รอวัน....ฉันรักเธอ( chapter:2)
ก๊อตซิลล่าฟันเหล็ก
ต่อเลยนะ
---->
*โรงพยาบาล
"เอ่อ...พีรวิทย์ ที่รถคว่ำน่ะค่ะ อยู่ห้องไหนคะ" ฉันวิ่งไปถามประชาสัมพันธ์ ของ โรงพยาบาลก่อนใคร
"อ๋อ..คุณพีรวิทย์ อยู่ที่ห้องฉุกเฉินน่ะค่ะ คุณหมอกำลังดูอาการอยู่ ตอนนี้ก็....อ้าวคุณ เดี๊ยวค่ะ ฉันยังพูดไม่จบ"
ตอนนั้นสมองฉันรวนไปหมดไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ฉันไม่รอที่จะให้พยาบาลพูดจบ ก็วิ่งไปที่ห้องฉุกเฉิน โดยมีเพิ่อนวิ่งตามมาข้างหลัง
"พี...ฉันเคาะประตูห้อง ฉุกเฉินเหมือนคนบ้า ตอนนั้นฉันเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองบ้าไปรึเปล่าเหมือนกัน"
"เฮ้ย...โจ เค้าไม่ให้เสียงดังนะ แล้วนี่ก็ห้องฉุกเฉินนะ" เพือนๆ คงจะอายในความเปิ่น แล้วก็ความบ้าของฉันเหมือนกันในตอนนั้น
ขณะนั้น คุณหมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินพอดี พวกเราวิ่งกรูไปที่คุณหมอและแย่งกันถามอาการของพี เหมือน เหยี่ยวกำลังแย่งกัน กระชากเหยื่อ
"เอ่อ..เดี๊ยวครับคุณ....เพื่อนคุณน่ะใครครับ" คุณหมอถามด้วยความตกใจเหมือนกัน คงจะคิดว่า เด็กพวกนี้นี่มันอะไรกัน
"พีค่ะ" "พีรวิทย์ครับ" "พี ลูกตาโอ๊ค น่ะครับ" "บ้า...ลูกยายกลาย ต่างหาก"
โอ๊ยยยย !! นี่มันจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว "พีรวิทย์ น่ะค่ะคุณหมอที่รถคว่ำ...น่ะค่ะ" ตอนนั้นคนที่ตั้งสติได้คนแรก แทนที่จะเป็นคนอื่น แต่กลับเป็นฉันแทน
"อ๋อ...เอ่อ คือว่า พวกคุณเป็นอะไรกับผู้ป่วยครับ" คุณหมอทำหน้าอึ้ง แบบเริ่มซีดนิดๆสักครู่ ก่อนที่จะถามพวกฉันกลับ
"เป็นเพื่อน ครับ/ค่ะ" ยิ่งคุณหมอ ทำหน้าซีดแบบนั้น ยิ่งทำให้พวกฉันใจหาย
"หมอ...ได้พยายามเต็มที่แล้ว ไม่สามารถช่วยชีวิตเพื่อนคุณไว้ได้ หมอขอโทษจริงๆ....ขอตัวครับ" แล้วคุณหมอก็เดินจากไป เหมือนในละครที่ ฉันเคยเห็นบ่อยๆ
"ไม่จริง...." ฉัน...พูดอะไรไม่ได้ไปมากกว่านั้น ฉันกรีดร้องขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่พรั่งพรู ฉันไม่มีแรงแม้แต่ที่จะยืนด้วยขาทั้งสองข้างของตัวเอง
"ไอ้พี อะไรวะ มึงไมทิ้งพวกกูไป" แจ็ค เพื่อนที่สนิทที่สุดของพี ชกกำแพงโรงพยาบาลอย่างแรง พวกเราตอนนั้น ไม่มีใครเลยที่จะไม่ร้องไห้....
"ไอ้พี ไอ้เพื่อนชั่ว....." แจ็คร้องไห้ไปและด่าพี ไปเหมือนจะเป็นการระบาย ตอนนั้น ฉันไม่มีแม้แต่เสียงที่จะเปล่งออกมา....
"เฮ้ย มึงด่ากูทำไมเนี่ย ไอ้แจ็ค"
เสียง...เสียงนี้เป็นเสียงที่พวกเราคุ้นเคยมาก ทุกคนหันไปทางต้นเสียงนั้น
และภาพที่พวกเราเห็น ทำเอาช็อค...กันไปทุกคน มันก็คือภาพพี ยืนตระง่านอยู่ข้างหลังของแจ๊ค ในมือ ถือเบรคมอเตอไซด์ ตามตัว ไม่มีแผลอะไรเลย มีแค่เพียงที่หัวเข่าที่เหมือนจะมีเลือดซิบๆอยู่
"อะ อะ ไอ้พี....ว๊ากกกกกกก ผีไอ้พี" แจ็คมีสีหน้าตกใจสุดขีด น้ำมูกน้ำตาที่ไหล ก็ไหลเพิ่มมากเป็น ทวีคูน หน้าตาของแจ็คตอนนั้นเหมือน...ให้คุณคิดเอาเองแล้วกัน (ให้คุณนึกถึงภาพกอลิร่ายักษ์ เป็นหวัดน่ะ นั่นแหล่ะ แจ็คล่ะ)
ทุกคนต่างก็ตกใจกับภาพที่เห็นในตอนนั้นกันมาก จะมีก็แต่ฉันนี่แหล่ะที่ไม่กลัว (สงสัยเพราะดูหนังผีบ่อยมั้ง) ฉันวิ่งเข้าไปโผลเข้ากอดพี อย่างแรง พร้อมกับร้องไห้ฟูมฟาย
"โธ่...พี ตายไปแล้วก็ยังอุตส่าห์ มาหาหรอ" ฉันร้องไห้สะอึกสะอื้น ในอ้อมอกของพี แต่การร้องให้ก็ต้องหยุดชะงักลง มือมีอะไรแข็งๆมาเขกหัวฉันเบาๆ
อ้อ..มันคือ เบรครถ นั่นเอง
"ใครตาย..ยายบ๋อง" พียิ้มให้ฉัน แล้วกอดฉันฉันอย่างแรง ไม่ทันที่จะมีใครได้พูดอะไรต่อ
คุณหมอคนเดิม คนเมื่อกี้ก็วิ่งกระหืดกระหอบมาจากอีกที่ใดที่หนึ่ง
พอมาถึง ...คุณหมอขี้เก๊กนั่น ก็ กระแอม เป็นเชิงเล็กน้อยแล้วพูดว่า "เอ่อ..คือเมื่อสักครู่นี้พวกคุณเข้าใจผิดนะครับ คุณพีรวิทย์ที่พวกคุณว่าน่ะ เป็นคนละคนกับคนที่ตายนะครับ คนนั้นน่ะเค้ารถสิบล้อคว่ำตายครับ พอดีชื่อเหมือนกัน แหม...ตกใจกันเลยซินะครับ ฮ่า ฮ่า...เอ่อ..หมอขอตัว"
พอพูดจบ แกก็เดินจากไปอย่างสงบ เหมือนกับว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยปล่อยให้พวกเรายืน อึ้ง กันต่อไป
"อ้าว ไอพีนี่แกยังไม่ตายหรอกหรอ" อ้น เพื่อนสนิท ในกลุ่มเดียวกันพูดขึ้น
"ก็เออซิวะ ฉันแค่ มอไซด์ ล้มหน่อยเดียวเองเนี่ย..แค่เข่าถลอก แต่แม่งล่อซะ เบรคหักเลยว่ะ เนี่ย.." พี ยกเบรคขึ้นให้อ้นดู
"เอ่อ...ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว แต่ช่วยปล่อยเราได้มั้ย" ฉันพูดขึ้นมีเชิงเล็กน้อย เพราะพีคงลืม หรือแกล้งลืมไม่รู้ ว่าตอนนี้กอดฉันอยู่
"อ้อ...ขอโทษทีจ้ะ" พีปล่อยมือออกจากตัวฉัน แต่ก็ยังจับมือข้างนึงของฉันไว้อยู่
ในตอนนั้น ฉันได้แต่พร่ำพรรณาในใจ .....ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณจริงๆ ที่ให้โอกาสฉันได้แก้ตัว..อีกครั้ง
วันนั้นทั้งวัน เวลาของพวกเราทั้งหมด 6 คนรวมทั้งพี ก็หมดไปกับการฉลอง ที่พี ฟื้นจากความตาย (ในความเข้าใจผิด) เราคุยกันไม่จบไม่สิ้น แล้วก็วนมาที่ฉันจนได้
"เฮ้ย..มึงรู้เปล่าพี ตอนที่รู้ข่าวมึงนะ คนที่ร้องไห้มากที่สุดน่ะ โจ..นะเว้ย มึงต้องเห็นนะ ร้องไห้ขี้มูกโปร่งเลย ฮ่า ฮ่า..." อ้นพูดเชิงเยาะเย้ย แล้วก็ทำหน้าเหยเกมาทีฉัน
"ช่าย ช่าย...ปากนะก็พูดว่า พีอย่าเป็นอะไรนะพี อย่าเป็นอะไร ฮือ ฮือ... 555" เจนพูดสมทบขึ้น พร้อมกับทำหน้าเบ่ะๆ
พี หัวเราะขำก๊าก....โดยไม่เกรงใจ ฉันที่นั่งอยู่ข้างๆสักนิด
"นี่ นี่ มารุมอะไรฉันคนเดียวล่ะ นู่น...คนที่เป็นหนักกว่าฉันนั่งอยู่นู่น มือยังบวมปูดอยู่เลยน่ะ" ฉันชี้หน้าไปที่แจ็คที่นั่งคลำมืออยู่ เพราะมือที่ชกกำแพงไปนั้น มันเริ่มจะบวมแล้ว
"เฮ้ยย....ไม่ต้องมาหัวเราะฉันนะโว้ย !! เจ็บงานเนี้ย มันพิสูจน์ความจริงใจโว้ย อูย..." แจ็คพูดไปคลำมือไป ทำเอาเราทุกคนขำกันไม่หยุด ตอนนี้ความเศร้าในตอนแรกได้หายไปจนหมดสิ้นแล้ว
ตกกลางคืน พีขับรถไปส่งฉันถึงที่หน้าบ้าน (อย่าตกใจเพราะรถพีคันนั้น เบรคกระจายไปแล้ว..ยืมรถอ้นมาน่ะ)
"เราไปนะ ฝันดีจ้ะ" พีบอกลาฉัน ก่อนที่หันหลังกลับ 'ตุ้บ..!!'
"พี...อะไรตกน่ะ" ฉันกำลังจะเอื้มมือไปเก็บของนั่น
"เฮ้ย..!!" พีทำท่าตกใจมาก เหมือนกับว่าจะไม่อยากให้ฉันเห็นสิ่งที่อยู่ในนั้น
ในความคิดของฉัน มันก็เป็นเพียงแค่ สมุดบันทึกเล่มเล็กๆสีชมพู ธรรมดาๆ เล่มนึงเท่านั้นเอง แต่สำหรับพี ฉันคิดว่ามันคงจะสำคัญมาก เพราะทันทีที่รู้ว่ามันตก พีก็กระวนกระวาย เก็บมันขึ้นอย่างทะนุถนอม จนฉันอยากจะรู้ขึ้นมาว่า ในนั้นมีอะไร ถึงทำให้พีหวงขนาดนั้น
"เอ่อ...มันสำคัญถึงขนาดที่ให้เราจับไม่ได้เลยหรอ"
พีทำหน้าตกใจทันทีที่ฉันพูดขึ้น ขณะที่เค้ากำลังเช็ด ทำความสะอาดสมุดบันทึกนั่นอยู่ จนแว่บ...นึงฉันก็คิดอิจฉาหนังสือเล่มนั้นเหมือนกัน..ที่ได้รับการดูแลขนาดนั้น
"อ๋อ..เอ่อ ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ถ้าโจ อยากรู้ว่ามันคืออะไร สักวันนึง โจก็จะได้รู้ แล้วถ้าถึงวันนั้นจริง โจ..จะเป็นคนแรกลองจากเราที่จะได้เปิดมัน" พี ยิ้มนิดๆก่อนตอบ
ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ค่อยเข้าใจที่พีพูด เท่าไหร่แต่ฉันจะทำอะไรได้ นอกจากยิ้มตอบไป
"งั้นเราเข้าบ้านก่อนนะ บายจ้ะ"
"บาย ฝันดีนะ" พียิ้ม และโบกมือให้ฉัน
จนแล้วจนรอด ฉันก็ไม่ได้บอกความในใจกับพี เสียที 'ไม่เป็นไร ยังมีเวลาอีกเยอะ' ฉันไม่ได้ฉงนใจสักนิดเลยว่า ความคิดนั้นมันทำให้ฉันต้องคิด...มาจนถึงทุกวันนี้
ก่อนวันพิธีจบการศึกษา 1 อาทิตย์ ซึ่งวันอำลาสถาบันของโรงเรียนเรา มักจะตรงกับวันวาเลนไทน์ ของทุกปี พวกเราทุกคนในห้องช่วยกันเตรียมงานให้ง่วนไปหมด เราได้แต่หวังกันว่า ขอให้งานในครั้งนี้จะทำให้พวกเราไม่ลืมกันตลอดไป...และหวังว่ามันจะเป็นการจากกันอย่างมีความสุข
ตั้งแต่วันนั้นฉันก็อยู่และคุยกับพี เป็นปกติ จะมีก็แต่ใจของฉันนี่แหล่ะ ที่เปลี่ยนไป ...'ทำไม..พีไม่ถามเราถึงคำตอบสักทีนะ' ฉันคิดกับตัวเอง พลางคิดไปอีกว่าจะบอกกับพียังไงดี
"โจ..โจ" พีสะกิดฉันเบาๆ
"อ๊ะ..มีอะไรหรอ" พีสะกิดฉัน ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งเหม่อ ใช้นิ้วชี้ม้วนผมตัวเองจนเป็นเกลียว
"เอ่อ...คือว่า..." พีอ้ำอึ้งเล็กน้อย ก่อนที่จะตอบ
"โจ..พร้อมแล้วหรือยังที่จะให้คำตอบ พี" พียิ้มเล็กน้อย พลางเอามือลูบผมของตัวเอง
' โอ้โห...' ฉันคิดกับตัวเอง ว่าเหมือนมีญานวิเศษ แค่คิดว่าพีจะถามเมื่อไหร่ พีก็ถามซะงั้น
"อืม..." ฉันตอบขณะที่ ทำตัวบิดไปมา เหมือนท่าบิดขี้เกียจ
"เอ่อ..คือว่าเรา..." ฉันกำลังจะพูดในสิ่งที่ พีอยากจะฟังมากที่สุด
"เอ่อ...เดี๊ยวๆ เดี๊ยวนะ" พีค้นหาอะไรสักอย่างทีอยู่ในกระเป๋า แล้วร้องออกมาว่า "เฮ้ย...!!! ลืมเอามา" พีทำหน้าแบบว่าเศร้าแล้วก็เซ็งสุดๆ
"มีอะไรหรอ" ฉันถาม
"เปล่าหรอกจ้ะ คือว่าเดี๊ยวโจค่อยตอบเราได้มั้ย แม้ว่าเราจะอยากได้ยินมากที่สุดถึงแม้ว่ามันจะออกมาไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็เหอะ" พีพูดพลางมองฉันแบบตาละห้อย
"แล้วจะให้เราตอบเมื่อไหร่ล่ะ" ฉันถาม
พีทำท่าคิด "เอางี้ดีมั้ย วันอำลาสถาบันเป็นไง โจไปรอเราตอนเช้าของวันอำลาสถาบันนะที่ร้านนม ไงที่เราเคยพาไปบ่อยๆน่ะ จำได้ใช่มั้ย"
"อ๋อ...อืม..แล้วทำไมเราต้องเป็นฝ่ายไปรอด้วยล่ะ" ฉันยักคิ้วให้พี
"อืม..นั่นซินะ ยังไงก็ตาม โจไปให้ได้นะ เรามีของที่อยากจะให้ โจมาตั้งนานแล้วด้วย"
"อะไรหรอ ของที่จะให้น่ะ" ฉันทำหน้าอยากรู้เต็มที่
"เถอะน่า...เดี๊ยวถึงวันนั้นก็รู้เองเองแหล่ะ"
"อืม...ก็ได้ แต่รีบมานะ เดี๊ยวมาไม่ทันพิธีจบล่ะแย่เลย แล้วเราก็อยากจะจบการศึกษาพร้อมเพื่อนๆด้วย "
"เถอะน่า...ขี้บ่นจริงนะเราเนี่ย" พีเขกหัวฉันเบาๆ พีมักจะเล่นแบบนี้กับฉันเสมอ เวลาฉันทำอะไรกวนๆหรือเปิ่นๆออกมา
"อ้อ..แล้วก็ของที่จะให้น่ะ อย่าลืมเอามานะถ้าลืมจะโกรธจริงๆด้วย แล้วก็จะไม่พูดด้วยตลอดชาติเลย" ฉันพูดแล้วจ้องหน้าพี เหมือนข่มขู่อะไรสักอย่าง
"จ้า เรารับรองนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ของสิ่งนั้นมันจะต้องตกถึงมือโจ แน่ๆ เรารับรอง" พียิ้มนิดๆ ฉันไม่ได้เฉลียวใจเลย กับคำพูดนั้น
************************************
โปรดติดตามตอนต่อไป.......