อนิจจา.....ถนนสายดอกกุหลาบ

มณี ปัทมะ ตารา

ทางเดินแห่งชีวิต    แต่ละคนย่อมเดินอยู่บนหนทางที่แตกต่างกัน    บางคนตลอดระยะเวลาการเดินทางล้วนโรยด้วยกลีบกุหลาบ    หนทางคงสวยสดงดงาม    กรุ่นหอมไปด้วยธรรมชาติของดอกไม้
ใครจะรู้บ้างว่า    กว่าจะบรรจงดึงกลีบกุหลาบอันนุ่มและบอบบางแต่ละกลีบ    ต้องทะนุถนอมขนาดไหน    ผิวอันบอบบางบนฝ่ามืออันอ่อนนุ่ม    ถูกทิ่มตำและบาดลึกด้วยหนามแหลมคมของกุหลาบแต่ละดอก    กว่าจะโรยกลีบให้เต็มถนน    มือก็เจ็บระบม    บาดลึกเป็นแผลใหม่    ซ้ำแทงลึกลงรอยแผลเก่าให้ปวดร้าวหนักขึ้นไปอีก
ทุกคนอยากมีถนนสายดอกกุหลาบเป็นของตนเอง    บางคนก็รู้ความหมายและบั้นปลายแห่งการเดินทาง    แต่บางคนแทบไม่รู้เลยว่า    ถนนที่โรยโปรยกลีบไว้เพื่อให้สวยสดงดงามอย่างผู้อื่น    กลับไม่มีกลิ่นอายความหอมหวลของธรรมชาติอย่างที่ควรจะเป็นอยู่เลย
ทำอย่างไรได้เล่า.....นอกจากอดทนโปรยกลีบกุหลาบลงบนเส้นทางเดินของตนเองต่อไป    แต่ก็สดชื่นหัวใจและดื่มด่ำกับความงามที่กรุ่นอวลหอมหวล    ด้วยเข้าใจในธรรมชาติของดอกไม้ทุกครา   เปรียบประดุจได้เบ่งบานอยู่ในดวงจิต.....ช่างมีความสุขเสียนี่กระไร
ระเบียบกฎเกณฑ์ที่ถูกต้อง    ตั้งอยู่บนความเอารัดเอาเปรียบ    เพียงเพื่อหาสรรเสริญแห่งตน   คือปกติธรรมดาของสังคม    บนความสุขย่อมมีความทุกข์    และบนความทุกข์    ความสุขก็เบียดคู่มาตลอด
ท่ามกลางการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น    ซึ่งมีอยู่ในสังคมมนุษย์ทุกระดับ    แต่ก็ยังมีความอุ่นอวลของความเมตตา   กรุณา  อยู่ในสังคมทุกระดับเช่นกัน
ชีวิตเต็มไปด้วยปรัชญา    แต่อนิจจา.....ก็ไม่สามารถไขปรัชญาแห่งชีวิตของตนเองออก    เพราะบังเอิญเป็นปรัชญาที่จดจำมาจากผู้อื่น   ดูช่างไร้ความหมาย   เพราะไม่ได้ซึมเข้าไปจุดประกายปัญญาตนเองอย่างแท้จริง
อนิจจา.....ถนนสายดอกกุหลาบ.....จึงปราศจากความกรุ่นอวลหอมหวลตามธรรมชาติไปโดยสิ้นเชิง.....อนิจจา				
ขวากหนามหาใช่มีเพียงแค่ก้านกุหลาบ.....วิถีธรรมชาติ   เรียบง่ายที่สุด    ถึงจะเป็นถนนสายรกร้าง    ก็ยังงดงามเช่นกัน    ท่านพระจันทร์ยิ้ม.....คุรุแห่งมณี   กล่าวว่า

 เดินไป...ดูทาง
ปล่อยวาง...ดูตน
สับสน...ดูใจ
หนทาง...กว้างไกล
สงบใจ...สงบตน  

รักด้วยเมตตา   รักด้วยกรุณา    นำพาสู่วิมุติ   ก็โรยโปรยกลีบด้วยกุหลาบเช่นกัน    โรยโปรยไป    มีความสุขใจ   แล้วก็ต้องเข้าไปดับสุขอีกที    เพื่อวิมุติอย่างแท้จริง...ทั้งทุกข์และสุข

ทุกก้าวย่าง   ก้าวไปอย่างระมัดระวัง    ทว่าให้มั่นคง    ถึงแม้หนามที่ซ้อนอยู่    จะคงปรากฏ    ไม่มีหนทางไหนที่ไร้อุปสรรคและขวากหนาม    ความรู้สึกเก่าๆ    หากเราจดจำและต้องการให้มันเกิดขึ้นอีก    ย่อมอันตรธานหายไป    เพียงแต่ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ   สิ่งนั้นก็ไม่สามารถทิ่มตำใจเราได้อีก    นอกจากคอยแต่งเติม   แต้มสีสรรค์   ถักต่อทอสายแห่งถนนดอกกุหลาบ    ให้งดงามต่อไป   และต่อไป.....

มณี  ปัทมะ  ตารา				
comments powered by Disqus
  • ลอยไปในสายลม

    7 ตุลาคม 2547 20:11 น. - comment id 77848

    ก็คงจริงนะคะ ไม่มีที่ๆไหนโรยกลีบกุหลาบที่ไร้หนามหรอกค่ะ
    
    แวะมาทักทายค่ะ อิ อิ
  • พุดพัดชา

    7 ตุลาคม 2547 21:04 น. - comment id 77854

    มาชื่นชมงานงามค่ะ
    งานคุณมณีให้งามใจมากค่ะ
    พุดชอบสีตังหนังสือแล้วค่ะ
    เข้ากับงานงามนะคะ
    ********
    
    พุดรักดอกไม้
    และธรรมชาติชีวิตที่ดิบเดิมค่ะ
    ไม่ว่าถนนสายนั้นจะเป็นสายดอกไม้หรือสายรกร้าง
    หากพาพุดไปสู่วิถีแห่งความงามเงียบเรียบง่าย
    พุดไม่รีรอที่จะก้าวเดิน
    และพุดก็ไม่เพลินจนลืมไปว่าถนนชีวิตของเรานั้น
    มิอาจจะรู้จุดจบวันไหน
    แต่ละก้าวจึงเดินด้วยหัวใจที่ใสงาม
    ทำคุณงามความดีเท่าที่จะทำได้ให้ได้แด่เพื่อน
    มนุษย์และแด่ผู้เป็นที่รักค่ะ
    และจะเพิ่มความเพียรสร้างกุศลจิตให้มากขึ้นๆค่ะ
    
    ด้วยชื่นชมศรัทธา
  • มณี ปัทมะ ตารา

    8 ตุลาคม 2547 09:26 น. - comment id 77862

    .....ขวากหนามหาใช่มีเพียงแค่ก้านกุหลาบ.....ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้ค่ะ
    
    ขอธรรมะคุ้มครองคุณลอยไปในสายลมค่ะ
  • มณี ปัทมะ ตารา

    8 ตุลาคม 2547 09:31 น. - comment id 77863

    วิถีธรรมชาติ   เรียบง่ายที่สุด    ถึงจะเป็นถนนสายรกร้าง    ก็ยังงดงามเช่นกันค่ะ
    
    ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจที่มีให้ตลอดมาค่ะ
    ขอให้คุณสมปรารถนาในสิ่งที่คุณพุดปรารถนาค่ะ
    ขอธรรมะคุ้มครองคุณค่ะ
  • prajanyimm

    9 ตุลาคม 2547 12:55 น. - comment id 77887

    เดินไป...ดูทาง
    ปล่อยวาง...ดูตน
    สับสน...ดูใจ
    หนทาง...กว้างไกล
    สงบใจ...สงบตน
  • อาภาภัส

    9 ตุลาคม 2547 16:08 น. - comment id 77892

    รักมีหลายแบบนะ  ...
         หากมนุษย์  ..เลือกทางแห่งวิมุติ นั่นก็น่าจะเรียกรักเหมือนกัน  แล้วมันก็ยังคงปูทางด้วยกุหลาบเหมือนเดิมไม่ใช่เหรอ    แต่เป็นแบบเส้นทางนั้นๆน่ะ     สุขตามใจ  ..ไม่ใชเหรอ
  • มณี ปัทมะ ตารา

    9 ตุลาคม 2547 17:33 น. - comment id 77895

    ถนนสายดอกกุหลาบของมณี     มีพระจันทร์ยิ้มคอยส่องแสงอำไพ    ห่างกันไกลแสนไกล    ท่านยังคอยห่วงใยคอยพร่ำสอนตักเตือนเรื่อยมา
    
    พระจันทร์ยิ้มท่านเมตตา    แม้ไม่เคยพบหน้าค่าตาท่านอาจารย์สักที     มีแต่รัศมีจันทร์แสนไฉไล    คอยอาบนวลใยให้ศิษย์คนนี้ทุกราตรี
    
    พระจันทร์ยิ้มท่านยามพาที     ศิษย์นี้แสนรื่นเริง   บันเทิงใจ    สดใส   ปัญญาเริ่มผลิใหม่อีกครา
    
    ขอธรรมะคุ้มครองท่านพระจันทร์ยิ้ม...คุรุแห่งมณีค่ะ
  • มณี ปัทมะ ตารา

    9 ตุลาคม 2547 17:40 น. - comment id 77896

    ...รักด้วยเมตตา   รักด้วยกรุณา    นำพาสู่วิมุติ   ก็โรยโปรยกลีบด้วยกุหลาบเช่นกันค่ะ
    
    โรยโปรยไป    มีความสุขใจ   แล้วก็ต้องเข้าไปดับสุขอีกที    เพื่อวิมุติอย่างแท้จริง...ทั้งทุกข์และสุข
    
    ขอบพระคุณในความเมตตาสำหรับกำลังใจที่คุณอาภาภัสมอบให้ค่ะ
    ขอธรรมะคุ้มครองคุณค่ะ
  • น.นิรัติศัย

    10 ตุลาคม 2547 15:35 น. - comment id 77935

    บางครั้งถนนที่โรยด้วยกลับกุหลาบมันมีหนามซ้อนอยู่ จงอย่าคิดว่า หนทางนั้นไม่มีอุปสรรค์ จงก้าวไปอย่างช้าๆ แต่ไม่อาลัยกับความรู้สึกเก่า เพราะนั่นคือสิ่งที่คอยตำใจอยู่ เดินต่อไป ต่อไป และต่อไป...
  • มณี ปัทมะ ตารา

    10 ตุลาคม 2547 20:28 น. - comment id 77942

    ทุกก้าวย่าง   ก้าวไปอย่างระมัดระวัง    ทว่าให้มั่นคง    ถึงแม้หนามที่ซ้อนอยู่    จะคงปรากฏ    ไม่มีหนทางไหนที่ไร้อุปสรรคและขวากหนาม
    
    ความรู้สึกเก่าๆ    หากเราจดจำและต้องการให้มันเกิดขึ้นอีก    ย่อมอันตรธานหายไป    เพียงแต่ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ   สิ่งนั้นก็ไม่สามารถทิ่มตำใจเราได้อีก  
    
    นอกจากคอยแต่งเติม   แต้มสีสรรค์   ถักต่อทอสายแห่งถนนดอกกุหลาบ    ให้งดงามต่อไป   และต่อไป.....
    
    ขอบพระคุณในความเมตตาของคุณน.นิรัติศัยสำหรับกำลังใจค่ะ
    ขอธรรมะคุ้มครองคุณค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน