กว่าจะได้..สังสรรค์
The Romantic
กว่าจะได้....สังสรรค์
ผมไม่รู้หรอกว่าวันนี้ผมจะต้องเจอกับอะไรบ้าง สิ่งไม่คาดฝันทั้งหลายล้วนเกิดขึ้นได้ เรื่องดีก็มาก เรื่องร้ายก็ไม่แพ้กัน แน่นอนทุกคนล้วนอยากจะให้เกิดแต่เรื่องดีๆกับตัวเองทั้งนั้น เอาเถอะชีวิตคือความไม่แน่นอน คงไม่เจออะไรเลวร้ายหรอกน่า ผมก็แค่อยากสังสรรค์กับเพื่อน ..ก็เท่านั้น
ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าบ้านที่ผมรู้จักดีเชียวละ ภาพที่ปรากฏอยู่เป็นบ้านสองชั้นขนาด สองร้อย ตารางวา มีสนามไดรท์กอล์ฟขนาดย่อมอยู่หน้าบ้าน บ่อเลี้ยงปลาคราฟที่มีน้ำตกจำลอง รอบตัวบ้านบริเวณประดับด้วยกระจกสีลวดลายต่างๆ สลับกันเล่นเป็นสีรุ้งทั้งเจ็ด ลานจอดรถขนาดใหญ่ที่สามารถจอดรถส่วนตัวสี่คันได้สบายๆ นับว่าใหญ่กว่าที่บ้านผมที่จอดได้แค่จักรยานสี่คันแต่ก็ได้อย่างสบายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แต่น่าแปลกที่ไม่มีรถสักคันทั้งที่บ้านออกจะใหญ่ขนาดนี้.. คำตอบนี้ผมได้รับในเวลาต่อมา
เสียงกดออดจากฝีมือของผมดังขึ้น หวังว่าสิ่งที่ผมต้องการคงจะได้ดังใจปรารถนา ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ที่ผมคาดไว้ จากการกระทำของผม น้ำยังคงไหลจากสิ่งจอมปลอม ปลายังแหวกว่ายไปตามสัญชาตญาณเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมลองมันใหม่อีกครั้งแล้วตั้งความหวังไว้แบบเดิม
สำเร็จเสียงเปิดประตูบ้านถือกำเนิดขึ้น ผู้ที่ก้าวออกมาเป็นหญิงในวัยหลักสิบขึ้นเลขห้าไปแล้ว เธอแต่งตัวตามสบายในชุดนอนยาววันพีช ผมคงมาเช้าไปหรือนี่ ไม่ละมั้งนี่ก็ สาม โมงเช้าแล้วนะ เธอเดินออกมาด้วยใบหน้าเหมือนมีความสงสัย
ใครคะ มาหาใครนะฟังจากน้ำเสียงดูท่าเธอไม่ไว้ใจผมเลย
ผมชื่อ ชัย ครับ ผมมาหาปอนด์เค้าอยู่ไหมครับผมตอบคำถามเธอ
ปอนด์ไม่อยู่หรอก เค้าเพิ่งออกไปเมื่อตะกี้นี้เองเธอตอบเหมือนขอไปที
อ้าว คือเค้านัดกับผมไว้ครับตอนเช้านี้ ให้มาที่บ้านเขาผมเว้นนิดนึงสงสัยเค้าจะลืม
ผมสังเกตได้ ดูเธอไม่เชื่อผมเลย ทำไงดีละ! ก็วันนี้ผมแค่อยากสนุกตามประสาคนหนุ่มเท่านั้น
คือเขากับผมจะชวนกันไปดูที่ดิน ที่สุขุมวิทนะครับ เขานัดผมเอง จริงๆนะครับผมโกหกเธอ ไม่มีการงานเข้าเกี่ยวข้อง มีแต่ความสำราญบันเทิงใจ
ปอนด์เค้าไม่อยู่ ออกไปทำงานแล้ว ดูสิรถเค้าก็ไม่มี ไม่เชื่อหรือเธอคงรำคาญ
ผมนะ เชื่อเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้วละ แต่ผมยังอยากจะดื้อดึงเองละ ยังไงวันนี้ต้องสำเร็จให้ได้ อุตสาห์มาแล้วนี่ ทันใดนั้น..ผมนึกอะไรขึ้นได้
เค้ามีมือถือใช่ไหมครับ งั้นเดี๋ยวผมโทรบอกเค้าให้กลับมาเอง เบอร์เค้าอะไรนะครับผมบอกเธอ
ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวชั้นโทรถามเองเธอว่างั้น
ไม่เป็นไรครับ ผมมีมือถือ เพิ่งซื้อเองครับ มีโปรโมชั่นด้วยผมว่างี้
เธอคงกลัวว่าผมหลอกเอาเบอร์ของลูกชายกระมัง แหมเจอคุณแม่ห่วงลูกชายไม่เข้าท่าอย่างนี้ ไอ้เราก็ผู้ชายซะด้วย ผมไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกน่า
332 7542เธอบอก.แหมงกค่าโทรศัพท์เหมือนกันนะ..ผมคิด
ผมหยิบมือถือออกจากกระเป๋าหลังของกางเกงยีนส์ตัวโปรดของผม บรรเลงเพลงกดเบอร์อย่างคล่องแคล่ว ผมเอามันมาแนบที่หู ไม่นานนัก
ฮัลโหล ปอนด์เหรอ นี่ชัยนะ เฮ้ย!มึงลืมกูเหรอ มึงกลับบ้านเลย กูรออยู่นะ ขี้เกียจขับรถตามไปจะได้เอาของที่บ้านมึงด้วยผมพูดค่อนข้างดังไม่ปรานีหูคนข้างๆ ผมเหลือบไปมองเธอ
เนี่ยหรือเพื่อนลูกเรา..เธอคงคิด
ไหน!ขอชั้นพูดกับลูกหน่อยสิเธอคงไม่ไว้ใจ
แม่แกจะพูดด้วย เดี๋ยวนะผมลดความรุนแรงของสรรพนามไปหน่อยนึง แล้วยื่นมือถือไปให้เธอตามคำขอ
ฮัลโหล นี่แม่นะ ปอนด์ใช่ไหมลูกฮัลโหล ผมดูเธอ เธอทำท่าเหมือนไม่ค่อยได้ยิน
คลื่นมันคงไม่ค่อยดีนะ เป็น1800นะครับแถวนี้คงยังไม่มีสัญญาณผมบอก
แต่ดูเธอไม่สนใจผมเลย หรือเธอไม่เข้าใจที่ผมพูด แต่เอ้ะ! เธอคุยได้แล้วนี่ สักพัก..
จ้ะ จ้ะ แค่นี้นะ กลับมาเร็วๆนะนั่นคือเสียงปิดฉากการสนทนาของเธอ ดูเธอคงจะเชื่อผมแล้วละ จากการเห็นสีหน้าของเธอในตอนนี้
ปอนด์บอกให้มารอในบ้านนะ เข้ามาสิ เธอชื่ออะไรนะ?เธอลืมง่ายจริงๆ
ชัยครับผมบอกแบบยิ้มๆ
เธอเปิดประตูรั้วให้ ผมเดินเข้าไปในบริเวณสถานของเธอ เธอเดินนำผมไปยังประตูไม้จำปาทองสลักลายไทยสวยงาม
นั่งก่อนสิ เดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้ดูเธออารมณ์ดีขึ้นเป็นกอง ขณะที่เราทั้งสองอยู่ในห้องรับแขก ทันใดนั้นเสียงเหมือนใครอีกคนหนึ่งเปิดประตูห้องใดห้องหนึ่งออกมา
นี่ พ่อ เพื่อนของปอนด์มาหาปอนด์นะเธอบอกสามี
ผมยกมือไหว้ สวัสดีครับ
อ้าว หวัดดี หวัดดี ปอนด์ออกไปทำงานแล้วนี่เขารับไหว้และบอกผม
เดี๋ยวปอนด์จะกลับมาที่บ้านนี่ก่อนนะ เห็นบอกว่ามีธุระสำคัญภรรยาของเขาบอกให้ทราบ
อ้อ เชิญ เชิญ ตามสบายนะ เดี๋ยวอาขอตัวไปทำงานข้างบนให้เสร็จก่อน หอบงานมาทำที่บ้าน พอดีรถเสีย เอาไปซ่อมที่อู่เมื่อวานนี้เอง
ครับผม ขอบคุณครับผมรับคำ
ตอนนี้ผมได้นั่งบนโซฟานุ่มๆในห้องรับแขกอันโอ่โถง มีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นงามมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทไม้แกะสลัก ไม่น่าเชื่อว่าจะมีแค่สามคน พ่อ แม่ ลูกลูกคนเดียวด้วย
นี่ น้ำจ้ะเธอยกมาเสริฟให้หลังจากเข้าครัวไปเพียงชั่วครู่
ขอบคุณครับ
แล้วนี่ จะพาไปดูที่กันใช่ไหมจะทำอะไรเหรอเธอตั้งคำถาม
ครับ ก็ว่าจะเปิดเป็นสำนักงานรับออกแบบบ้านนะครับ
คุณจบมาทางดีไซน์บ้านเหมือนปอนด์เหรอ ใช่ไหม
ครับ ใช่ แล้วนี่ผมก็จะเอาแบบสำนักงานที่เขาทำเอาไว้ไปดูที่ด้วย
ปอนด์ ทำด้วยหรือ ไม่ยักกะบอกน้าเลยนะ ลูกคนนี้เนี่ยเธอยิ้มไป หัวเราะไปแบบเล็กๆ เดี๋ยว ขอตัวไปเตรียมอาหารหน่อยนะ วันนี้น้าตื่นสายไปหน่อย ติดละครนะ ทานอะไรมาหรือยังละ?เธอแสดงความห่วงใยในตัวผม
ทานมาแล้วครับ ขอบคุณครับ
งั้น ตามสบายนะ คิดว่าเป็นบ้านตัวเองละกันเธอพูดประโยคฮิต พร้อมก้าวจากไป
ถ้าผมคิดได้อย่างนั้น ผมคงเอาของในบ้านนี้ไปขายดีกว่าละ ผมคิดเล่นๆ
ผมหยิบหนังสือตรงใต้ใต้ะรับแขกที่เป็นกระจกมาอ่านเล่น นับว่ามีหนังสือหลายประเภทเลยทีเดียวละ ตั้งแต่ หนังสือเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ภาพยนตร์ นวนิยาย การตกแต่งบ้านและสวน
การ์ตูนผู้ชายๆประเภทเลือดเดือดยังมีเลยละ ผมคงเดาได้ไม่ยากว่าใครอ่าน ผมเลือกอ่านนี่ละ
ผมอ่านจบไปเล่มนึงแล้ว ไม่นานนักเธอก็เข้ามา เธอดูเวลาที่นาฬิกาที่แขวนไว้ที่ห้องรับแขก
เอ้ะ นี่ก็ 4โมงกว่าแล้วนะ ปอนด์ยังไม่มาอีกปล่อยให้เพื่อนรอนานอย่างนี้ แย่จังเธอตัดพ้อลูกตัวเอง
ขอโทษนะ ที่ปล่อยให้นั่งคนเดียว น้าไปทำอะไรทานมานะ เผื่อให้อาข้างบนด้วย คุณไม่เอาอะไรแน่นะเธอถาม
ครับ ทานแล้วครับ ยังอิ่มอยู่เลยผมนึกขอบคุณเธอไปด้วย
เวลาผ่านไปไวเหมือนเล่นตลก ตอนนี้นับได้ประมาณสองชั่วโมงจากที่ผมได้ก้าวเข้ามาในบ้านนี้ และแล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นไม่ใช่ของผมหรอก บ้านนี่ต่างหาก เธอรับโทรศัพท์ที่ใกล้ตัวเธอข้างโซฟา
ฮัลโหล สวัสดีค่ะ ต้องการพูดกับใครค่ะเธอเปิดฉาก
นี่จากโรงพยาบาลศรีเลิศนะค่ะ บ้านคุณ วิทยา เจริญเลิศวรกุล ใช่ไหมค่ะเสียงมาตามสาย
ใช่ค่ะ ทำไมค่ะเธอดูใจไม่ดี
คือคุณวิทยาประสบอุบัติเหตุรถชน ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ ให้ญาติของคุณวิทยามาที่โรงพยาบาลด้วย คุณใช่ญาติใช่ไหมค่ะ
เธอหน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัด กับข่าวร้ายที่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้รับ
ใช่คะ โรงพยาบาลอะไรนะคะ เดี๋ยวจะไปทันทีเลยคะเธอพูดตะกุกตะกักอย่างเร่งรีบ
โรงพยาบาลศรีเลิศค่ะ รู้จักใช่ไหมค่ะ
ค่ะ ค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้ละค่ะเธอรีบวางหูทันที
เกิดอะไรขึ้นครับ ดูท่า...ผมถาม
ปอนด์นะ ถูกรถชนไม่รู้เป็นไงตะกี้ก็ลืมถาม ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลนะ
โรงพยาบาลอะไรครับ ผมไปด้วยครับ
ศรีเลิศน่ะ
เดี๋ยวน้า ไปบอกอาข้างบนก่อนเธอบอกพร้อมกับก้าวไปในทางที่เธอบอก
เสียงคนคุยกันข้างบนเหมือนใส่อารมณ์ตกใจกันอย่างสุดๆ ได้ยินมาถึงยังข้างล่าง เสียงเปิดประตูไป เปิดประตูมา ได้ยินเป็นระยะๆ สักครู่พวกเขาก็ลงมา
ไปกันเถอะเธอพยักหน้าให้ แต่สายตาแทบไม่ได้สบตาผม คงกังวลใจมาก
ไปรถผมก็ได้ครับ ผมเอารถมาผมเสนอ
0k ไปกันเลย ไปฝ่ายสามีก็รีบเช่นกัน
เราทั้งสามออกจากบ้านไปยังรถของผมที่จอดไว้บริเวณข้างหน้า รถของผมเป็นรถญี่ปุ่นสีบรอนซ์ เป็นรถยนต์นั่งขนาดสี่ที่นั่งธรรมดานี่ละ คนมันจนนี่ทำไงละ
ไม่นานนักเราๆท่านๆก็เข้ามานั่งกันรถ ผมทำหน้าที่คนขับ ผู้ชายอีกคนนั่งหน้าคู่กับผม ผู้หญิงนั่งข้างหลัง หลังเธอไม่ได้พิงกับเบาะเลยดูเธอตื่นเต้นหรือตกใจน่าดู
ผมขับรถไปตามเส้นทางที่จะไปโรงพยาบาลให้ได้โดยเร็วที่สุด ตามคำรบเร้าของทั้งคู่ผมก็อยากทำเช่นนั้นเหมือนกัน ขณะหนึ่งที่ต้องผจญภัยกับการจราจรอันแสนสาหัสในยามนี้.. หรือยามไหนก็ตาม มันก็คงให้ความรู้สึกอย่างนี้ รถผมติดไฟแดงที่สี่แยกหนึ่ง ผมจาม..
แต่ก็ดูเหมือนไม่มีใครในรถสนใจผม ทั้งสองต่างอยากให้ถึงจุดมุ่งหมายอย่างเร็วที่สุด ผมเข้าใจดี หัวอกพ่อ หัวอกแม่ นั้นเป็นเช่นไรเมื่อรู้ว่าลูกตัวเองได้เจอกับสิ่งเลวร้าย ผมหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาปิดที่จมูกของผม ทันใดนั้นอะไรๆที่ดูว่ายุ่งยากก็เกิดขึ้นอีกแล้ว
ชั้นรู้สึกเวียนหัวมากเลยเธอเป็นอะไรไป
ผมก็เหมือนกัน เป็นไรเนี่ยสามีเธอก็ด้วยหรือ?
อยู่ๆ ทั้งเขาและเธอก็หลับตาลง เอียงคอตกพิงเบาะเหมือนคนสัปหงกอย่างไรอย่างนั้น ผมลองปลุกคนที่อยู่ใกล้กับผมดู
คุณๆ คุณอาครับ เป็นอะไรครับผมเขย่าตัวเขาอย่างแรงไปด้วย
ไม่มีวี่แววว่าเขาจะฟื้นได้ในเร็วๆนี้เลย สลบสนิทใจ ผมทำอย่างนี้กับอีกคนข้างหลัง ไม่มีปฏิกิริยาใดๆโต้ตอบเช่นกัน ผ้าเช็ดหน้าของผมยังคงปิดที่จมูก
ยาสลบในรถผมมันใช้การได้ดีจริงๆ พวกผมทำงานกันเป็นทีม ไอ้การที่จะให้ใครสักคนมาเลียนเสียงใครสักคนโดยการฟังจากการแกล้งโทรศัพท์ผิดเพียงครั้งเดียว กับเสียงของพยาบาลสาวตัวน้อยของเรานั้นไม่ยากเลย ผมไม่รู้จักกับปอนด์อะไรนั้นเป็นการส่วนตัวหรอก นอกจากจะหาประวัติใครสักคนในทางอินเทอร์เน็ต..ไม่ยากหรอกพวกคุณๆก็ทำได้ หมอนี่มีเงินในธนาคารเกือบจะร้อยล้านเลยละ ถึงที่บ้านจะมีรถไม่เหมาะกับที่จอดก็เถอะ มันก็ช่วยให้แผนลักพาตัวเรียกค่าไถ่ที่ผมและผองเพื่อนช่วยกันคิดขึ้นมาสำเร็จลงได้ งานในส่วนของผมเสร็จสิ้นกันที อีกไม่นานผมก็จะสบายสักที..ก็ผมแค่อยากจะสังสรรค์กับเพื่อน..ก็แค่นั้น