ฉันเรียน ม.ปลายอยู่ที่โรงเรียนชื่อดังของลพบุรี เป็นโรงเรียนที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ ฉันเรียนไม่เก่งนักแต่ก็ค่อนข้างหัวดี ตั้งแต่ฉันเรียนมาฉันก็ไม่เคยได้อ่านหนังสือเลยสักครั้งเพราะฉันเป็นคนขี้เกียจ แม่มักจะบ่นฉันอยู่เสมอ ๆ แต่ฉันก็ทำข้อสอบได้ดีทีเดียว... วันนั้นฉันจำได้ว่าถูกแม่ด่าเรื่องไม่อ่านหนังสือ ไม่ทำการบ้าน รวมทั้งแม่ใช้ให้ทำอะไรก็ไม่ทำด้วย เมื่อถูกด่ามาก ๆ ฉันก็เลยแอบไปอยู่ข้างบ้านเอามือล้วงกระเป๋ากระโปรงนักเรียนก็พบกระดาษแผ่นหนึ่งที่มีคนนำมาแจกตรงหน้าโรงเรียน... กระดาษแผ่นนั้เป็นประกาศ ในประกาศมีการเปิดรับสมัครเรียนยูโด ฉันอยากเรียนมาก ๆ จึงไปปรึกษาแม่ แต่ว่าแม่ไม่สนับสนุน "จะเรียนไปทำไม การเรียนของตัวเองก็แย่อยู่แล้วจะเรียนให้มันหมดเงินเปลืองทองไปทำไมกัน ถ้าหากว่าเทอมนี้เรียนดีแล้วเอาไว้มาคุยกับแม่ทีหลังละกัน" ตลอดทั้งเทอมฉันตั้งใจเรียน ขยันเพื่อที่จะเป็นบันไดไต่ไปเล่นยูโด ผลที่ออกมาคือฉันเรียนดีอย่างไม่คาดฝัน แม่จึงให้ฉันไปเล่นยูโดที่กองพลรบพิเศษที่ 2 ค่ายเอราวัณ ตั้งแต่มาเรียนยูโดทำให้ฉันได้เรียนรู้เรื่องราวมากมาย ฉันช่วยงานบ้านมากขึ้นทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนนี้ไม่เคย ฉันมีสมาธิมากขึ้น รู้เรื่องชีวิตคนมากขึ้น เข้าใจผู้คนมากขึ้นเพราะสิ่งที่ฉันไปเห็นที่เบาะยูโดมันมีแต่พวกที่เจนชีวิตมาแล้วทั้งนั้น ฉันก็ได้คบกับผู้ชายคนหนึ่งที่อายุห่างกับฉันถึง 6 ปี เขาเป็นคนที่ดีเสมอต้นเสมอปลาย แต่ฉันก็ไม่อาจรู้ได้หรอกว่าลึก ๆ เขาคิดอย่างไร... เขาทำดีกับฉันทุกอย่าง แต่เขาก็เป็นคนช่างสอดรู้สอดเห็นและอยากที่จะไปเห็นบ้านของฉันมากเลย...เขาแอบเดินตามฉันไปที่บ้าน ฉันก็รู้ว่าเขาตามมา ฉันจึงเฉแวะข้างทางเรื่อย ๆ จนเขาหาที่ซ่อนไม่ได้เราเลยจังหน้ากัน "พี่นัทตามฉันมาทำไม..." "ปะ...ปะ...เปล่านี่พี่มาเดินเล่น" "เดินเล่นในป่าเนี่ยนะ...ท่าจะบ้า...บ้านพี่อยู่แถว ๆ ซอย 77 ไม่ใช่เหรอ แล้วมาทำไมซอย 4 ล่ะ แปลกนะถ้าจะบอกว่ามาเดินเล่นกว่าจะถึงบ้านคงจะเดินเป็นวันเลยละ..." ฉันบ่นพี่นัทแล้วก็เดินออกมาจากป่าข้างทาง เขาก็เดินตามฉันมาจนฉันหงุดหงิด "นี่...จะตามไปถึงไหน" "เปล่าไม่ได้ตาม ถนนส่วนตัวเหรอถึงห้ามไม่ให้ตามเนี่ย" ฉันเงียบแล้วก็เดินจ้ำ ๆๆๆ จนถึงบ้าน เขาก็ตามฉันมาบ้านเหมือนกัน เดินเข้ามาถึงรั้วบ้านเลยด้วย ฉันรู้สึกแย่จริง ๆ เลย "ไหนบอกว่าไม่ได้ตามไงล่ะ" "ก็มันหิวน้ำนี่เดินมาตั้งไกล..." ฉันทำหน้าแบบไม่ค่อยพอใจแล้วก็ไม่ยอมเปิดประตูบ้านด้วย ฉันเดินเข้าไปในบ้านแล้วก็อาบน้ำแต่งตัวทานข้าว "ดาว ใครมาน่ะลูก" "สงสัยคนขายประกันมั้ง..." "แม่ว่าไม่ใช่มั้ง เดี๋ยวแม่ออกไปดูเอง" ฉันรู้สึกใจคอไม่ดีเลย พี่นัทไม่ยอมออกไปจากหน้าบ้านเสียด้วย ถ้าแม่รู้นะว่าตามฉันมาละก็แย่เลยละ เพราะแม่เป็นคนที่ไม่เหมือนคนอื่น ลูกนี่จะคบกับผู้ชายไม่ได้เลยทั้ง ๆ ที่ลูกสาวก็หน้าตาไม่ดีแต่ยังจะห้ามนั่นห้ามนี่อีก "เข้าบ้านก่อนสิลูก...ยายดาวนี่แย่จริง ๆ เลยเพื่อนมาเที่ยวบ้านกลับไม่ให้เข้าบ้าน ปล่อยให้เพื่อนยืนหิวน้ำคอแห้งอยู่ข้างนอกบ้านอยู่ได้ ร้อนก็ร้อน ไปดาวเอาน้ำมาให้เพื่อนเราหน่อย" "แม่...." ฉันร้องเสียงหลงทีเดียว สิ่งที่ไม่คาดคิดกลับเป็นสิ่งที่....เฮ้อ...นึกว่าจะโดนด่าเสียแล้วสิ ตั้งแต่วันนั้นที่พี่นัทได้เข้ามาเหยียบที่บ้าน แม่ก็โอนอ่อนมากขึ้น เขาเข้าบ้านฉันราวกับเป็นที่สาธารณะทีเดียว ฉันรู้สึกไม่ค่อยพอใจเลยละ...แต่ก็ดีที่พี่นัทเขาเข้ากับแม่แล้วก็คุณตาของฉันได้ ฉันมีเพื่อนที่ไปเรียนยูโดด้วยอีกคนหนึ่งเธอชื่อเหมี่ยว เหมี่ยวเป็นคนนิสัยดีเฉพาะต่อหน้าฉัน แต่พอลับหลังก็หักหลังเพื่อนด้วยการแอบเอายาถ่ายมาใส่แก้วน้ำเพื่อน ทำให้เพื่อนไม่สามารถแข่งยูโดได้ ต้องขอบายไป พอฉันมารู้ตอนหลังถึงกับมองหน้ากันไม่ติดทีเดียวเพราะไม่คิดว่าเพื่อนจะทำร้ายเพื่อนได้ "เหมี่ยวทำไมเธอทำแบบนี้...ฉันอุตส่าหลงไว้ใจเธอ...เธอไม่ใช่เพื่อนฉัน..." "เดี๋ยวดาว...ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันจะใส่อีกคนนึง" "เจตนาเธอมัน...ร้ายกาจที่สุด ถึงจะฝ่ายนั้นหรือว่าฝ่ายฉันเธอก็ไม่ควรทำ" ฉันเดินออกมาจากกลุ่มนักยูโดที่กำลังมุงดูฉันกับเหมี่ยวทะเลาะกัน ฉันรู้สึกโกรธจนทำอะไรไปโดยไม่รู้ตัวเลย... แต่ไม่ใช่เพียงเรื่องนี้เรื่องเดียวหรอกที่เพื่อนเป็น แม้แต่แฟนของเพื่อน เพื่อนยังแย่งชิงเอาไปด้วยการมอบกายถวายตัวให้ แล้วมาอ้อนวอนขอร้องให้เพื่อนเลิกกับแฟนของตัวเองเพียงเพราะเพื่อนบอกว่าเพื่อนท้อง...ฉันไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าเพื่อนทำกับฉันได้อย่างไร... "แววดาว ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย" "มีอะไรก็พูดมาสิต่อหน้าคนอื่นเนี่ย...ทำไมไม่กล้าเหรอ" "มันสำคัญนะแววดาว" "ไม่ต้องมาเรียกฉันเต็มยศขนาดนี้ เรามันไม่ถูกกันอยู่แล้วเธอจะพูดอะไรก็เปิดเผยมาเลยดีกว่า อย่ามัวอ้ำอึ้งเสียเวลาซ้อมยูโด" "เลิกกับพี่นัทเถอะนะ..." ฉันถึงกับอึ้งทีเดียว มันเป็นเพราะอะไรเหมี่ยวถึงได้มาพูดแบบนี้...ฉันไม่เข้าใจเลย รู้สึกหน้าชาตัวชาทำอะไรไม่ถูก ฉันคบกับพี่นัทมา 6 เดือนแต่จู่ ๆ ก็มีคนมาบอกให้ฉันเลิก มันต้องมีอะไรสักอย่างที่ฉันไม่รู้แน่ ๆ เลย "ฉันเป็น...." "แหม...เหมี่ยวแกก็บอกยายดาวไปสิว่าแกท้อง" คำพูดของแก้มทำให้ฉันสะดุด ตกตะลึงเพราะไม่คิดว่าเหมี่ยวจะท้องกับพี่นัท เพราะพี่นัทไม่เคยมีท่าทีว่าจะรู้สึกอะไรกับเหมี่ยวเลยแม้แต่นิดเดียว ฉันจึงเดินไปที่สนามฟุตบอล ซึ่งพวกนักยูโดรุ่นพี่หลายคนกำลังวิ่งรอบสนามกันอยู่ ฉันจึงวิ่งเข้าไปถามพี่นัท แต่พี่นัทก็ไม่หยุดวิ่งสักที ฉันจึงต้องวิ่งตาม "จริงเหรอที่พี่เป็นแบบที่เขาพูดกัน" "อะไร...ไม่เข้าใจ" "ก็เรื่องที่เหมี่ยวท้องไง" แฮก ๆๆๆๆ... พี่เขาถึงหยุดหอบทันที แล้วพี่นัทก็ก้มหน้าเหมือนกับรับผิดและยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ฉันรู้สึกเลยว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับฉันเลย...ฉันเดินห่างออกจาพวกพี่ ๆ แล้วก็เดินไปที่ห้องแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับบ้านทันที ฉันกลับบ้านอย่าเศร้าสร้อย เหม่อมองไปนอกหน้าต่างรถตลอดเวลาเพราะฉันรู้สึกว่าฉันสมเพชตัวเองเหลือเกิน ทำไมฉันถึงโง่ได้ขนาดนี้... ทำไมฉันต้องมารู้จักคนแบบนี้ด้วย เวรกรรมอะไรของฉันนักหนานะที่ต้องมาพบกับเพื่อนแบบนี้...โถ่...สวรรค์...ฉันรู้สึกรับไม่ได้เลยจริง ๆ เมื่อฉันเลิกกับแฟนได้ 3 วันฉันก็มีคนใหม่เพื่อที่จะได้ลืมคนเก่า แต่ก็ดูท่า ทางว่าเพื่อนของฉันจะพยายามแย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันมีตลอด ฉันไม่รู้จะวางตัวอย่างไรดีเลย ฉันทำอะไรไม่ถูกเล่นยูโดไม่ได้เพราะเสียสมาธิ...จะให้ฉันทำอย่างไรดีเนี่ย! วันนั้นฉันจำได้ดีว่าเป็นวันแข่งยูโดคัดสาย อาจารย์จากทีมชาติมากันมากมายเพื่อที่จะมาตัดสิน ฉันแข่งชนะได้ถึง 2 คนแล้ว ถ้าชนะคนที่ 3 ฉันจะได้สายเขียวทันที แต่ฉันกลับต้องมาประจันหน้ากับเหมี่ยว... จะให้ฉันทำอย่างไรดี... ด้วยความที่ฉันทั้งรักทั้งแค้นเพื่อนมาก ฉันจึงคิดเพียงอย่างเดียวว่าจะต้องชนะให้ได้ ต้องทำให้ได้ ฉันจะไม่ยอมแพ้คนพันนี้หรอก ฉันจะสู้จนขาดใจทีเดียว... "เอี้ย...!!!" ...เสียงร้องข่มคู่ต่อสู้ของฉันดังขึ้นพร้อม ๆ กับอารมณ์ที่บ้าครั่ง ฉันไม่รู้สึกตัวเลยว่าฉันกระชากคอเสื้อเพื่อนแรงขนาดไหน ฉันคิดเพียงว่าจะไม่แพ้ ไม่แพ้ และก็ไม่มีวันแพ้... ฉันใส่ท่าโตโมนาเงะทันที "อิปโป้ง...!!!" เสียงกรรมการบอกว่าฉันชนะแล้วแต่ฉันก็ยังไม่รู้ตัว ฉันใส่ต่อด้วยท่าล็อกเกซ่ากาตาเมะทันที ฉันกดด้วยแรงอาฆาตนิด ๆ ของคนที่จะต้องไม่ยอมที่จะแพ้คนอย่างเหมี่ยว หรือแม้แต่คิดฉันยังไม่ยอมคิดเลย ทั้ง ๆ ที่ฉันก็ค่อนข้างตาขาวนิด ๆ เพราะเหมี่ยวเป็นคนตัวโต เหมี่ยวเล่นในรุ่นน้ำหนัก 50 กิโลในขณะที่ฉันเล่นในรุ่น 45 กิโล แต่คราวนี้มีคนแข่งในรุ่นของฉันน้อย ฉันจึงต้องพลาสขึ้นไปแข่งกับรุ่นที่ใหญ่กว่า... แต่ถึงแม้ว่าเหมี่ยวจะตัวใหญ่กว่าแค่ไหน ถ้าลองให้เลือดสูบฉีดทั่วร่างแบบนี้แล้วรับรองว่าฉันสู้ตายทีเดียว...จนกรรมการต้องเดินเข้ามามาสะกิดบอกว่าฉันชนะแล้ว ฉันชนะอย่างไม่รู้ตัวเลยว่าฉันชนะ "แววดาว...อิปโป้งแล้วละ..." ....เฮ้....!!!!...เสียงทุกคนดังกึกก้องขณะที่ทุกคนก็รู้ว่าฉันกับเหมี่ยวไม่ลงรอยกัน ชัยชนะครั้งนั้นจึงทำให้ฉันก้าวขึ้นไปแข่งขันยูโดชิงแช้มเพื่อที่จะเป็นตัวแทนจังหวัด...ฉันมีความสุขมาก วิญญาณสายเลือดยูโดของฉันกล้าหาญและล้มคู่ต่อสู้ได้อย่างที่ฉันตั้งใจ ฉันหวังว่าแข่งนัดต่อไปของการแข่งขันชิงตัวจังหวัดนี้จะราบรื่น...ฉันคิดอย่างนั้น ติดตามอ่านตอนต่อไปของเสี้ยวหนึ่งของวิญญาณ เหตุการณ์จะเข้มข้นมากขึ้น...สาวน้อยนักยูโดจะทำอย่างไร เหมี่ยวจะตามมาราวีอีกหรือไม่ และแฟนใหม่จะถูกแย่งไปหรือเปล่า แฟนเก่าจะกลับมาไหม...ติดตามตอนต่อไปเร็ว ๆ นี้ค่ะ...อย่าพลาด!!!!!... ขอบคุณที่ติดตามผลงานเสมอมาค่ะ
17 กรกฎาคม 2547 07:00 น. - comment id 75517
ก็ซาหนุกดี แต่งต่อไปนะ จะรออ่าน :-)
17 กรกฎาคม 2547 14:16 น. - comment id 75521
ขอให้ชนะ!
17 กรกฎาคม 2547 14:16 น. - comment id 75522
ขอให้ชนะ!
18 กรกฎาคม 2547 17:22 น. - comment id 75554
มันส์ดีนิ
22 กรกฎาคม 2547 14:34 น. - comment id 75631
เขียนดีมากเลย แล้วเราจะติดตามอ่านงานเขียนของเธอไปเรื่อย ๆ นะ จะเป็นกำลังใจให้เพื่อนเสมอจ๊ะ
6 กุมภาพันธ์ 2552 21:12 น. - comment id 103784
ขอโทษจริงๆ อย่าอ่านนะขอร้อง ความลับมาบอก เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น เคยมีเด็กถูกฆ่าตายที่ห้องน้ำของภารโรง แต่ไม่สามารถหาต้นเหตุของคดีได้ จึงได้ปล่อยร่างไร้วิญญาณของเด็กน้อยทิ้งไว้ ณ ที่เดิม ไม่มีการทำพิธีอะไรทั้งสิ้น วิญญาณของเด็กจึงล่องลอยวนเวียนอยู่ในรร. เป็นเวลาหลาย 10 ปี จนวันหนึ่งได้มีกลุ่มนร.หญิงเข้าไปในห้องน้ำนั้นเพื่อหวังจะแกล้งภารโรง จึงได้พบวิญญาณของเด็กน้อย กำลังไต่ไปตามเพดาน พร้อมแสยะยิ้มให้ พวกเธอกลัวมากรีบวิ่งออกจากห้องน้ำ แต่เพื่อนคนหนึ่งพลันไปเหยียบแอ่งน้ำที่พื้นเข้า จึงได้ล้มและไปสะดุดขาของเพื่อนอีกคนหนึ่งเข้า เพื่อนคนนั้นได้จับแขนของอีกคนไว้จึงล้มกันมาเป็นทอดๆและหัวฟาดพื้นตายหมด วิญญาณของพวกเขาจึงวนเวียน ณ ที่แห่งนั้นตลอดไป จงส่งต่อไปอีก 20 กระทู้ ภายใน 7 ชม. ตอนแรกเราไม่เชื่อหรอกแต่เพื่อนเราประสบอุบัติเหตุไปแล้ว 5 คน