไม่ออก หูตามันลายไปหมด แม่ฉัน ... ผูกคอตายบนขื่อในห้องครัว ฉันเข่าอ่อนและทรุดตัวลงร้องให้อยู่ตรงนั้น จากนั้นฉันก็คลานช้าๆเข้าไปหาแม่ กอดขาแม่เอาไว้ มีกระดาษแผ่นหนึ่งร่วงลงมา และฉันก็ได้หยิบมันขึ้นมาอ่าน " นัทสึมิลูกรัก ... แม่รู้ว่าหนูรักแม่มาก แม่เองก็รักหนูมากเช่นกัน แต่ตอนนี้ ... แม่ไม่สามารถทนอยู่บนโลกใบนี้ได้อีกต่อไปแล้ว แม่เป็นโรคร้ายมานานแต่แม่ไม่กล้าบอกหนู โรคนี้มันรุมเร้าแม่จนเกินจะทนไหวแล้ว เราเคยมีกันสองคนแม่ลูก แต่ในวันนี้หนูต้องอยู่คนเดียวลำพัง แม่ขอโทษที่ทำให้หนูต้องเหงา แต่แม่อยากให้หนูสู้ต่อไป อย่าอ่อนแอเหมือนแม่ ... " เมื่ออ่านจบ ... ฉันทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการร้องไห้ น้ำตามันไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก " แม่ ... แม่บอกให้หนูสู้แต่ทำไมแม่ไม่สู้ แม่อย่าทิ้งหนูนะ อย่าทิ้งหนู แม่คะ ... แม่ตื่นสิ ตื่น ... " ฉันตะโกนเรียกแม่จนคอแห้งผาก แต่ร่างที่ไร้วิญญาณของแม่ก็ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย แม่ใจร้ายที่สุด แม่กล้าทิ้งฉันให้เผชิญโลกใบนี้คนเดียวได้ยังไงกัน ฉันเดินไปที่ห้องเก็บของช้าๆ ที่ที่แม่เก็บอุปกรณ์จิปาถะ ฉันหยิบขวานด้ามเขื่องจับถนัดมือมาได้ แล้วเดินกลับมาที่ห้องครัวอีกครั้ง ฉันวางขวานไว้บนโต๊ะกินข้าว แล้วก็ปลดเชือกจากขื่อเพื่อพาร่างของแม่ลงมาข้างล่างแบบที่ค่อนข้างจะทุลักทุเลพอสมควร อยากตายนักใช่มั๊ย อยากตายก็ตายให้สมใจอยากไปเลยนะคะแม่ ฉึก!! ฉึก!! ฉึก!! ฉันกระหน่ำด้ามขวานลงไปบนร่างของแม่ด้วยแรงทั้งหมดที่ฉันมีอยู่นับครั้งไม่ถ้วน เลือดสีแดงฉานกระฉูดไปทั่วบริเวณ รวมถึงตัวของฉันด้วย อวัยวะของแม่เละเทะแทบมองไม่เห็นเป็นชิ้นดี หัวของแม่กระเด็นแล้วกลิ้งไปอยู่ข้างตู้เย็น แขนขวาปลิวไปไม่ไกลจากตัวฉันมากนัก ลำตัวช่วงบนและขาสองข้างแทบขาดออกจากกัน ฉันทิ้งขวานด้วยมือที่อ่อนแรง ทรุดตัวลงไปกอดร่างแหลกเหลวของแม่อีกครั้ง แม่คะ ... ฉันพูดได้เพียงแค่นั้นแล้วก็ร้องไห้อีกครั้ง หลังจากที่ร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้งไปแล้ว ฉันก็เดินไปที่ห้องเก็บของอีกครั้ง มีเชือกหลายขดวางซ้อนกันตรงมุมห้องที่มืดและอับชื้น ฉันเลือกเอาเส้นที่ใหญ่และดูแข็งแรงที่สุด เมื่อได้ตามที่ต้องการ ฉันก็ลากเก้าอี้มายังขื่อที่แม่ใช้เป็นที่ปลิดวิญญาณของตัวเอง ฉันค่อยๆผูกเชือกเป็นปมที่สามารถรองรับน้ำหนักตัวฉันได้ แล้วผูกไว้บนขื่อ สายตาฉันจับจ้องลงมาที่แม่ ฉันหัวเราะเสียงดัง แล้วพูดกับแม่เป็นครั้งสุดท้าย แม่คะ ... แม่รอหนูก่อนนะ รอหนูด้วย เราจะไปด้วยกันนะคะแม่ ฉันสอดคอเข้ากับห่วงเชือก ใช้ขาเตะเก้าอี้ที่ยืนอยู่ แล้วทุกอย่างก็ดับสนิท ... นัทสึมิ ... มาหาแม่สิลูก ฉันมองเห็นแม่ยิ้มให้ แม่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก ฉันไม่รีรอที่จะวิ่งไปกอดแม่อีกครั้ง และฉันก็จะได้อยู่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นนั้น นานตราบชั่วนิรันดร์ ...
3 ธันวาคม 2547 16:00 น. - comment id 79612
เกิดอะไรขึ้นกันล่ะเนี่ย เจ็บปวดอะไรขนาดนี้ ใจเย็นๆหน่อยนะจ๊ะ
3 ธันวาคม 2547 17:20 น. - comment id 79614
ถอนใจค่ะ
3 ธันวาคม 2547 18:25 น. - comment id 79615
เห้อ............... อ่านแล้ว ............ รับรู้ได้นะคะ ว่า ในใจลึดๆๆ ของคุณ บอบช้ำมากเลยนะคะเนี๊ย.......... ใจเย็น ๆ เข้าไว้ นะคะ ไม่มีปัญหาไหนๆๆ ไม่มีทางออกนะคะ ตั้งสตินะคะ .....อย่าให้ความคิด ด้าน ลบ มาครอบงำจิตใจ คุณ เดินทาง มาทาง งานศิล) นี้ดีแล้ว นะคะ ปลดปล่อย มันออกไป เป็นอักษร นะคะ. ...ยิ้มนะคะสู้นะคะ
3 ธันวาคม 2547 19:37 น. - comment id 79617
อ่านจบแล้ว อึ้ง
4 ธันวาคม 2547 00:29 น. - comment id 79622
อึ้ง!! ชั้นเชื่อแล้วว่าแกโหดจิงๆหว่ะ
7 ธันวาคม 2547 14:32 น. - comment id 79723
โหดไปหรือเปล่าจ๊ะ
7 ธันวาคม 2547 22:01 น. - comment id 79734
1. ศพที่ตายแล้ว( หัวใจหยุดเต้นแล้ว ) เลือดจะไม่กระฉูด 2. ขวานต้องคมมากๆถึงจะสับหัวและแขน โดยเฉพาะขาแมากระเด็นปลิวไปได้ เขียนได้ดีครับ เป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปนะครับ
7 ธันวาคม 2547 22:15 น. - comment id 79737
เดิ้นดีเพ่หวาน แต่ทำไมลูกแม่ งเหี้ยมจังวะ หยองเลย แต่สำหรับพี่หวาน คงธรรมดา กร๊ากกกกกกกกกก
8 ธันวาคม 2547 16:28 น. - comment id 79755
ง่าา ไหงเขียนเรื่องเศร้าจัง ปนซาดิสม์นิดๆนะ สงสารแม่จังเลย ถูกันซะร่างเละหมด แม่ลูก ไปสู่ภพที่สงบสุขทีเถอะ
11 ธันวาคม 2547 23:41 น. - comment id 79817
อื่ม ซาดิส....ดีค่ะ...