ตอนที่ 3 หญิงสาวหันขวับมายังเสียงเรียก ครั้นพบว่าเป็นใครใบหน้าถึงกับซีดเผือด เธอนึกไม่ถึงว่าแม่จะมา กลุ่มเพื่อนที่รายล้อมทุกคนต่างหันมองมายังหญิงวัยกลางคนในชุดที่ดูมอซอเป็นตาเดียว พร้อมกับคำถามที่เกิดขึ้นในใจ นี่หรือแม่ของจันทพร ผู้เป็นดาวคณะ ที่เคยบอกว่าเป็นลูกของนักธุรกิจชั้นนำทางภาคเหนือ ทุกคนมองหญิงแปลกหน้าและดูปฏิกิริยาของเพื่อนสาว พร้อมคำถามที่รอคำตอบ "เอ่อ ขอโทษนะคะ คุณป้าคงทักคนผิดแล้วล่ะค่ะ" หญิงสาวตอบกลับไป แล้วสะกิดเพื่อนเดินเลี่ยงไปอีกทางเพื่อถ่ายรูปต่อ จำเนียรยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่อยากเชื่อหูกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ เป็นไปได้อย่างไร ที่ลูกจะจำเธอไม่ได้ และไม่อยากเชื่อว่าเธอจะถูกปฏิเสธจากลูกจากหญิงสาวที่เธอทะนุถนอมบรรจงสร้างชีวิตมาตั้งแต่ยัง แบเบาะจนเติบใหญ่ พร้อมความอบอุ่นที่มีให้มากที่สุด เท่าที่จะให้ได้ เพื่อชดเชยจากการที่ลูกขาดพ่อ ดวงตาของเธอเหม่อลอยดังคนไร้สติ เรี่ยวแรงจะก้าวเดินแทบจะไม่มีเหลือ น้ำตาแห่งความผิดหวังเอ่อล้นจนท่วมใจแล้วไหลอาบลงสองแก้ม เธอหันหลังกลับช้าๆ เดินจากมาอย่างไร้จุดหมาย แต่ในใจส่วนลึกยังคงคิดว่า ลูกคงมีเหตุผล และเธอก็พร้อมที่จะรับฟังเมื่อลูกพร้อมจะเล่า. *********** แม้รถจะออกเดินทางจากกรุงเทพฯมานานหลายชั่วโมงแล้ว และผู้คนในรถต่างหลับใหลอยู่ในความมืด มีเพียงเสียงรถและเครื่องปรับอากาศที่ดังเบาๆ แต่จำเนียรยังไม่ได้งีบหลับเลยแม้สักนิด แสงที่สาดเข้ามายามที่รถสวนทาง สะท้อนเงาลำธารน้ำตาที่ไหลพรากเป็นสาย โดยไม่รู้ว่าเสียไปมากเท่าใดแล้ว เรื่องราวแต่ก่อนเก่า หลายภาพหลายเหตุการณ์วนเวียนเข้ามาในความคำนึงไม่รู้หมดสิ้น ภาพของเด็กหญิงตัวเล็กๆ น่ารัก ช่างเจรจา ที่ค่อยๆ เติบใหญ่ผ่านการดูแลอบรมเอาใจใส่ของเธอและสามี ดุจลูกในไส้ ทุกถ้อยคำในบทสนทนาระหว่างเธอกับเขา ก่อนที่จะมีเด็กหญิงในบ้าน เธอยังจดจำได้ไม่รู้เลือน เนียร...พี่อยากจะปรึกษาเนียนหน่อยจ้ะ สามีเอ่ยขึ้นหลังอาหารเย็น เรื่องอะไรจ๊ะพี่ เราอยู่กินกันมาก็นานพี่ว่าเนียนคงจะเหงา...พี่เองก็อย่างที่รู้... พี่เห็นเนียนชื่นชมลูกชาวบ้านเขาก็อดสงสารไม่ได้... เขาจ้องตาเธอจริงจังก่อนพูดต่อ ...เนียรคิดยังไง...ถ้าเราจะไปขอเด็กที่โรงพยาบาลในเมืองมาเลี้ยง...พี่ว่าเด็กที่คลอดมาแล้วแม่ทิ้งนี่ โตมาต้องกำพร้า ขาดความอบอุ่น...น่าสงสารนะ จริงเหรอพี่... เธอยิ้มตาเป็นประกาย เนี่ยฉันก็คิดอยู่เหมือนกัน พี่อ้อยบ้านโน้นที่พี่ป้อมแฟนเขาเป็นหมัน เขาก็คิดเหมือนพี่นี่แหละ เขาบอกฉันวา เด็กอ่อนที่โรงพยาบาลในเมือง มีแม่วัยรุ่นคลอดแล้วทิ้งเยอะขึ้นทุกวัน ทางโรงพยาบาลเขาก็อยากหาพ่อแม่บุญธรรมรับไปเลี้ยงเหมือนกันถ้าเราขอมาเลี้ยงซักคน คงจะดี ไอ้สิ่งที่เราช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัวมาจะได้มีคนช่วยดูแลต่อ ฉันเองก็จะไม่เหงา มีเด็กวิ่งในบ้าน ครึกครื้นดีออก งั้น วันมะรืน เราไปที่โรงพยาบาลกันนะ สามีเอ่ยพลางเอื้อมบีบมือเธอ วันที่เธอกับสามีไปทำเรื่องขอเด็กอ่อนมาเลี้ยง เธอยังจำภาพนั้นได้ดี ภาพของทารกเพศหญิง ที่เพียงได้พบหน้า แววตาสองคู่ที่ประสานกัน เสมือนความผูกพันนั้นมีมานานนัก เธอรักเด็กน้อยตั้งแต่แรกอุ้ม และทะนุถนอมดังแก้วตาดวงใจ เฝ้าดูแลเอาใจใส่ อบรมด้วยความรัก แม้ในยามที่สามีจากไป ความรักที่ให้ก็ยิ่งเพิ่มทวีไม่เคยลดน้อยถอยลง ทว่าไม่เคยคาดคิดแม้สักนิดว่า เมื่อเวลาเปลี่ยนแปร ความรักที่เด็กหญิงซึ่งนางไม่เคยบอกความจริง จะตอบแทนความรักต่อเธอเช่นนี้ คิดถึงเพียงเท่านี้ เสียงกรีดร้องมาจากตอนหน้าของรถก็ดังลั่น แข่งกับเสียงบีบแตรยาว ตามมาด้วยเสียง โครม!!! ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
11 กันยายน 2547 10:45 น. - comment id 76873
เฮ้อ น่าสงสาร คนเป็นแม่นะคะ....
14 กันยายน 2547 12:28 น. - comment id 77005
เศร้า..นะ คะ
17 กันยายน 2547 22:19 น. - comment id 77172
อย่างนี้แหละค่ะเอาลูกเขามาเลี้ยงก็ต้องทำใจ
17 กันยายน 2547 22:22 น. - comment id 77173
อย่างนี้แหละค่ะเอาลูกเขามาเลี้ยงก็ต้องทำใจ