โลกด้านหนึ่งเหวี่ยงฉันลงกับพื้น อีกด้านฉุดให้ลุกยืนและบอกว่า ศรัทธาดีดียังมีจริง

อัลมิตรา

  ใช่ว่าเป็นครั้งแรกที่เกิดความสลดหดหู่ และก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่นำกลับมาคิด คิดแล้วคิดอีก แต่จนแล้วจนรอด ก็ได้แต่คิด เพราะไม่รู้ว่าจะหาหนทางช่วยเขาได้อย่างไร  ไม่ว่าจะเป็นภาพของขอทานบนสะพานลอย ทั้งที่รู้ว่า บางครั้งเป็นขบวนการขอทาน ซึ่งเงินที่เข้ากระป๋องในแต่ละวัน มากกว่าค่าแรงในการทำงานของผู้เขียนในแต่ละวันเสียอีก  ก็อดใจไม่ได้ ช่วยเหลือกันไปตามควร
หลายหนที่ผู้เขียนบอกกับตนเองว่า  ทำใจเป็นอุเบกขาเสียเถอะ เราไม่มีปัญญาไปช่วยเขาได้หมดทุกคนหรอก มันเกินกำลังของเราที่จะทำ ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม  แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ คำที่เคยท่องไว้ก็ดูเหมือนว่ามันจะเลือน ๆ ไป อดไม่ได้ที่จะทุกข์ใจ อดไม่ได้ที่จะเก็บมาเศร้า เป็นห่วงว่าเขาจะมีความเป็นอยู่เช่นไร กรรมของผู้เขียนเสียกระมังที่ไม่สามารถทำใจให้เป็นอุเบกขาได้ 				
  
ท่านผู้อ่านเคยทานข้าวร่วมโต๊ะอาหารกับขอทานหรือเปล่า ? คงไม่ต้องตอบให้ผู้เขียนทราบ แต่หากย้อนกลับมาถามผู้เขียนบ้างว่า แล้วผู้เขียนล่ะ เคยไหม ที่ทานข้าวร่วมโต๊ะอาหารกับขอทาน .. เคยสิ ทำไมจะไม่เคย

จำได้ว่า.. ตอนนั้นเพิ่งเริ่มทำงานได้ประมาณสองเดือน  ลำพังเงินเดือนตัวเองก็ไม่ค่อยจะได้ใช้สักเท่าไร เนื่องจากยังอาศัยอยู่กับผู้ปกครอง  วันนั้นเงินเดือนเพิ่งจะออก จึงนัดกับเพื่อนอีกสามคนไปทานข้าวกันที่ร้านริมฟุตบาทใกล้ ๆตลาดละแวกบ้าน ด้วยความที่ผู้เขียนมีงานทำ ในขณะที่เพื่อนอีกสามคนยังไม่มีงานทำ ดังนั้น ผู้เขียนจึงอาสาเป็นเจ้ามือเอง  ร้านอาหารตามสั่งคนยังไม่มากนัก จึงเลือกมุมในสุดข้างต้นไม้ใหญ่ เผื่อว่าเวลาคุยตามประสานกกระจอกสาวจะได้ไม่รบกวนโต๊ะอื่น  อาหารที่สั่งถูกทยอยนำมาวางไว้บนโต๊ะ  ในขณะเดียวกันนกกระจอกยังไม่กลับรังเสียที ยังไม่มีสักคนที่จับช้อนด้วยซ้ำไป 

เด็กผู้ชายคนนั้นมายืนตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่อาจรู้ได้ แต่งตัวสกปรก เนื้อตัวก็มอมแมมเหมือนว่าไม่ได้ผ่านน้ำมานับสัปดาห์ กลิ่นสาบคราบไคลโชยมากระทบจมูก  มายืนพนมมือยืนเงียบ ๆ ไม่พูดไม่จา  สายตาของเด็กคนนั้นมองไปที่อาหารบนโต๊ะ .. ด้วยความที่ผู้เขียนนั่งอยู่ริมด้านที่อยู่ใกล้กับเด็กคนนั้นมากที่สุด จึงได้ถามไปว่า   อ้าว ! น้อง มาทำอะไร ยื่นเงียบๆ ตกใจหมด  แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา แต่เท่าที่ดูจากสภาพและอากัปกิริยาก็พอจะทราบได้ว่า เด็กคนนั้นคงจะหิว จึงถามไปอีกครั้งว่า  หิวข้าวใช่ไหม  คราวนี้เด็กคนนั้นพยักหน้าหงึก ๆ  ตาที่แดง ๆ ก็ปรากฏว่ามีน้ำตาไหลเอ่อท้นออกมา   มือสกปรกเช็ดน้ำตาที่ค่อย ๆ ไหลลงแก้ม  เอาล่ะสิ ยุ่งแล้วแค่ถามดี ๆ ยังไม่ได้เอ็ดเลยสักนิด
เอาอย่างนี้นะน้อง เงียบซะ ถ้าหิว อยากกินอะไร ไปสั่งได้เลย เดี๋ยวพี่จ่ายเงินให้เอง ไม่ต้องร้องไห้  ผู้เขียนปลอบไป เพราะไม่รู้ว่าจะหาทางแก้ไขอย่างไรที่ดีไปกว่านี้แล้ว  แต่ยังไม่ทันที่เด็กคนนั้นจะเดินไปสั่งอาหาร เฮียเจ้าของร้านก็ไล่ตะเพิดออก ออกท่าทางราวกับว่ารังเกียจมากมาย  ความจริงผู้เขียนน่าจะเดินไปสั่งอาหารให้เด็กคนนั้นจัดใส่ห่อไปทานที่อื่นก็ได้ แต่ด้วยความที่เห็นกิริยาของเจ้าของร้านเป็นอย่างนั้นแล้ว รู้สึกไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก  เพราะยังไม่ทันที่เด็กจะอ้าปากพูดอะไรเลย ก็มาไล่เสียแล้ว  ปวดใจลึกๆที่เห็นเหตุการณ์  

มา น้อง มานี่ มากินข้าวกัน ..ผู้เขียนตะโกนแข่งกับเสียงโล้งเล้งของเฮียเจ้าของร้าน  เด็กชายผู้น่าสงสารคนนั้นทำท่าเลิ่กลักไม่ค่อยกล้าที่จะเดินกลับเข้ามา เถอะน่า ! มาเหอะ มานั่งตรงนี้ ผู้เขียนกล่าวสำทับไปอีกครั้ง  ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ปากพูดไปอย่างนั้น  บรรดาเพื่อนที่ร่วมโต๊ะอาหารก็พลอยตกใจ  เพื่อนคนหนึ่งกล่าวว่า เฮ้ย ! ท่าจะบ้า ไม่ต้องถึงกับเรียกมากินข้าวด้วยกันก็ได้ แต่ให้เงินไป ก็น่าจะพอแล้ว ขืนมานั่งร่วมโต๊ะทานข้าวกันอย่างนี้ บรรยากาศพิลึก สิ  ก็ในเมื่อผู้เขียนพูดไปแล้ว จะให้กลับคำพูดได้อย่างไร  อ้าว ! เรียกแล้วยังจะยืนนิ่งอีก มาสิ เรียกให้มากินข้าว ก็มาเถอะ ผู้เขียนเรียกอีกหน ( ในใจคิดว่า ครั้งสุดท้ายแล้วนะที่เรียก ถ้าไม่มาก็อดไปละกัน  ) 

และแล้วสมาชิกร่วมโต๊ะอาหารก็กลายเป็น ๕ คน แรกๆ เพื่อนก็กระอักกระอ่วนพอดู แต่ผู้เขียนก็ไม่สนใจ  คิดในใจว่า (ก็มีช้อนกลางแล้วจะอย่างไรกันอีก เจ้าพวกนี้ )  ผู้เขียนตักกับข้าวใส่จานให้เด็กคนนั้น ตั้งแต่แรกเริ่มจนอิ่มข้าว ยังไม่ได้ยินเสียงของเด็กคนนั้นสักคำ  ไม่น่าจะหูหนวก หรือว่าขี้เกียจจะพูด แต่เอาเถอะ จะเป็นอย่างไรก็ตามแต่ไม่พูดก็อย่าพูด เอาแค่ฟังรู้เรื่องก็พอ  ดูท่าเฮียเจ้าของร้านค่อนข้างจะไม่พอใจ ปากพึมพำสบถมาเป็นภาษาจีน หารู้ไม่ว่า ผู้เขียนเองฟังความรู้เรื่อง  บ่นก็บ่นไป มีเงินจ่ายค่าอาหารเสียอย่าง  อาหารมื้อนั้นผ่านไปอย่างที่เรียกว่าเสียอรรถรสไปมาก แต่ก็หมดทุกอย่างเกลี้ยง คนที่เอร็ดอร่อยก็น่าจะมีสองคน คือ ผู้เขียนและเด็กชายคนนั้น  คนอื่น ๆ ข้าวไม่พร่องจานด้วยซ้ำไป  

ดู ๆ ไปแล้วผู้เขียนเองก็ออกจะกวนโทโสเจ้าของร้านเหมือนกัน  แต่ถือว่าเป็นลูกค้า CUSTOMER IS THE KING  ก็ยังหวังว่าคำนี้ยังขลังอยู่  ผู้เขียนถือว่า ตรงส่วนที่ผู้เขียนรับผิดชอบเรื่องค่าอาหารแล้ว ย่อมเป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมของผู้เขียนเองว่า จะให้ใครร่วมรับประทานอาหารด้วย  ความจริงก็เสียวอยู่เหมือนกัน กลัวกระทะ ตะหลิวจะลอยข้ามฟากมาตรงนี้  ก็ให้รู้กันไปว่าแค่ให้โอกาสเด็กขอทานคนหนึ่งร่วมโต๊ะทานข้าว มันจะทำให้ทางร้านเสื่อมเสียประการใด  อีกใจหนึ่งก็คิดถึงโฆษณาเก่าก่อน คำว่า ทั้งร้านเท่าไหร่  ก็เพียงแต่คิดหรอก นับเงินตัวเองในกระเป๋าแล้ว ไม่ค่อยจะเท่าไหร่เลย 

 อายจะแย่อยู่แล้ว ดูสิ ใครไปใครมาหันมามองกันใหญ่  เพื่อนคนหนึ่งของผู้เขียนบ่นอุบ ตอนที่ผู้เขียนเรียกเจ้าของร้านให้มาเก็บเงินค่าอาหาร   มองก็มองไปสิ ไม่ได้เบี้ยวค่าอาหารสักนิด ความจริงเราคิดจะซื้อข้าวกล่องให้ และให้เงินอีกนิดหน่อยเท่านั้น แต่พอมาเห็นท่าทางรังเกียจของเจ้าของร้าน อดไม่ได้ที่จะมีปฏิกิริยาตอบโต้ไปเสียบ้าง คราวนี้ไม่รู้ว่าจะกล้าล้างจานหรือเปล่า ถ้าขยะแขยงนักก็ไม่ต้องล้าง ทิ้งขยะไปเลย  ผู้เขียนตอบเพื่อนไปตามตรง  อาหารค่ำมื้อนั้นก็แค่พอยาไส้ไปมื้อนั้นเท่านั้นเอง วันต่อ ๆไป เด็กชายคนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง จะต้องทนหิวอีกกี่มื้อจนกว่าจะมีผู้เมตตา แล้วลูกเต้าเหล่าใครกันหนอ ดูเหมือนเร่ร่อนเที่ยวขอทานไป  ผู้เขียนพยายามตัดใจที่จะเลิกตั้งคำถามให้กับตนเอง เพราะรู้ว่า ยังมีอีกมากมายที่ผู้เขียนยังไม่ได้ประสบ การที่ผู้เขียนมีโอกาสดีกว่าคนอื่นในวันนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่า วันข้างหน้าผู้เขียนจะไม่ตกอยู่ในสภาพด้อยโอกาส และกลับกัน ผู้ที่ด้อยโอกาสในวันนี้ ใครจะกล้ายืนยันได้ว่า ในวันข้างหน้าพวกเขาจะจมปลักอยู่กับความยากแค้นเช่นนี้ตลอดไป 
				
  ฝนยังไม่หยุดตก ชายผู้นั้นพลิกตัวเล็กน้อย ดูแล้วเขาไม่วิตกเลยสักนิด อาจชาชินที่ต้องตกอยู่ในสภาพนั้น ลำพังฟ้าฝนที่กระหน่ำ เพียงแค่นี้ ฤๅจะสาหัสเท่ากับสิ่งที่เขาเคยประสบมา  เขาเอี้ยวกายเหมือนบินขี้เกียจ แล้วค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้น มือคว้าถุงดำที่วางอยู่ข้างกาย เหวี่ยงถุงดำนั้นขึ้นบ่า มือเสยผมที่รุงรังปรกหน้า และเดินไปตามทางอย่างไร้จุดหมาย ผู้เขียนได้แต่มองตามร่างนั้นจนลับสายตา พลางคิดในใจว่า อย่าสิ้นหวัง จงเข้มแข็งไว้  ถึงแม้ว่าโลกอีกด้านหนึ่งจะเหวี่ยงท่านลงกับพื้น แต่ให้รู้เถิดว่า อีกด้านพร้อมจะฉุดท่านให้ลุกขึ้นยืนและบอกว่า ศรัทธาดีดียังมีจริง  

 อย่าทำลายความหวังของใคร เพราะเขาอาจหลงเหลืออยู่แค่นั้นก็ได้  .. ประโยคนี้ เป็นพระราชดำรัสของในหลวง  จริงสิ ..ตราบเท่าที่เขายังมีความหวังและยังคงก้าวเดินต่อไป ถึงแม้ว่าความหวังของเขาจะริบหรี่สักเพียงใด เขาก็ยังกล้าผจญด้วยใจที่กล้าแกร่ง  ไม่ล้มครืนจนหมดท่า  และอย่างน้อยเขาก็ไม่กระทำตนให้เป็นภาระของใคร ความสง่างามของเขาอาจจะไม่เหลือ แต่ใครจะรู้ได้ว่าจิตใจของเขาอาจจะสูงส่งกว่าหลาย ๆ คน ที่เสวยสุขบนกองเงินกองทอง .. อาจเป็นไปได้ และ อาจเป็นไปไม่ได้ ในความเป็นจริง 				
comments powered by Disqus
  • ศศิชนก

    17 สิงหาคม 2547 15:44 น. - comment id 76198

    อย่าทำลายความหวังของใคร เพราะเขาอาจหลงเหลืออยู่แค่นั้นก็ได้
    
    วันวาน...มันเหลืออยู่นั้นจริงๆ!
  • pigstation

    17 สิงหาคม 2547 17:11 น. - comment id 76204

    เราเคยไปนอนกลางสนามหลวง
    นอนท่ามกลางผู้คนหลากหลาย
    
    รุ่งเช้าพระราชวัง/วัดพระแก้วอร่ามเรือง
    ธรรมศาสตร์มีการขยับตัวรถดีๆเคลื่อนตัวเข้าไป
    
    คนชั้นกลางต่างมุ่งหน้าไปสะสม
    แต่บริเวณสนามหลวงเริ่มมีการขับไล่จากเจ้าหน้าที่
    คนจร/คนพลัดถิ่นเขาเหล่านี้ไม่ได้เสียภาษีกระมัง
    
    เขาไม่ได้เรียนธรรมศาสตร์
    แต่ฉันมานอนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความขาดโอกาส เพื่อเป็นความรู้สึกร่วมกัน
    
    ขณะที่นักท่องเที่ยวทะยอยมา พร้อมกระเป๋าเงินสกุลหนาๆมาจับจ่าย
    
    คงเป็นอะไรสักอย่างที่รวมตัวเป็นสังคม
    ถ้าจำเด็กคนนั้นได้ วันหลังจะพาเค้าไปเที่ยวดรีมเวิร์ล
    
    เชื้อโรคก่อ เชื้อคนกินโลก
    แหม.....น้ำใจอย่างนี้ ระวังปวีณาเหลือเวลาทำงาน 23 ชั่วโมงนะ
    
    นับถือเพื่อนคุณมากที่ยังนั่งจนจบมื๊อ
    
    เด็กคนนี้จะรู้บ้างไหมที่โออิชิบุฟเฟต์...
    มีคนนั่งรับบัตรคิว
    
    ฉันตื่นขึ้นมาที่สนามหลวง เห็นกองทัพรถมุ่งเข้าสู่สงครามล่าชิงวัตถุ แล้วถามตัวเอง
    
    คงไม่ตั้งหน้าตั้งตารวยหรือปรนเปรอตัวเองจนลืมไปว่า
    
    ยังมีคนจรเต็มสนามหลวง ไม่ใช่เขาไม่ไขว่คว้า ไม่ใช่เขาขี้เกียจ มันเกิดจากการละโมภของกลุ่มทุนกลุ่มเดียว ที่กว้านเอาความเป็นอยู่ที่ดี ความเป็นธรรมที่ถูกต้อง
    แล้วฉันก็เดินไปรถที่จอดไว้เปิดประตู กดโทรศัพท์ ไปหาเพื่อนที่คอนโดริมน้ำชั้น 32 แล้วเปิดไวน์
    
    เพื่อบอกว่า เห็นใจพวกเขา แต่ก็คงเป็นความเข้าใจในระดับหนึ่ง
    
    ฉันกลัวเหลือเกินเวลาหาเสียงแล้วพวกเขาคือเครื่องมือของนโยบาย
    
    เมื่อไหร่พลังเงียบอย่างปัญญาชนแท้ๆอย่างเราที่เข้าไปเรียนภายใต้มหาวิทยาลัยจะรวมตัวสร้างอะไรที่เกลี่ยความเท่าเทียม สร้างคุณภาพชีวิตได้
    
    เอ...พาสปอร์ต อยู่ไหน วีซ่าผ่านหรือยัง
    
    ฉันเตรียมตัวไปสาธารณรัฐเช็ค เพื่อดูโลกหลังการเปลี่ยนระบอบ
    ในขณะที่ว่างตรงสนามหลวงที่ฉันเคยนอนท่ามกลางเขาเหล่านั้น ไม่เคยว่างเว้น
    
    และที่เช็คก็ยังมี....เขาเหล่านี้..
    งบโฆษณาสินค้ารวมกันทั่วโลกสามารถเอามาป้อนข้าวเขาเหล่านี้ได้
    งบป้องกันประเทศก็นำมาสร้างชายคาให้เขาได้
    
    แต่เราไม่ควรไปเหวี่ยมลูกตุ้มแห่งโชคชะตาใดๆได้
    
    
    
    
  • pigstation

    17 สิงหาคม 2547 17:12 น. - comment id 76205

    เราเคยไปนอนกลางสนามหลวง
    นอนท่ามกลางผู้คนหลากหลาย
    
    รุ่งเช้าพระราชวัง/วัดพระแก้วอร่ามเรือง
    ธรรมศาสตร์มีการขยับตัวรถดีๆเคลื่อนตัวเข้าไป
    
    คนชั้นกลางต่างมุ่งหน้าไปสะสม
    แต่บริเวณสนามหลวงเริ่มมีการขับไล่จากเจ้าหน้าที่
    คนจร/คนพลัดถิ่นเขาเหล่านี้ไม่ได้เสียภาษีกระมัง
    
    เขาไม่ได้เรียนธรรมศาสตร์
    แต่ฉันมานอนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความขาดโอกาส เพื่อเป็นความรู้สึกร่วมกัน
    
    ขณะที่นักท่องเที่ยวทะยอยมา พร้อมกระเป๋าเงินสกุลหนาๆมาจับจ่าย
    
    คงเป็นอะไรสักอย่างที่รวมตัวเป็นสังคม
    ถ้าจำเด็กคนนั้นได้ วันหลังจะพาเค้าไปเที่ยวดรีมเวิร์ล
    
    เชื้อโรคก่อ เชื้อคนกินโลก
    แหม.....น้ำใจอย่างนี้ ระวังปวีณาเหลือเวลาทำงาน 23 ชั่วโมงนะ
    
    นับถือเพื่อนคุณมากที่ยังนั่งจนจบมื๊อ
    
    เด็กคนนี้จะรู้บ้างไหมที่โออิชิบุฟเฟต์...
    มีคนนั่งรับบัตรคิว
    
    ฉันตื่นขึ้นมาที่สนามหลวง เห็นกองทัพรถมุ่งเข้าสู่สงครามล่าชิงวัตถุ แล้วถามตัวเอง
    
    คงไม่ตั้งหน้าตั้งตารวยหรือปรนเปรอตัวเองจนลืมไปว่า
    
    ยังมีคนจรเต็มสนามหลวง ไม่ใช่เขาไม่ไขว่คว้า ไม่ใช่เขาขี้เกียจ มันเกิดจากการละโมภของกลุ่มทุนกลุ่มเดียว ที่กว้านเอาความเป็นอยู่ที่ดี ความเป็นธรรมที่ถูกต้อง
    แล้วฉันก็เดินไปรถที่จอดไว้เปิดประตู กดโทรศัพท์ ไปหาเพื่อนที่คอนโดริมน้ำชั้น 32 แล้วเปิดไวน์
    
    เพื่อบอกว่า เห็นใจพวกเขา แต่ก็คงเป็นความเข้าใจในระดับหนึ่ง
    
    ฉันกลัวเหลือเกินเวลาหาเสียงแล้วพวกเขาคือเครื่องมือของนโยบาย
    
    เมื่อไหร่พลังเงียบอย่างปัญญาชนแท้ๆอย่างเราที่เข้าไปเรียนภายใต้มหาวิทยาลัยจะรวมตัวสร้างอะไรที่เกลี่ยความเท่าเทียม สร้างคุณภาพชีวิตได้
    
    เอ...พาสปอร์ต อยู่ไหน วีซ่าผ่านหรือยัง
    
    ฉันเตรียมตัวไปสาธารณรัฐเช็ค เพื่อดูโลกหลังการเปลี่ยนระบอบ
    ในขณะที่ว่างตรงสนามหลวงที่ฉันเคยนอนท่ามกลางเขาเหล่านั้น ไม่เคยว่างเว้น
    
    และที่เช็คก็ยังมี....เขาเหล่านี้..
    งบโฆษณาสินค้ารวมกันทั่วโลกสามารถเอามาป้อนข้าวเขาเหล่านี้ได้
    งบป้องกันประเทศก็นำมาสร้างชายคาให้เขาได้
    
    แต่เราไม่ควรไปเหวี่ยมลูกตุ้มแห่งโชคชะตาใดๆได้
    
    
    
    
  • pigstation

    17 สิงหาคม 2547 17:12 น. - comment id 76206

    เราเคยไปนอนกลางสนามหลวง
    นอนท่ามกลางผู้คนหลากหลาย
    
    รุ่งเช้าพระราชวัง/วัดพระแก้วอร่ามเรือง
    ธรรมศาสตร์มีการขยับตัวรถดีๆเคลื่อนตัวเข้าไป
    
    คนชั้นกลางต่างมุ่งหน้าไปสะสม
    แต่บริเวณสนามหลวงเริ่มมีการขับไล่จากเจ้าหน้าที่
    คนจร/คนพลัดถิ่นเขาเหล่านี้ไม่ได้เสียภาษีกระมัง
    
    เขาไม่ได้เรียนธรรมศาสตร์
    แต่ฉันมานอนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความขาดโอกาส เพื่อเป็นความรู้สึกร่วมกัน
    
    ขณะที่นักท่องเที่ยวทะยอยมา พร้อมกระเป๋าเงินสกุลหนาๆมาจับจ่าย
    
    คงเป็นอะไรสักอย่างที่รวมตัวเป็นสังคม
    ถ้าจำเด็กคนนั้นได้ วันหลังจะพาเค้าไปเที่ยวดรีมเวิร์ล
    
    เชื้อโรคก่อ เชื้อคนกินโลก
    แหม.....น้ำใจอย่างนี้ ระวังปวีณาเหลือเวลาทำงาน 23 ชั่วโมงนะ
    
    นับถือเพื่อนคุณมากที่ยังนั่งจนจบมื๊อ
    
    เด็กคนนี้จะรู้บ้างไหมที่โออิชิบุฟเฟต์...
    มีคนนั่งรับบัตรคิว
    
    ฉันตื่นขึ้นมาที่สนามหลวง เห็นกองทัพรถมุ่งเข้าสู่สงครามล่าชิงวัตถุ แล้วถามตัวเอง
    
    คงไม่ตั้งหน้าตั้งตารวยหรือปรนเปรอตัวเองจนลืมไปว่า
    
    ยังมีคนจรเต็มสนามหลวง ไม่ใช่เขาไม่ไขว่คว้า ไม่ใช่เขาขี้เกียจ มันเกิดจากการละโมภของกลุ่มทุนกลุ่มเดียว ที่กว้านเอาความเป็นอยู่ที่ดี ความเป็นธรรมที่ถูกต้อง
    แล้วฉันก็เดินไปรถที่จอดไว้เปิดประตู กดโทรศัพท์ ไปหาเพื่อนที่คอนโดริมน้ำชั้น 32 แล้วเปิดไวน์
    
    เพื่อบอกว่า เห็นใจพวกเขา แต่ก็คงเป็นความเข้าใจในระดับหนึ่ง
    
    ฉันกลัวเหลือเกินเวลาหาเสียงแล้วพวกเขาคือเครื่องมือของนโยบาย
    
    เมื่อไหร่พลังเงียบอย่างปัญญาชนแท้ๆอย่างเราที่เข้าไปเรียนภายใต้มหาวิทยาลัยจะรวมตัวสร้างอะไรที่เกลี่ยความเท่าเทียม สร้างคุณภาพชีวิตได้
    
    เอ...พาสปอร์ต อยู่ไหน วีซ่าผ่านหรือยัง
    
    ฉันเตรียมตัวไปสาธารณรัฐเช็ค เพื่อดูโลกหลังการเปลี่ยนระบอบ
    ในขณะที่ว่างตรงสนามหลวงที่ฉันเคยนอนท่ามกลางเขาเหล่านั้น ไม่เคยว่างเว้น
    
    และที่เช็คก็ยังมี....เขาเหล่านี้..
    งบโฆษณาสินค้ารวมกันทั่วโลกสามารถเอามาป้อนข้าวเขาเหล่านี้ได้
    งบป้องกันประเทศก็นำมาสร้างชายคาให้เขาได้
    
    แต่เราไม่ควรไปเหวี่ยมลูกตุ้มแห่งโชคชะตาใดๆได้
    
    
    
    
  • pigstation

    17 สิงหาคม 2547 17:12 น. - comment id 76207

    เราเคยไปนอนกลางสนามหลวง
    นอนท่ามกลางผู้คนหลากหลาย
    
    รุ่งเช้าพระราชวัง/วัดพระแก้วอร่ามเรือง
    ธรรมศาสตร์มีการขยับตัวรถดีๆเคลื่อนตัวเข้าไป
    
    คนชั้นกลางต่างมุ่งหน้าไปสะสม
    แต่บริเวณสนามหลวงเริ่มมีการขับไล่จากเจ้าหน้าที่
    คนจร/คนพลัดถิ่นเขาเหล่านี้ไม่ได้เสียภาษีกระมัง
    
    เขาไม่ได้เรียนธรรมศาสตร์
    แต่ฉันมานอนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความขาดโอกาส เพื่อเป็นความรู้สึกร่วมกัน
    
    ขณะที่นักท่องเที่ยวทะยอยมา พร้อมกระเป๋าเงินสกุลหนาๆมาจับจ่าย
    
    คงเป็นอะไรสักอย่างที่รวมตัวเป็นสังคม
    ถ้าจำเด็กคนนั้นได้ วันหลังจะพาเค้าไปเที่ยวดรีมเวิร์ล
    
    เชื้อโรคก่อ เชื้อคนกินโลก
    แหม.....น้ำใจอย่างนี้ ระวังปวีณาเหลือเวลาทำงาน 23 ชั่วโมงนะ
    
    นับถือเพื่อนคุณมากที่ยังนั่งจนจบมื๊อ
    
    เด็กคนนี้จะรู้บ้างไหมที่โออิชิบุฟเฟต์...
    มีคนนั่งรับบัตรคิว
    
    ฉันตื่นขึ้นมาที่สนามหลวง เห็นกองทัพรถมุ่งเข้าสู่สงครามล่าชิงวัตถุ แล้วถามตัวเอง
    
    คงไม่ตั้งหน้าตั้งตารวยหรือปรนเปรอตัวเองจนลืมไปว่า
    
    ยังมีคนจรเต็มสนามหลวง ไม่ใช่เขาไม่ไขว่คว้า ไม่ใช่เขาขี้เกียจ มันเกิดจากการละโมภของกลุ่มทุนกลุ่มเดียว ที่กว้านเอาความเป็นอยู่ที่ดี ความเป็นธรรมที่ถูกต้อง
    แล้วฉันก็เดินไปรถที่จอดไว้เปิดประตู กดโทรศัพท์ ไปหาเพื่อนที่คอนโดริมน้ำชั้น 32 แล้วเปิดไวน์
    
    เพื่อบอกว่า เห็นใจพวกเขา แต่ก็คงเป็นความเข้าใจในระดับหนึ่ง
    
    ฉันกลัวเหลือเกินเวลาหาเสียงแล้วพวกเขาคือเครื่องมือของนโยบาย
    
    เมื่อไหร่พลังเงียบอย่างปัญญาชนแท้ๆอย่างเราที่เข้าไปเรียนภายใต้มหาวิทยาลัยจะรวมตัวสร้างอะไรที่เกลี่ยความเท่าเทียม สร้างคุณภาพชีวิตได้
    
    เอ...พาสปอร์ต อยู่ไหน วีซ่าผ่านหรือยัง
    
    ฉันเตรียมตัวไปสาธารณรัฐเช็ค เพื่อดูโลกหลังการเปลี่ยนระบอบ
    ในขณะที่ว่างตรงสนามหลวงที่ฉันเคยนอนท่ามกลางเขาเหล่านั้น ไม่เคยว่างเว้น
    
    และที่เช็คก็ยังมี....เขาเหล่านี้..
    งบโฆษณาสินค้ารวมกันทั่วโลกสามารถเอามาป้อนข้าวเขาเหล่านี้ได้
    งบป้องกันประเทศก็นำมาสร้างชายคาให้เขาได้
    
    แต่เราไม่ควรไปเหวี่ยมลูกตุ้มแห่งโชคชะตาใดๆได้
    
    
    
    
  • pigstation

    17 สิงหาคม 2547 17:12 น. - comment id 76208

    เราเคยไปนอนกลางสนามหลวง
    นอนท่ามกลางผู้คนหลากหลาย
    
    รุ่งเช้าพระราชวัง/วัดพระแก้วอร่ามเรือง
    ธรรมศาสตร์มีการขยับตัวรถดีๆเคลื่อนตัวเข้าไป
    
    คนชั้นกลางต่างมุ่งหน้าไปสะสม
    แต่บริเวณสนามหลวงเริ่มมีการขับไล่จากเจ้าหน้าที่
    คนจร/คนพลัดถิ่นเขาเหล่านี้ไม่ได้เสียภาษีกระมัง
    
    เขาไม่ได้เรียนธรรมศาสตร์
    แต่ฉันมานอนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความขาดโอกาส เพื่อเป็นความรู้สึกร่วมกัน
    
    ขณะที่นักท่องเที่ยวทะยอยมา พร้อมกระเป๋าเงินสกุลหนาๆมาจับจ่าย
    
    คงเป็นอะไรสักอย่างที่รวมตัวเป็นสังคม
    ถ้าจำเด็กคนนั้นได้ วันหลังจะพาเค้าไปเที่ยวดรีมเวิร์ล
    
    เชื้อโรคก่อ เชื้อคนกินโลก
    แหม.....น้ำใจอย่างนี้ ระวังปวีณาเหลือเวลาทำงาน 23 ชั่วโมงนะ
    
    นับถือเพื่อนคุณมากที่ยังนั่งจนจบมื๊อ
    
    เด็กคนนี้จะรู้บ้างไหมที่โออิชิบุฟเฟต์...
    มีคนนั่งรับบัตรคิว
    
    ฉันตื่นขึ้นมาที่สนามหลวง เห็นกองทัพรถมุ่งเข้าสู่สงครามล่าชิงวัตถุ แล้วถามตัวเอง
    
    คงไม่ตั้งหน้าตั้งตารวยหรือปรนเปรอตัวเองจนลืมไปว่า
    
    ยังมีคนจรเต็มสนามหลวง ไม่ใช่เขาไม่ไขว่คว้า ไม่ใช่เขาขี้เกียจ มันเกิดจากการละโมภของกลุ่มทุนกลุ่มเดียว ที่กว้านเอาความเป็นอยู่ที่ดี ความเป็นธรรมที่ถูกต้อง
    แล้วฉันก็เดินไปรถที่จอดไว้เปิดประตู กดโทรศัพท์ ไปหาเพื่อนที่คอนโดริมน้ำชั้น 32 แล้วเปิดไวน์
    
    เพื่อบอกว่า เห็นใจพวกเขา แต่ก็คงเป็นความเข้าใจในระดับหนึ่ง
    
    ฉันกลัวเหลือเกินเวลาหาเสียงแล้วพวกเขาคือเครื่องมือของนโยบาย
    
    เมื่อไหร่พลังเงียบอย่างปัญญาชนแท้ๆอย่างเราที่เข้าไปเรียนภายใต้มหาวิทยาลัยจะรวมตัวสร้างอะไรที่เกลี่ยความเท่าเทียม สร้างคุณภาพชีวิตได้
    
    เอ...พาสปอร์ต อยู่ไหน วีซ่าผ่านหรือยัง
    
    ฉันเตรียมตัวไปสาธารณรัฐเช็ค เพื่อดูโลกหลังการเปลี่ยนระบอบ
    ในขณะที่ว่างตรงสนามหลวงที่ฉันเคยนอนท่ามกลางเขาเหล่านั้น ไม่เคยว่างเว้น
    
    และที่เช็คก็ยังมี....เขาเหล่านี้..
    งบโฆษณาสินค้ารวมกันทั่วโลกสามารถเอามาป้อนข้าวเขาเหล่านี้ได้
    งบป้องกันประเทศก็นำมาสร้างชายคาให้เขาได้
    
    แต่เราไม่ควรไปเหวี่ยมลูกตุ้มแห่งโชคชะตาใดๆได้
    
    
    
    
  • rain..

    19 สิงหาคม 2547 19:46 น. - comment id 76211

    ..เรน..มาขอบคุณ ..  พี่อัลมินะคะ..
       ก็ เรน ..เข้าเวป ไม่ได้นะคะ..
     
              แป๊ปเดี๋ยว ..  เรนกลับมาอ่านอีกครั้ง นะคะ..
        ..ยังคงเป็น ..พี่อัลมิ.. ที่งามสง่า ..ของเรน..
  • pigstation

    20 สิงหาคม 2547 02:23 น. - comment id 76215

    เปล่าทำซ้ำและเพิ่มเติมจนดูรกเรื้อและฟูมฟาย
    ทำไม่เป็นนะอย่างเนี๊ยะ ช่วยลบให้หน่อยครับ คิดถึงความจริงใจที่ขาดวิ่นไปเพราะทำอะไรเกินไปจากคิดฝัน หากทำให้เกิดสถานการณ์ขอโทษไปทำไมเล่า เพราเราคือตัวจริงคนหนึ่งซึ่งรักความลวงที่งามนัก
  • น้ำคำ

    20 สิงหาคม 2547 20:16 น. - comment id 76228

    ชอบมาก ๆ เลยค่ะ พี่คิดเหมือนน้องเลยว่าค่าของคนมานไม่ได้อยู่ที่เงินตราแต่หากว่าอยู่ที่ความศรัธาในความเป็นคนมากกว่า
  • พี่พุด

    20 สิงหาคม 2547 21:24 น. - comment id 76230

    งามดวงใจค่ะ
  • อัลมิตรา

    22 สิงหาคม 2547 17:27 น. - comment id 76285

    ในขณะที่พวกเราอิ่มท้อง แต่ท้องของเขาว่างเปล่า
    รอยยิ้มที่เราหัวเราะกับคนรอบข้าง แต่เขาเดียวดาย
    ความแตกต่างที่ดูเหมือนเส้นขนาน..
    
    นิยามของคำว่าพัฒนา ดูเหมือนน่าฟัง แต่ในความเป็นไป
    ครอบคลุมไปได้ซักกี่มากน้อย ..
    
    คุณpigstation .. อัลมิตราไม่สามารถลบข้อความที่เกินได้ค่ะ ในส่วนของบทความทางเวปไม่ได้เตรียมระบบส่วนนี้ไว้ให้ ขออภัยด้วยนะคะ 
    
    น้องเรน .. ไปเยือนนครเชียงใหม่ครั้งนี้ ระลึกถึงค่ะ
    
    คุณพุดพัดชา .. ขอบคุณมากค่ะ
    
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน