วันนี้ซอนย่าตื่นสายค่ะ เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อยเพราะมัวแชทคุยกับผู้ชายในอินเตอร์เนท ผู้ชายพวกนี้ก็ไม่ไหวนะคะ อะไรไม่รู้ เอะอะ ก็จะให้ดิฉันแก้ผ้าหน้าเวปแคมอยู่เรื่อย ดิฉันก็หลับหูหลับตาแก้ ๆ ไปงั้นแหละค่ะ คิดว่าทำการกุศลหน่ะค่ะ...... ว๊ายยย พูดเล่นค่ะ ใครจะกล้าขนาดนั้น ตื่นได้สิบโมงกว่า ลุกมาบิดขี้เกียจ แล้วนั่งคิดว่าจะทำไรดีเอ่ยวันนี้ เพราะวันนี้เป็นวันว่างค่ะ ไม่ต้องไปถ่ายแบบเดินแบบที่ไหน และแล้วคำ ๆ นึงก็ผุดขึ้นมาในหัวสมองค่ะ สำหรับวันว่าง ของผู้หญิงสวย ๆ คงต้องรี่เข้าสปา ไปนวดหน้านวดตัว ซักหน่อยท่าจะดี ว่าแล้ว ซอนย่าบิวตี้ก็รีบอาบน้ำแต่งตัว ด้วยยีนส์เข้ารูป เสื้อกล้ามสีดำ ปล่อยผมสยาย และแต่งหน้าอ่อน ๆ คว้าบู้ท ดอนน่าคาร์เรนคู่ใจใส่เท่ห์พร้อมยีนส์ และ ปราด้าน้ำตาลคู่ชีพ ฉีดพรมด้วยน้ำหอม กลิ่นแฮปปี้สีส้มของคลินิก ให้อารมณ์ใส ๆ หอม ๆ ก็พร้อมจะออกไประเริงเมือง หยิบกุญแจรถขึ้นมา แต่แล้วก็หน้ามุ่ย เพราะคิดถึงรถติด ย่านสยาม และการหาที่จอดรถที่แสนยากลำบาก กรี๊ดดดดดด ทำไมผู้หญิงสวย ๆ อย่างดิฉันไม่มีผู้ชายมาขับรถให้คะ ว่าแล้ว ก็ปากุญแจรถลงบนโต๊ะอย่างหัวเสีย พร้อมเชิดหน้า ตั้งมั่นว่าวันนี้ดิฉันจะขึ้นแท๊กซี่ค่ะ ไม่ขับรถเองเด็ดขาด เพราะถือว่าวันนี้เป็นวันพักผ่อน ดิฉันจึงเรียกแท๊กซี่จากสาธร ไป ดิเอ็มโพเรี่ยมค่ะ ถึงประมาณเที่ยงกว่า ๆ ต๊าย ตาย นี่ขนาดกลางวี่กลางวัน ของวันธรรมดา ยังรถติดค่ะ เพราะ อีตาแท๊กซี่พาดิฉันมาทางพระรามสี่ แล้วเข้าซอยโผล่ออกสุขุมวิท ที่ต้องผ่านร้านอาหารซีฟู้ดที่มีกุ้งแดง ๆ ตัวใหญ่ ๆ หน้าร้านหน่ะค่ะ ประมาณ ร้อยเมตรจะถึงห้าง รถก็ติดอยู่นั่นไม่ขยับซักที ชะรอยว่าคงมีปริมาณรถหนาแน่นที่ถนนสุขุมวิท ไม่ไหวแล้วค่ะ ดิฉันหยิบแว่นกันแดดกุ๊ชชี่ออกจากปราด้าใส่ทันทีแล้วบอกคนขับว่า พี่คะ หนูลงตรงนี้แหละรถติดเหลือเกิน ถ้าพี่ไม่อยากไปติดสุขุมวิท พี่ก็หาทางกลับรถไปเส้นพระรามสี่เหมือนเดิมนะคะ พร้อมยี่นเงินไปให้ ร้อยห้าสิบ พี่แท๊กซี่ทำหน้าประมาณว่า ขอบคุณเหลือเกิน น้องช่างเป็นแม่พระของพี่ ใส่ดิฉัน.... ก้าวลงจากแท๊กซี่ ก็ต้องหยิบปราด้าบังแดดค่ะ แดดแรง แสงยูวีเป็นอันตรายต่อผิวสาว ว่าแล้ว ก็พลันเหลือบไปเห็น อีแก่ขอทานนางนึง ผมเผ้ารุงรังใส่เสื้อผ้ากระรุ่งกระริ่ง นั่งพับเพียบริมทางเท้า มีกะโหลกกะลา วางอยู่หน้าตักขอเศษตังค์ สงสัยกลัวคนจะไม่เห็นหรือไงไม่ทราบ ว่าดิฉันเป็นขอทาน และจะขอเงินคุณ หล่อนเลย เอาขวดน้ำพลาสติก สองอัน มานั่งเคาะกัน พร้อมแหกปากลั่น จะฟังเป็นเพลงก็ไม่เป็นเพลง ดิฉันมองด้วยสายตารังเกียจ และรำคาญ เมื่อไหร่คนพวกนี้จะหมดจากสังคมไทยคะ สังคมจะได้ดูดีขึ้นมาบ้าง อายนักท่องเที่ยวเค้าตายเลยที่ประเทศไทยงามหน้า มีแต่ขอทาน ดิฉันแสยะปากอย่างรังเกียจพร้อมเดินเลี่ยงหล่อนห่างไปสามวา กลัวรังสีขอทานจะติดมั้งคะ แล้วรีบเข้าห้าง หิวแล้วค่ะ ไปหาซีซาร์สลัดกินสวย ๆ ที่เกร์ฮาวนด์คาเฟ่ดีกว่า กับน้ำส้มคั้นซักแก้ว แล้วค่อยไปนวดหน้าทำเล็บ ดิฉันใช้เวลาในห้างสามชั่วโมงค่ะกับกิจกรรมทั้งหมด และแล้วเพื่อนสาวนางนึงก็โทรมา ให้ดิฉันรีบไปหาด่วน เพราะหล่อนวางแผนจะพาร์ตี้วันศุกร์นี้ค่ะ เอาหล่ะ ไปก็ไป ดิฉันรีบออกจากห้าง ทางเดิมเพื่อจะรอเรียกแท๊กซี่ที่ผ่านซอยนั้นตัดเข้าพระรามสี่สาทร กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด ยัยแก่ขอทานนั่นยังนั่งอยู่ที่เดิมค่ะ แหกปากร้องเหมือนเดิม เหงื่อไหลไคลย้อยเพราะแดดร้อนมาก และแล้วดิฉันก็ฉุกคิด ตลอดเวลาสามชั่วโมงที่ดิฉันเดินตากแอร์เย็นฉ่ำ กินอาหารดี ๆ นวดหน้านวดตัวทำเล็บ หมดเงินไปเกือบแปดพันบาท ไม่ถึงครึ่งวัน คุณยายคนนั้น ยังมีเงินในขันไม่ถึงยี่สิบบาท ทั้ง ๆ ที่คุณยายพยายามตะโกนร้องเพลงตลอดสามชั่วโมง ถ้าวันใดวันนึงดิฉันต้องตกอยู่ในสภาพนั้นบ้าง ดิฉันจะ หาขวดมาเคาะและตะโกนร้องเพลงติดต่อกันได้สามชั่วโมงมั้ย ความละอายใจบังเกิดจากไหนไม่ทราบค่ะ ไม่รู้ว่าไอ้ที่เห็นตอนแรกและคิดตอนแรกนั้น ดิฉันเอา หัว หรือ หัวแม่เท้าคิด ทำไมจิตใจดิฉันถึงแคบอย่างนี้ ดิฉันควานเศษตังค์ ได้ประมาณเกือบห้าสิบบาท ทั้งเหรียญและแบ้งค์ และใส่ลงขันของยายคนนั้น แล้วเรียกแท๊กซี่ไปหาเพื่อน ตลอดเวลาที่นั่งรถไปหาเพื่อน ดิฉันไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรถึงให้สตางค์ขอทาน เพราะแอนตี้เรื่องขอทานมาก และไม่เคยคิดจะให้เศษตังค์เลยแม้แต่บาทเดียว แต่ให้ครั้งนี้ มันกลับเกิดความรู้สึกดี ๆ เล็ก ๆ ในมุมนึงของจิตใจ แม้เงินที่ให้จะเทียบไม่ได้เลยกับเศษเสี้ยว ของเงินค่าใช้จ่ายทั้งหมดในวันนี้ของซอนย่า
29 ตุลาคม 2547 04:49 น. - comment id 78500
ชีวิต...คือชีวิต...ต่างเวียนว่าย
29 ตุลาคม 2547 08:11 น. - comment id 78501
ถ้าเราหันมาใส่ใจอกเขาอกเรา มันก็เป็นอย่างนี้แหล่ะครับน้องชอนย่า \"ถ้าเราเป็นเขา เราจะทำยังไง\" คำถามนี้ ถ้าถามตัวเองบ่อย ๆ ความฉลาดและเข้าใจในสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นกับเรา มันก็จะเกิด และเมื่อมันเกิดขึ้นมาจริง ๆ รับก็รับมือกับสิ่งนั้นได้ +-*-+ +-*-+-*-+ปู๊ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+ +-*-+
29 ตุลาคม 2547 10:40 น. - comment id 78502
มองเขา แล้วย้อน คิดถึง ตัวเรา ซึ่งอาจเป็น เช่นนั้นได้ อยู่ร่วมกัน บนโลก หนึ่งใบ รักกัน ไว้เถิด คนเหมือนกัน .................................. เงินทองเป็นของนอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้ นะคะ........ดีแล้วค่ะที่คิดได้
29 ตุลาคม 2547 12:09 น. - comment id 78506
เพราะพี่ซอนย่า ยังคงเป็นนางงามเสมอไงล่ะครับ ไม่เพียงแต่รักเด็กนะ คนชรายังรักเลยยย พุ่กันชอบจังที่พี่ซอนมีน้ำใจอย่างงี้ แต่ว่าตังค์ที่ไปเสริมสวยในห้างน่ะ แบ่งเอามาเสริมหล่อพู่กันสักพันสิครับ...ดิม๊า ๆ คิคิคิ... เพราะสังคมยังมีช่องว่างทางชนชั้น คนที่รวยก็รวยล้นฟ้า คนที่จนก็แทบจะไม่มีอะไรประทังท้อง สงสารเด็ก ๆ ที่ต้องมาขอทานกับพ่อกับแม่ด้วย พู่กันมองอนาคตพวกเค้าไม่เห็น วันหน้าของพวกเขาคงไม่พ้นอาชญากรรมย่อย ๆ ที่นับวันจะผุดขึ้นมาในสังคม..วุ่นวาย สับสน สุดท้ายคือสูญเสีย เสียทั้งชาติ เสียทั้งชีวิต...เอ๊ะ เอ๋ พู่กันพล่ามอีกแล้วพี่ซอน..นึกว่าหน้าของตัวเอง ...ต้องไปก่อนครับ ร็อคคิดถึงพี่ซอนนะ
29 ตุลาคม 2547 15:31 น. - comment id 78507
เปิดหม้อไม่มีข้าวสุก เปิดสมุก ไม่มีข้าวสาร จึงมานั่งจนจ่อขอทาน ใครมีข้าวสารหว่านทานเอาบุญ เคยฟังพวกตลกเขาร้อง เพลงขอทาน เขาว่าจำมาจากของเก่า คนที่เขาไม่มีจริง ๆ มาขอก็เยอะ แต่แบบหมู่บ้านขอทาน ก็มาก มากันทั้งหมู่บ้านโดยที่ไม่ใช่คนยากจน แต่มาทำงานในช่วงว่างงานนา อิอิ
3 พฤศจิกายน 2547 04:23 น. - comment id 78655
ต้นๆกลัวความคิดความรู้สึกคุณ ถ้าทุกฅนแบบนี้ ....... น่าจะเป็นปัญหาใหญ่นะเราว่า หัวใจเราทำด้วยอะไร ...... แต่มาตอนท้ายก็รู้สึกดีนืดๆ อย่างน้อยคุณยังมีความละอายใจ คืดเสียว่าไม่มีใครที่อยากอยู่ในสภาพขอทานหรอกนะ ... แม้กระทั่งตัวคุณเอง