เฟี่ยว..................... เครื่องบินเคลื่อนตัวออกจากเมืองไทยไปยังประเทศที่ใกล้ ๆ อย่างฟิลิปปินล์ ฉันรู้สึกทั้งตื่นเต้นและก็กลัวการขึ้นเครื่องครั้งแรกมาก ๆ เพราะปกติฉันเป็นโรคกลัวความสูง แต่เมื่อเครื่องบินลอยอยู่กลางอากาศฉันมองดูหมู่ละอองเมฆแล้วก็สุขใจ มันสวยมากทีเดียว พี่ ๆ ที่มากับฉันก็นิสัยดี พูดคุยกับฉันตลอดเวลา ที่จริงฉันก็เป็นคนคุยเก่งแต่เมื่อมาอยู่กับคนที่ไม่รู้จักก็ไม่กล้าคุยกับเขา แต่พอเขามาแนะนำตัวมาชวนฉันคุยฉันก็เลยปล่อยตัวจริงของความขี้โม้ออกมาจนได้ เมื่อเดินทางมาถึง ครั้งแรกที่ได้เหยียบแผ่นดินใหม่ก็มีความรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาทันที ฉันตื่นเต้นมาก ๆ เหมือนบ้านนอกเข้ากรุงทีเดียวแต่ก็ต้องเก็บอารมณ์เอาไว้เพราะเดี๋ยวเขาจะรู้ว่าไม่ใช่คนประเทศเขา คนที่นี่หน้าตาเหมือนคนบ้านเรามาก ผิวแบบเดียวกันแต่เสียอย่างเดียวคือคุยกันไม่รู้เรื่องโดยเฉพาะเวลาเขาพูดภาษาอังกฤษเรายิ่งไม่รู้เรื่องใหญ่เพราะสำเนียงเขาแปลก ๆ เราต้องอาศัยล่ามซึ่งมีอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น รถจากกองทัพอากาศของกรุงมนิลามารับเราถึงสนามบิน ฉันเดินมาพร้อมสัมภาระที่น้อยนิดเพราะมีพี่ทหารคนหนึ่งถือให้หมด เขาคงเห็นว่าฉันเป็นเด็กก็เลยถือให้...ตลอดทางที่นั่งรถผ่านตึกรามบ้านช่องก็ดูใหญ่โต โดยเฉพาะเมื่อได้ผ่านสวนสาธารณะของที่นี่ มันช่างกว้างขวางและงดงามมาก บ้านเรายังห่างชั้นนัก ความสะอาดของที่นี่ดีมาก ๆ บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อยดีจริง ๆ นั่งรถเพียงแป๊บเดียวก็มาถึงกองทัพอากาศ ฉันได้ไปพักที่คอนโดทหารฝั่งตะวันออก ส่วนผู้ชายอยู่ฝั่งตะวันตก แต่ก็อยู่ภายในตึกเดียวกันซึ่งเป็นรูปตัวยู ฉันยังตื่นเต้นไม่หายเลยที่ได้มาเหยียบกรุงมนิลา ฉันคิดว่าฉันจะเที่ยวให้คุ้มกับเบี้ยเลี้ยงที่ได้มา 60,000 นี้ทีเดียว "เป็นไงตื่นเต้นไหมดาว" "มากเลยค่ะพี่ตุ๊ก...ที่นี่สวยนะ ขนาดห้องพักยังสะอาดเลยแต่เสียอย่างเดียวคือแคบไปหน่อยเนาะ" "เอาเถอะ...ไหน ๆ ก็มาอยู่ที่นี่ถึงเดือนนึงก็ทน ๆ หน่อยละกันแล้วเราต้องไปซ้อมที่เบาะข้างล่างเขาเตรียมไว้ให้เราเหมือนเดิมแล้วละ" "หมายความว่าพี่เคยมาแล้วเหรอ...." "อืม....เมื่อ 7 ปีที่แล้วนะ" ฉันตื่นเต้นมากทีเดียว อย่างน้อย ๆ ก็มีคนนำทางฉันเที่ยวได้... "เออต้องขยันนะเพราะถ้าเกิดสายเขามาแอบดูเขาจะได้รู้ว่าเราฟิตขนาดไหน จริงไหม และอีกอย่างเราจะได้ไม่เสียเที่ยวกับการที่เราฟิตซ้อมมาถึง 2 เดือนเต็ม ไหน ๆ ก็เก็บตัวนานแล้วก็เอาให้สมหน้าสมตากับที่เขาเลือกตัวมาหน่อยจริงไหม" พี่ตุ๊กขยี้หัวฉันแล้วก็ไปอาบน้ำแล้วมานอน ห้องเรานอนกัน 4 คน เป็นเตียงสองชั้นสองเตียงทำให้ห้องดูแคบไปถนัดตาทีเดียว พอพี่ ๆ นอนกันหมดฉันก็เลยไม่รู้จะไปคุยกับใครก็เลยเดินเซ่นซ่านลงไปข้างล่างจนไปเจอไกด์และล่ามคนที่มาด้วยกัน "อ้าวน้องดาวมาเดินอะไรค่ำป่านนี้แล้ว ไม่ไปนอนเหรอ" "ก็นอนมาตลอดทางก็เลยไม่ง่วงค่ะ คือหนูเหงาไม่รู้จะไปไหนดีเลยเดินลงมา" "งั้นพี่ว่าพี่พาน้องไปดูห้องซ้อมดีกว่านะ" พี่สองคนพาเดินมาที่ห้องซ้อมฉันเห็นพี่ ๆ หลายคนที่มาด้วยกันกำลังฟิตร่างกายและซ้อมกันอย่างหนักหน่วง มีอาจารย์สุพจน์มาคุมด้วยอีกคนทำให้วิญญาณของนักยูโดในตัวฉันมันกำลังเรียกร้องที่จะไปเล่นให้ได้ ฉันยืนจด ๆ จ้อง ๆ อยู่นานจนในที่สุดก็ต้องไปคว้าชุดยูโดที่อาจารย์เตรียมไว้ที่ล็อกเกอร์มาซ้อม "อ้าว ไม่นอนเหรอ" "นอนไม่หลับละสิท่า แปลกที่ละสิดาวใช่ไหม" ทั้งอาจารย์และพี่ติ๊ก พี่โจ พี่เปิ้ลและพี่ ๆ อีกหลายคนแซวฉันจนฉันรู้สึกเขิน ๆ เพราะไม่ค่อยมีผู้ชายคนไหนแซวฉันมากนักเพราะเขาเห็นฉันเป็นตัวอันตราย แต่คราวนี้มีคนมารุมแซวก็ยิ่งทำให้ฉันเขินมากยิ่งขึ้น ฉันเดินขึ้นไปซ้อมทั้ง ๆ ที่เป็นผู้หญิงคนเดียว ฉันไม่รู้จะไปจับคู่กับใครดี ก็มีพี่ติ๊กนี่แหละที่มาเป็นคู่ซ้อมให้ แต่ก็มีพี่ทหารที่มาแข่งในคราวนี้แย่งที่จะมาเป็นคู่ซ้อมให้ฉันเหมือนกัน "เพื่อความสบายใจของทุกคน ดาวจะไม่ลำเอียง ดาวจะซ้อมกับพี่ทุกคนเข้าใจไหม" "แล้วจะไหวเหรอ" "ก็มาให้ดาวทุ่มคนละทีสิดาวถึงจะได้ไม่เหนื่อยและจะได้เล่นด้วยกันทุกคนไง" พี่ ๆ ทุกคนจึงเรียงแถวมาให้ฉันทุ่ม ยิ่งทุ่มหลาย ๆ คนฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าทุ่มได้เร็วขึ้น นี่เป็นการทำให้ฉันสปีดตัวเองให้เร็วมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า... ต่อมาฉันก็เล่นแรนโดรี่กับพี่ ๆ หลายคนแต่ก็เล่นไปเหนื่อยไปเพราะพี่ ๆ เขาแกร่งมาก ฉันไม่สามารถที่จะล้มได้สักทีมีแต่ฉันเองที่โดนทุ่มอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้น จู่ ๆ พี่อ้นก็มาซ้อมด้วย พี่อ้นเป็นคนที่ถูกเรียกตัวมาเหมือนกัน พี่อ้นเป็นนักศึกษาแพทย์ที่อยู่มหิดล พี่คนนี้ฉันติดต่อกันอยู่นาน คราวนี้ได้เล่นด้วยกันอีกครั้งแต่คราวนี้แววตาของพี่เขาเปลี่ยนไป ดูอ่อนโยนจนฉันรู้สึกได้ว่านี่เป็นอาการของคนที่เจ้าชู้และมีใจให้กัน พอเขาเข้ามาโอบเอ็วเตรียมทุ่มนั้นสายตามันหยาดเยิ้มจนฉันรู้สึกรำคาญ ยิ่งเขาพยายามเข้ามาใกล้ ๆ ก็ดูเหมือนคนที่จะมาลวนลามมากว่า ในที่สุดฉันก็เลยโมโหและทุ่มได้ในที่สุดด้วยท่าอาราอิ-โกชิ "อิปโป้ง.........!!!" "เฮ................!!!!" เสียงพี่ ๆ ปรบมือกันเกรียวกราว ฉันรู้สึกดีใจที่ชนะเขาได้อีกครั้งและฉันก็ไปเล่นกับคนอื่นต่อ นี่ถ้าขืนฉันยังไม่ชนะพี่อ้นมีหวังถูกแทะโลมตายเลย เหนื่อยมากเลยรู้สึกเพลีย ๆ ก็เลยไปทานอาหารกับอาจารย์และพี่ ๆ ที่ร้านอาหารไทยของที่นั่นแล้วก็กลับมาอาบน้ำนอน รู้สึกอ่อนเพลียมากทีเดียวพอหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตายเลย...
5 สิงหาคม 2547 10:03 น. - comment id 75877
โหได้เที่ยวต่างประเทศด้วย
5 สิงหาคม 2547 10:03 น. - comment id 75878
มาโพสต์ช้าไปขออภัยด้วยครับ
5 สิงหาคม 2547 10:05 น. - comment id 75879
ช่วงนี้มันยุ่งๆพี่มีงานทำเยอะเลยต้องไปซ่อมคอมที่อื่นอีกยุ่งชะมัดอย่าโกรธแฟนคลับคนนี้นะ ขอบอกกอล์ฟมันหลอกเด็กละไปจัดการมันเลย...เมล์ไปหาเลยบอกว่าอย่าหลอกเด็กเดี๋ยวติดคุก