นิยามรักแห่งสายสายรุ้ง ( ตอนที่ 4 )
สุชาดา โมรา
ฉันมีความรู้สึกว่ายิ่งฉันเข้ามาอยู่ในชมรมยูโดมันก็ยิ่งทำให้ฉันห่างจากพี่เบนซ์ไปชั่วขณะ ฉันจึงพยายามติดต่อกับพี่เบนซ์อยู่ตลอดเวลาด้วยการโทรไปหาทุกวัน ๆ ราวกับคนรักกัน ส่วนวีนั้นถึงแม้ว่าเราจะอยู่ห้องเดียวกันแต่ฉันกลับเริ่มห่าง ๆ จากวียังไงก็ไม่รู้ ฉันไม่อยากจะเสียเพื่อนไปฉันจึงพยายามที่จะคุยกับวีมากขึ้น
"วี...การบ้านข้อนี้ทำยังไงเนี่ยช่วยสอนฉันหน่อยได้ไหม"
"ได้จ่ะ"
วียังเป็นคนเดิมที่คุยเก่ง และเรียนเก่ง วีสอนฉันได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องมีแฟน วีมักจะพูดถึงพี่วิทย์ให้ฉันได้ยินบ่อย ๆ จนกลายเป็นว่าฉันเริ่มสนิทกับพี่วิทย์เพราะวีเล่าเรื่องราวให้ฟังอยู่บ่อย ๆ ไปแล้ว วีเป็นคนสนุกสนาาน คุยได้ทุกเรื่องจริง ๆ ความสัมพันธ์ของเราจึงคงแน่นแฟ้นอยู่ตลอด
วันนี้หลังจากเลิกเรียนฉันพาวีไปส่งที่ชมรมวาดรูปแล้วฉันก็ไปซ้อมยูโดต่อ...ฉันรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่น่าเบื่อมาก ๆ ทีเดียว ผู้คนที่เบาะมากขึ้นจนไม่มีที่จะแทรกให้นั่งฉันจึงลงมติกันว่าเราน่าจะแบ่งกันว่าจะมาซ้อมวันไหนบ้างเพื่อให้เบาะพอแก่การซ้อม แต่จู่ ๆ ฉันก็เหลือบไปเห็นอาจารย์คนเดิมที่ชอบมาแอบดูเราซ้อมบ่อย ๆ แต่คราวนี้อาจารย์คนนี้กลับเดินเข้ามาทักทายจนผิดปกติ
"สวัดดีนักยูโดทุกคน...เบาะไม่พอเหรอ ผมจะเขียนงบเสนอให้"
"สวัสดีค่ะอาจารย์...."
"ผมเป็นคณะบดีของคณะพละศาสตร์ผมจึงสามารถเสนอเรื่องได้รับรองว่าคุณจะมีเบาะพอเพียงและห้องจะกว้างขวางกว่าเดิม แต่ก็ต้องร่วมมือกันเซ็นชื่อในใบคำร้องด้วยนะ เชื่อว่าพวกคุณจะได้มาซ้อมทุกวัน"
ฉันรู้สึกตื้นตันใจจริง ๆ ที่อาจารย์ท่านนี้มาช่วยเราไว้ ฉันว่าท่านเหมือนพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยพวกเราทีเดียว
วันนี้พวกเราซ้อมเสร็จก็แยกย้ายกันไปยกเว้นนายเอิร์ทที่ยังคงปักหลักซ้อมด้วยท่าทางที่ไม่เอาไหนจนฉันรู้สึกทนไม่ได้จึงเข้าไปสอน เมื่อเข้าไปสอนก็ดูท่าทางจะเอาจริงเอาจังผิดไปจากคนปากหมาคนเดิม ฉันรู้สึกว่าดีเหมือนกันนะที่เขาตั้งใจเพราะนาน ๆทีฉันจะเห็นเขาตั้งใจแบบจริง ๆ จัง ๆ ก็คราวนี้แหละ
"นี่นะคะพี่เอิร์ทก้าวเท้าขวามาหน้าเท้าซ้ายแล้วย่อ หมุนตัว ย่อให้ตลอดแล้วก็ยืดเพื่อทำท่าทุ่ม เอาละค่ะแบบนั้นละ"
ดูท่าทางจะหัวไวเหมือนกัน จากนั้นฉันจึงสอนให้เขาทุ่มได้ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลยที่เบาะฉันจึงหาหุ่นผู้ชายให้ไม่ได้ ฉันจึงต้องเป็นหุ่นเอง เขาพยายามทุ่มแต่ก็ทุ่มฉันไม่ได้
"นี่พี่เอิร์ทคะ ถ้าคนตัวเตี้ยกว่าอย่าพยายามใช้แรงนะคะ ย่อมาก ๆ เขาก็จะข้ามหัวไปเอง"
แล้วพี่เอิร์ทก็ทำได้ เขายิ้มแล้วก็ขอบคุณฉัน วันนี้ฉันจึงต้องเดินออกจากชมรมพร้อมกับพี่เอิร์ท เมื่อเดินออกมาหน้าชมรมฉันก็เห็นพี่เบนซ์กำลังถูกคนกลุ่มหนึ่งรุมทำร้ายฉันจึงวิ่งเข้าไปช่วย ฉันเอาชุดยูโดฟาดไปที่หน้าคนที่จับพี่เบนซ์ไว้ พี่เอิร์ทก็เข้ามาช่วยด้วยเหมือนกัน ฉันก็เลยทุ่มพวกนั้นลงไปกองอยู่กับพื้น ส่วนพี่เอิร์ทก็เอาวิชาที่เรียนมาใช้ประโยชน์ได้เหมือนกัน
"ฝากไว้ก่อนเถอะ......!!!!"
คนพวกนั้นวิ่งเตลิดกลับไปกันหมด ฉันจึงพยุงตัวพี่เบนซ์ขึ้นมาและพาไปนั่งที่ม้านั่ง
"พี่เอิร์ทฝากพี่เบนซ์หน่อยนะคะเดี๋ยวรุ้งมา"
"จะไปไหน..."
"ไปเอารถ"
"ของพี่ก็มีไม่ต้องไปเรียกรถข้างนอกหรอก....!!!"
ฉันวิ่งมาที่จอดรถของหอหญิงแล้วก็ขับรถ JAGUAR สีแดงออกมาจอดที่ถนนตรงหน้าโรงยิมส์
"ขึ้นมาสิ"
ฉันเปิดกระจกรถและเรียกให้พี่เอิร์ทพาพี่เบนซ์ขึ้นมา
"รถเธอเหรอที่จอดใต้ถุนหอน่ะ ผมนึกว่าเป็นรถอาจารย์ซะอีก บ้านรวยนี่หว่าแต่ทำไมชอบทำตัวเซอ ๆ เออ...เธอนี่ก็แปลกนะ"
"อย่าพูดมาน่าพี่เบนซ์เป็นไงบ้างก้ไม่รู้สลบไปแล้ว"
ฉันขับรถออกมาพาพี่เบนซ์ไปส่งโรงพยาบาล พี่เบนซ์ถูกแทงเสียเลือดมากทางโรงพยาบาลต้องการเลือดกรุฟโอฉันจึงยอมสละถ่ายเลือดให้พี่เบนซ์
"นี่เธอจะแข่งอีกไม่กี่วันนะ เธอจะให้เลือดนายเบนซ์ได้ยังไง"
"ช่างเถอะ...ถ้าฉันเชื่อในรักแล้วฉันก็ยอมสละได้ทุกอย่างนั่นแหละ"
"เธอชอบเบนซ์เหรอ......แล้วทำไมเธอไม่บอกเขาไปล่ะ"
"ฉันไม่ต้องการให้พี่เขารู้ว่าฉันชอบ ฉันต้องการแค่ฉันทำอะไรให้พี่เขาได้บ้างก็เท่านั้น"
ฉันเดินเข้าไปในห้องกับพยาบาล ฉันมองหน้าพี่เบนซ์ตลอด พี่เบนซ์เลือดของรุ้งคงพอที่จะช่วยพี่ได้บ้างนะคะ กรุฟโอเลือดที่สุดแสนจะหายาก ฉันต้องการให้พี่ทั้งเลือดและหัวใจของฉันโดยที่ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนเลย...
"คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วค่ะ..."
ฉันถึงกับกอดพี่เอิร์ทไว้แน่นทีเดียว ฉันดีใจเป็นที่สุดที่เลือดของฉันช่วยเหลือพี่เบนซ์ได้ ถึงแม้ว่ามันจะช่วยไม่ได้มากก็ตามแต่ฉันก็เต็มใจ
"รุ้ง ๆ ๆ"
"เธอคงเป็นลมเพราะถ่ายเลือดมากไปพาเธอมาพักที่ห้องเร็ว"
พยาบาลพาฉันมานอนพักฟื้นที่ห้องผู้ป่วย เมื่อฉันลืมตาขึ้นมาคนแรกที่ฉันเห็นก็คือพี่วิทย์กับวี ส่วนพี่เอิร์ทนั้นนอนหลับอยู่ที่เก้าอี้และเอาหัวมาหนุนตัวฉัน ฉันรู้สึกว่าฉันอุ่นใจที่มีคนพวกนี้อยู่ใกล้ ๆ ฉันชอบทุก ๆ คนเหมือนกับเราเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน แต่ยังไง ๆ ฉันก็ยังมีอัคคติกับพี่เอิร์ทอยู่ดีถึงแม้ว่าเขาจะทำดีแค่ไหนก็ตาม
พยาบาลให้ฉันพักผ่อนมาก ๆ แล้วก็กินยาบำรุงเลือด ฉันเดินมาดูพี่เบนซ์ที่ห้อง ฉันเห็นเขาฟื้นฉันก็ดีใจ
"เอิร์ทคะทานผลไม้นิดนะคะ"
ฉันเห็นพี่พรเอาใจพี่เอิร์ทด้วยท่าทางที่เป็นห่วงเป็นใย ฉันจึงไม่เข้าไปทักพี่เขาแล้วก็เดินออกมาจากห้องมานั่งรอข้างนอก
"ไม่เข้าไปล่ะ...ชอบเขาไม่ใช่เหรอ"
"พี่เขามีคนที่ให้กำลังใจอยู่แล้ว ฉันก็ไม่ต้องเข้าไปหรอก ดูห่าง ๆ ก็พอแล้วละ ฉันตัดใจแล้วละเพราะฉันคิดว่าคนนิสัยดี ๆ หน้าตาดี ๆ อย่างพี่เบนซ์ก็ต้องมีแฟนเป็นธรรมดาพี่เอิร์ทไม่ต้องมาปลอบใจฉันหรอก ฉันรู้ตัวดีว่าต้องยืนอยู่ตรงไหน กลับเถอะเดี๋ยวรุ้งไปส่ง"
"ไม่เป็นไรพี่ว่าพี่ขับรถไปส่งรุ้งดีกว่านะ"
พี่เอิร์ทพาฉันมาที่สวนสาธารณะ พี่เอิร์ทนั่งคุยกับฉันอยู่เป้นเพื่อนฉัน ปลอบใจฉันจนฉันรู้สึกว่าสบายใจมากขึ้น ที่จริงพี่เอิร์ทก็มีข้อดีเหมือนกันนะ เสียอย่างเดียวคือเป็นคนที่พูดจากวนประสาท และก็ชอบทำท่าเก๊กเพราะถือว่าตัวเองหล่อเป้นดาวของมหาวิทยาลัย จุดนี้แหละที่ฉันไม่ชอบเขา...
"เอิร์ทมานั่งพอดรักกับใครเนี่ย....เดี๋ยวฟ้องเมย์นะ"
"รุ่นน้องน่ะ เขามีเรื่องไม่สบายใจก็เลยพามาสงบจิตสงบใจที่นี่"
ฉันรู้สึกหมั่นไส้เสียงแจ๋แว๊ดของยายคนนี้จริง ๆ ก็เลยกันไปยิ้มแล้วก็ควงแขนพี่เอิร์ททันที
"ก็ฝากบอกพี่เมย์ด้วยนะคะว่าพี่เอิร์ทไม่ชอบของเก่า มันเหม็นปลาร้าเน่า ของใหม่มันเด็กกว่าสวยกว่าสดกว่า เข้าใจไหม และฝากบอกอีกอย่างว่าฉันเป็นแฟนคนใหม่ของพี่เอิร์ท"
"รุ้ง.........!!!"
"กรี๊ด...........!!!"
ยายคนนั้นถึงกับกรีดร้องทีเดียว เป็นใครก็ดูออกว่ายายคนนี้มีท่าทีที่ชอบพี่เอิร์ท แถมยังทำท่าเหมือนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเข้ามาควงแขน ฉันก็เลยแกล้งซะให้เข็ด แล้วก็เดินหนีพี่เอิร์ทออกมา
"นี่อย่าหนีนะ....จะรีบเดินไปไหน สนุกนักเหรอที่ทำแบบนี้ สงสัยเธออยากจะมีเรื่องกับยายเมย์ใช่ไหมถึงทำแบบนี้ เธอ...เดี๋ยว...!!!"
ฉันรีบเดินมาขึ้นรถ พี่เอิร์ทก็ตามขึ้นมา เขาบ่นฉันตลอดทางทีเดียว ฉันมาถึงหอพักก็จอดรถแล้วก็เดินขึ้นหอไปเลยโดยที่ไม่สนใจที่พี่เอิร์ทพูด...วันนี้รู้สึกสนุกมากทีเดียวที่ได้แกล้งยายคนนั้น แต่ฉันก็ยังหวั่น ๆ ใจกับเหตุที่จะตามมาภายหลังเหมือนกัน...
..................................4................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ...ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ
....ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ...