เพรงเงา ( ตอนที่ 4 )
กระดาษทรายสีทอง
เพรงเงา ( ตอนที่ 4 )
ในที่สุดก็ถึงวันที่ต้องกลับ โรงเรียนแล้ว เมื่อมาถึงจุดมุ่งหมายทั่งสามคนก็เตรียมตัวที่จะเข้านอน เพราะเป็นเวลาเกือบๆ สามทุ่มแล้ว เข้าค่ายครั้งนี่สนุกจังเลย.ว่าไหม ลลิตตาเป็นคนกล่าวขึ้น ไม่เห็นสนุกเลย ต้องทำความสะอาดห้องเกือบวันนึง อารียาพูดขึ้น เธอคงคิดอย่างเดียวกับที่ ณีรดาคิด เมื่อจบบทสนทนาสั่นๆนี้แล้ว เธอทั้งสามคนก็เข้านอนกันที่ห้อง วิไลย์วัลย์ ด้วยกัน ซึ่งเมื่ออารียาเห็นห้องของลิไลย์วัลย์แล้ก็ไม่แสดงออกซักเท่าไรแค่ชมว่าห้องนั้นสวย เวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าวิไลย์วัลย์เกิดอาการหิวน้ำขึ้นมาเพื่อที่จะหาน้ำมารับประทาน ระวังให้ดีเวลานี้กำลังมีภัย เสียงนี้เกิดขึ้นอีกครั้งแล้วเป็นเสียงที่ดังกังวาลภายในหูของเธอ เสียงแก้วน้ำที่ทำด้วยแก้วราคาหลายบาทตกลง ทำให้เสียงนั้นค่อยๆเลื่อนหายไป เพื่อนอีกสองคนของเธอจึงสะดุ้งตื้นขึ้นด้วยอาการ งง
เช้าวันต่อมาเธอได้เล่าเหตุการณ์ว่าเธอ ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่มันผิดปกติออกไป เพื่อนทั้งสองคนของเธอยิง งง เข้าไปกันใหญ่ ถ้าเธอไม่เชื่อฉันจะพิสูจน์..ให้ดู วิไลย์วัลย์พูดแบบประชดเล็กน้อย เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สองทุ่มกว่าๆ วัลย์ ตา และยา ก็เดินขึ้นไปที่ห้องใต้หลังคาของของโรงเรียน เมื่อมาถึงกลางห้อง
เฟื่องพิมาน.!!! วิไลย์วัลย์พูดขึ้นลอยๆ เพื่อนทั้งสองคนก็ยืนดูเธอดูความอยากรู้อยากเห็น 9-10 นาทีเห็นจะได้ไม่มีเสียงตอบรับใดๆทั้งสิ้น ถึงแม้เธอจะลองพยายามเรียกอีกหลายๆครั้งก็ตาม เพื่อนทั้งสองของเธอชวนเธอลองข้างล่าง เพราะบรรยากาศในห้องใต้หลังคานั้นไม่สู้ดีนั้น ทั้งหนาว ทั้งอับ ทั้งมืด ทั้งสามคนเดินลงมาจากห้องใต้หลังคาโดยดี เธอไปทำอะไรกันที่นั้น เสียงของมารดามท่านหนึ่งถามขึ้น เธอไม่รู้เลยริว่า..ฉันไม่อยากจะพูด คำพูดนั้นเป็นปริศนาที่ทำให้เด็กทั้งสามคนขมวดคิ้ว ที่หลังเธออย่าขึ้นไปที่นั้นอีกนะ..ฉันไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้นซ้ำสอง เด็กทั้งสามก้มหน้าก้มตาสงบปากสงบคำไม่พูดอะไรกันเลยแต่เมื่อเข้ามาข้างในห้องและ ฉันอยากรู้จริงๆว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องใต้หลังคามันหมายความว่าอะไร!!!! อารียาพูดด้วยความสงสัย นั้นสิ ลลิตตาเสริมขึ้นด้วยความสงสัย เดี่ยวก็รู้ว่ามันคืออะไร วิไลย์วัลย์พูดด้วยความมุ่งมั่น ทั้งสองคนมองเธอด้วยความ งงสุดๆที่มันจะเป็นได้ยังไง
วิไลย์วัลย์นั่งรอจนเทียงคืนกว่าๆโดยเพื่นทั้งสองของเธอได้หลับไปแล้ว เธอตัดสิ้นใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะเดินไปที่หน้ากระจกอยู่ตรงข้างๆมุมห้องเธอได้อ่านเจอในหลังสือที่บ้านว่า เวลาเทียงคืนกว่าๆนั้น วิญาณจะแข็งกล้า เราสามารถมองเห็นวิญาณตนนั้นได้โดยการยืนที่หน้ากระจก บางที่เราอาจจะเห็นภาพล่างๆของวิญาณตนนั้นด้วยก็ได้ เฟื่องพิมาน. เธอเอ่ยเรียก เฟื่องพิมาน เธอเอ่ยเรียกเป็นครั้งที่สองหลังจากที่เวลาผ่านไปประมาณ หนึ่งนาที เธอเรียกฉัน.. เสียงที่มากับสายลมนั้นดังขึ้นจะเป็นอะไรนั้นเราก็ยังไม่รู้ วิไลย์วัลย์คิดว่าวันนี้เธอมุ่งมั่นอยางมากที่จะถามความเป็ฯจึงของตัว เฟื่องพิมานให้ได้ดีที่สุดเธอได้เริ่มคำถามคำแรกว่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!