วันพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าขอนอบน้อม บูชาพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น พระผู้เสด็จไปดีแล้ว และทรงตั้งพระธรรมวินัยที่ทรงแสดง ทรงบัญญัติไว้ดีแล้ว เป็นศาสดาแทนพระองค์ เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข ของชนหมู่มาก วันเพ็ญแห่งเดือนวิสาขมาสหรือวันเพ็ญเดือน 6 ในปีนี้ ตรงกับวันที่ 2 มิถุนายน 2547 และวันนี้ถือกันว่าเป็นวันพระพุทธเจ้า เพราะเป็นวันที่ตรงกับ วันประสูติ วันตรัสรู้ และวันปรินิพพาน ของพระบรมศาสดา จึงเป็นวันสำคัญในพระพุทธศาสนา และเป็นวันที่ชาวพุทธทั่วโลกจะได้น้อมรำลึกถึง พระกรุณาธิคุณ พระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ ในพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เพื่อเป็นที่ตั้งแห่งความสุข แห่งความเจริญในธรรมให้สมกับความที่เป็นพุทธศาสนิกชน โดยถ้วนหน้ากัน การอุบัติขึ้นของพระบรมศาสดาแต่ละพระองค์เป็นเรื่องยาก ชั่วพุทธันดรหนึ่ง ๆ เป็นห้วงเวลาที่ยาวนานมาก ๆ แต่ก็ต้องนับว่าเป็นโชคดีของสัตวโลกในยุคปัจจุบันนี้ที่ได้เกิดขึ้นมาทันศาสนาของพระองค์ มีโอกาสที่จะได้อาบ ได้ลิ้ม ได้ดื่มรสชาติแห่งพระธรรมที่พระบรมศาสดาทรงตรัสสอนไว้ ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้เวลาล่วงไป ๆ โดยเปล่าประโยชน์ เพราะความเป็นมนุษย์หรือความเป็นคน ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์ประเสริฐเพราะเป็นสัตวโลกประเภทเดียวที่สามารถฝึกฝนอบรมให้มีความประเสริฐบังเกิดขึ้นในจิตใจได้ และเครื่องฝึกฝนอบรมคนให้มีความประเสริฐนั้นก็ไม่มีสิ่งอื่นใดนอกจากพระธรรมคำสอน ดังนั้นอย่าได้มีชื่อแต่เพียงว่าเป็นชาวพุทธอยู่ในทะเบียนบ้านเท่านั้น จงมาร่วมกันรับเอาประโยชน์แห่งพระธรรมวินัยในพระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อความสุขและความประเสริฐที่ได้เกิดมาเป็นคนโดยถ้วนหน้ากัน ยุคนี้เป็นยุคที่พูดกันถึงเรื่องอุดมการณ์ ก็จะต้องกล่าวว่าอุดมการณ์ของพระบรมศาสดานั้นคืออุดมการณ์เพื่อประโยชน์และความสุขของมหาชน ซึ่งทรงประกาศไว้อย่างชัดเจนตั้งแต่ต้นโพธิกาล หลังจากตรัสรู้ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ณ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคมแล้ว ทรงโปรดปัญจวัคคีย์ 5 รูป ทรงโปรดพระยสะและคณะอีก 55 รูป รวมเป็น 60 รูป ทำให้มีพระอรหันตสาวกบังเกิดขึ้นในโลก 60 องค์แล้ว เป็นห้วงเวลาที่สิ้นฤดูฝนแห่งพรรษานั้น พระบรมศาสดาทรงเล็งเห็นว่ายังมีหมู่สัตว์ที่อยู่ในวิสัยที่จะเข้าใจพระธรรมคำสอนและถึงซึ่งความดับทุกข์ได้อีกเป็นจำนวนมาก หากให้พระอรหันตสาวกอยู่รวมกันก็จะบังเกิดประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ จึงมีพุทธดำรัสสั่งให้พระอรหันตสาวกเหล่านั้นแยกย้ายกันออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา ทรงพระกาศอุดมการณ์ในครั้งนั้นว่าเธอทั้งหลายจงจาริกไปแต่องค์เดียว ประกาศพรหมจรรย์ในพระธรรมวินัยนี้ให้บริสุทธิ์ บริบูรณ์ ทั้งอรรถะ และพยัญชนะ ให้งดงามในเบื้องต้น ในท่ามกลางและในที่สุด เพื่อประโยชน์และความสุขของชนหมู่มาก จะเห็นได้ว่านับแต่ตรัสรู้แล้ว ก็มิได้คำนึงถึงความสงบสุขอันเป็นอริยสุขแต่เพียงพระองค์เดียว ทรงรำลึกถึงสัตวโลกทั้งหลายที่จะพึงได้รู้ได้สัมผัสกับอริยสุขหรือความดับทุกข์สิ้นเชิงตามที่พระองค์ทรงค้นพบนั้นด้วย แต่ก็ทรงรำลึกว่าธรรมที่ทรงค้นพบนั้นมีความลึกซึ้ง ละเอียดอ่อน ยากแก่ความเข้าใจ จะต้องทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจไม่น้อย แม้กระนั้นยังยากที่จะทำให้ผู้อื่นเข้าใจในธรรมที่พระองค์ทรงค้นพบได้ แต่ในที่สุดก็ทรงตัดสินพระทัยประกาศพระธรรมที่ทรงค้นพบเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขของชาวโลก ดังนั้นจึงเป็นการเริ่มต้นของการประกาศพระพุทธศาสนา และทรงเริ่มต้นจากง่ายไปหายาก เหตุนี้จึงทรงริเริ่มการประกาศพระศาสนาที่ปัญจวัคคีย์ก่อน เพราะปัญจวัคคีย์เป็นผู้ประพฤติปฏิบัติธรรม มีภูมิธรรมอยู่ในขั้นสูงแล้ว อุปมาดั่งบัวที่ปริ่มน้ำอยู่ หากได้ฟังพระธรรมประดุจดั่งแสงอาทิตย์ยามอรุณ บัวปริ่มน้ำนั้นก็จะบานได้โดยง่าย และก็ได้ผลดังพุทธประสงค์ การส่งพระอรหันตสาวกชุดแรกจำนวน 60 รูป ออกไปประกาศพระพุทธศาสนาตามอุดมการณ์ที่ทรงประกาศนั้น ก็มุ่งหวังเอาประโยชน์และความสุขของชาวโลกเป็นที่ตั้ง การอุบัติขึ้นและการประกาศพระพุทธศาสนาจึงไม่ใช่เป็นไปเพื่อการตั้งอาณาจักร ไม่ใช่เป็นไปเพื่อลาภ ยศ สุข สรรเสริญ แต่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของชาวโลก เป็นไปเพื่อความสุขของชาวโลก และเป็นไปเพราะความเสียสละอย่างใหญ่หลวง จึงอาจกล่าวได้ว่าวันวิสาขบูชาก็คือวันแห่งการเสียสละที่ยิ่งใหญ่เพื่อมนุษยชาติทั้งมวล พระบรมศาสดาของชาวพุทธเรานั้นทรงเป็นผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก เพราะทรงอุบัติขึ้นในร่มเงาแห่งเศวตฉัตรเมืองกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นแคว้นที่มีความมั่งคั่งมากที่สุดในยุคนั้น ทรงมีฐานะเป็นมกุฎราชกุมารแห่งศากยวงศ์ และมีอนาคตที่จะได้เสวยราชย์เป็นพระมหากษัตริย์แห่งแคว้นนั้น ทรงได้รับการทำนุบำรุงจากสมเด็จพระบิดาอย่างเต็มที่ เรียกได้ว่าถึงขั้นริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม ทรงถูกปรนเปรอด้วยสรรพกามคุณ เพื่อหวังจะผูกจิตผูกใจให้ติดพันอยู่ในโลกียวิสัย แต่ด้วยน้ำพระทัย ที่เห็นแก่สัตวโลกทั้งหลาย ที่จมปลักอยู่กับความทุกข์ เพื่อจะได้พ้นจากความทุกข์นั้น จึงทรงสละราชสมบัติ ทรัพย์สิ่งศฤงคารและโลกียสุขทั้งมวลออกบวชเป็นผู้ภิกขาจาร เพื่อแสวงหาโมกษธรรมเพื่อช่วยเหลือเหล่าสัตว์ให้พ้นจากความทุกข์ หกปีแห่งการบำเพ็ญเพียรเพื่อแสวงหาและค้นคว้าหาทางอันประเสริฐเพื่อช่วยเหลือชาวโลกให้พ้นจากความทุกข์ ทรงเผชิญกับความทุกข์ยากและความทรมานอย่างสุดแสนสาหัส ถึงขนาดที่ทรงกล่าวว่าสิ่งที่สุดสองอย่างของโลกคือ ที่สุดทางด้านโลกียสุขนั้นพระองค์ทรงรู้ทรงสัมผัสจนถึงที่สุดแล้ว ไม่ว่าอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต จะไม่มีผู้ใดได้รู้ได้สัมผัสเสมอด้วยพระองค์ ส่วนที่สุดด้านทุกข์ยากทรมานพระองค์ ก็ทรงรู้ทรงสัมผัสจนที่สุดแล้ว ไม่ว่าอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต จะไม่มีผู้ใดได้รู้ เสมอด้วยพระองค์อีก เนื่องจากข้อความยาวมาก กรุณาอ่านต่อที่นี่นะคะ http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=dokgaew&topic=5243&page=1
2 มิถุนายน 2547 12:26 น. - comment id 74489
: แว่วยินธรรมค้ำวอนพรยอนหู พินิจดูเห็นนำธรรมมาพร่ำอ้าง แว่วเสียงสวดเมตตามาตามทาง เสียงพิณพร่างบอกสายกลาง...จึงขอบใจ ๏ กายก้มคมต่ำเบื้อง................บาทบงส์ เศียรต่ำศอกเข่าลง.......................ติดพื้น เบญจางค์ประดิษฐ์คง...................คำกล่าว..นมะเฮย เวียนวิสาขะครื้น..........................ค่ำนั้นเวียนเทียน ๚ะ๛- ทิกิ_tiki
2 มิถุนายน 2547 12:29 น. - comment id 74490
ขอกราบขอบพระคุณผู้รจนา
2 มิถุนายน 2547 15:22 น. - comment id 74494
พระประสูติใต้ร่ม ไม้สา ละแฮ ฝั่งเนรัญชรา ตรัสรู้ กรุงกุสินารา ปรินิพ- พานแฮ วิสาขะโลกรู้ ทั่วหล้าบูชา คงจะไม่อ่านต่อ แต่คงแวะไปอ่านหนังสือ เข้ามาอีกครั้งครับ คงจะมีเวลามากว่านี้ จะได้ตามไปอ่านจนจบครับ
2 มิถุนายน 2547 15:25 น. - comment id 74495
เปลี่ยนใหม่สักหน่อยครับ (วิสาขะ)จะผิดบังคับเขา พระประสูติใต้ร่ม ไม้สา ละแฮ ฝั่งเนรัญชรา ตรัสรู้ กรุงกุสินารา ปรินิพ- พานแฮ วันวิสาขะโลกรู้ ทั่วหล้าบูชา
3 มิถุนายน 2547 00:32 น. - comment id 74511
@...tiki... ขอบคุณและอนุโมทนาค่ะ เห็นงานเขียนที่พยายามเขียนออกมาตามกาละเทศะที่แสดงถึงจริยธรรมอันดีที่มีอยู่ในใจ ก็รู้สึกปลื้มใจค่ะ ที่ยังมีผู้เห็นความสำคัญของวันวิสาขบูชา..ปลื้มใจค่ะคุณทิกิ
3 มิถุนายน 2547 00:34 น. - comment id 74512
ขอบพระคุณค่ะคุณก่อพงษ์ คิดว่าจะไม่มีผู้เข้ามาอ่านเสียแล้ว อนุโมทนาในกุศลจิตที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ โดยเฉพาะการกระทำกุศลในวันนี้
3 มิถุนายน 2547 00:38 น. - comment id 74513
@...ชัยชนะ... เพียงแค่เข้ามาอ่านเท่าที่นำมาลงนี้ก็มากพอแล้วค่ะ สำหรับเนื้อหาส่วนที่เหลือนั้น เป็นการกล่าวถึงความสำคัญของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตรง จะเข้าไปอ่านต่อเมื่อไหร่ก็เชิญตามสบายนะคะ กระทู้ยังอยู่ที่เดิม...รอให้ไปอ่านเสมอ.. ขอบคุณมากมายที่แวะมา ปล.แถมท้ายสำหรับทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ได้นำกุศลจากการเวียนเทียนในคืนนี้มาเป็นของฝากแล้วนะคะ ..
3 มิถุนายน 2547 08:26 น. - comment id 74518
เข้ามาอนุโมทนาสาธุค่ะ พี่ดอกแก้ว
3 มิถุนายน 2547 09:41 น. - comment id 74519
สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว... ดาหลาขอบพระคุณมากมายที่พี่รจนางานดีๆมาให้อ่าน...และขอบพระคุณที่เอาบุญมาฝากด้วยนะคะ... ดาหลาและน้องหญิงฯ...คิดถึงพี่มากค่ะ.. ขอผลบุญหนุนนำให้พี่ดอกแก้วมีแต่ความสุขสำราญนะคะ... เคารพรักยิ่งค่ะ.....
3 มิถุนายน 2547 17:20 น. - comment id 74524
กราบบูชาพระจอมตรัย บริสุทธิ์ผุดผ่องใสในโลกหล้า นำสรรพสัตว์ทั้งหลายพ้นโศกา ข้ามวัฏฏะพ้นบ่วงมาร... **-**
3 มิถุนายน 2547 18:32 น. - comment id 74527
@...น้องวงปี... ขอบคุณค่ะ ..สาธุเช่นกันค่ะน้องวงปี
3 มิถุนายน 2547 18:36 น. - comment id 74528
@...น้องดาหลา... สวัสดีค่ะน้องดาหลา อนุโมทนานะคะที่ติดตามเข้ามาอ่านเรื่องราวของวันสำคัญ ขอให้มีความสุขความสบายใจมากๆค่ะ ขอฝากคำอวยพรนี้ไปให้น้องตูนด้วยนะคะ ...
3 มิถุนายน 2547 18:38 น. - comment id 74529
@...namsai... อนุโมทนาในกุศลแห่งการสักการะค่ะน้องน้ำใส ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาร่วมกิจกรรม
3 มิถุนายน 2547 20:42 น. - comment id 74533
งามและงามล้ำค่ะ ด้วยรักและพลังศรัทธา ตั้งใจอ่านมากค่ะ
3 มิถุนายน 2547 21:37 น. - comment id 74536
@...น้องพุดที่น่ารัก... ขอบคุณมากค่ะ ชื่นใจที่ได้ทราบความตั้งใจในการร่วมบูชาพระพุทธคุณในครั้งนี้ ขอให้ความตั้งใจนี้กลับเป้นพลังเสริมสร้างให้น้องพุดเข้มแข็งจนถึงชัยชนะได้โดยเร็วนะคะ