ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Neuschwanstein Castle )

อัลมิตรา

หากสิ่งที่ปรากฏทั้งมวลเป็นประหนึ่งความฝันอันปรากฏเมื่อรัตติกาลแห่งวันวาน คงน่าที่จะให้ดำรงอยู่ในรัตติกาลของวันนี้เช่นกัน สีสันของป่าเขาแห่งนี้ยิ่งมีความสวยงามหลากหลาย ประหนึ่งจิตรกรเอกได้บรรจงเขียนรูปบนผ้าใบได้อย่างวิจิตรก็ไม่ปาน ท่ามกลางความสวยงามทั้งมวล ยังซ่อนเร้นด้วยสรรพสัตว์ที่ได้ดำรงชีพอาศัยผืนป่านี้ ให้โลดแล่นและดำรงชีพของตนไปตามวิถีแห่งการอยู่รอด 
 				

ในท่ามกลางรุ่งอรุโณทัยอันสดใส แสงทองแห่งพระอาทิตย์ฉายฉาน กระทบยอดปราสาทที่สูงเด่นสวยงาม หอคอยซึ่งในกาลก่อนเคยมีทหารเฝ้าเวรยามรักษาความปลอดภัยทุกทิวาราตรีกาล บัดนี้อ้างว้างเปล่าเปลี่ยว หลังคาประภาคารลดหลั่น ล้วนวิจิตรตระการตา ล้วนบังเกิดขึ้นเพื่อ บ่งบอกสัญลักษณ์ด้านสถาปัตยกรรมแห่งผู้เป็นเลิศด้านการออกแบบ 

ปราสาทนอยชวานสไตน์ หาได้ถูกเสกสร้างจากเทพบนสรวงสวรรค์ไม่ หากแต่บังเกิดขึ้นจากพระราชดำริแห่งพระมหากษัตริย์ผู้มีพระสิริโฉมงดงามดุจเทพบุตรในนวนิยายปรัมปราและคงไว้ซึ่งพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีและการละคร นั่นพระเจ้าลุดวิกที่ 2  ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์แห่งบาวาเรีย
 
หลังจากที่พระองค์เสด็จขึ้นครองราชสมบัติเมื่อยังทรงมีพระชนมพรรษาได้เพียง 18 เท่านั้น ในปี ค.ศ.1864 ทรงได้ทุ่มเทพระวรกายและพระปรีชาสามารถทั้งมวลที่มีอยู่ ปกครองบริหารราชการแผ่นดิน แต่เนื่องจากเอกลักษณ์อันเป็นปัจเจก พระองค์ทรงมีพระบุคลิกภาพที่รักความสงบสันโดษ และพระองค์ยังคงค้นหาความผ่อนคลายหลังจากที่เหนื่อยล้าจากพระราชกรณียกิจทั้งมวล จึงทรงเริ่มเบื่อหน่ายและผละจากสังคมแห่งความเกษมสันต์รื่นรมย์ ที่แวดล้อมด้วยเสนามหาอำมาตย์ สนมกำนัลและข้าราชบริพาร แม้นว่าพระองค์จะทรงเคยได้รับการยกย่องเชิดชูพระเกียรติยศให้เป็นพระมหากษัตริย์ที่มีความสำคัญในด้านการปกครองแห่งยุโรปมากพระองค์หนึ่ง 				

หลายเพลา เมื่อว่างจากงานราชการแผ่นดิน พระองค์ไม่ทรงละเลยที่จะแสวงหาความเป็นส่วนพระองค์ด้วยการเสด็จไปแปรพระราชฐาน ณ ปราสาทแฮเรนคีมเซ ( Herrenchiemsee ) (ซึ่งสร้างขึ้นเลียนแบบพระราชวังแวร์ซายลส์ของฝรั่งเศส แต่สร้างไม่แล้วเสร็จ) และปราสาท ลินเดอร์ฮอฟ ( Linderhof ) (ซึ่งสร้างขึ้นตามแบบของพระตำหนักตรีอานอง ของฝรั่งเศสเช่นกัน) ที่พระองค์ทรงโปรดให้สร้างขึ้นในรัชสมัยนั้น ซึ่งปัจจุบันยังอวดโฉมเป็นสถานที่ที่ยังคงไม่ร้างลาจากการแวะเวียนเยี่ยมชมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก  

นอกเหนือจากปราสาททั้งสามที่กล่าวมาในเบื้องต้น พระองค์ทรงโปรดเสด็จไปแปรพระราชฐานประทับ ณ ปราสาทแบร์ก ริมทะเลสาบสตานแบร์เกอร์ และพระตำหนักโฮเฮนชวานเกา อันได้รับพระราชทานสืบทอดมาจากพระราชบิดา				

 ปราสาทนอยชวานสไตน์นั้น ถูกสร้างขึ้นเมื่อภายหลัง หากจะกล่าวว่าปราสาทแห่งนี้เป็นสถานที่ประทับแห่งองค์พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ และรักความสันโดษ โปรดการดนตรีและละคร สุนทรียภาพแห่งนี้ ยังสะท้อนบังเกิดจินตนาการแห่งนวนิยายที่งดงามโดยมีปราสาทแห่งนี้เป็นฉากกั้นเบื้องหลังนวนิยายนั้น ๆ สืบเนื่องมาจากปราสาทแห่งนี้ สมควรเป็นจินตนาการที่มิอาจเป็นไปได้ เนื่องจากความงดงามจนเกินบรรยาย ความสมบูรณ์ทั้งภูมิประเทศที่ตั้งที่มีฉากหลังเป็นทะเลสาบ และแวดล้อมด้วยหุบเขาอันสูงตระหง่าน แวดล้อมไปด้วยพฤกษชาติมากมาย และความลงตัวแห่งสถาปัตยกรรมบังเกิดเป็นปราสาทที่วิจิตรตระการตา งดงามแสนโรแมนติค

การสร้างปราสาทแห่งนี้มิใช่เรื่องง่ายดายนัก เนื่องจากในสมัย ค.ศ.1869 นั้น ปราศจากเทคโนโลยีเครื่องอำนวยความสะดวกทั้งมวล  วัสดุอุปกรณ์ที่นำมาบรรจงสร้างสรรค์ ล้วนมีน้ำหนักและปริมาณมากมายมหาศาล ถูกลำเลียงเคลื่อนย้ายไปสู่สถานที่ก่อสร้างปราสาทอันตั้งอยู่ไกลโพ้นที่หลบเร้นจากโลกภายนอก  หินอ่อน 465 ตัน หินทราย 4,550 ตัน อิฐ 400,000 ก้อน ทราย3,600 ลูกบาศก์เมตร ซีเมนต์ 600 ตัน และสิ่งสำคัญคือการใช้ไม้เพื่อแกะสลักทั้งสิ้น 2,050 ลูกบาศก์เมตร และใช้กำลังสติปัญญาแรงงานจากช่างผู้ชำนาญและ  ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมากมาย โดยใช้เวลาทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 17 ปี 				

ความวิจิตรงดงามของปราสาทแห่งนี้ ที่ถูกหล่อหลอมมาจากพระอัจฉริยะภาพและความสันโดษของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 ยังคงท้าทายความผันแปรของกาลเวลาธรรมชาติ อวดโฉมความงดงามโรแมนติค ให้ผู้มาเยี่ยมชมนับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน จนได้รับยกย่องขนานนามจากผู้คนทั่วโลก ให้เป็นสถานน่าอัศจรรย์ใจและน่าไปเยี่ยมชมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก 

และด้วยการที่พระองค์ทรงโปรดปรานดนตรีและการละครเป็นอย่างมาก จึงทรงโปรดให้มีการสร้างห้องโถงดนตรีขึ้นในชั้นที่ 3 ( Music Hall ) ซึ่งมีลักษณะเป็นห้องยาวๆ สี่เหลี่ยมผืนผ้า บนเพดานอันวิจิตรมีโคมไฟโลหะห้อยระย้างดงามอยู่สี่พวง ตามช่วงกลางของห้องแต่ละช่วง เบื้องหน้าของห้องโถงนั้นได้ยกระดับพื้นไว้สำหรับเป็นเวทีเพื่อใช้ในการแสดงดนตรีและละคร เมื่อทอดสายตามองผ่านไปยังมุมโค้งของเวทีนั้น ปรากฏภาพวาดขนาดใหญ่รูปป่าเขาลำเนาไพรอันสดชื่นรื่นรมย์ ภายในภาพนั้นยังปรากฏสัตว์น้อย ๆ จำพวกกระรอกกระแตวิ่งไล่กันอยู่เป็นจำนวนมาก เล่ากันว่า ภาพนี้เกิดจากการที่พระองค์เคยเสด็จประพาสป่าในเมืองมิวนิค แล้วทรงประทับใจเป็นยิ่งนัก จึงโปรดเกล้า ฯ ให้จิตรกรเขียนรูปนี้ขึ้นมา ทุกครั้งคราเมื่อมองผ่านไปยังรูปเขียนนี้ ยังปรากฏความสดชื่นสบายใจอย่างจับจิต  				

แต่ทว่าช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าใจยิ่งนัก  ที่บั้นปลายแห่งพระชนม์ชีพของพระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าผู้ครอบครองปราสาทที่แสนวิจิตรงดงามแห่งนี้ จะมีจุดจบที่น่าขมขื่น ไร้ซึ่งความงดงามหากเปรียบเทียบกับผลงานของพระองค์ เนื่องด้วยฝ่ายคณะรัฐบาลได้ประกาศว่าพระองค์วิกลจริตไม่อาจสามารถบริหาราชการแผ่นดินได้ จึงได้ปลดออกจากราชบัลลังก์ ทำให้พระองค์ต้องแปรพระราชฐานออกจากปราสาทนอยชวานสไตน์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่โปรดปรานไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ยิ่ง แล้วจึงเสด็จไปประทับ ณ ปราสาทแบร์ก ริมทะเลสาบสตานแบร์ก 

แล้วต่อมาเมื่อ วันที่ 13 มิถุนายน 1886 ได้มีผู้พบพระศพของพระองค์และแพทย์หลวงส่วนพระองค์อยู่ในทะเลสาบสตานแบร์ก ซึ่งครั้งหนึ่ง พระองค์ทรงโปรดที่จะเสด็จทอดพระเนตรหงส์ขาวในทะเลสาบแห่งนี้เป็นอย่างมาก สืบเนื่องจากทรงโปรดความงดงามของหงส์ขาว ความสง่างาม และทรงยังเคยนำไปเป็นสัญลักษณ์ของปราสาทแห่งนี้  เมื่อครั้งที่พระองค์ยังมีพระชนมายุอยู่ 				

พระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย เสด็จบรรทมอย่างเป็นนิรันดร ณ สถานที่ที่พระองค์ทรงโปรดปราน คราใด เมื่อผู้มาเยี่ยมชมปราสาทบังเกิดความตื่นตาตื่นใจกับสถาปัตยกรรมที่งดงามท่ามกลางหุบเขาและแนวป่าดั่งเทพนิยาย อันยิ่งใหญ่อลังการ ก็อดมิได้ที่ยังให้ต้องหวลรำลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้เป็นเจ้าของพระองค์นั้น 


นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ปราสาทนอยชวานสไตน์ ไม่เคยอ้างว้างว่างเว้นจากนักท่องเที่ยว ผู้ใฝ่ฝันจะท่องไปสู่ดินแดนและปราสาทแห่งเทพนิยายแสนโรแมนติค และยังคงมอบความประทับใจอย่างน่าอัศจรรย์แก่ผู้มาเยือนทั้งมวล ซึ่งยังคงเป็นเช่นนี้ตราบนานเท่านาน  				

..๏ หุบเขารายรอบล้อม................งามตา 
ปรากฏฉากพฤกษา.......................มากแท้ 
มวลม่านหมอกยังหนา.................ยามรุ่ง- อรุณเฮย 
ดังเช่นฉากละครแล้.....................แต่งด้วยลวดลาย ฯ 

..๏ แสงสูรย์ฉายส่องฟ้า............... บาวา- เรียเฮย 
ฤดูเปลี่ยนกาลเวลา.........................ผ่านพ้น 
ปราสาทราชวังพา-........................จิตชื่น- ชมแฮ 
ยังตระหง่านงดงามล้น..................เลิศหล้าสิวาลัย ฯ 

..๏ บังเกิดจากอิฐก้อน.....................ปูนทราย 
ไม้แกะสลักเรียงราย.......................มุ่งสร้าง 
หินอ่อนซึ่งหลากหลาย...................อันวิจิตร 
งามเด่นเช่นอาจอ้าง........................อวดผู้มาเยือน ฯ 

..๏ หอคอยสูงเสียดฟ้า.....................งามทรง 
ตระหง่านเด่นยรรยง.......................ดุจท้า
ฝีมือช่างบรรจง.................................อุกฤษฏ์ 
วิจิตรกว่าใดในหล้า.........................ยิ่งให้อัศจรรย์ ฯ

..๏ ท้องพระโรงเลิศด้วย.................ศิลป์งาม 
หินจำหลักแฝงความ.......................ซ่อนเร้น 
บรรยายเรื่องราวตาม......................ในอดีต 
ตกแต่งแต้มบ่งเน้น....................... เรื่องให้เห็นจริง ฯ 

..๏ ปราสาทแฝงสิ่งเศร้า................. อาลัย 
ความงดงามจับใจ..........................ไป่ร้าง 
นอยชวานสไตน์ ......................ตรึงจิต 
สรรพสิ่งที่ก่อสร้าง..........................เลิศล้ำงามเสมอ ๚ะ๛
				

...จุดเริ่มต้นในการเขียนความเรียงนี้เกิดจาก
...ผู้เขียน ดูรายการภาพยนตร์สารคดี แดนสนธยา ที่ช่อง 9 อสมท.
...สุนทรียภาพที่ปรากฏบนจอทีวี ดลใจให้ผู้เขียนอยากสัมผัสให้มากยิ่งขึ้น
...ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูลจากเวปไซด์ท่องเที่ยว
...รวมไปจนถึง การซักถามถึงเรื่องราวความเป็นมาของปราสาทแห่งนี้

...นับว่าเป็นโอกาสอันดี 
...ที่ผู้เขียนได้รู้จักคุณธวัชชัย
...ซึ่งเป็นนักเขียนที่เคยรวบรวมเขียนหนังสือพระราชวังบันลือโลก 
...ของสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊ค
...การเล่าสู่ให้ฟังอย่างเป็นกันเอง รวมทั้งการตรวจบรู๊ฟหาคำผิดให้ด้วย
...ทำให้ผู้เขียนรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง กับมิตรภาพที่ได้รับ

...เชื่อได้ว่า 
...ท่านผู้อ่านหลายคน คงเคยมีจินตนาการไปถึงปราสาทที่สวยงามอลังการ
...เจ้าชายผู้สง่าองค์ เจ้าหญิงทรงพระสิริโฉมงดงาม รวมถึงมังกรพ่นไฟ
...แม้กระทั่งเหล่าอัศวินผู้กล้าที่สวมชุดเกราะ 
...ผู้เขียนเอง ขอยอมรับว่า 
...ก็เป็นผู้หนึ่งที่เคยตกอยู่ให้ห้วงอารมณ์ที่แสนน่าภิรมย์นั้นเช่นกัน
...ความงดงามของปราสาท ที่ตรึงตาตรึงใจของผู้เขียน 
...ในขณะที่ชมภาพยนตร์สารคดีนั้น
...ทำให้ ความรู้สึกเก่า ๆ ที่เคยมีเมื่อยังเยาว์ ผุดขึ้นมาอีกครั้ง

...อยากเป็นซินเดอเรลล่าที่สวมรองเท้าแก้วและได้แต่งงานกับเจ้าชาย
...อยากเป็นโฉมงามเบลล์ ผู้มีรักแท้ต่อเจ้าชายอสูร
...และอยากเป็นเจ้าหญิงฟิโดร่า ที่ยักษ์เขียวเชรคหาญกล้าไปต่อกรกับมังกรไฟ
...เอาเถอะ ! ฝันไปซะไกล .. ถึงจะเป็นเพียงฝันก็ตามแต่
...ผู้เขียนก็ยังละเมอเพ้อไปไกลว่า..
...อยากจะเป็นเจ้าหญิง สวมชุดราตรีกระโปรงบานกรอมเท้า
...ทั้งที่จริงแล้ว สิ่งที่ผู้เขียนสามารถทำได้คือ 
...วาดฝัน และปล่อยลอยละล่องไปกับจินตนาการนั้น				

 
 ..~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~... 

 ..~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~... 

...~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*::::( ( ( O ) ) )::::*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~... 

 ..~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~... 

 ..~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~*~~~...