keekie
ฝรั่งหลายคนที่นอนเล่นอยู่บนหาดทราย เริ่มเดินกลับที่พัก ..
แถมยังใจดีพากันเป็นห่วง เรียกให้เข้าไปหลบฝน แต่หลายคนคงรู้สึกเหมือนกันว่า ..
ละอองฝนเย็นฉ่ำสวยขนาดนี้ จะกลัวฝนไปทำไม ..
หลังฝนตกรุ้งหลากสีจะออกมาอวดความสวย พาดอยู่บนฟ้าเหนือทะเล ..
ฉันเพิ่งได้มีโอกาสนอนมองดูท้องฟ้ายามฝนตก ..
มันให้สีหม่น เย็นตา ..
อีกไม่กี่นาทีดวงตะวันก็จะตกดินแล้ว ..
ดวงเดียวกับที่ฉันนั่งดูมันไต่พ้นยอดเขาขึ้นสู่ฟ้าเมื่อเช้านี้ ..
จะให้พลาดดูตะวันตกดินเพียงเพราะฝนตกก็ไม่ใช่นิสัย ..
ดวงตะวันยังซ่อนตัวอยู่หลังเมฆฝน มีเพียงแสงอ่อนทอลอดกลุ่มเมฆครึ้มให้เห็นเท่านั้น ..
มันคงรู้สึกคล้ายๆ กันกับเราว่า ..
ช่วงเวลาของการล่ำลาไม่ใช่เรื่องง่าย เลยซ่อนตัวไม่ให้เราเห็นเมื่อต้องบอกลา ..
ทิ้งไว้แต่แสงสีเศร้า .. เป็นความนัย ..
ที่จริงฉันก็ไม่ได้ผิดหวังอะไรนัก เพราะเข้าอกเข้าใจ .. มันเป็นธรรมชาติ ..
ฉันคงยังชื่นชมตะวันขึ้น .. และตะวันตกดินได้อยู่ ..
แม้จะรู้สึกเศร้าในใจบ้างก็ตาม .. ที่จะไม่ได้เห็นภาพขอบฟ้าจรดขอบทะเล ..
พวกเขาได้พบกันเพียงชั่วแสงตะวัน ..
หลังจากตะวันทิ้งแสงทองหลังหมดวันแล้ว ..
จันทร์เจ้าบนราวฟ้าก็จะทอแสงทาบ .. เย็นตา .. แม้จะดูเศร้า เหงาไปบ้าง ..
แต่ดวงดาวพราวแสงก็ยังกระพริบวิบวับเป็นเพื่อน ..
อยู่บนฟ้านั่น ..
ความจริงก็ดีเหมือนกัน
ไม่ต้องให้ดวงตะวันกลายเป็นสิ่งเดียวที่ส่องแสงสว่างกลางฟ้าได้ ..
จันทร์เจ้าและดาวพราวก็ทำให้เรามีความสุขกับการเฝ้ามองมันได้ ..
ความงามมีอยู่รอบๆ ตัว .. ไม่ต้องรอเพียงสิ่งใดสิ่งเดียว ..
ฉันนอนมองดาวนับพันและจันทร์เจ้าจนชุ่มฉ่ำใจ ..
และสายฝนโปรยปรายจนชุ่มกายพอแล้ว ..
หนังสือที่ถือไปเปียกปอน ..
แต่เดี๋ยวมันก็แห้ง ..
ฉันเดินกลับที่พัก ..
หมายใจว่าจะรีบอาบน้ำสระผมและเข้านอน ..
เพื่อพาหัวใจรักไปสำรวจรอบเกาะในวันพรุ่งนี้ ..
แม้ฝนจะตก ..
ฉันจะหยุดในที่ทุกที่ที่หัวใจรักเรียกร้อง ..
อ ย่ า ก ลั ว ไ ป เ ล ย กั บ เ พี ย ง แ ค่ ฝ น ใ ต้ ฟ้ า . . .
The sky is more beautiful when we share