คืนแรกของกรุงเทพ แว่นแก้วหลับสนิท เพราะการเดินทางที่ยาวไกล เธอไม่เคยเดินทางไกลมากกว่า 10 ชั่วโมงมาก่อน ไหนจะลงจากดอยมาสู่ตัวจังหวัดเชียงใหม่ ไหนจะเดินทางผ่านแต่ละจังหวัด และยังจะมาเจอกับรถที่ติดยาวเหยียดของกรุงเทพอีก หัวถึงหมอนแว่นแก้วก็หลับสนิท ทั้ง ๆ ที่คิดไว้ว่ามากรุงเทพสิ่งแรกที่จะทำคือถึงจะเขียนจดหมายหาแสงเดือน หาแม่... ก็ทำไม่ได้ เพราะร่างกายสู้ความหนักของหนังตาไม่ได้ แว่นแก้วตื่นแต่เช้า พอลืมตาเธอตกใจกับห้องที่ใหญ่โต และดูแปลกไป แต่แล้วเมื่อตั้งสติได้ก็โล่งใจ บ้านคุณเชษฐา ไม่ใช่บ้านเธอ แว่นแก้วส่ายหัวเล็กน้อย แล้วลุกขึ้นล้างหน้า แปรงฟัน และอาบน้ำ จากนั้นก็เดินลงจากชั้นสอง อ้าว!! คุณแว่นแก้ว ตื่นแต่เช้าเลยนะคะ สาวที่กำลังถือจานข้าวต้มจานใหญ่มาวางที่โต๊ะอาหารทักทาย แว่นแก้วตื่นเวลานี้ประจำหน่ะคะพี่สาว ต้องลุกมาช่วยแม่นึ่งข้าว ทำกับข้าวจะได้ห่อไปกินที่โรงเรียน แม่แว่นแก้วทำอาหารอร่อยนะพี่สาว ทำทีหนึ่งนะแบ่งกินเกือบทั้งโรงเรียนเลย แว่นแก้วช่วยสาววางจานเป็นชุด ๆ ตามเก้าอี้ ขนาดนั้นเลยเหรอคะคุณแว่นแก้ว แว่นแก้วล้อเล่นหน่ะคะ แค่แบ่งเพื่อน ๆ ในกลุ่มกินก็พอแล้วคะพี่สาว เด็กสาวหัวเราะกิ๊ก คุยอะไรกันแต่เช้าจ๊ะเด็ก ๆ เสาวนีย์เดินมาที่โต๊ะอาหารแล้วนั่งลงที่ประจำของตัวเอง อรุณสวัสดิ์จ๊ะแว่นแก้ว ตื่นเช้าจังนะเรา อรุณสวัสดิ์ค่ะป้านีย์ แว่นแก้วทักตอบ นั่งลงสิ ไหน ๆ ก็ตื่นเช้าทานข้าวเช้าด้วยกันเลย เป็นไงบ้าง เมื่อคืนหลับสบายดีไหมจ๊ะ สบายมาก ๆ เลยค่ะป้านีย์ แว่นแก้วหลับสนิท คงเพราะเดินทางเหนื่อยหน่ะคะ แว่นแก้วนั่งที่เก้าอี้ข้าง ๆ เสาวนีย์ เธอนึกรักคำพูดช่างจำนรรจาของแว่นแก้วนัก ถ้าลูกสาวของเธอสดใสร่าเริง อ่อนหวานแบบแว่นแก้วคงจะดีไม่น้อย แต่ดูสิ ไม่รู้นึกอย่างไรของเขา กลายเป็นทอมบอยไปได้ แค่นั้นไม่พอ ยังจะเพลย์บอยอีก ดีนะ ที่การเรียนไม่เสีย ไม่อย่างนั้นคงกลุ้มใจมากกว่านี้แน่ ๆ เสาวนีย์เหลือบเห็นเชษฐาที่เดินลงมาพร้อมรอยยิ้ม อ้าวคุณ!! ไม่พักก่อนเหรอคะ เดินทางมาเหนื่อยไม่ต้องรีบเข้าบริษัทหรอกคะ เสาวนีย์ทักทายเชษฐาที่เดินมาทางโต๊ะอาหารแล้วนั่งลง ไม่เป็นไรหรอก มีงานค้างอีกเยอะ ผมหยุดนานแล้ว ตื่นเช้าจังนะแว่นแก้ว เชษฐาหันไปทักทายเด็กสาว เธอยิ้ม ตอบเพียง ค่ะ แล้วก้มหน้าคนจานข้าวต้มช้า ๆ ให้อุ่นจะได้ทานได้ จิรัชหล่ะคุณ วันนี้ไม่มีเรียนเหรอ ตื่นสายเชียว เชษฐาถามเสาวนีย์ถึงลูกสาวอีกคน แต่แว่นแก้วที่ได้ยินชื่อของจิรัชชา ถึงกับหน้าแดงถึงใบหู เธอก้มหน้างุด คนจานข้าวต้มแรงขึ้นเรื่อย ๆ อยู่อย่างนั้น จิรัช คนอะไรไม่อายฟ้าดิน!! ไม่มั้งคะ เมื่อคืนเข้าบ้านแล้วก็ออกไปต่อ ไม่รู้อะไรหนักหนา เอาๆๆ ช่างเค้า เรารีบทานกันดีกว่า เดี๋ยวรถจะติด เชษฐาตัดบท เขาเพียงแต่ดื่มกาแฟกับขนมปังสองสามชิ้นเท่านั้นเอง ส่วนเสาวนีย์ทานข้าวต้มเพียงเล็กน้อยกับกาแฟแก้วหนึ่ง และตรงหน้าของแว่นแก้วมีนมหนึ่งแก้วกับจานข้าวต้มที่ถูกคนจนจะเย็นชืด.... ทานนมด้วยนะลูก จะได้โตเร็ว ๆ เชษฐาพูดจบก็ลูบผมเด็กสาวแล้วลุกขึ้น เสาวนีย์เพียงยิ้มให้เธอแล้วลุกตามเชษฐาไป แว่นแก้วมองตามจนสองคนเดินออกจากบ้านและขึ้นรถขับออกไป ดูเหมือนคนขับรถจะเป็นจา เพราะเธอเห็นจาเดินมาเปิดประตูให้เสาวนีย์ แว่นแก้วละสายตาจากรถคันหรูแล้วก้มมองจานข้าวตัวเอง แม่พิกุล ถ้าเป็นเช้า ๆ แบบนี้เธอต้องทานข้าวกับแม่และยาย เด็กสาวถอนหายใจวางช้อนลงแล้วดื่มนมหมดแก้ว เธอดื่มนมเก่งเพราะแม่พิกุลให้ดื่มตั้งแต่เด็ก และเธอเองก็ชอบรสชาดของมันด้วย แว่นแก้วเดินเล่นหน้าบ้าน สวนของบ้านหลังนี้ แสนกว้างใหญ่ แว่นแก้วนั่งลงที่ชิงช้าเรือนไม้สักที่วางไว้กลางสวน มีต้นไม้ข้าง ๆ ให้ร่มเงา. แสงเดือนเช้า ๆ แบบนี้กำลังทำอะไรอยู่นะ ถ้าอยู่ที่นั่นคงไปสวนกับแม่ ไปดูคะน้าที่เพิ่งจะเอาลงแปลง กับหัวหอมที่เกือบ ๆ จะขายได้แล้ว ไปวิ่งเล่นแถว ๆ นั้น แอบเก็บแตงของสวนข้าง ๆ มานั่งกิน หรือช่วยแม่ใส่น้ำลงแปลงผัก แว่นแก้วถอนหายใจ คิดถึงบ้านจัง เด็กสาวเหม่อมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย จะต้องอยู่ที่นี่อีกนานไหมนะ. ตุ๊บ!!! แว่นแก้วสะดุ้ง มือใหญ่วางอยู่บนโต๊ะข้างหน้าเธอ เด็กสาวเงยหน้ามองเจ้าของมือที่ทุบโต๊ะ ใครกัน!!! แว่นแก้วลุกขึ้นอย่างทันที อีกฝ่ายมองหน้าเธอเคือง ๆ นัยย์ตาดุของคนนั้นจ้องเธอไม่วางตา เด็กสาวแม้จะกลัวแต่ก็จ้องกลับเหมือนกัน ตาเธอเองก็ดุใช่ย่อยเหมือนกันนะ เธอเป็นใคร! มาอยู่บ้านฉันได้ยังไง อีกคนในชุดนอนถามแว่นแก้วอย่างเอาเรื่อง แล้วคุณเป๋นไผ๋ ไข้ฮู้หย่ะหยั๋งบ่อถามดี ๆ ไม่ได้พูดเพราะตกใจ แต่พูดเพราะต้องการพูดแบบนั้น เอาให้งงไปเลย ฉันถามเธอก่อน อย่ามาย้อนฉัน! เสียงดุ ๆ ของอีกฝ่ายไม่ได้ทำให้แว่นแก้วกลัวแต่อย่างใด เด็กสาวกลับเชิดหน้า แล้วมองกลับอย่างท้าทาย บ่อบอก บ่อมีเหตุผลอะหยั๋งตี้ต้องบอกกับคนตี้บ่อฮู้จักจื่อ อย่ามายั่วโมโหฉันนะ ฉันถามเธอดี ๆ แล้วนะ เป็นเด็กเป็นเล็ก หัดเคารพผู้ใหญ่ซะมั่ง แล้วใครบอกให้เธอพูดภาษาเหนือกับฉัน ห๊า!! อีกฝ่ายทุบโต๊ะลงไปอีกที แว่นแก้วเฉยแล้วเดินเลี่ยงไป ไม่อยากเสวนากับคนขี้โมโหฉุนเฉียว ไร้เหตุผล หยุด!! ห้ามเดินหนีฉัน นี่เธอได้ยินไหม จิรัชชาคว้าแขนแว่นแก้วไว้แล้วรั้งให้หันมาหาตัวเอง เด็กสาวถลาตามแรงฉุดจนเกือบล้ม คุณจิรัช!! คุณจะทำอะไรคะ จิรัชชาปล่อยมือจากแขนของแว่นแก้ว เด็กสาวเดินไปหาเจ้าของเสียง ป้าเนียน อะไรป้า จิไม่ได้ทำอะไรนะ แค่ถามชื่อน้องเค้าเท่านั้นเอง จิรัชชาทำเสียงอ่อน แล้วเดินมากอดร่างอ้วนท้วนของป้าเนียน ป้าเนียนถอนใจ เป็นแบบนี้ทุกที คุณแว่นแก้วค่ะ ลูกสาวของคุณผู้ชายไงคะ อ๋อ.. เด็กบ้านนอกเองเหรอ ถึงว่าสิพูดภาษากลางไม่เป็น ไม่เป็นไรฉันไม่ถือ ป้าเนียนจ๋า จิหิวแล้วค่ะ มีอะไรให้จิกันมั่งคะ จิรัชชาหันไปออดอ้อนป้าเนียนโดยไม่ได้ใส่ใจอีกฝ่ายที่ลูบข้อมือด้วยความเจ็บ ดูสิบีบซะแน่นจนเป็นรอยมือเลย คอยดูนะ!! จิรัช... งั้นเหรอ คงจะเป็น จิรัชชาลูกสาวป้านีย์แน่ ๆ แว่นแก้วมองเคือง ๆ ไปทางจิรัชชา แม่ก็ออกจะนิสัยดี แต่ดูลูกสิแย่ชะมัด!! คอยดูนะ จะไม่พูดไทยกับคน ๆ นี้เลย คอยดู!! เอาให้งง จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับเรา แว่นแก้วหันซ้ายขวา ในขณะที่คิดว่าจะไปไหน ก็เหลือบเห็นลุงรักทำอะไรสักอย่างอยู่ตรงสวนอีกฟากของบ้าน เด็กสาวจึงเดินไปหา ลุงรัก ทำอะไรคะ แว่นแก้วช่วยไหม ไม่เป็นไรหรอกครับคุณหนูแว่นแก้ว เดี๋ยวเนื้อตัวสกปรกเปล่า ๆ ผมทำเองได้ครับ เรียก แว่นแก้วก็พอค่ะลุง เด็กสาวนั่งลงข้าง ๆ ลุงรัก ลืมไปแล้วเหรอคะ แว่นแก้วอยู่ดอยมาก่อนนะ สกปรกกว่านี้ยังเคยเลยค่ะ เวลาตามแม่ไปหาหอยหาปูแถวนาข้าวหน่ะ เปื้อนโคลนตั้งแต่หัวถึงเท้าเลยนะคะ ม่ะ!! แว่นแก้วช่วยดีกว่า ไม่มีอะไรทำมันเหงาหน่ะคะ เด็กสาวไม่พูดพล่ามทำเพลงคว้าเสียมมาขุดดินอย่างชำนาญ ปากก็คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ลุงรักฟัง เรื่องการผจญภัยในป่าเวลาออกไปหาหน่อไม้กับแม่ หรือเรื่องการเที่ยวตามลำน้ำกับแสงเดือนเพื่อนรัก เธอคุยจนลุงรักชักอยากจะไปเที่ยวแถวบ้านเธอซะแล้ว สาวยกน้ำมาให้แว่นแก้วและลุงรัก แล้วนั่งล้อมวงคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างสนุกปาก เรื่องสมัยสาวอยู่บ้านนอก หรือเรื่องสมัยลุงรักหนุ่ม ๆ แข่งกันเล่า ผลัดกันฮา โดยไม่รู้ว่ามีสายตาเคือง ๆ ของจิรัชชาคอยมองอยู่ตลอดเวลา.. แค่นี้นะคะแอน.. จิมีธุระจริง ๆ ค่ะ.. แล้วจะโทรไปหาใหม่นะคะ.. บายค่ะ จ๊ะ คิดถึงนะ จิรัชชาวางโทรศัพท์อย่างอารมณ์เสีย เด็กคนนี้อยู่ ๆ ก็เข้ามาเดินโฉบฉายในบ้าน ตอนเช้าแม่ก็ดูรักมันซะเหลือเกิน พ่อเองก็ใช่ย่อย ห่วงเหลือเกินนะ ถึงต้องบอกให้กินนมเยอะ ๆ เนี่ย หมั่นไส้ชะมัด. ต้องจัดการซะหน่อยแล้วมั้ง จิรัชชายิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดินไปกลุ่มที่พูดคุยอย่างสนุกสนานตรงหน้า สาว!! ไม่มีอะไรทำเหรอ มานั่งสุมหัวอะไรกันตรงนี้ จิรัชชาถามเรียบ ๆ แต่เน้นน้ำเสียงให้ดูดุเข้าไว้ งานของสาวหมดแล้วค่ะคุณจิรัช หมดได้ไง ห้องฉัน.. เธอไปเก็บแล้วเหรอ เอ๋ สาวเลิกคิ้ว เอ๋อะไร ไปสิ จิรัชชามองดุ ๆ มาทางสาว ตาที่หวานเชื่อมเวลามองสาว ๆ พอทำดุเข้าที ใคร ๆ ก็กลัวกันหมดแหละ สาวก็ได้แต่พยักหน้าและเดินออกไป อะไรของเค้านะ! ปกติเก็บเองไม่ใช่หรือยังไงห้องนอนหน่ะ หวงอย่างกะอะไรดี วันนี้มาแปลก ให้เก็บห้อง คุณจิรัช กินยาอะไรผิดมาหรือเปล่าหว่า สาวเดินออกไปด้วยอาการงง ๆ ลุงก็เหมือนกัน สวนที่อื่นก็มีทำไมไม่ไปดูแล สุมหัวกันอยู่ได้! จิรัชชาหันมาทางลุงรักบ้าง คือผมกำลังปลูกต้นไม้พวกนี้. จิบอกให้ไป ก็ไปสิ ครับ ๆ ลุงรักเดินออกไปทิ้งต้นไม้สองสามต้นที่ยังไม่ได้ปลูกไว้ตรงนั้น อะไรของเค้ากันหว่า.. ทุกทีจะกุลีกุจอมาช่วย แต่วันนี้กลับไล่ไปทำที่อื่น แปลกจริงคุณจิรัช!! ลุงรักเดินไปสวนอีกฝั่งด้วยอาการงงไม่แพ้สาวเช่นกัน แว่นแก้วเห็นทุกคนไปกันหมด แล้วเธอจะอยู่ตรงนี้ทำไมหล่ะ เด็กสาวลุกขึ้นยืนปัดไม้ปัดมือ ปัดกางเกง เพื่อให้ดินที่ติดอยู่หลุดออกไปบ้าง แล้วเชิดหน้าเดินผ่านจิรัชชาไปอย่างไม่ได้ใส่ใจ เดี๋ยว!! จะไปไหน ไปตี้อื่น เด็กสาวตอบเรียบ ๆ กับคนอื่นพูดไทยได้ กับฉันก็กรุณาพูดด้วยนะ แว่นแก้วจะอู้กับคนตี้ไข้อู้ บ่ออู้กับคนตี้บ่ออยากอู้โตย เด็กสาวเดินตัวปลิวโดยไม่สนใจอีกคนที่ตาค้างอยู่ตรงนั้น จิรัชชานึกชังในท่าทางที่ดูหยิ่งยโสของแว่นแก้ว แถมการพูดจาที่ฟังไม่เข้าหู ดูแก่แดดเกินวัยอย่างไงอย่างนั้น เด็กบ้านนอกปกติต้องเป็นเด็กน่ารัก เรียบร้อยไม่ใช่หรือยังไง แต่นี่ดูสิแก่นแก้ว ปากคอเลาะร้าย จิรัชชาส่ายหน้าแล้วเดินตามแว่นแก้วไป นึกอยากเอาชนะความปากกล้าของเด็กสาวขึ้นมาซะเฉย ๆ เดี๋ยว!! ไม่คุยกันก่อนเหรอ แว่นแก้วบ่อฮู้จะอู้อะหยั๋งกับคุณ ทำไมไม่เรียกพี่ ฉันอายุมากกว่าเธอนะ ไม่มีคำตอบจากแว่นแก้ว นั่นสินะทำไมเธอไม่เรียกจิรัชชาว่าพี่ ทั้ง ๆ ที่ กับคนอื่นเธอก็อ่อนน้อมด้วย แต่กับคน ๆ นี้ ใช่สิ!! การกระทำของเขาคนนี้ ทำให้เธอไม่อยากเรียกพี่ คนอะไรไม่อายฟ้าดิน!! อีกอย่าง เป็นผู้หญิงแท้ ๆ กลับทำตัวอย่างกะผู้ชาย เที่ยวกลางคืน ไม่หวงตัวบ้างหรือไงนะ เด็กสาวแลหางตามองอีกฝ่ายที่เดินตามเธอเข้ามาในบ้าน แล้วทิ้งตัวลงโซฟา นั่งกระดิกเท้าอยู่ตรงนั้น แถมเปิดทีวีดูอย่างไม่ใส่ใจ เด็กสาวส่ายหน้า คนรวยเค้าทำตัวกันแบบนี้เหรอ. เธอเดินเลี่ยงไปที่ห้องครัว ไม่อยากอยู่ใกล้คน ๆ นี้ อีกอย่างไม่รู้จะอยู่ส่วนไหนของบ้านออกนอกบ้านก็ไม่เป็น อยู่ตรงไหนก็ไม่ถูกใจ คิดถึงบ้าน คิดถึงป่า คิดถึงแม่ ยาย แสงเดือน ต้องหาอะไรทำซะแล้ว แว่นแก้วเดินไปห้องครัว จิรัชชามองตามแล้วส่ายหน้า คิดจะไม่ตอบก็เดินหนีเฉย ๆ เลยนะเด็กน้อย ป้าเนียนทำอะไรอยู่คะ ลาดหน้าค่ะคุณแว่นแก้ว แว่นแก้วช่วยนะคะ แว่นแก้วเด็ดผัก เอาไปล้างแล้วหั่นวางไว้อย่างคล่องแคล่ว ป้าเนียนมองอย่างชื่นชมกับความน่ารักของแว่นแก้ว ดวงตาหวานที่เหมือนเชษฐาอย่างกับถอดกันมา จมูกโด่งนิด ๆ กับปากรูปกระจับ จัดว่าสวยทีเดียวแหละเด็กคนนี้ อีกทั้งผิวที่ขาวตามแบบฉบับชาวเหนือนั่นอีก ผมยาวตรงระบ่านั่นก็ดูพริ้วสวยดำขลับ. แว่นแก้วเงยหน้าจากผักพวกนั้นก็เจอกับใบหน้ายิ้มแย้มอ่อนโยนของป้าเนียน เด็กสาวยิ้ม นึกงงที่ป้าเนียนมองเธอ ก้มลงมองตัวเองแต่งตัว เสื้อยืดสีขาวมอ ๆ กับกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน น่าดูตรงไหนหว่า.. ป้าเนียนดูอะไรเหรอคะ เด็กสาวหันซ้ายหันขวา เปล่าค่ะ ป้าเนียนว่า คุณแว่นแก้วสวยจังนะคะ เด็กสาวหัวเราะเก้อ ป้าเนียนหล่ะก็ แว่นแก้วอายนะคะ แว่นแก้วคุยกับป้าเนียน ถึงได้รู้ว่า ที่จริงแล้ว จิรัชชาเป็นลูกของเสาวนีย์กับสามีเก่าที่เสียไป จิรัชชายังเด็กเมื่อตอนเสาวนีย์แต่งงานกับเชษฐาจึงเรียกเชษฐาว่าพ่อจนติดปาก แต่ตัวจิรัชชาเองรู้ว่าเชษฐาไม่ได้เป็นพ่อแท้ ๆ ป้าเนียนยังเล่าให้ฟังอีกว่า เสาวนีย์เป็นคนสวย และยังสาว แต่หลังจากที่สามีเสียชีวิตได้ไม่นานทุกอย่างก็ตกเป็นของเสาวนีย์ แต่ด้วยความที่ไม่เคยบริหารงานของบริษัททำให้กิจการเริ่มแย่ จึงต้องจับมือกับเชษฐาที่บริษัทก็ย่ำแย่เหมือนกัน เพื่อจะได้ช่วยพยุงซึ่งกันและจน ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันเพียงแต่ในนาม จนบริษัททั้งคู่ยืนหยัดได้อีกครั้ง การแต่งงานครั้งนี้ไม่มีคำว่า รัก มาเกี่ยวข้องเลย... นี่คงเป็นเหตุผลที่ทั้งสองคนไม่นอนห้องเดียวกัน แว่นแก้วคิด แสดงว่าเชษฐายังคงรักแม่เธออยู่ แต่ก็นั่นแหละ ก็ยังทิ้งเธอไปอยู่ดี แม้จะมีจดหมายแสดงความห่วงใย รักใคร่มากมายแค่ไหน แต่คน ๆ นั้นก็ทิ้งเธอกับแม่ ปล่อยให้เธอนั่งอิจฉาใครต่อใครที่มีพ่อคอยปกป้องดูแล ปล่อยให้โหยหาความรักความอบอุ่นจากพ่ออยู่ดี ยังไงสิ่งนี้ก็ยังไม่ทำให้เธอยอมรับพ่อของเธอได้เต็มใจ +*-*++++*-*+_หมูน้อยอารมณ์ดี_+*-*++++*-*+
27 กันยายน 2547 02:22 น. - comment id 77504
โห ขยันเขียนจัง
27 กันยายน 2547 02:29 น. - comment id 77505
|| ตอบ...พี่ออฟ สวัสดีจ้า....พี่ออฟ แหม...ถ้าไม่ขยันแร่ะจะเป็นที่รักของพี่ออฟได้หรอค่ะ หุหุ ขอบคุณที่มาเม้นท์ให้น่ะค่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ +*-*++++*-*+_หมูน้อยอารมณ์ดี_+*-*++++*-*+
27 กันยายน 2547 02:42 น. - comment id 77506
มาดึกอีกแล้วค่ะ
27 กันยายน 2547 02:53 น. - comment id 77508
|| ตอบ...tiki มาดึกก็ยังดีกว่าไม่มาน่ะค่ะ หุหุ ขอบคุณที่แวะมาน่ะค่ะ อยากจะทอดสะพานใจเข้าไปหา เมื่อเธอทอดสะพานตาเข้ามาไกล้ แต่ไม่อาจจะทอดสะพานใจ เธอมีใครไม่รู้อยู่ปลายทาง +*-*++++*-*+_หมูน้อยอารมณ์ดี_+*-*++++*-*+
27 กันยายน 2547 03:30 น. - comment id 77510
น้องโกะ.. เมื่อไหร่พี่จะได้เป็นคนแรกละคะ ฮิๆๆ อาจจะเป็นเพราะรักมั้งค่ะ ถึงได้เป็นแบบนี้ แต่ยังไงความรักมันก้อสวยงามเสทอแระคะ พี่คิดว่างั้น พี่จะได้กลับไทยแล้วล่ะ เย้ๆๆๆ ไปด้วยกันไหมค่ะ ..♡.. ..♡..ผู้หญิงอ่อนไหว...แต่ไม่อ่อนแอ..♡..
27 กันยายน 2547 03:40 น. - comment id 77511
|| ตอบ ปากกาออนไลน์ แหมมมมมมมมมม........อิจฉาจังเลยเนาะ แร่ะยิ่งต้องไปเจอหวานใจด้วยแน่เลยอ่ะ ฮิๆๆๆๆๆ อิอิ น่าลุ้นอ่ะ ฮิๆๆๆ
27 กันยายน 2547 07:09 น. - comment id 77513
สวัดีครับ.......น้องแนน...... ผมเข้ามาอ่านเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่แสนดี กำลังใจจากข้างในส่วนลึก ไม่ต้องฝึกต้องหามาให้เห็น จะแดดร้อนตอนสายจนบ่ายเย็น จะคอยเป็นกำลังใจให้ดนดี
27 กันยายน 2547 12:53 น. - comment id 77530
ไม่ว่าเป็นคแรกหรือคนสุดท้าย หรือเป็นคนที่เท่าไหร่ ก็ไม่สำคัญเท่าเธอมีฉัน เป็นส่วนหนึ่งของหัวใจ ..อันนี้ซิสำคัญกว่าสิ่งใด... ขยันจังนะเด็กน้อย รักคิดถึงเสมอ
29 กันยายน 2547 03:13 น. - comment id 77567
|| ตอบ...)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**((( สวัสดีจ้า....)))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**((( ขอบคุณน่ะค่ะ ที่มาให้กำลังใจ.... รับไว้แล้วน๊าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...ฮิๆ ๆ ๆ +*-*++++*-*+_หมูน้อยอารมณ์ดี_+*-*++++*-*+
29 กันยายน 2547 03:19 น. - comment id 77568
|| ตอบ...เพราะรัก สวัสดีจ้า....พี่หวานนน หุหุ ก็ว่าง ๆ ก็เลยเขียนอ่ะค่ะ ฮิๆๆๆๆ ขอบคุณสำหรับกลอนน่ะค่ะ คิดถึงมากกกกกกค่ะ +*-*++++*-*+_หมูน้อยอารมณ์ดี_+*-*++++*-*+
12 ตุลาคม 2547 15:38 น. - comment id 78004
จบหรือยังค่ะ