นวนิยาย:เสี้ยวหนึ่งของวิญญาณ (ตอนอวสาน)

สุชาดา โมรา

ดาว  พี่ขอคุยด้วยคนสิ
	มีอะไรเหรอพี่นัท
	พี่จะต้องไปทำงานแล้ว  พี่คงไม่ได้มาเล่นยูโดอีกแต่พี่จะติดต่อมาบ่อย ๆ นะ  แล้วอย่างอแงล่ะ  อ้อ...อย่าไปทำขี้อ้อนกับเจ้าเบลวมากนักนะเขาจะรำคาญ  อีกอย่างก็เพลา ๆ การหยอกเย้าเล่นหัวกับพวกผู้ชายได้แล้วเขาจะหึง  ยิ่งคนเงียบ ๆ อย่านี้นะน่ากลัวที่สุดเลยรู้ไหม...
	พี่นัทขยี้หัวฉันแล้วก็เดินออกไปจากสมาคมฯ  ถึงตอนแรกฉันจะยิ้มแต่พอเขาเดินจากไปฉันก็รู้สึกว่าจิตใจมันหวั่นไหว  เพราะฉันยังไม่อาจลืมเขาได้เลย...  ทำยังไงนะฉันถึงจะลืมเขาได้
	หลังจากนั้นไม่นานพี่เบลวก็พยายามพูดคุยมากขึ้นจนเราสนิทกันมากขึ้น  ความผูกพันธ์มีมากขึ้นจนทำให้ฉันรักพี่เขาเข้าแล้ว...  ที่จริงฉันเริ่มชอบ ๆ พี่เขาตั้งแต่ตอนที่ปรึกษาเรื่องราวต่าง ๆ แล้วละ  ยิ่งตอนที่ฝนตกนั่งเปียกมาด้วยกันแล้วตอนนั้นฉันจำได้ดีว่าตักของเขาอุ่นมากทีเดียว  ฉันว่ารักของเรามันเริ่มก่อตัวก็ตอนนั้นแหละ  เขาเป็นเหมือนทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่างของฉันจนฉันไม่อาจแยกจากเขาได้
	พักหลังเหมี่ยวไม่มาเรียนบ่อยมาก  เพื่อน ๆ ในกลุ่มต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่าเหมี่ยวติดผู้ชายที่เป็นกระเป๋ารถเมย์  ทำให้เหมี่ยวติด มส.หลายตัวจนเท่ากับฉัน  แต่ของเหมี่ยวนั้นติดของ ม.6 แต่ฉันติดของ ม.5  พักหลังเหมี่ยวก็ไม่มาเลยจนอาจารย์โฮมรูมคนใหม่ต้องเรียกผู้ปกครองหลายครั้ง  แต่ก็ไม่มีใครมาจนวันหนึ่งฉันอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งพาดหัวข่าวว่าเหมี่ยวถูกข่มขืน  11 คนตอนนั้นฉันรู้สึกดีใจมากที่เหมี่ยวโดนแบบนั้น  ฉันสะใจมากทีเดียวเพราะไม่คาดคิดว่าเหมี่ยวจะกรรมตามทันขนาดนี้...  แต่พอมานึก ๆ ไปก็สงสารเหมี่ยวเหมือนกัน...  เหมี่ยวอายเพื่อนอายทุกคนที่สมาคมฯจนไม่กล้ามาเรียน  และในที่สุดก็หมดอนาคตต้องไปอยู่บ้านเลี้ยงลูกที่ไม่อยากให้เกิดมา  น่าสงสารจริง ๆ...
	ฉันเรียนจบ ม.6 แต่ฉันก็ไม่ได้จบตามเพื่อนเพราะฉันต้องมาเรียนซ้ำเพื่อแก้ มส.ให้หมดทั้ง 7 ตัวหลังจากที่อาจารย์ทำฉันแสบมาก ๆ ในตอนนั้น  แต่ฉันก็ไม่ย่อท้อนะฉันสามารถที่จะไปเรียนกับรุ่นน้องได้โดยที่ไม่อาย  นั่นเป็นเพราะคำพูดของพี่เบลวในวันนั้น  ฉันจำได้ดีว่าพี่เขาบอกให้ฉันอดทน  และกล้าเหมือนที่เล่นยูโด...
	หลายวันต่อมาทางกองทัพอากาศก็มีหนังสือมาถึงโรงเรียน  ในหนังสือฉบับนั้นพูดถึงเรื่องที่ฉันไปแข่งกีฬาที่ฟิลิปปินล์เมื่อปีที่แล้ว  ก็ช่วง ม.5 นั่นแหละอาจารย์ทุกคนจึงประชุมและเห็นพ้องต้องกันว่าฉันไม่สมควรที่จะติด มส.  อาจารย์จึงให้ผ่านมาได้ด้วยดี
	......................................
	ฉันเรียนจบจนได้  ถึงแม้ว่าจะไม่จบพร้อมเพื่อนก็ตาม  ฉันสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งได้  ฉันมีความสุขมากที่เจอสังคมใหม่ ๆ เจอเพื่อนใหม่ ๆ เพื่อน ๆ ทุกคนดีกับฉัน  ฉันตั้งใจเรียนจนเป็นที่ภาคภูมิใจแก่พ่อแม่และทุก ๆ คนรวมทั้งคนรักของฉันด้วย  พี่เบลวยังคงให้กำลังใจฉันเสมอมา  ถึงแม้ว่าตอนนี้พี่เบลวจะไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ ฉันก็ตาม  เพราะพี่เบลวไปเรียนต่อวิศวะที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจึงทำให้เราไกลกัน  แต่ความหวังความฝันและความรักของเรายังคงอยู่ใกล้กันเสมอ...
	เราคบกันมา 7 ปี ตอนนี้ฉันเรียนจบแล้ว  พี่เบลวก็เรียนจบฉันตั้งใจไว้ว่าจะเปิดโรงเรียนสอนยูโดเป็นของตัวเองเสียทีเพราะชีวิตฉันฝากความหวังไว้กับสิ่งนี้...  ฉันมีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่งซึ่งมาจากการแข่งขันและเงินเดือนที่ได้จากการเป็นอาจารย์สอนยูโด  ฉันจึงรวมเงินกับพี่เบลวและเปิดโรงเรียนขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจ...  
	นักเรียนทุกคนพร้อม...ตบเบาะท่าที่ 1 ปฏิบัติ
	เสียงนักเรียนตบเบาะกันดังสนั่น  คนมาเรียนมากมาย  พอฉันได้สอนนักเรียนพวกนี้ก็ยิ่งทำให้ฉันมีความสุขมากขึ้นทำให้ฉันหวนคิดถึงวันเก่า ๆ ที่มีพี่นัทอยู่  แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกเฉย ๆ แล้วละเพราะคนที่สำคัญของฉันอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว  ฉันไม่ได้คิดอะไรกับพี่นัทอีกต่อไปแล้ว  นั่นเป็นเพราะฉันมีพี่เบลวมาคอยเติมเต็มในสิ่งที่ฉันขาดหายไป  ฉันมีความสุขและพอใจกับสิ่งที่ฉันมีอยู่ในขณะนี้มากทีเดียว...
	งานเลี้ยงที่ใหญ่โตเริ่มขึ้นพี่เบลวแต่งตัวภูมิฐานเป็นพิเศษ  ใส่สูตรผูกไทน์  ส่วนฉันสวมชุดขาวยาวลากพื้นเดินมาที่หน้างาน  พี่เบลวเดินไปจับมือฉันและพาเดินมาหาผู้คน  ย่าของฉันคล้องมาลัยให้ฉันและพี่เบลว  จากนั้นฉันก็ไปนั่งหมอบอยู่ที่ที่ผู้ใหญ่เตรียมไว้  ฉันประนมมือรับไหว้ผู้ใหญ่  ย่าของฉันค่อย ๆ บรรจงหลั่งน้ำสังข์ลงบนมือฉัน
	อย่าทะเลาะกันนะลูก  มีอะไรก็ใช้เหตุผลคุยกัน  เบลว...ย่าฝากน้องด้วยนะ
	รักกันนาน ๆ นะลูก  เบลวแม่ฝากน้องด้วยนะ
	พ่อไม่มีอะไรจะพูดหรอก  แต่พ่อดีใจที่มีวันนี้  ดูแลกันดี ๆ นะ  เบลวพ่อฝากน้องด้วยนะ
	แม่ฝากพี่เขาด้วยนะลูก
	พ่อฝากพี่ด้วยนะลูก
	งานแต่งงานผ่านไปได้ด้วยดี  ตอนนี้ชีวิตฉันไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว  ฉันของเพียงแค่เรามีกันและกัน  มั่นใจในรักและเชื่อมความสัมพันธ์กันไปตลอดกาล...
	ดาว...พี่รักดาวนะ
	ดาวก็เหมือนกันค่ะ
	ฉันมีความสุขที่สุดในชีวิตของฉันมากเลย  ฉันจะดุแลเขาให้ดีที่สุดตราบเท่าที่ฉันจะทำได้  ฉันจะเป็นศรีภรรยาที่ดีแก่เขาฉันสัญญา....
..................................จบ................................
ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ติดตามมาโดยตลอดนะคะ				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน