รักเดียว(ตอนที่ 1)
ร. อินทนิล
เสียงล้อรถเสียดทานกับพื้นถนนดังแสบแก้วหูก่อนเสียงโครมสนั่น รถของรักเดียวตกลงข้างทาง แรงกระแทกทำให้ตัวเธอกระเด็นออกมาจากรถชะลูดเกือบถึงชายคูน้ำ เลือดสีแดงสดไหลอาบท่วมตัว ร่างกายเธอไม่ขยับเขยื้อน ความเจ็บปวดไม่มีให้ได้รู้สึกเมื่อร่างทั้งร่างชาช้ำ ดวงตาเปิดกว้างแต่ภาพเบื้องหน้ามืดสนิท นิ้วมือข้างซ้ายพยายามจะขยับหล่อนรู้สึกได้ถึงความเหนอะหนะของเลือด กลิ่นคาวมันคละคลุ้งอยู่ปลายจมูก ภาพเหตุการณ์วันแรกที่เจอกับชลธีถูกปลุกขึ้นมาในความทรงจำ
ตอนที่ 1
เปิดเทอมวันแรกของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง เวลานี้ที่ห้องเรียนของนักศึกษาปีสองคณะนิเทศศาสตร์ยังไม่มีอาจารย์มาเข้าสอน นักศึกษาทั้งชายและหญิงต่างพูดคุยเล่าเรื่องในช่วงปิดเทอมให้เพื่อนของตนฟังเสียงดังระงมสมกับที่ไม่เจอกันมานาน
ชมพูกำลังจะเปิดประตูเข้าไปในห้องเรียน
พู! เสียงชายหนุ่มเรียกหล่อนขณะที่ตัวเขากำลังเดินตรงเข้ามาหาเธอ
อ้าว โดม หล่อนเรียกชื่อเขาและเดินเข้าห้องไปพร้อมกัน ทั้งคู่เหมือนกำลังมองหาใครสักคนก่อนที่ชมพูจะพูดขึ้นมา
รักยังไม่มาหรอเนี่ย
ไม่น่าเชื่อ อย่างรักเนี่ยนะจะเข้าสาย วันนี้สงสัยฝนตกใหญ่เรามาก่อนรักโดมว่า
ไปไหนของเขานะ หอก็อยู่แค่ตรงนี้ จะไม่โทรตามหน่อยหรอ บอมก็อีกคน
ไอ้บอมมันสายปกติอยู่แล้วนี่
รถเมล์สายหนึ่งจอดตรงป้ายหน้ามหาวิทยาลัย นักศึกษาก็กรูกันลงมา ทันทีที่รักเดียวก้าวลงจากบันไดรถได้ หล่อนก็ใส่ฝีเท้านักวิ่งวิ่งขึ้นสะพานลอยตรงเข้าสู่ประตูมหาวิทยาลัย หล่อนวิ่งผ่านตึกหลายตึกอย่างไม่หยุดพักกระทั่งถึงตึกที่เธอเรียน เห็นไกลๆว่าประตูลิฟต์กำลังจะปิดจึงรีบตะโกนบอกคนในลิฟต์ให้รอเธอ
เดี๋ยวค่ะ เดี๋ยว!!
ชายหนุ่มคนเดียวในลิฟต์เอามือมากันให้ลิฟต์หนีบประตูลิฟต์จึงเปิดออก รักเดียวมาถึงพอดีสบตากับเขาครู่หนึ่งก่อนจะก้าวเข้าไปในลิฟต์
ขอบคุณค่ะ หล่อนพูดหอบตัวโยน
ชั้นอะไรครับ
ชั้นเดียวกันค่ะ หล่อนเห็นสวิตไฟในลิฟต์กดอยู่ชั้นเดียวกับเธอ
สายหรอครับ เขาถามหล่อนท่าทางเป็นมิตร
ค่ะ คาบแรกด้วยไม่อยากสายเลย การตลาดอีกต่างหาก อาจารย์คงเฮี๊ยบๆ หน้าโหดๆ มีอายุหน่อยสงสัยจะเจ้าระเบียบจู้จี้ขี้บ่นหน้าดู
หรอครับ เขาพูดยิ้มๆ
พอถึงชั้นแปดรักเดียวเดินออกจากลิฟต์ตรงมายังห้องเรียนโดยที่ไม่ได้สนใจผู้ชายคนนั้นชมพูกับโดมเห็นหล่อนกำลังมองหาจึงร้องทัก
รัก รัก
รักเดียวเดินมานั่งข้างๆเพื่อน ว่าไงพ่อพระเอก ละครจะออนแอร์คืนพรุ่งนี้แล้วนี่ ตื่นเต้นล่ะสิ หล่อนกระเซ้าโดม
ก็นิดหน่อย กลัวออกมาไม่ดีจัง เรื่องแรกด้วย โดมออกตัว
น่าภูมิใจจริงจี๊ง มีเพื่อนเป็นถึงพระเอก จริงไหมพู
ชมพูยิ้มแบบไม่ค่อยภูมิใจนักก่อนจะเปลี่ยนเรื่องหันมาถามรักเดียว ทำไมวันนี้มาสายได้ล่ะ
ไปทำธุระมา รอรถเมล์ตั้งนาน เออนี่ เมื่อกี๊เจอนักศึกษาปริญญาโทหล่อมาก เค้าเอามือกันลิฟต์ไว้ให้ฉันอย่างกับในละครเลย น่ารักที่สุดหล่อนเล่าอย่างปลื้มอกปลื้มใจ
รู้ได้ไงว่าเค้าเป็นนักศึกษาปริญญาโท ชมพูถาม
ยังหนุ่มอยู่เลยนะ รักเดียวพูดพลางก็ก้มหน้าหาปากกาในกระเป๋า ทันใดนั้นเองนักศึกษาปริญญาโทที่หล่อนพูดถึงก็เดินเข้ามาในห้อง จากที่ทุกคนกำลังคุยเสียงดังก็แยกย้ายกันนั่งที่ของตนเองอย่างสงบ
อาจารย์หล่อแฮะ
รักเดียวได้ยินที่โดมพูดจึงค่อยๆช้อนตาขึ้นมอง ก็ถึงกับสะดุ้งตาโตเป็นไข่ห่านก่อนจะค่อยๆหลบหน้าหลบตาทำเป็นหาปากกาไม่เจอทั้งที่ปากกาก็อยู่ในมือ หล่อนบ่นอุบอิบกับตัวเองว่าพูดอะไรออกไปบ้างตอนอยู่ในลิฟต์
หลังจากวางของบนโต๊ะแล้ว อาจารย์หนุ่มก็เดินมาตรงกลางห้อง
สวัสดีครับ ผมชื่อชลธีนะ เรียกอาจารย์ทีก็ได้ อยู่ตึกเจ็ดชั้นเก้ามีปัญหาอะไรไม่เข้าใจบทเรียนตรงไหนก็ขึ้นไปหาได้นะ
ปัญหาหัวใจ ปรึกษาได้รึเปล่าคะ นักศึกษาสาวคนหนึ่งแซวขึ้นมา
อาจารย์หนุ่มยิ้มแล้วพูดต่อ วิชานี้ สามหน่วยกิตนะครับมีผลต่อเกรดสะสมของพวกคุณมาก ยังไงก็ตั้งใจหน่อยนะวิชานี้สำคัญมากในเชิงธุรกิจ เรียนกับผมผมช่วยเรื่องคะแนนเก็บเต็มที่นะไม่ต้องห่วง คุณตั้งใจทำคะแนนสอบกลางภาคกับปลายภาคให้ดีดีแล้วกัน
นักศึกษาทุกคนโดยเฉพาะสาวๆนั่งมองเขาตาไม่กระพริบ ยกเว้นรักเดียวที่ยังนั่งก้มหน้ามองหนังสือทำไม่สนใจเขา ชลธีกำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะแต่ก็หันมาทิ้งท้าย อ้อ ผมลืมบอกไปว่า อาจารย์การตลาดไม่ได้เจ้าระเบียบจู้จี้ขี้บ่นไปซะทุกคนหรอกนะ อย่างน้อยก็มีผมคนนึงล่ะที่ไม่ใช่
รักเดียวอมยิ้มเหลืบตามองเขาเป็นพักๆ ชลธีเองก็แอบๆอมยิ้มอยู่เหมือนกัน จากนั้นชลธีก็เริ่มสอน รักเดียวก็ตั้งใจเรียนเป็นเรื่องปกติของเธอ
ที่ห้องพักอาจารย์ภาควิชาการตลาดซึ่งถูกฉากกั้นซอยแบ่งเป็นห้องเล็กๆมีโต๊ะทำงานให้พอสะดวกสบายสำหรับอาจารย์หนึ่งคน พิมพ์วนานั่งเตรียมเอกสารการสอนอยู่ที่โต๊ะของเธอได้ครู่หนึ่งก็เบนสายตาไปมองรูปถ่ายเธอและเพื่อนอาจารย์อีกสี่คนที่วางอยู่ตรงหน้าและหยิบมันขึ้นมาดูใกล้ๆ ตอนนั้นเองชีวินเดินเข้ามา เธอจึงรีบวางรูปลง
มีอะไรคะวินเสียงหล่อนฟังดูตื่นๆ
เที่ยงแล้วนะครับไปทานข้าวกันเถอะ
อ๋อค่ะค่ะ หล่อนเก็บของหยิบกระเป๋าและเดินออกไป ชีวินมองรูปถ่ายนั่นอย่างมีเลศนัยก่อนจะตามหล่อนออกมา
รูปบนโต๊ะคุณ ช่างภาพเขาถ่ายชลธีออกมาดูดีนะครับ หมอนี่ถ่ายรูปขึ้นแบบนี้น่าไปเล่นละครน้ำเสียงของชีวินแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้พิมพ์วนาทำได้แค่หันมายิ้มอ่อนๆอย่างไม่มีความเห็น หล่อนเป็นผู้หญิงที่สวยมาก อ่อนหวานเรียบร้อย นัยตาดูเศร้าๆ ไม่มีพิษมีภัยกับใคร จึงไม่น่าแปลกใจที่ชีวินจะรักเธอมากและคบกันเธอชนิดไม่เคยทำให้เธอร้องไห้มาเป็นปีๆ ยกเว้นแต่ว่าเธอจะร้องไห้ด้วยสาเหตุอื่น
รักเดียวและเพื่อนๆเดินออกมาจากห้องเรียนหลังจากหมดชั่วโมง ชมพูกับโดมหัวเราะชอบอกชอบใจกันใหญ่ รักเดียวจึงพูดแก้ตัวเขินๆ
ก็ใครจะไปรู้เล่า ละอ่อนขนาดนั้นใครจะไปคิดว่าเป็นอาจารย์ ฉันก็ใส่ซะเต็มที่เลย
อาจารย์เค้าคงนึกขำอยู่ในใจแหละนะตอนอยู่ในลิฟต์น่ะ ชมพูพูดไปขำไป
ไม่ได้นึกขำในใจหรอก เค้าขำออกมาโจ่งแจ้งเลย แต่ฉันคิดว่าเค้าขำเพราะท่าทางฉันเร่งรีบที่มาสาย แล้วก็ไม่ยอมพูดอะไรเลยนะ ปล่อยให้ฉันพร่ำอะไรออกไปมั่งก็ไม่รู้ รักเดียวตัดพ้อ
เค้าคงอยากเซอไพรส์เธอ โดมว่า ทั้งสองคนยังหัวเราะไม่เลิก
พอได้แล้วไอ้สองคนนี้นี่ แล้วนี่บอมไปใหนเนี่ย ยังไม่เห็นเลย จะโดดตั้งแต่คาบแรกเลยรึไงนะ หล่อนถามถึงเพื่อนอีกคน
มัวจี๋จ๋าอยู่กับแฟนล่ะมั้ง แฟนสวยซะด้วย ใครจะอยากคราดสายตา โดมว่า
ขณะนั้นเองอยู่ดีๆรักเดียวก็หยุดเดิน ชมพูกับโดมจึงหันมาถาม มีอะไร
ฉันลืมหนังสือกับเลคเชอไว้บนห้อง พอพูดจบหล่อนก็โกยแน่บกลัวว่าแม่บ้านจะเก็บไปซะก่อน พอมาถึง หล่อนเปิดประตูเข้าไปยังโชคดีที่มันยังอยู่ หล่อนเดินเข้าไปหยิบและเดินออกมา สายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรดำๆตกอยู่ตรงแถวๆโต๊ะอาจารย์ จึงเดินเข้าไปใกล้ๆ มันคือกระเป๋าเงินซึ่งในนั้นมีบัตรสารพัดชนิดเสียบไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าของคืออาจารย์สุดหล่อที่สอนเธอเมื่อครู่เธอจึงถือวิสาสะเปิดดู และเธอก็ยิ้มออก เห็นนามบัตรอยู่ไรไรมีเบอร์โทรหล่อนจึงแอบจัดเก็บเบอร์โทรศัพท์ของเขาลงเครื่องของตัวเอง และวิ่งเอากระเป๋าเงินไปคืนเขาหน้าบานฉ่ำ
ด้านโดมกับชมพูเห็นเพื่อนหายเงียบไปนานก็ชะเง้อคอรอจนเมื่อแล้วเมื่อยอีก
ทำไมไปซะนาน ห้องก็อยู่ตรงนี้ ชมพูพูดขึ้น
นั่นน่ะสิ หาเจอรึเปล่าก็ไม่รู้
ชมพูสังเกตเห็นผู้คนที่เดินผ่านไปมาแถวนั้นเหลียวสายตาหันมามองโดมพระเอกไหม่ที่ละครกำลังจะออนแอร์ในคืนพรุ่งนี้จึงพูดขึ้น เป็นดาราแล้วนะโดม ทำตัวดีดีล่ะ ทุกคนเค้าจับจ้องมองโดมอยู่ เดี๋ยวมีข่าวไม่ดีขึ้นมา จะไม่รุ่ง
เคยเป็นไงก็เป็นอย่างนั้นแหละพูพูดเหมือนว่าเราจะเปลี่ยนไปเสียงโดมเรียบนิ่ง
ชมพูมองเขาอย่างชื่นชม
เวลานี้ที่ห้องพักอาจารย์ภาควิชาการตลาด ชลธีกำลังหัวเสียกับการหากระเป๋าเงิน ชีวินกับพิมพ์วนากลับเข้ามาเห็นเข้าจึงถาม หาอะไร ที
กระเป๋าตังหายว่ะ
แกเอาไปทำตกที่ไหนรึเปล่า
หาดีรึยังคะ
คิดดีๆซิ ชีวินว่า
เดี๋ยวพิมพ์ขอตัวก่อนนะคะ พิมพ์มีสอนค่ะ พิมพ์วนาทิ้งสายตาเป็นห่วงชลธีก่อนจะเดินออกไป
เดี๋ยวฉันกลับไปดูห้องที่ฉันสอนเมื่อกี๊หน่อยดีกว่า ชลธีพูดจบก็เดินออกไปเปิดประตูก็ประจัญหน้ากับรักเดียวที่กำลังจะเข้ามาพอดี
อ้าวคุณ!
สะสะหวัดดีค่ะ หล่อนตื่นเต้น
มาหาผมหรอ
อาจารย์ทำมันตกที่ห้อง รักเดียวยื่นกระเป๋าเงินให้เขา
ผมกำลังหามันอยู่เลย ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากจริงๆ เขาดีใจ ไอ้เงินน่ะไม่เท่าไรหรอก แต่บัตรสำคัญๆนี่สิ เอว่าแต่คุณชื่ออะไรนะ คุณที่บังอาจว่าอาจารย์การตลาดจู้จี้ขี้บ่นเนี่ย
โหจำแม่นนะคะ แล้วอาจารย์ก็ไม่ยอมบอกตั้งแต่แรกว่าเป็นอาจารย์
คุณจะให้ผมพูดตอนไหน ยังไม่บอกผมเลยคุณชื่ออะไร
รักเดียวค่ะ
ชื่อดีนี่ เท่นะเท่ อยู่ปีสองใช่ไหม ยังไงก็ขอบคุณจริงๆสำหรับกระเป๋าเงินไม่รู้จะตอบแทนคุณยังไงเลย
ขอ เอ ก็พอค่ะ
อะไรนะ
รักเดียวหัวเราะหึหึ หนูล้อเล่นน่ะค่ะ ไปก่อนนะคะเพื่อนหนูรออยู่
ครับขอบคุณมากชลธีพูดพร้อมๆกับที่ชีวินเดินออกมาพอดี
อ้าวได้คืนแล้วหรอ ชีวินเห็นกระเป๋าเงินในมือเพื่อน
อื้ม ลูกศิษย์เอามาคืน
รักเดียวมองเขาอยู่ครู่หนึ่งจึงยกมือไหว้อาาจารย์การตลาดนี่หล่อทุกคนเลยรึเปล่าคะเนี่ย
แน่นอนครับ ชีวินเล่นด้วย ชลธีจึงเอาแขนกระแทกตัวเขาเบาๆแล้วเก๊กเข้มทำเสียงขรึม เฮ้ยคุณ คุณเป็นนักศึกษามาชมอาจารย์แบบนี้มันไม่เหมาะสมนะ แม้จะเป็นเรื่องจริงก็ตาม
รักเดียวยิ้มอย่างปลื้มใจก่อนจะหันหลังกลับ ไปนะคะ
ดูท่าทางเป็นคนดีนะ สวยกว่านี้ซะหน่อยหนุ่มๆคงติดตรึม ฉันอาจจะเป็นหนึ่งในนั้นชีวินพูดขึ้นมาเมื่อเห็นเพื่อนยังไม่ละสายตาจากลูกศิษย์
ไอ้บ้า นั่นนิสิตนะ
ฉันล้อเล่นน่า
ล้อเล่นแบบนี้ อยากให้พิมพ์มาได้ยินจัง
คนเขารักกัน เขาเชื่อใจกัน
คำพูดของชีวิน ทำเอาสีหน้าชลธีเปลี่ยนไปทันที
จะไปกินข้าวใช่ไหมเดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อน ชีวินออกปาก
ไม่เป็นไรแกกินกับพิมพ์แล้วไม่ใช่หรอ เขากลับมาฝืนยิ้ม
เออน่าฉันไม่มีสอนไปเป็นเพื่อนได้ ไม่งั้นแกจะมีเพื่อนอย่างฉันไว้ทำไม
ลำบากเปล่าๆ เดินไปเดินมา
มากว่านี้แกก็เคยทำเพื่อฉันมาแล้วนี่
ชลธีหันขวับไปมองหน้าชีวินที่เขาพูดแบบนั้นด้วยสีหน้าเหมือนกลัวว่าชีวินจะรู้อะไรบางอย่าง แกพูดอะไรเขาถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
เปล่านี่ ทำไม ก็เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแกก็ทำอะไรเพื่อฉันมามาก แปลกตรงไหนหรือแกมีอะไร
!?
รักเดียวมาถึงที่โดมกับชมพูรออยู่ ชมพูเห็นเข้าจึงถามด้วยความเป็นห่วง
เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมช้าจัง
ขอโทษๆ ฉันเจอกระเป๋าเงินของอาจารย์ชลธี เลยเอาไปคืนเค้ามา รักเดียวพูดพลางเดินนำหน้าไปยังโรงอาหาร ไม่ได้สนใจว่าเพื่อนทั้งสองคนหยุดนิ่งอึ้ง ชมพูหันมาถามโดมช้าๆ
นี่คงไม่ใช่พรหมลิขิตนะ
บ้าน่าลูกศิษย์กับอาจารย์ พรหมคงไม่ใจร้ายแกล้งรักหรอกมันเป็นไปไม่ได้
เรื่องในลิฟต์ก็ทีแล้ว ชมพูมองรักเดียวอย่างห่วงๆ
* * * * * * * *
สายชลได้ยินเสียงรถลูกชายขับเข้ามาในบ้านจึงรีบล้างมือ เดินออกจากครัวเตรียมน้ำเย็นชื่นใจไว้ให้ลูกชายสุดหล่อ
กลับเร็วนะวันนี้ ตาที
ไม่ดีหรอครับชลธีเข้ากอดแม่ของเขา
มีอะไรรึเปล่าลูก
ผมไม่อยากเห็นอะไรก็เท่านั้นเอง
อะไรของเรา นี่ ไม่เบื่อรึไง เมื่อไหร่จะแต่งงาน ยี่สิบแปดย่างยีบเก้าแล้วนะเราน่ะ
ก็ยังไม่มากซักหน่อยอีกอย่างอยู่กับแม่สองคนแบบนี้ผมก็มีความสุขดีแล้วนี่ครับ
แม่อยากอุ้มหลาน หนูพิมพ์เขาน่ารักดีนะ
เขาเป็นแฟนของวินครับแม่
ลูกไม่ชอบเขาหรอ
ชลธีนิ่งไปไม่ยอมตอบ
* * * * * * * *