คุณไม่ผ่านโปร !!!!! .. เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน. จากปากของฝ่ายสรรค์หาบุคลากร ที่ผมได้ร่วมเข้าไปทำงาน กว่า 3 เดือน คำธรรมดา เพียง 4 คำที่แหลมคมดั่งใบมีด เชือดเฉือน ความมุ่งมั่นที่เคยมี. ความพยายามอย่างเต็มใจ ความตั้งใจ. และ เปลวไฟที่ลุกโชนอยู่ในใจของผมแทบหมดสิ้น. ผมเฝ้าถามตัวอยู่หลายวัน .. ผิดหรือ ที่ผมตั้งใจทำงาน ? .. แต่เสียงในใจผม ก็ได้แต่เพียงกระซิบบอกผมอยู่หลายวันเช่นกัน .. นายไม่ผิดหรอก. นายทำดีที่สุดแล้ว ผมพยายามลบลืมความทุกข์ ที่ฝังตรึงอยู่ภายในใจ แต่ทำเท่าไหร่ทำไม่ได้ซักที.. ผมค่อย ๆ นอนลงอยู่ในความมืดมนของห้อง และหลับไป จนวันหนึ่ง ผมได้ไปพบเจอกับคนตาบอดคนหนึ่งเดินอยู่ริมถนนที่มีรถสัญจรผ่านไปมามากมาย ผมตรงเขาไปช่วยเขาด้วยกลัวว่าเขาจะได้รับอันตราย และพูดคุยกับเขาอย่างเป็นกันเอง ผมถามเขาว่า คุณไม่กลัวหรอที่เดินอยู่ในที่ ๆ อันตรายแบบนี้ เขาตอบผมว่า เขาก็กลัวเหมือนกันแต่มันก็ต้องเดินไปเพื่อให้ถึงจุดหมาย แต่ด้วยความบังเอิญอะไรไม่ทราบ คนตาบอดคนนี้ได้มอบข้อคิดดี ๆ ให้กับผมโดยที่เขาไม่รู้ตัว เขาพูดกับผมว่า คุณก็โชคดีนะที่สามารถมองเห็นอะไรต่ออะไรได้มากมาย ต่างจากผมที่ต้องอยู่ท่ามกลางความมืดมนมาตลอด แต่ไม่เป็นไร. .เพราะว่าผมยังมองเห็นแสงสว่างสุกใสอยู่ภายในใจของผมอยู่ตลอดเวลา ผมถึงไม่คิดเสียใจอะไร ที่มองไม่เห็น ต่างจากคนอีกตั้งมากมาย ทั้ง ๆ ที่ตาของเขามองเห็นแท้ ๆ แต่ดันยังเดินจมอยู่กับความมืดมนมาตลอด ไม่ยอมรับแสงใหม่ของตะวันเสียที เขาพูดไปพลางก็ขอบคุณผมไป ผมมาส่งเขาถึงที่ป้ายรถเมล์ ส่วนผมก็เดินแยกไป หลังจากวันนั้น ผมยิ้มได้ ลืมเรื่องร้าย ๆ จนหมดสิ้น ผมยังอดขอบคุณคนตาบอดคนนั้นไม่ได้ ที่ให้กำลังใจดี ๆ กับผม ทั้ง ๆ ที่ตัวเขาเองไม่รู้ตัว ถ้าผมเจอเขาอีกครั้ง ผมจะกล่าวสั้น ๆ กับเขาว่า ขอบคุณมากครับ นาย G
30 สิงหาคม 2547 20:14 น. - comment id 76480
:)
31 สิงหาคม 2547 22:58 น. - comment id 76532
......เห็นความรู้สึกที่ตั้งใจ แต่ทำไมใครใจร้ายจัง ทำงานแล้วไม่ผ่าน นี่มันงานอะไรนะเข็นภูเขาไปแปะที่ไหน หรือยังไง..มาเป็นกำลังใจอย่างน้อยก็ผ่านตอนเขียนเรื่องน่าติดตาม อ่านไป รอบที่สี่แล้ว เขียนเพิ่มสักนิดได้ไหม ไม่รออนุญาตนะ ..เขียนเลย เพราะคนละตอน.. ....... ....... แสงตะวันสาดแสงที่ปลายขอบฟ้า เห็นเพียงสีทองสว่าง แล้วค่อยเพิ่มความจ้าของรัศมี แต่ไม่ได้ร้อนแรงมากนัก...ชายหนุ่มหนึ่ง ที่กำลังเดินก้าวไปข้างหน้า ตามถนนสายเล็กๆที่ทอดตัวขึ้นสู่ทีสูงบ้างต่ำบ้าง จ้องมองแสงตะวันนั้น รอยยิ้มนิดฉาบอยู่ในสีหน้าเขา..จริงสินะชีวิตเป็นอย่างนี้นี่เอง ..เมื่อวานตัวเขายังจมอยู่ในความมืด ความตั้งใจดับลงไปในบางจุด แต่ผู้ที่จุดประกายสว่างกลับเป็น บุรุษบอด บอดตาแต่หาบอดใจไม่ แม้กระแสถ้อยคำก็ยังสว่างล้ำทะลุเบ้าตา ผ่าเบ้าใจอย่างเจิดจ้า สายลมอ่อนๆยามเช้า พัดต้องผิวกาย แสงแดดแม้จะกล้าแสง แต่มิทำให้ชายหนุ่มรู้สึกร้อนแต่อย่างใด แต่กลับอุ่นใจในความรู้สึก ธรรมชาติช่างเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ของมนุษย์จริงนะ ในถนนที่เดียวดายด้วยผู้คน แต่กลับอุ่นด้วยแสงตะวัน ..แม้นชดเชยในหัวใจไม่ได้เต็ม แต่ช่างเป็นสัญญลักษณ์ของการต่อสู้และอดทน ก้าวไปข้างหน้า ไปไม่หยุดยั้ง..... มืดที่นี่ สว่างอีกที่ ..เป็นเช่นนั้นสินะ ....
7 กันยายน 2547 17:03 น. - comment id 76785
เนื้อเรื่องจืดเกินไป