ทาสกิเลส(ตอนที่1)
สุชาดา โมรา
วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558 อันเป็นวันสุดท้ายของการเสียภาษีประจำปีซึ่งทำให้บริเวณหน้าตึก กรมสรรพากรซึ่งเป็นหน่วยงานจัดหารายได้แก่รัฐทุกยุคทุกสมัยมีปร ะชาชนมายืนคอยจำนวนมาก ทนายเกียรติเดินทางมาถึงศูนย์ราชการใหญ่แห่งนี้ตอนใกล้เที่ยง เมื่อลงมาจากรถไฟฟ้าเขาต้องนิ่วหน้าเบื่อหน่าย ยามเห็นคิวยืนคอยยาวเหยียด แต่จำต้องเดินไปยังตู้โลหะขนาดเล็กเพื่อรับบัตรคิวตามระเบียบ เพราะเขาลืมเวลาต้องยื่นรายการเสียภาษีไปสนิทเนื่องด้วยงานว่าค วามที่ต่อเนื่อง นี่จึงเป็นโอกาสสุดท้าย เนื่องจากเขาต้องมาทำคดียังศาลฎีกาอันตั้งอยู่ในศูนย์ราชการแห่ งนี้ จึงเลือกจะยื่นแบบและเสียภาษีด้วยตัวเอง
กรุณาแสดงบัตรประจำตัวค่ะ เสียงผู้หญิงดังมาจากตู้โลหะ
ทนายเกียรติจึงใช้บัตรใบเล็กรูดผ่านเครื่องนั้นอย่างคุ้นเคย เพราะเป็นธรรมเนียมปกติในการติดต่อกับหน่วยงานทั้งราชการและเอก ชนซึ่งต้องยืนยันความเป็นตัวเองก่อน หลังจากรับบัตรคิวมาอ่านตัวเลข เสียงถอนใจหนักดังขึ้นอีกครั้ง
คิวที่ 33 !
เสียงผู้ประกาศภายในห้องสรรพากรดังขึ้นว่า คุณสำแดง บัตรคิวที่ 10 เชิญที่ช่อง 2 ค่ะ
ทนายเกียรติมองไปยังด้านหลังเคาน์เตอร์ซึ่งพนักงานทั้งหนุ่มและ สาวต่างยุ่งอยู่กับการบันทึกข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์ด้วยใบหน้าเค ร่งเครียด ขณะที่ประชาชนมากมายยืนและนั่งรอคิวอยู่เช่นกัน ยุคนี้ทุกกิจกรรมต่างมีคอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวพันและดูแลทุกขั ้นตอนตั้งแต่กำเนิดบนโลกใบนี้จนกระทั่งตาย แม้ตอนเข้าห้องน้ำในตึกใหญ่บางแห่งยังต้องใช้บัตรประจำตัวเพื่อ ตรวจสอบคิวเข้าปลดทุกข์ด้วย บางครั้งเขายังคิดติดตลกว่า เครื่องจักรสมองกลชนิดนี้ควบคุมชีวิตคนไปเสียแล้ว ทั้งที่คนเป็นผู้ให้กำเนิดมันแท้ๆ
ทนายเกียรติตัดสินใจเลือกนั่งบนเก้าอี้ติดประตูทางเข้าตึกกรมสร รพากร แล้วหยิบหนังสือเล่มเล็กออกมาเพื่ออ่านระหว่างรอเวลาเรียกไปชำร ะภาษี
เมืองไทยในอดีต : พ.ศ. 2548 เขามองดูปก แล้วพลิกหน้าหนังสือซึ่งเพิ่งซื้อเมื่อวานนี้ ดวงตามองภาพประกอบในนั้นอย่างสนใจ ห้าสิบกว่าปีที่ผ่านมา เมืองไทยต่างจากในอดีตไปมากเลยนะ
ทนายเกียรติตั้งใจอ่านหนังสือที่บอกเล่าสังคมไทยในปีพ.ศ. 2548 โดยเฉพาะภาพบัตรสมาร์ทการ์ดรุ่นแรกของเมืองไทย รวมถึงรายละเอียดของมันซึ่งเป็นที่ฮือฮาของคนไทยในยุคนั้น
หญิงสูงวัยคนหนึ่งนั่งลงข้างทนายหนุ่มใหญ่ พลางส่งยิ้มทักทายก่อน สักครู่จึงชะโงกหน้าดูภาพในหนังสือของเขา
คุณสนใจบัตรรุ่นแรกหรือคะ? หล่อนถามเชิงชวนคุย
ทนายเกียรติละสายตาจากหนังสือ จึงเห็นรอยยิ้มเป็นมิตรของอีกฝ่าย ใช่ครับ ดูตลกดี ตอนนี้บัตรของเรามีสีสรรให้เลือกได้เอง ชิปก็เล็กเท่าหัวเข็มหมุด แถมยังมีข้อมูลดี เอ็น เอ บรรจุในนั้นด้วย เวลานี้มันเป็นบัตรครอบจักรวาลจริงๆ
นอกจากใช้บัตรเพื่อแสดงตัวแล้ว เรายังมีชิปฝังที่ต้นแขนซึ่งรัฐติดให้ตั้งแต่ลืมตาดูโลกใช้เทีย บกับข้อมูลในนั้นอีกด้วยนะ หญิงสูงวัยกล่าวเสริม รอยยิ้มหมอง
ทันสมัยกว่าเยอะเลยครับ เขายิ้มขำ ดวงตามองภาพบัตรติดชิปแบบเก่า
มีบางอย่างที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย ไม่ว่าเวลาจะผ่านมานานเท่าใด
อะไรครับ?
ความผิดพลาดอันเกิดจากคน
ทนายเกียรติอมยิ้ม ยุคนี้ใช้คอมพิวเตอร์ดูแลข้อมูลทุกขั้นตอน แม้แต่การทำสรุป คนเพียงรับทราบเท่านั้น ไม่มีผิดพลาดแล้วครับ
คุณไม่รู้สึกว่า คนกำลังรับใช้เครื่องจักรอยู่รึ?
เราสร้างมันให้รับใช้คนนะ เขาพูดเถียงไปตามหลักการ
หญิงสูงวัยยิ้มเย็น คนสร้างเครื่องจักร และสุดท้ายก็เป็นทาสของมัน
ป้าคิดแบบอนุรักษ์นิยมแล้ว เราเรียกอดีตกลับมาไม่ได้นะ
ฉันมีเหตุผลที่ทำให้ฉุกคิดได้เช่นนี้นะ
อะไรครับ? เขามีท่าทีสนใจ
หญิงสูงวัยชี้ที่กระเป๋าเอกสารบนตัก พลางเอ่ยเสียงขมขื่นว่า ฉันหอบเอกสารพวกนี้มาชี้แจงเรื่องภาษีที่จ่ายแล้ว แต่คอมพ์กลับแจ้งว่าฉันมีหนี้ภาษีค้างจ่ายห้าปี ฉันต่อสู้มาสี่ร้อยวันเชียวนะ พ่อหนุ่ม
ทำไมนานนักล่ะ ถ้าป้ามีเอกสารพร้อมสรรพ เขานึกปรามาสในใจว่า หญิงคนนี้ต้องหลบภาษีจนกระทั่งระบบคอมพิวเตอร์ตรวจสอบพบเข้าแน่
เจ้าหน้าที่ไม่ยอมเชื่อเอกสารที่พวกเขาเขียนเอง โดยขอเวลาตรวจสอบกับระบบคอมพ์อีกครั้ง
ไม่เชื่อเอกสารของเจ้าหน้าที่ด้วยกัน !
หญิงสูงวัยเห็นสีหน้าสงสัยของหนุ่มใหญ่ จึงบอกเล่าเพิ่มเติมว่า ฉันคงมีโชคไม่ดีที่เสียภาษีทางเคาน์เตอร์ แต่ข้อมูลหายไปทั้งหมด อีกทั้งเมื่อปีก่อนเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเขียนใบรับเงินตายจากอุบั ติเหตุ จึงไม่อาจมาให้การยืนยันความถูกต้องของเอกสารได้ มันสร้างความเดือดร้อนให้ต้องถูกยึดทรัพย์ ฉันต้องไปขอรับการสงเคราะห์จากรัฐทั้งอาหารและห้องพัก ฉันกลายเป็นคนเร่ร่อน !
ตอนนั้นทำไมคอมพ์ไม่ออกเอกสารให้หรือป้าไม่ทำเรื่องผ่านเนตเสีย ล่ะ?
ช่วงนั้นป้ามีปัญหาจำนวนเงินในบัญชีผิดพลาดจากระบบคอมพ์ ทำให้ไม่วางใจการทำงานอีก พอมายื่นเสียภาษีเอง วันนั้นไฟฟ้าเกิดดับกะทันหัน พวกเขาไล่ป้ากลับไปก่อนแล้วบอกจะบันทึกข้อมูลในเครื่องฯทีหลัง ตอนนี้ป้าซึ้งใจแล้วว่าคิดผิดไปเอง
ผิดอย่างไรรึ?
เครื่องจักรไม่มีวันทำงานพลาด ถ้าคนป้อนข้อมูลอย่างถูกต้อง...... หญิงสูงวัยมีสีหน้าหมองหม่น ยามเอ่ยต่อไปว่า .........ปัญหาต่อมาคือ คนไว้วางใจระบบคอมพ์มากจนมองข้ามการทำงานของคนที่ควบคุมมัน จึงต่อต้านตัวเอง
ต่อต้านตัวเองรึ? เขาส่ายหน้ายิ้มๆ
ใช่
เสียงประกาศของหญิงสาวดังขึ้นว่า ขอเชิญบัตรคิวที่ 33 คุณเกียรติ ที่ช่อง 3 ค่ะ
คุณมาจ่ายภาษีหรือ?
ใช่ครับ
หญิงสูงวัยเอ่ยถามขึ้นว่า คุณเชื่อคนหรือเครื่องจักรล่ะ?
ทนายเกียรติไม่ตอบ แต่เร่งเดินไปที่เคาน์เตอร์โดยเร็วเพราะมีนัดหมายต้องขึ้นศาลฎี กาในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า ส่วนหญิงสูงวัยเดินหอบเอกสารเข้าไปในห้องทำงานของหัวหน้าฝ่ายจั ดเก็บภาษีด้วยท่าทางเหนื่อยล้ากับการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธร รมจากหน่วยงานรัฐแห่งนี้เป็นเวลามากกว่าหนึ่งปีแล้ว หล่อนเริ่มตระหนักแก่ใจว่า วันเวลาที่กำลังผ่านไปนั้น ความหวังดูริบหรี่เต็มที
ขณะที่ทนายเกียรติยืนรอขั้นตอนการตรวจเอกสารและบันทึกข้อมูลลงใ นคอมพิวเตอร์นั้น ไฟฟ้าเกิดดับกะทันหันพร้อมคำประกาศแจ้งหยุดทุกกิจกรรมที่ต้องพึ ่งพาไฟฟ้าไว้ก่อน อันสร้างความไม่พอใจแก่ผู้ใช้บริการซึ่งจำเป็นต้องชำระภาษีในวั นสุดท้ายนี้ มิฉะนั้น อาจต้องถูกลงโทษยึดทรัพย์สินทั้งหมด เนื่องจากปีพ.ศ. 2558 การเลี่ยงภาษีหรือชำระไม่ถูกต้องนั้น รัฐกำหนดเป็นความผิดที่รุนแรงมากและเน้นการลงโทษหนักและรวดเร็ว เพื่อมิให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี โดยอาศัยหลักฐานทางคอมพิวเตอร์ของรัฐ เนื่องจากรัฐมีความเชื่อว่า คอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพและเที่ยงตรงอย่างมากเมื่อเทียบกับการ ทำงานของคน
ท่านอาจไปใช้บริการทางเนตก็ได้ แล้วชำระเงินวันถัดไป จากนั้นรับใบเสร็จตามเวลาสะดวกหรือให้ส่งทางไปรษณีย์ เสียงแนะนำจากเจ้าหน้าที่สาวดังขึ้น
พิราวรรณเงยหน้ามองทนายหนุ่มใหญ่ เมื่อเขายังยืนนิ่งอยู่ จะนั่งรอหรือกลับไปก่อนก็ได้ อย่าเสียเวลายืนอีกเลย
ทนายเกียรติคุ้นชินกับคำพูดกระด้างของเจ้าหน้าที่รัฐแล้ว จึงไม่ถือสานัก ดวงตามองเงินสามหมื่นบาทซึ่งเจ้าหน้าที่สาวเพิ่งผลักใส่ลิ้นชัก ไปเมื่อครู่นี้
ผมอยากได้ใบรับเงินก่อนครับ
พิราวรรณมีสีหน้าบึ้ง ก่อนตวาดตอบว่า พอไฟมา ฉันจะบันทึกข้อมูลลงคอมพ์ แล้วพิมพ์ใบเสร็จออกมาให้ทีหลัง คุณมารับวันหน้าเถอะ
แต่....... เขาทำท่าจะเถียง พอดีมือถือของเขาดังขัดขึ้นเสียก่อน
ทนายเกียรติมีสีหน้ากังวลหลังจากรับทราบว่าเลขาของเขาป่วยกะทัน หัน ทำให้เขาจำต้องเร่งไปดูแลลูกความที่ศาลด้วยตัวเอง
ผมอยากมีเอกสารรับเงินไว้สักใบก็ได้ คุณเขียนมาทีสิ
กวนใจนัก...... พิราวรรณจึงเขียนข้อความลงในกระดาษใบเล็ก แล้วส่งให้อีกฝ่าย .......เขียนให้แล้ว เอาไป !