เสี้ยวหนึ่งของวิญญาณ ( ตอนที่ 6 )
สุชาดา โมรา
ตู๊ด....ตู๊ด....ตู๊ด.... เสียงนาฬิกาปลุกดังแต่เช้า ฉันกดนาฬิกาแล้วนอนหลับต่อ จนกระทั่งฉันผวาตื่นขึ้นมา
"เฮ้ย...!!!วันนี้ต้องไปคัดสายที่กรุงเทพฯนี่หว่า ตายแล้ว...!!!"
ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวทันที พ่อฉันมาส่งที่ บ.ข.ส. แต่ฉันมาไม่ทันเพื่อน ๆ และพี่ ๆ ฉันจึงโทรไปหาพี่ดอน
"ฮัลโหล พี่ดอนเหรอคะ อยู่ไหนคะ หา...ค่ะ ๆ ๆ เดี๋ยวจะตามไปนะคะ พี่นั่งรถ ป.2 เหรอเดี๋ยวดาวไป ป.1 งั้นเจอกันที่อนุเสาวรีย์ชัยนะคะ"
"พ่อคะไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เดี๋ยวหนูไปเองได้สบายมาก แค่จรัญสนิทวงศ์เอง...ไปนะคะ"
พ่อยิ้มแล้วก็ขับรถกลับไป ฉันนั่งรถ ป.1ไปกรุงเทพฯ คนเดียวทั้ง ๆ ที่ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเดินทางไปกรุงเทพฯ คนเดียวซะที เด็กต่างจังหวัดที่ไม่เคยรู้เรื่องกรุงเทพฯ เลยต้องมานั่งเหงาอยู่คนเดียวบนรถ มองไปทางไหนก็รู้สึกว่ามีแต่คนแปลกหน้า... ฉันรู้สึกอ้างว้างเดียวดายหาที่พึ่งไม่ได้เลย ฉันนั่งมาเรื่อย ๆ มองไปข้างทางจนรถจอกที่ป้ายหินกองเพื่อรอเวลา
"ขอโทษนะคะ ขอโทษนะคะ..."
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่คุ้นเหลือเกินดังขึ้น และดังอยู่เรื่อย ๆ จนใกล้เข้ามาถึงฉัน ฉันจึงเหลือบไปมองผู้หญิงคนนั้น
"ย่า...!!!!"
ฉันตกใจมาก ย่ามาได้ยังไงกันเนี่ย!!!
"ดาว...แกมาคนเดียวได้ยังไงรู้ไหมย่าเป็นห่วง พ่อแกก็เหมือนกันปล่อยแกมาได้ไง เดี๋ยวก็ถูกหลอกไปขาย เฮ้อ...!!!"
ย่าตามฉันมาด้วยความเป็นห่วง ย่ายืนบ่นอยู่นานจนผู้ชายที่นั่งข้าง ๆ ฉันลุกขึ้นให้ย่านั่ง ย่าก็บ่น ๆๆๆๆๆ จนฉันหูชาทีเดียว ไม่เพียงบ่นแต่ฉันยังหันไปบ่นให้คนอื่นฟังอีก ทำให้กระเป๋ารถถึงกับหัวเราะออกมาทีเดียว...จากที่นั่งเหงา ๆ อยู่คนเดียวบนรถ ก็เหมือนกับฟ้าสั่งให้ย่าตามฉันมาด้วยทำให้ฉันไม่เหงาและเดินทางอย่างไม่รู้สึกเคว้งคว้าง
"พอย่ารู้ว่าพ่อแกให้แกมาคนเดียวย่าก็เลยสั่งให้ขับรถตามมา โชคดีนะพ่อแกมันช่างสังเกตจำทะเบียนรถได้เลยขับตามมาทันพอดี ไม่งั้นย่าต้องช็อกตายแน่ ๆ เพราะย่าก็มีหลานสาวอยู่แค่คนเดียวย่าก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา ส่วนแม่แกน่ะเหรอไปส่งตาแกที่สุราษฎร์ยังมาไม่ถึงเลย ถ้ารู้นะว่าแกมาคนเดียวสงสัยแกจะโดนหยิกแขนเขียวแหง ๆ ละ"
คำพูดของย่าทำให้ฉันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ฉันรู้สึกได้ว่าที่บ้านทุกคนเป็นห่วงฉันจริง ๆ ฉันรู้สึกอบอุ่น ไม่เหงาไม่เดียวดายกลับมีความสุขมากที่ได้รู้จากปากย่าซึ่งบอกเป็นนัย ๆ ว่าท่านรักฉันมากกว่าใคร ๆ ฉันจึงโผกอดย่าด้วยความรัก...
รถมาถึงสถานีหมอชิดใหม่ ฉันพาย่าเดินไปตามทางถนนคอนกรีตผ่านหน้าเซเว่นแล้วเดินไปหารถ ข.ส.ม.ก. ทันที แต่ว่ารถสาย 38 ออกไปแล้วคงอีกนานที่จะได้ขึ้น
ติ๊ดตี่ตีติ๊....!!!! เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฉันรับโทรศัพท์ทันที
"ฮัลโหล...จ่ะ ๆ ๆ ๆ มาถึงแล้ว จ่ะ ๆ ๆ ๆ..."
"ใครโทรมาเหรอดาว"
"พี่ดอนพี่ที่เบาะน่ะแหละค่ะ เขาเป็นห่วงกลัวจะมาไม่ทันแข่ง"
ฉันไม่กล้าบอกหรอกว่าพี่ดอนเป็นแฟนฉัน เพราะที่บ้านค่อนข้างเข้มงวดเรื่องการคบผู้ชาย ฉันจึงต้องเก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนกะว่าถ้าถึงเวลาเมื่อไรแล้วจะบอกกับทุกคน เพราะฉันต้องการความแน่ใจว่าพี่ดอนจะไม่เป็นแบบพี่นัท... ที่จริงใจจริงลึก ๆ แล้วฉันยังอาลัยอาวรพี่นัทอยู่ เพราะถ้าให้ฉันเทียบระหว่างพี่นัทกับพี่ดอนแล้ว พี่ดอนไม่มีอะไรเทียบได้กับพี่นัทเลยสักนิด แต่พี่ดอนเป็นคนที่จริงใจและมั่นคงจึงทำให้ฉันคบกับพี่ดอนได้...
"ดาวสายแล้ว ไปคันนี้ก็ได้ผ่านอนุเสาวรีย์เหมือนกัน"
"แต่หนูว่าไปแท็กซี่ดีกว่าเพราะมันเร็วดี"
ฉันพาย่าเดินมาขึ้นรถแท็กซี่
"ไปไหนครับ"
"ซอยจรัญสนิทวงศ์ โรงเรียนบูรณวิทย์"
ฉันนั่งรถมาเรื่อย ๆ คนขับก็คุยกับย่ามาตลอด ย่าก็เล่าเรื่องของฉันให้ฟัง คนขับรถหัวเราะไม่หยุดทีเดียว ทำให้ฉันรู้สึกแย่มาก ๆ เหมือนกลายเป็นตัวตลกในสายตาพวกคนกรุง! ที่จริงย่าก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นหรอกแต่ท่านพูดไปตามประสาคนแก่ขี้บ่นนิด ๆ ละ
"อ้าวทำไมไม่เลี้ยวขวาเข้าซอยจรัญล่ะ ทำไมเลี้ยวมาทางนี้ จอด ๆ ๆ ๆเดี๋ยวนี้นะ"
ฉันร้องตะโกนลั่นรถ คนขับแท็กซี่จอดรถจนหน้าทิ่ม
"ก็น้องบอกว่าไปโรงเรียนบวรวิทย์ไม่ใช่เหรอ"
"ไม่ใช่ บอกว่าไปบูรณวิทย์...เห็นเป็นคนบ้านนอกแล้วไม่รู้เรื่องในกรุงเทพฯ หรือไง มักง่ายที่สุด ฉันจะลงแล้ว จะไปขึ้นคันอื่น"
ฉันพูดด้วยความโมโห เลือดในตัวสูบฉีดขึ้นหน้าจนร้อนผ่าว ดวงตาฉันจับจ้องไปที่คนขับแท็กซี่ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อทีเดียว
"ใจเย็น ๆ ลูก"
ย่าเตือนฉัน
"นั่งคันนี้ก็ได้ แต่ต้องปรับมิเตอร์ใหม่ก่อนเพราะฉันรู้ว่าถนนสายนี้ต้องกลับไปที่สะพานพระปิ่นเกล้าก่อนถึงจะมาได้"
คนขับรถขอโทษขอโพยแล้วก็เก็บเงินในมิเตอร์ตอนแรกก่อนแล้วสัญญาว่าจะพาไปส่งที่โรงเรียนนั้น และจะไม่เก็บเงินส่วนที่เหลือนี้ ...คนขับแท็กซี่พามาจอดที่ในโรงเรียน ฉันเจอหน้าเพื่อน ๆ และพี่ ๆ ฉันถึงกับโผกอดพี่ขวัญทันที
"นึกว่าจะมาไม่ทันซะแล้ว...กินข้าวมาหรือยัง...ไปกรอกใบสมัครก่อนไหม"
ฉันรีบจนลืมแนะนำย่ากับพวกพี่ ๆ เพื่อน ๆ เลย...ฉันกรอกใบสมัครและชั่งน้ำหนักทันที น้ำหนักของฉันลดไปอีก 2 กิโล ฉันแข่งในรุ่นเล็กลงไปอีก... ฉันเริ่มหิวก็เลยไปทานข้าวแถว ๆ นั้นซึ่งเป็นร้านประจำที่เรามาทานกันบ่อย ๆ
"นี่...ทุกคนนี่ย่าของดาวเอง"
ทุกคนสวัสดีย่า แต่พี่ดอนเริ่มเข้ามาตีสนิทย่าจนฉันดูออกว่าย่ารำคาญพี่ดอนมาก ๆ ฉันจึงต้องสะกิดเตือนอยู่บ่อย ๆ แต่พี่ดอนก็ไม่รู้ตัวหรอกยังคิดว่าฉันแอบแตะอั๋งเสียอีก...เมื่อหนักเข้าย่าก็เริ่มยิ้มแบบชักสีหน้า ฉันรู้ทันทีว่าย่าโกรธ ฉันจึงต้องออกปากพูดเองก่อนที่ย่าจะระเบิดออกมา
"พี่ดอน ว่างนักเหรอไปนั่งที่ของตัวเองแล้วทานข้าวซะ...!!!"
พี่ดอนทำท่าเหมือนไม่พอใจมาก ๆ ทำจมูกฟุตฟิต ตาแดงจนฉันสงสาร แต่ฉันก็ต้องวางตัวเฉย ๆ เพราะฉันกลัวว่าย่าจะไม่พอใจไปมากกว่านี้... ปกติแล้วย่าไม่ค