ฉันมันโง่เอง... (ตอนที่3)
สุชาดา โมรา
จะมีใครบ้างนะที่เคยรู้ถึงความรู้สึกของคนที่เป็นผู้ให้ ซึ่งเขาทำให้เราทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่าง จนบางทีสิ่งที่เขาทำอยู่อาจไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ฉันรำคาญ แต่เขาทำไปเพราะเขารักฉันจริง ๆ เหมือนความรักของพ่อแม่ เหมือนความรักของญาติผู้ใหญ่ของฉัน เหมือนความรักของใครอีกหลายคนที่ทำให้ฉันด้วยความจริงใจแต่ฉันกลับเป็นคนโง่ที่ไม่รู้จักเขาดีพอ ไม่รู้จักใจของตัวเองว่าคิดอย่างไร
ฉันเคยคิดว่าสิ่งเหล่านี้สำคัญบ้างหรือไม่สำหรับชีวิตของฉัน ฉันเคยคิดว่าขณะนั้นฉันดูแลเขาดีพอหรือยัง ฉันให้ความสำคัญกับคนที่รักฉันถูกคนหรือเปล่า ฉันให้ความสำคัญกับคนที่ให้วัตถุคุณมากกว่าคนที่ให้ความรู้สึกที่ดี ๆ กับฉันบ้างหรือเปล่านะ ฉันเกิดความสับสนในใจอยู่หลายครั้งจนทำอะไรไม่ถูก คิดอะไรไม่ออก สมองตื้อตึงไปหมด เครียดจนไม่รู้จะเครียดยังไงเฮ้อแต่ก็นั่นแหละสิ่งที่ฉันได้คิดก็คือ ฉันไม่เคยทำอะไรที่ดี ๆ กับเขาเลย แม้แต่จะพูดจาไพเราะรื่นหูสักหน่อยก็ไม่มี
สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉันคือเขา แต่ฉันกลับมองข้ามเขาไปนั่นเป็นเพราะความโง่ของตัวฉันเอง แต่เมื่อฉันได้คิดไตร่ตรองอะไรดี ๆ แล้วสิ่งเหล่านี้ทำให้ฉันต้องมองเขาด้วยหัวใจมองด้วยแง่มุมที่รับรู้ถึงการเป็นผู้ให้และผู้รับ ซึ่งฉันไม่เคยเป็นผู้ให้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่ฉันก็พยายามเปิดใจให้กว้างขึ้นเพื่อที่จะมองเขาด้วยใจที่เป็นกลาง โดยไม่เห็นแก่ตัวจนเกินไป ไม่คิดเข้าข้างตัวเองฉันจึงเปิดใจและจึงรับรู้ได้ว่าเขารักฉันและฉันก็รักเขามาก
แต่บางครั้งฉันก็รู้สึกว่าฉันไม่ควรมีความรักในตอนนี้เพราะฉันไม่มีเวลาพอที่จะใช้หัวใจมองอะไรได้ นั่นเพราะฉันเพียงแค่มองอะไรแค่ฉาบฉวยแล้วก็ตัดสินว่าใช่หรือไม่ใช่ และฉันก็กลับมองดูความร่ำรวยและก็ความจนของคนที่ข้าวของที่เขาใช้ เขาสวมใส่ ดูในสิ่งโก้หรูแต่ฉันไม่เคยมองความดีของคนตรงที่เขาแสดงให้ฉันเห็นเลย ฉันมองอะไรหลายอย่างด้วยตาแล้วฉันก็ตัดสินคนเพียงแค่เวลาไม่เกิน 5 วินาที มันทำให้ฉันต้องสูญเสียมิตรภาพที่ดีดีจากเขาไป เพียงเพราะฉันอ้างกับใจและตัวของฉันเองว่าไม่มีเวลา ไม่เคยมีเวลาเลยสักนิดเดียว นั่นเป็นเพราะฉันไม่เคยสนใจอะไรเลยนอกจากตัวฉันเอง ฉันไม่เคยให้ความสำคัญต่อสิ่งนั้นเลย รวมทั้งต่อคนที่เขารักฉันด้วยใจจริงคนนั้น
ถ้าฉันได้ลองมองเขาตั้งแต่ตอนนั้น และก็มองย้อนกลับไปดูว่าทำไมเราถึงมีเวลาทำอะไรหลาย ๆ อย่างมากมายในแต่ละวัน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญต่อชีวิตฉันเลย ไม่ว่าจะเป็นงานสังคม งานเลี้ยงสังสรรค์ในสังคมโก้หรูที่มีแต่ความจอมปลอมบนโลกใบนี้ เพราะเราให้ความสนใจและให้ความสำคัญต่อมัน ทำไมฉันถึงไม่ลองให้ความสำคัญกับสิ่งที่ฉันลืมไป ฉันไม่เคยนึกถึงมาโดยตลอด โดยเฉพาะกับคนที่หวังดีกับฉันคนนี้แต่ฉันกลับไม่เคยมองเขาเลยสักนิด
ฉันจึงคิดว่าฉันต้องไม่ปล่อยให้มิตรภาพดี ๆ ต้องมีรอยร้าวเพราะเมื่อวันหนึ่ง เวลาหนึ่งที่คน ๆ นั้นต้องจากเราไปโดยมองหน้าเราไม่ติดแบบนี้ เราคงอายไม่กล้าสบตาเขาไม่กล้าพูดกับเขาทั้ง ๆ ที่เราก็มีความรู้สึกดี ๆ ให้เขา และเขาก็มีเช่นกัน และถ้าวันหนึ่งเราจะต้องจากกันเราก็ควรจะจากกันด้วยความรู้สึกที่ดีดีต่อกันเราจะได้ไม่รู้สึกผิดและรู้สึกแย่ ๆ แบบนี้ โถ่!!!ไม่น่าเลยเรา นั่นเป็นเพราะว่าเรายังทำดีกับเขาไม่เพียงพอใช่ไหม เพราะฉันไม่เคยเห็นคุณค่าของเธอเลยใช่ไหม บอย ตอนนี้ฉันคงพูดได้แค่เพียง ฉันขอโทษ ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันเสียใจนะบอย
เธอคือสิ่งที่ไม่สำคัญกับฉันในตอนแรก นั่นเพราะฉันไม่เคยสนใจไม่เคยเห็นคุณค่าในสิ่งที่เธอมอบให้มาเลย ฉันขอโทษนะบอย และตอนนี้ฉันก็รู้ตัวแล้วละว่าเธอคือคนพิเศษของฉัน เธอคือคนที่สำคัญของฉันเสมอ บอยได้โปรดเถอะ กลับมาหาฉันนะฉันขอร้อง
ฉันรู้ตัวแล้วว่าฉันรู้สึกอย่างไร บอยฉัน ฉัน ฉัน จะให้ฉันพูดอย่างไร จะให้ฉันทำอย่างไรกันในเมื่อฉันเป็นผู้หญิง ฉัน ฉันรักเธอนะบอย
ฉันได้บันทึกเรื่องราวถึงความรู้สึกที่ฉันรู้สึกผิดรวมทั้งสิ่งที่ฉันเพิ่งค้นพบตัวเองเจอก็ต่อเมื่อสายไปแล้ว
บรื้น
ฉันขับรถตามหาเขาไปทั่วทุกหนทุกแห่ง แต่ก็ไม่พบเขาเลย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเขา บ้านญาติ ๆ ที่ฉันเคยไป หรือแม้แต่ที่ที่เขาชอบไปด้วย สิ่งที่ฉันได้มันคือความว่างเปล่า ความว้าเหว่ในจิตใจ มันทำให้ฉันรู้สึกผิดและรู้สึกว่าแย่ที่สุด เป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมา ฉันผิดหวังและสิ้นหวังจริง ๆ เธอรู้ไหมว่าฉันรู้สึกอย่างไรกับเธอ เธอรู้ไหมว่าฉันแคร์เขามากแค่ไหน
ฉันจึงกลับมาเริ่มต้นใหม่ที่บริษัทอีกครั้ง ฉันจอดรถด้วยความรู้สึกที่หดหู่สิ้นหวังเป็นที่สุด ทำอะไรไม่ถูก คิดอะไรไม่ออกเลย ฉันรู้สึกว่าขณะนี้ฉันอ้างว้างเดียวดาย หาที่พึ่งไม่ได้
บอย
ฉันตะโกนลั่นสุดเสียง เขาหันกลับมามองฉันช้า ๆ ฉันรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เจอเขาอีกครั้ง
มีอะไรเหรอกิ๊ก
ฉันขอโทษนะ กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม
เขาเงียบและก็เรียกใครคนหนึ่งที่กำลังเดินออกมาจากบริษัทของฉัน
นี่พลอยแฟนผม
คำพูดนี้แหละที่ทำให้ฉันตกใจมาก ๆ ถึงมากที่สุด ตัวชาหน้าชาทำอะไรไม่ถูก เหมือนใครเอาน้ำเย็น ๆ มาสาดดังโครม!!! ฉันรู้สึกแย่มาก ๆ รู้สึกยิ่งกว่าอ้างว้างเสียอีก บอยเธอมีคนอื่นแล้วเหรอ
กิ๊กเธอเป็นอะไรไปน่ะ กิ๊ก
เอ่อเอ่อมะไม่เป็นไร
เ.ออผมไม่โกรธคุณหรอกนะ ที่ผมมาวันนี้ผมไตร่ตรองดีแล้วละว่าผมจะพาพลอยมาฝากงานกับคุณ เธอเก่งเรื่องการตกแต่งภาพ รับรองว่าเธอจะทำให้บริษัทคุณไม่ผิดหวัง
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
เสียงนี้ยิ่งทำให้ฉันขมขื่นใจยิ่งนัก ถ้าฉันไม่รับคนชื่อพลอยอะไรนี่เข้าทำงานก็จะกระไรอยู่ มันจะดูน่าเกลียดไปมั้ง สิ่งนี้มันทำให้ฉันคิดหนักว่าฉันควรจะทำอย่างไรดี ถ้าปฏิเสธความสัมพันธ์ของเรามันคงจะจบสิ้นตรงนี้แน่ ๆ ฉันจึงตัดสินใจรับเขาเข้ามา
เริ่มงานเลยละกัน
วันนี้เลยเหรอคะ แล้วเรื่องเงินเดือนล่ะคะ
อย่าเพิ่งเร่งรัดสิคุณ เดี๋ยวเจ้าของบริษัทก็ว่าเราไม่ดีหรอก
ฉันดูทั้งคู่มีความสุขดีนะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วในเมื่อเขามีความสุขเราก็ควรมีความสุขไปด้วยถึงจะถูกต้องเฮ้อชีวิตของฉัน เฮ้อ ฉันต้องถอนหายใจหลายครั้งทีเดียวแต่ฉันก็ยังคงยิ้มรับสู้ได้นะ เพราะอย่างน้อย ๆ ฉันก็ได้รู้แล้วว่าการพูดดี ๆ มันทำให้มิตรภาพยั่งยืน การที่เราใจกว้างมันทำให้ได้อะไรมาหลาย ๆ อย่าง และการที่เรารู้จักคำว่าขอโทษมันคือแรงพลังอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้เรากล้าที่จะเผชิญหน้าสู้กับเขาได้ นอกจากนั้นฉันก็รู้แล้วว่ารักคือการให้ รวมทั้งการให้อภัยในหลาย ๆ เรื่องด้วย เมื่อเราเห็นเขามีความสุขเราก็มีความสุขไปด้วย
บอย เธอจะกลับมาหรือเปล่า ฉัน
ฉันส่งใบลาออกคืนให้เขา
อย่าคิดมากนะกิ๊ก วันนั้นผมหุนหันเกินไป ผมต้องขอโทษคุณด้วยนะ ต่อไปนี้ผมจะทุ่มเทเพื่องาน ผมจะตั้งตัวและเตรียมพร้อมที่จะแต่งงานให้เร็วที่สุด
ถึงแม้ว่าประโยคที่ฉันได้ยินมันจะทำให้ฉันรู้สึกใจหวิว ๆ ก็ตามแต่มันก็ทำให้ฉันเข้มแข็งมากขึ้น ฉันยิ้มรับคำพูดของเขาและยิ้มรับความรู้สึกของฉันได้ฉันก็ดีใจที่สุดแล้ว