BR 3 (V.thai) เกมส์นรก สถาบันโหด3 ตอนที่ 2

-๑- เจ้าชายยุนเทโซ-๑-

ย้อนไปในพิธีเมื่อพิธีเริ่มไปได้ 20 นาที กลุ่มกบฏเพื่อชาติ ได้เริ่มสตาร์ทเกมส์ BR 3 ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในอีก  10 ชั่วโมงข้างหน้า กลุ่มกบฏ เดินทางเข้ามาในโรงเรียน โดยภายในโรงเรียนไม่มีใครอยู่แล้วนอกจาก นักเรียนปี 3 บนหอประชุม กลุ่มกบฏได้ส่งคนขึ้นไปบนหอประชุมอย่างเงียบๆ  ไม่พ่นยาสลบที่มีระยะเวลา 9 ชม.ไปรอบๆหอประชุม นักเรียนและครูทั้งหมดก็ยังไม่รู้สึกตัว และทั้งหมดก็สลบไปภายในเวลาไม่ถึง 30 วีนาที จากนั้นกลุ่มกบฏก็เดินทางมามากขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มกบฏส่งทหารเกือบ 300 นายมีจัดการขนนักเรียนและครูคนอื่นๆที่นอนสลบอยู่ทั้งหมด ยกเว้นนักเรียน ปี 3 ห้อง 6 นำนักเรียนและครูทั้งหมด ขึ้นรถ และนำไปปล่อยนอกรัศมีโรงเรียน 5 กิโลเมตร และขนนักเรียน ปี 3 ห้อง 6 ทั้งหมด 55 คน ไปใว้ในห้องประจำของตนเองและปิดล็อกกุญแจไว้ทั้งหมด และจัดการปิดถนน ปิดโรงเรียนนำระบบเตือนภัยไปติดตั้งที่รั้วของโรงเรียนเพื่อจับนักเรียนที่พยายามหนีออกนอกโรงเรียน และเร่งการสร้างกำแพงชั่วคราวที่สูงถึง  5 เมตรที่ไม่มีใครปีนถึงเพื่อป้องกันนักเรียนหนีออกไปเช่นเดียวกัน และประกาศอพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รัศมี 5 กิโลเมตรของโรงเรียนให้ออกไปอยู่นอกพื้นที่  บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเต็มไปด้วยทหาร คอยควบคุม ลาดตระเวนอยู่บริเวณรอบๆโรงเรียน ที่ทั้งหมดควบคุมโดยจอมพลหลวง โดยศูนย์ควบคุมอยู่ที่อาคารกิจกรรม แต่ภายในบริเวณโรงเรียนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ใดๆนอกจากจะติดตั้งแผงวงจรควบคุมไว้ทุกจุดในอาคารต่างๆเท่านั้น ตอนนี้นักเรียนปี 3 ห้อง 6 ทั้งหมด 55 คนได้ถูกย้ายไปอยู่ห้องเรียนของเขาแล้ว  และไม่มีทางที่จะติดต่อกับโลกภายนอกได้เลย
	เบนซ์กวาดสายตาไปรอบๆและพยายามจะลุกขึ้น ก็สังเกตว่าบริเวณคอของตัวเอง  มีปลอกคอเหล็กแขวนอยู่และแกะไม่ออก เบนซ์ลุกไปปลุกทุกคนในห้องให้ตื่นขึ้นมาทั้งหมด ซึ่งทุกคนก็ถูกใส่ปลอกคอเหล็กนั้นด้วย และต่างก็มึนงงไปกับเหตุการณ์นี้เหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับตนเองต่อไป เป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดา  หลายคนเริ่มมีอาการเครียดถึงกับกุมขมับตนเอง  และร้องโวยวายออกมา 
		เฮ้ย! นี่มันอะไรกันวะ จับกูมาขังไว้ในห้องนี้ทำไม ปล่อยกู!! ณัฐวิ่งไปกระแทกประตูหวังจะให้พังและจะออกไปจากห้องนั้น แต่เนื่องจากประตูและหน้าต่างถูกล๊อคไว้อย่างแน่นหนา จึงไม่สามารถออกไปได้   แต่ก็ยังดันทุรังจะทำให้เปิดให้ได้
		ให้ตายสิ!! เปิดยากฉิบ ณัฐท้อใจนั่งลงกองกับพื้น มองไปรอบๆห้องมีผู้หญิงหลายคนนั่งร้องให้อยู่ คนหลายคนนั่งกังวล  แต่คนบางคนยังไม่รู้สึกอะไรเลย  ภายในห้องเต็มไปด้วยความตึงเครียด มากกว่าความสุข
		เราอยากกลับบ้าน แท็ปร้องให้ออกมา นัทน้อยได้ยินเสียงหันหลังมามองแท็ปและรู้สึกสงสารคนที่ตนเองแอบรักอยู่เหมือนกัน แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เพราะเขาเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน  ทุกคนต่างอยากกลับบ้าน  แต่ก็ทำไม่ได้ ก็ได้แต่นั่งรอว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเองต่อไป 
	ประตูห้องกำลังจะถูกเปิดขึ้น และตามมาด้วยชั้นสิ่งของที่ทหารเข็นเข้ามาไว้ในห้อง ไม่กี่อึดใจ จอมพลหลวงก็ก้าวเข้ามาในห้องโดยชุดลำลองของทหารเดินไปยืนอยู่ที่หน้ากระดานสบสายตากับทุกคนในห้อง นักเรียนในห้องเริ่มหวาดกลัว แต่การอยากเอาตัวรอดมีมากกว่าจึงกรูกันจะหนีออกทางประตู ทหารทั้งหมดจึงใช้กำลังกันนักเรียนทั้งหมดไว้ แต่นักเรียนก็พยายามกรูกันออกไปอยู่ดี
		ปัง!!
	นักเรียนทุกคนหมอบลงด้วยความตกใจและหวาดกลัว  
		กลับไปนั่งรวมกันอยู่กลางห้องทุกคน! จอมพลหลวงสั่งเสียงเข้ม นักเรียนก็ค่อยๆ ขยับตัวไปนั่งรวมกันอยู่ที่หลังห้อง แต่ละคนยังสั่นมีอาการหวาดกลัวอยู่  แต่แบ็คเริ่มเก็บอาการแค้นไม่ไหว
		แก ไอ้เลว ปล่อยพวกกูเดี๋ยวนี้นะ! แบ็คลุกขึ้นไปชกจอมพลหลวงเต็มๆ 
		ไอ้หนู ชั้นไม่อยากรังแกเอ็งหรอกนะ ภายใน1 นาที ถ้าแกไม่ไปนั่งอยู่กับพวกแก ชั้นจะจัดการแกให้เละเป็นจุล แบ็คสะอึก ทำตาขวาง และกำหมัดแน่น
		ไอ้แบ็คมึงกลับมา ยิมไปล็อคคอแบ็คให้มานั่งที่เดิม แบ็คมีทีท่าไม่ยอม แต่ก็ฝืนไม่ไหว จึงลงมานั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ และมองจอมพลหลวงด้วยสายตาอาฆาต จอมพลหลวงไปเขียนคำว่า BR ที่บนกระดาน และเดินมาอยู่ที่เดิม
		นักเรียนทุกคนฟังทางนี้ ทุกคนได้ถูกเลือกร่วมเล่นเกมส์ BR พวกแกถือว่าโชคดีที่ได้เป็นรุ่นแรกของตำนาน BR ประเทศไทย ไม่ต้องทำหน้าแปลกใจ  เกมส์นี้เล่นไม่ยากเพียงแค่ทุกคนต้องรู้จักเอาตัวรอดไม่ให้ตัวเองตายไปง่ายๆก็เท่านั้นเอง พูดง่ายๆคือ ทุกคนต้องห้ำหั่น ฆ่ากันเอง โดยที่จะไม่มีคำว่าเพื่อนอีกต่อไป ผู้ชนะคือผู้ที่เหลือรอดคนเดียวจากเกมส์นี้ ชั้นรู้ว่าพวกแกคงไม่อยากฆ่ากัน เลยกำหนดเวลาให้ ทุกคนเห็นแล้วว่าที่คอของตนเอง มีปลอกคอเหล็กแขวนอยู่ ซึ่งมันเป็นปลอกคออย่างดี ไม่มีใครแกะออกได้ทั้งนั้น ถ้าในเวลา 3 วัน มีผู้เหลือชีวิตรอดเกิน 1 คนปลอกคอจะทำงานโดยอัติโนมัติ และมันจะปลิดชีวิตของพวกแกเอง แต่เกมส์มันยังง่ายไปสำหรับพวกแก  แค่ฆ่ากันมันคงไม่มันส์ ก็เลยมีกฏดังนี้
		1.ทุกคนต้องฆ่ากันเอง ในเวลา 3 วัน ให้เหลือ ผู้ชีวิตคนเดียว ไม่เช่นนั้น ปลอกคอจะระเบิดอัติโนมัติ
       		2.วันที่ 1ระวัง ห้ามรวมกลุ่มกันเกิน 5 คน  ภายในรัศมี 10 เมตร ไม่เช่นนั้นปลอกคอจะระเบิดอันติโนมัติ จะต้องฆ่าในกลุ่มให้เหลือน้อยกว่า 5 คน ระเบิดจึงจะหยุดทำงาน
          		วันที่ 2 ตั้งแต่ 6 โมง ระวัง  ห้ามรวมกลุ่มเกิน 3 คน ไม่เช่นนั้นจะเป็นแบบวันที่ 1 และต้องฆ่าคนในกลุ่มให้เหลือ น้อยกว่า 3 คน
          		วันที่ 3 ตั้งแต่ 6 โมง ระวัง ไม่มีคำว่าเพื่อนอีกต่อไป ห้ามอยู่เป็นคู่ ถ้าเจออีกฝ่ายแล้วไม่ฆ่า ปลอกคอจะทำงาน จนกว่าจะมีผ่ายใดโดนฆ่าไป อีกฝ่ายจึงจะรอด
       		3.ไม่มีกติกาในการฆ่า
       		4.กำหนดจุดอันตรายวันละ 2 จุด ถ้าเข้าไปในจุดอันตรายปลอกคอจะทำงาน จนกว่าจะออกมาจากจุดนั้น
       		5.ไม่มีคนเหลือรอดเกิน 2 คน !!!
		ทราบกติกากันแล้วเราจะเรียกชื่อและแจกของส่วนตัวของทุกคน มีน้ำ อาหาร เสบียง 3 วัน แผนที่ เข็มทิศ และอาวุธ ซึ่งทุกคนจะมีอาวุธที่เหมือนกันคือ ปืนกระบอกยาวที่เรากำหนดให้เท่านั้น และอย่าคิดที่จะหนีออกไปจากโรงเรียน เพราะเราได้สร้างกำแพงและระบบอย่างแน่นหนา ข้อระวังอีกข้อนึง เรามีกำหนดจำนวนคนของแต่ละกลุ่มในแต่ละวันอย่าเผลอเข้าใกล้กันในรัศมี 10 เมตรเกินกำหนดเด็ดขาด เพราะปลอกคอจะทำงาน ถึงจะวิ่งหนีออกจากกันมันจะไม่หยุด จนกว่าจะมีใครที่ต้องตายและเหลือจำนวนตามที่กำหนดเครื่องถึงจะหยุด ต่อไปเป็นการเรียกชื่อ เด็กชายหมายเลข 1 ยิม เรียกแล้วก็ออกมาเซ้ 
	ยิมถูกทหารกระชากตัวออกมาและโดนตบไป 2 ที ก่อนที่จะรับกระเป๋าส่วนตัวและเดินกลับไปนั่งที่เดิมหน้าของยิมยังไม่หายชา แต่ในใจมีแต่ความโกรธแค้น
		เด็กชายหมายเลข 2 อั้น อั้นเดินออกมารับของอย่างโดยดี และไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ โดยที่ทุกคนไม่กล้าหือกับจอมพลหลวงอีกต่อไปแล้ว ทุกคนคิดต่อไป ไม่เอาชีวิตรอด ก็คิดว่าตัวเองต้องตายและเตรียมทำใจ แต่ส่วนมาก ไม่มีใครคิดที่จะอยากฆ่าเพื่อนของตัวเองเลย คนแล้วคนเล่า เดินไปรับอุปกรณ์แล้วมานั่งที่ตนเอง ต่างนั่งเงียบและครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ในภายภาคหน้า  บางคนถึงกลับร้องให้กลัวตายเพราะไม่อาจยอมรับได้ว่าตัวเองถึงเวลาจะตายแล้ว  บางคนก็คิดว่าตัวเองต้องเป็นผู้รอดชีวิต ทุกคนคิดไม่เหมือนกัน แต่ที่ทุกคนคิดเหมือนกันคือ จิตใต้สำนึกสุดท้ายของชีวิตของตนเอง				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน