ตอนที่ 5 ขณะที่ชลธีกำลังสอนอยูนั้น ปรากฏว่าวันนี้นักศึกษาคุยกัน ไม่มีสมาธิจะเรียนกันเลยแม้แต่น้อย กระทั่งรักเดียวก็เป็นไปกับเขาด้วย หล่อนนั่งจ้ออยู่กับชมพูไม่เป็นอันเรียน และทุกคนก็พลอยทำให้เขาไม่มีสมาธิสอนไปด้วย สนใจผมหน่อยได้ไหม ครับผมน้อยใจนะคุณ นี่คือวิธีเรียกความสนใจจากนักศึกษาตามแบบฉบับของเขา สามสาวพราวเสน่ห์เห็นอาจารย์เล่นจึงเล่นกลับ อาจารย์อายุเท่าไหร่แล้วคะ ทำไมขี้น้อยใจจังน้ำเสียงของ หยา ทำให้รักเดียวช้อนตาขึ้นมองเขา จังหวะเดียวกับที่ชลธีหันมาทางหล่อนก็สบตากันพอดี แต่รักเดียวพยายามหลบตาเขาด้วยการเปลี่ยทิศทางการมองไปมองจอสไลด์ที่ชลธีใช้สอน ผมแก่แล้ว คุณไม่ควรจะถามอายุผมเลยนะ เขาพูดอมยิ้ม ถามจริงๆอาจารย์หนูอยากรู้ว่าเราห่างกันกี่ปีปุ๊กเสริม ชลธีหัวเราะหึหึ ถ้าผมบอกไปคุณช่วยตั้งใจเรียนกันหน่อยได้ไหม ไม่มีปัญหาค่ะไผ่ยืนยัน ยีบแปด ชลธีพูดเสียงเบาๆทำท่าเขินๆ จนทุกคนหัวเราะที่เห็นเขาอายๆไม่อยากจะตอบ รักเดียวแอบอมยิ้มมองหน้าเขาเขาเห็นเข้าคราวนี้จึงเป็นฝ่ายหลบหน้ารักเดียวซะเอง ชมพูเห็นอาจารย์หันหลังไปจึงกระซิบบอกเพื่อน ห่างกันแปดปีเชียวนะรัก ไม่เกี่ยวกับฉันนี่ ชมพูมองรักเดียวด้วยความหมันไส้เธอซะเต็มประดา อาจารย์มีแฟนรึยังคะไผ่ยิงคำถามต่อเห็นว่ามีโอกาส ยังครับยัง นี่คุณ มันจะมีในข้อสอบไหมเนี่ยที่คุณถามผมมาแต่ละอย่างน่ะ พวกนี้นี่ใจกล้ากันจริง ชมพูหันมากระซิบบอกรักเดียว ผมเห็นอาจารย์ควงใครที่เซลทรัลเมื่อวันก่อนอยู่นี่นาบอมอำ เฮ้ยจริงหรอ คุณเห็นผิดคนแล้ว ไม่มีนะผมไม่มีแฟนจริงๆ คุณอย่ามาอำผมเลย รักเดียวช้อนตาขึ้นมองเขาเป็นพักๆ ปณิตามายืนดักรอพิมพ์วนาอยู่หน้าห้องพัก กระทั่งหล่อนเดินมา เธอจึงคว้าแขนเพื่อนและเดินออกมาจากตรงนั้น คุยกันหย่อยสิพิมพ์ ฉันมีเรื่องจะบอกเธอ วินอยู่ข้างใน ฉันกลัวเขาจะได้ยิน มีอะไรณิตา ทำไมต้องกลัววินจะได้ยินด้วยล่ะ วินเขาปณิตาถอนหายใจมาเฮือกใหญ่ ช่างเถอะมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันซักหน่อย ไปก่อนนะอีกสิบห้านาทีฉันมีสอนหล่อนบอกพิมพ์วนาเสียงอ่อนๆและเดินออกไป ปล่อยให้พิมพ์วนายืนงงอยู่อย่างนั้น อะไรของเขา ปณิตาเดินไปก็พลางนึกถึงคำพูดของชีวินที่เขาบอกหล่อนเมื่อวานนี้ ผมไม่คิดว่าจะมีใครกล้าปฏิเสธพิมพ์เพราะไม่รักหรอก ไม่มีแน่นอน. อะไรของเขานะชอบพูดอะไรที่มันเข้าใจยากซะจริงหล่อนรำพึงรำพันอย่างใจลอย เดินก้มหน้าก้มตาไปสอนอย่างไม่สนใจใครกระทั่งชนกับผู้ชายคนนึงเข้า ขอโทษค่ะอ้าวคุณภาค ใจลอยไปถึงไหนครับณิตา ภาคภูมิแซวหล่อน ชลธีเดินมาหาชีวินที่โต๊ะทำงาน เห็นหน้าตาเพื่อนดูบอกบุญไม่รับจึงทักเขา เป็นอะไรดูเครียดๆ เปล่า แกมีอะไร แกคุ้นเบอร์นี้รึเปล่า ชลธียื่นโทรศัพท์มือถือให้เขา ไม่นี่ทำไมหรอ เขาส่งข้อความมาให้ฉันเมื่อคืน เปิดดูดิ่ ฝันดีนะคะ ใครวะ ไม่รู้เหมือนกัน ไม่โทรกลับไปล่ะ โทรไปก็ปิดเครื่อง เมื่อเช้าลองโทรไปอีกทีก็ไม่ยอมรับสาย ใครคงแอบชอบนายล่ะมั้ง อยากรู้ว่าเอาเบอร์ฉันมาจากไหน หววังว่าคงไม่ใช่นักศึกษานะ มีทุกปีเลยนี่แกน่ะ แต่ไม่เคยมาเป็นแมจเสจแบบนี้นะ ฉันไม่เคยให้เบอร์นักศึกษาด้วยถ้าไม่มีเรื่องจำเป็น พิมพ์วนาแอบได้ยินอยู่หลังฉากกั้นก็เดินซึมกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ด้านภาคภูมิกับปณิตายังคงนั่งคุยกันอยู่ข้างๆตึกที่ปณิตามีสอน วินมันบอกเธอว่าอย่างนั้นหรอ ภาคภูมิถามหลังจากฟังหล่อนเล่าเรื่องที่เธอรู้มา อืมฉันไม่เข้าใจเลย ไม่มีใครปฏิเสธพิมพ์เพราะไม่รัก ถ้ารักแล้วจะปฏิเสธทำไม ณิตาเคยรักใครที่รักไม่ได้รึเปล่าล่ะ นั่นแหละคือเหตุผล ถึงรักมากแค่ไหนก็ต้องบอกว่าไม่รัก ที่วินพูด ฉันก็งงพอแล้วนะ ฟังคุณพูดยิ่งงงไปใหญ่ คุณมีสอนไม่ใช่หรอภาคภูมิพูดตัดบท จริงสิ เลยมาห้านาทีแล้ว ฉันนี่แย่จัง งั้นฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังวันหลัง ปณิตาจ้องหน้าภาคภูมิแปลกๆก่อนจะพูดขึ้น ฉันนึกอยู่แล้วว่าคุณต้องรู้ สัญญาแล้วนะหล่อนทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไป โดมนั่งเขียนรายงานอยู่ จู่ๆปากกาก็ดันหมึกหมดเขาจึงหันไปถามรักเดียว มีปากกาไหมรัก ในกระเป๋าน่ะ หาเองนะ เดี๋ยวเอางานไปส่งอาจารย์ก่อนรักเดียวเดินออกไป โดมหยิบกระเป๋ารักเดียวมาหาปากกาแต่สิ่งที่เขาเห็นก่อนปากกาก็คือลูกอมที่ชลธีให้มา มันทำให้เขามีสีหน้าแปลกๆไป ภาคภูมิขึ้นมาหาชลธีกับชีวิน พอทั้งสองเห็นเขาจึงทักทาย ยังอยู่อีกหรอชีวินแซว ไหนบอกจะช่วยหาไง ยังไม่เจออีกหรอชลธีถาม ยัง นี่ฉันไปมาทุกคืนเลยนะ รู้สึกมันริบหรี่ยังไงไม่รู้สีหน้าภาคภูมิดูผิดหวัง ชลธีหันไปมองหน้าชีวินรู้สึกเห็นใจภาคภูมิด้วยกันทั้งคู่ ชีวินจึงเดินมาตบไหล่เขาเบาๆ อย่าเพิ่งท้อดิ่ ฉันเอาใจช่วย ใครบอกฉันท้อ ภาคภูมิหันมายิ้มกริ่ม เขาไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วง ฉันไม่เลิกตามหาเขาหรอก ชิ เห็นทำหน้าเศร้าๆไอ่เราก็หลงเป็นห่วง ฉันไม่น่า ขอบใจนะ ชีวินนิ่งไปที่จู่ๆภาคภูมิก็พูดคำนี้ขึ้นมา ฉันดีใจนะถ้าแกจะจริงจังกับใครซักคนขึ้นมาจริงๆซะที ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร อยู่ที่ไหน ชื่ออะไรก็ตามชลธีพูดซึ้งๆแต่มันก็ฟังดุแปลกๆชอบกล ตอนนั้นเองรักเดียวเอางานขึ้นมาส่งชลธีแต่ทั้งสามคนอยู่ที่โต๊ะของชีวินภาคภูมิจึงคลาดกับเธออีกครั้ง อ้าวอาจารย์ไม่อยู่หรอเนี่ย หล่อนวางชีสท์แบบฝึกหัดของตัวเองและเพื่อนลงก่อนจะเดินออกมา สามหนุ่มก็เดินออกมาเช่นกันแต่รักเดียวเดินออกจากประตูไปแล้ว ชลธีแวะเข้ามาเก็บของในห้องของตัวเองก่อนจะออกไป เห็นกองเอกสารจึงพูดขึ้นมา อ้าวเด็กเอางานมาส่งตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ลืมไปเลย ภาคภูมิกับชีวินยืนรอเขาอยู่ ชีวินจึงบอกเขาตอนแกอยู่ห่องฉันล่ะมั้ง * * * * * * * * ชลธีเดินเตร็ดเตร่อยู่ในห้างสรรพสินค้าไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก บังเอิญเจอกับพิมพ์วนาเข้า ทั้งสองหยุดชะงักมองหน้ากันไกลๆก่อนจะเดินเข้ามาหากัน วินไปไหนล่ะ ทำไมมาเดินคนเดียว ก็เห็นบอกจะไปตามหาใครกับภาคภูมิ ทีไม่ได้ไปกับพวกเค้าหรอคะ ผมต้องเขียนแผนการประชุมสำหรับพรุ่งนี้ เลยมาหาซื้อหมึกปริ๊นส์ที่นี่ รู้สึกคืนนี้ต้องพิมพ์เอกสารเยอะ แล้วพิมพ์มายังไงครับ มากับณิตาค่ะ อ้าวแล้วนี่ ณิตาไปไหน น้องเขาโทรมาตามเห็นบอกว่าแม่เป็นลม พิมพ์ก็เลยบอกให้เค้ารีบไปเดี๋ยวพิมพ์กลับรถเมล์เอง เดี๋ยวผมไปส่งแล้วกัน งั้น ให้พิมพ์ไปช่วยคุณพิมพ์เอกสารที่บ้านคุณก่อนได้ไหมคะ พิมพ์อยากเจอแม่คุณด้วย ไม่ได้เจอนานแล้ว ชลธีตัดสินใจอยู่นาน ไม่กล้าตัดสินใจอะไรออกไป นะคะ ครับ * * * * * * * * พอถึงบ้านชลธี สายชลก็ต้อนรับขับสู้พิมพ์วนาอย่างเป็นกันเอง ชลธีมองเห็นก็ยิ้มพอใจ แม่ของเขาพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบเธออย่างสนิทปาก แล้วนี่ทานข้าวเย็นกันมารึยัง สายชลถาม ก็กะว่าจะมาฝากท้องกับฝีมือคุณแม่นี่แหละค่ะ อื้มไม่มีปัญหาจะ น่าจะชวนวินเค้ามาด้วยนะที แม่ไม่ได้เจอเค้านานแล้ว ชลธีกับพิมพ์วนามองตากันปริบๆ เมื่อได้ยินสายชลพูดเช่นนั้น ตกดึกขณะที่ชลธีกำลังขับรถไปส่งพิมพ์วนาอยู่นั้น เสียงเตือนข้อความเข้าโทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมาอ่านและยิ้มเล็กๆ พิมพ์วนาหันไปเห็นเข้าก็หน้านิ่งๆไป นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่เห็นชลธียิ้มแบบนี้ * * * * * * * * รักเดียวนั่งยิ้มมองโทรศัพท์มือถือของเธออยู่ในห้องอย่างสุขใจ * * * * * * * * ชีวินนั่งอยู่ในรถขณะที่ภาคภูมิกำลังขับอยู่ แวะไปบ้านพิมพ์แป๊บนึงได้ไหม ไหนๆก็ทางผ่าน อะไรกันคิดถึงจนทนไม่ไหวเลยรึไง เปล่า ฉันลืมเอกสารไว้ในแฟ้มของพิมพ์ลืมเอาออกมา ได้ได้ รู้งี้เอารถมาเองดีกว่าจะได้ไม่ต้องกวานแก กวนอะไรกัน ฉันเป็นคนชวนแกให้ออกมาเป็นเพื่อนตามหาเธอคนนั้น ฉันต่างหากที่กวนแก อย่าพูดเหมือนฉันไม่ใช่เพื่อนแกหน่อยเลย * * * * * * * * ชลธีจอดรถหน้าบ้านพิมพ์วนา เวลาเดียวกับที่ภาคภูมิก็ขับรถมาในทางตรงกันข้าม ชีวินเห็นไกลๆจึงบอกให้ภาคภูมิจอดรถ ซึ่งอยู่ห่างไกลพอที่ชลธีจะไม่สังเกตเห็น ดับไฟหน้ารถซะ ชีวินบอกเพื่อน ไม่มีอะไรหรอกภาคภูมิพยายามจะทำให้ชีวินมองในทางที่ดี ชลธีเดินออกมาเปิดประตูรถให้ พิมพ์วนาก็เดินลงมา เท่านั้นเองชีวินจึงบอกกับภาคภูมิ กลับเถอะ ขับสวนไปเลย ฉันว่าแกอย่าเพิ่งคิดมากดีกว่านะวิน แกน่าจะเชื่อใจทั้งพิมพ์แล้วก็ไอ้ที คนนึงก็เพื่อน คนนึงก็แฟน แกน่าจะรู้เรื่องทั้งหมดดีนะภาค ภาคภูมิเปิดไฟสูงเพื่อกลบตาชลธีไม่ให้เห็นรถเขาขณะที่ขับสวนไป และมันก็เป็นผลชลธีรู้สึกแสงนั่นเข้าตาจนแสบจึงหลบตาไม่มอง เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาคนที่ส่งข้อความให้หลังจากที่พิมพ์วนาเข้าบ้านไปแล้ว และค่อยๆเคลื่อนรถขับกลับบ้าน * * * * * * * * รักเดียวนั่งมองโทรศัพท์ขึ้นชื่อชลธีเมื่อเขาโทรเข้ามาโดยไม่ยอมรับสาย ยิ้มปลื้มอกปลื้มใจอย่างกับว่าเขาจงใจจะโทรหาเธอ ทั้งๆที่เขาโทรมาเพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร * * * * * * * *
11 กันยายน 2547 19:50 น. - comment id 76882
ชอบเรื่องที่คุณเขียนมากค่ะ จะคอยตามอ่านนะคะ เขียนมาให้อ่านไว ๆ นะคะ จะรอ และเป็นกำลังใจให้ทุกงานเขียนค่ะ.....\"....\"
12 กันยายน 2547 14:56 น. - comment id 76930
ดูมันวุ่นวายจังนะคะ แต่ก็จะรออ่านค่ะ เร็วนะคะ อิ อิ
12 กันยายน 2547 21:50 น. - comment id 76957
เพิ่มฉากหน่อย เปลี่ยนฉากบ้าง ใส่บทสนทนาที่สะท้อนสติปัญญาของตัวละครอีกนิดนะ