เพียงลมพัดผ่าน

ลูกเป็ดขี้เหร่

เราเข้ากันไม่ได้หรอกนะ  กลับไปซะ  ฉันรู้ว่าคุณไม่มีความจริงใจ และฉันเองก็ไม่ได้พิศวาสอะไรคุณด้วย ขอล่ะนะคะ  คุณกลับไปดีกว่า  ฉันพยายามพูดจาสุภาพกับคุณแล้ว  คุณควรจะไปหาผู้หญิงที่เขามั่นใจในตัวคุณมาเป็นแฟนจะดีกว่านะคะ
             ลมเอื่อยๆพัดผ่านไปมา ผ้าม่านในห้องเล็กๆกระทัดรัดบลิวว่อนตามสายลม เปลือกตาทั้งสองข้างของหญิงสาวเริ่มปิดสนิท ด้วยความผ่อนคลายท่ามกลางความมืดมิดที่กำลังคืบคลานเข้ามา
            เช้าวันใหม่ สาวเจ้าก็ออกไปทำงานตามปกติ ด้วยใบหน้าเหม่อลอย ไร้ความรู้สึก 
ทิชา... มาแต่เช้าเชียวนะ เพื่อนร่วมงานของเธอทัก อืม...ไม่อยากอยู่บ้านน่ะ เธอตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ      เอ.... เมื่อวานได้ข่าวว่ามีหนุ่มนักธุรกิจมาขอความรักถึงหน้าบ้านเลยไม่ใช่เหรอ  ไงจ๊ะ จะแจกการ์ดเมื่อไหร่   ไม่หรอก ..ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว  ทิชาสีหน้าแย่ขึ้นทันที    
                                                       .................................................................................
         ฉันไม่ค่อยอยากจะพูดถึงเรื่องนี้ซักเท่าไหร่  ฉันไม่เคยมีคนรักเลยมาทั้งชีวิต จริงอยู่ที่มีคนเข้าๆออกๆในชีวิตของฉันมากมาย  แต่พวกเขาก็ไม่เคยทำให้ฉันมั่นใจได้เลยซักครั้งว่าเขาเหล่านั้นรักฉันจริง และฉันก็ตั้งใจเอาไว้ว่าหากชาตินี้ ฉันหาคนที่ฉันเชื่อมั่นในรักไม่ได้  ฉันก็จะขออยู่เป็นโสดไปทั้งชาติ
         ผ่านไปราวๆ 5 ปีเห็นจะได้  อายุของฉันย่างเข้า 30 แล้ว แต่ก็ยังหาใครที่ฉันรักไม่ได้ซักที ชาตินี้ฉันคงต้องอยู่เป็นโสดไปทั้งชาตินั่นแหละ  เทวดาฟ้าดินคงอยากให้ฉันเป็นอย่างนั้น
                        เฮ้ย....ไปดูหน้าบริษัทเร็ว....!!! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว  ว๊าย!!! รถชน.... จะมีใครตายมั้ยนะ  อย่าบังฉันสิ ฉันขอดูหน่อย   
     เสียงเอะอะโวยวายอยู่หน้าบริษัท  พนักงานทุกคนไม่เป็นอันทำงาน  เกิดอุบัติเหตุรถชนคนอาการสาหัส  รถพยาบาลได้นำตัวผู้บาดเจ็บไปแล้ว ผ่านไปราวๆ 3 ชั่วโมง เหตุการณ์ก็กลับสู่ปกติ
              โอ้ย...นี่ฉันอยู่ที่ไหน  คุณๆ คุณฟื้นแล้ว ดีจัง  คุณหมอครับ คนไข้ฟื้นแล้วครับ  
      ฉันเพิ่งรู้สึกตัว  ฉันกำลังนอนนิ่งอยู่บนเตียงสีขาว นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน    สักพัก ฉันก็เห็นผู้ชายคนนึงเดินเข้ามา  ใช่แน่..เขาคือหมอ  นี่ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลเหรอเนี่ย  แล้ว.........แล้วฉันเป็นอะไร
      ใจเย็นครับคุณทิชา  คุณประสบอุบัติเหตุรถชนเมื่อ 2 วันก่อน  และคนนี้คือคนที่ชนคุณครับ  หมอกวาดมือไปยังผู้ชายอีกคน คะ..ครับ  ผมต้องขอโทษด้วย คือ ผมไม่ได้ตั้งใจ   ไม่เป็นไรค่ะ  ฉันยังไม่ตายซักหน่อย
ฉันยิ้มให้ชายคนนั้น เพื่อแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจ  
         เวลาผ่านไปซักพัก   อาการของฉันก็ดีขึ้น  เขาคนนั้นได้มาเยี่ยมฉันทุกวัน  
ฉันหายดีแล้วค่ะ  วันหลังคุณไม่ต้องมาก็ได้นะคะ  ลำบากเปล่าๆ  ไม่เป็นไรครับ  ผมเต็มใจจริงๆ    เขายังคงรั้นที่จะมาเฝ้าไข้ฉัน  คอยดูแลฉันสารพัด   ฉันเริ่มรู้สึกดีกับเขา  และฉันก็เชื่อว่า นี่คือความรัก  แต่...ฉันกลัวใจตัวเองเหลือเกิน
         ผมมาเยี่ยมคุณทุกวัน  แต่ก็ไม่เคยเห็นญาติพี่น้องของคุณเลย  เอ่อ..คุณไม่..เอ่อ ค่ะ  ฉันไม่มีญาติ   ฉันอยู่ตัวคนเดียวค่ะ เป็นเด็กกำพร้า ไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าหน้าตาของพ่อกับแม่ที่แท้จริง เป็นยังไง  ผมขอแสดงความเสียใจนะครับ  ไม่เป็นไรค่ะ  ฉันไม่ซีเรียสอยู่แล้ว...^ - ^  เอ่อ  ฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลยค่ะ  อ๋อ...แหะๆๆ ครับ ผมก็ลืมไป  ผมชื่อพิพัฒน์ครับ  ...........................
          วันนี้ฉันหายเป็นปกติแล้ว  หมออนุญาตให้ฉันกลับบ้านได้  เขาก็มารับฉันไปส่งบ้านและขอเป็นเพื่อนกับฉัน  ฉันก็ยินดีนะ  ดีใจมากด้วย  อย่างน้อย ฉันก็จะได้ไม่เหงา
  เขาเฝ้าเอาอกเอาใจฉันสารพัด  พูดคุย ให้คำปรึกษา  เราแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในทุกเรื่อง จนเกิดเป็นความผูกพัน  เขาบอกรักฉัน  ฉันไม่เคยแน่ใจกับใครเท่าเขาเลย  แต่ฉันก็ไม่อยากจะปักใจว่าเขารักฉันจริง
   คุณทิชาครับ  ผมว่ามันน่าจะถึงเวลาซะที  คือ ผมอยากจะบอกคุณว่า..   ไม่ต้องบอกหรอกค่ะ  ฉันไม่อยากฟัง      ทำไมล่ะ   เพราะมันไม่ใช่ความจริงไงคะ  มันคือความจริงครับ ผมรักคุณ  ผมรักคุณมาก  และผมก็เชื่อว่าคุณก็คิดเหมือนกับผม มันจะมีทางเป็นไปได้ไหมครับ  ถ้าเราจะคบกัน  คือ.........ฉัน......   ฉันปล่อยให้ความเงียบเข้าคลอบงำ  น้ำตาฉันเริ่มรินไหล  ตามมาด้วยเสียงสะอื้น คุณร้องไห้?   ฉัน..ฉันไม่รู้ว่าฉันเป็นอะไรไป  ฉันสับสน  ฉันกลัว  ฉัน.....เอ่อ..  น้ำตาของฉันไหลอย่างไม่มีท่าทีว่าจะเหือดแห้ง  เขาก้าวมาหาฉัน  เช็ดน้ำตาฉัน แล้วยิ้มให้อย่างจริงใจ  คุณรักผม...คุณก็น่าที่จะมีความสุขนี่ครับ ฉันกลัว..กลัวความผิดหวัง กลัวการพลัดพราก  ฉันไม่อยากสูญเสีย ฉันไม่อยากเจ็บปวด .................  คุณทิชาครับ  น้ำเสียงของเขาเบาลง ผมให้สัญญา ผมจะไม่มีวันทำให้คุณต้องเจ็บปวด  คุณสบายใจได้  เขาโอบกอดฉันไว้ในอ้อมแขน  วินาทีนี้ฉันไม่ต้องการรับรู้อะไรอีกแล้ว  หากทำได้  ฉันอยากให้เวลาหยุดลงแค่นี้ด้วยซ้ำไป
               ความสัมพันธ์ระหว่างเราไปได้ด้วยดี  ฉันยิ้มได้ทุกครั้งเมื่อคิดถึงเขา  ถ้ามีเขาอยู่ฉันคงไม่กลัวอะไรอีกแล้ว   ทางบริษัทเห็นว่าฉันหายเป็นปกติดีแล้ว  จึงจัดงานเลี้ยงรับขวัญให้กับฉันที่ชะอำ  ฉันพาเขาไปด้วย เมื่อไปถึงที่พัก  ทุกคนก็ได้พบกับความสนุกสนาน  
      ว้าว!  หาดทราย สายน้ำ เสียงคลื่น แสงแดด  วิเศษที่สุดเลย  เสียงของพนักงานคนหนึ่งดังขึ้น  ฉันจูงมือเขาไปยังที่พัก  ฉันไม่เคยสุขใจอะไรเท่านี้เลย
                  เอาล่ะ..ทุกคน  ค่ำนี้เราจะไปทานอาหารทะเลข้างนอกกัน ขอให้ไปกันทุกคนนะ  เสียงของผู้จัดการดังลั่นไปทั่วทุกสารทิศ     
             พิพัฒน์  คุณจะไปด้วยมั้ย  ไม่ล่ะ  ทิชาไปเถอะ ผมเฝ้าที่พักให้  แต่คุณไม่สบายนะ  ฉันไม่อยากทิ้งคุณ  ผมดูแลตัวเองได้ครับ  คุณวางใจเถอะ  เขาจัดงานนี้เพื่อคุณนะ  คุณจะไม่ไปได้ไง............
        ถ้างั้นคุณทานยาซะนะคะ  แล้วเดี๋ยวฉันจะรีบกลับ  จะซื้อของโปรดที่คุณชอบมาฝากด้วย  ฉันห่มผ้าให้เขาอย่างนิ่มนวล  เขายิ้มให้  ทำเอาฉันใจหายยังไงไม่รู้
             อ้าว..ชนๆ  ดื่มกันให้เต็มที่  เฮ้..ทิชา  ดูท่าทางไม่สนุกเลยนะ  ยิ้มหน่อยเด้  พวกพนักงานพยายามสร้างความสนุกสนาน  แต่ฉันก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้  นั่น...ควันไฟนิ่  ไฟไหม้ที่ไหนน่ะ  พนักงานสาวตะโกนออกมา  ไหน...  นั่นมัน  ที่พักนิ่  พิพัฒน์  เฮ้..ไปช่วยพิพัฒน์เร็ว   ฉันร้องโวยวายไม่เป็นภาษา  วิ่งนำทุกคนไปยังที่พัก พนักงานดับเพลิงกับไทยมุงเต็มไปหมด    น้ำตาฉันเอ่อล้นออกมาอย่างไม่รู้ตัว  ไม่นะ  เขาต้องไม่ทิ้งฉันไป  ใครก็ได้  ช่วยที  แฟนฉันอยู่ในนั้น  อย่าให้เขาตายนะ  ช่วยเขาที  ใครก็ได้ ฉันร้องไห้ออกมาเหมือนคนบ้า พนักงานคนอื่นๆคอยดึงฉันไม่ให้เข้าไปข้างใน  ฉันกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง  เขาต้องไม่เป็นอะไร   เขาไม่มีวันทิ้งฉันให้อยู่คนเดียว  ภาพต่างๆเริ่มจางลง  ดวงตาฉันปิดสนิทลงด้วยความอ่อนล้า....................
       เฮ้..ทิชาฟื้นแล้ว   พิ.......พัฒน์..  พิพัฒน์ล่ะคะ   ฉันน้ำตาคลออีกครั้ง  สีหน้ารอความหวัง  ขะ..เขาไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ  ฉันยังคงถามต่อ  ทิชา...ทำใจเหอะนะ  เขาไปสบายแล้วล่ะ
           ไม่....ไม่จริง  เขาสัญญากับฉันไว้แล้ว ว่าจะไม่ทิ้งฉันไป  มันคือความฝันใช่ไหม  ทำไม  ทำไมชีวิตฉันถึงเจอแต่เรื่องพลัดพราก  ฉันไม่เหลือใครอีกแล้ว  แม้แต่คนรักของฉัน  เขาก็ยังจากไป  แล้วฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร
                                         .............................................................................................
                   หลังจากงานศพของเขา  ฉันก็กลายเป็นผู้หญิงเงียบ  เหม่อลอย  เหมือนก้อนเมฆที่ลอยเคว้งคว้างบนท้องฟ้า   ความรัก...ความรักคืออะไรกันแน่  ไม่จริงอีกแล้ว  ความรักไม่ใช่สิ่งสวยงาม  ความรักไม่เป็นสีชมพู                                                                                                           สำหรับฉัน...  สำหรับชีวิตที่เลวร้าย   ความรักมันไม่จำเป็นอีกต่อไป   มันเป็นเพียงแค่สายลมที่พัดผ่านมา  แล้วก็ผ่านไปเท่านั้น  ไม่มีใครหรอกที่จะดึงสายลมนั้นให้คงที่ได้   เจ็บเหลือเกินกับชีวิตนี้   ไม่เอาอีกแล้ว .......  ความรัก   ฉันคงไม่อาจต้านทานอนุภาพของมันได้อีกต่อไป  พอกันทีกับสายลมที่พัดมาทักทายฉันเพียงเท่านั้น  พอกันที.......กับการพลัดพราก  พอกันทีที่จะต้องสูญเสีย...............................
                                                                                                                                ลูกเป็ดขี้เหร่				
comments powered by Disqus
  • windsaint

    17 ตุลาคม 2545 22:23 น. - comment id 66729

    เศร้าแฮะ งานนี้ 
    
    อ้อลืมปาย อนุญาติ นะจ๊ะ
  • x

    17 ตุลาคม 2545 22:43 น. - comment id 66730

    ผมว่านะ ..ก็เศร้าดี
  • ลูกเป็ดขี้เหร่

    19 ตุลาคม 2545 16:31 น. - comment id 66740

    เศร้า..แล้วมันดีตรงไหนอ่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน