เนื่องจากคณะกรรมมาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ร่วมพิจารณาและมีมติเห็นพ้องต้องกัน ประกาศให้วันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของโลกทั้งนี้ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อหมู่มวล มนุษย์ทั้งหลายในโลก จะเห็นได้จากการยกเลิกแบ่งชนชั้นวรรณะ ซึ่งเท่ากับเป็นการเลิกทาสโดยไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นนักอนุรักษ์สัตว์ป่าอีกด้วย กล่าวคือ ทรงสอนให้ไม่ฆ่าสัตว์ ให้รู้จักช่วยเหลือสัตว์ เหตุผลสำคัญ อีกประการหนึ่งคือ พระองค์ ทรงเปิดโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถเข้ามาศึกษาพุทธศาสนาเพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงได้ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนา พุทธและทรงสั่งสอนทุกคนโดยใช้ปัญญาธิ คุณสอนโดยไม่คิดค่าตอบแทน ที่มา..http://www.worldbuddhism.net/buddhism-day/visak-day.html
ความเป็นมา ในการประชุม International Buddhist Conference ณ กรุงโคลัมโบ ระหว่างวันที่ 9 - 14 พฤศจิกายน 2541 ซึ่งมีผู้แทนจากประเทศที่นับถือศาสนาพุทธจำนวนมากเข้าร่วม อาทิ บังคลาเทศ จีน ลาว เกาหลีใต้ เวียดนาม ภูฐาน อินโดนีเซีย เนปาล กัมพูชา อินเดีย ปากีสถาน และไทย ได้ตกลงกันที่จะเสนอให้สมัชชาสหประชาชาติ รับรองข้อมติประกาศวันวิสาขบูชา ให้เป็นวันหยุดของสหประชาชาติ ในการเยือนของประเทศต่างๆ ในอินโดจีน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศศรีลังกา ในปี 2542 ก็ได้มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือ และได้รับการสนับสนุนจากประเทศต่างๆ ได้ด้วยดี คณะทูตถาวรศรีลังกาประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์กได้จัดเตรียมร่างข้อมติ และได้ขอเสียงสนับสนุนจากประเทศต่าง ๆ เพื่อให้มีการรับรองข้อมติเรื่องการประกาศให้วันวิสาขบูชา เป็นวันหยุดของสหประชาชาติ ในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 54 โดยที่สหประชาชาติประกาศวันหยุดเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว และจะเป็นปัญหาในเรื่องงบประมาณและการบริหารแก่สหประชาชาติ หากประกาศให้วันวิสาขบูชา เป็นวันหยุด ศรีลังกาจึงได้ตัดสินใจที่จะเสนอร่างข้อมติ ขอให้วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญสากลที่สหประชาชาติ ทั้งที่สำนักงานใหญ่ และสำนักงานต่าง ๆ แทนการเสนอให้เป็นวันหยุด ซึ่ง ออท. ผู้แทนถาวรประเทศต่าง ๆ รวม 16 ประเทศ ได้แก่ ศรีลังกา บังคลาเทศ ภูฐาน กัมพูชา ลาว มัลดีฟส์ มองโกเลีย พม่า เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ สเปน อินเดีย ไทย และยูเครน ได้ร่วมลงนามในหนังสือถึงประธานสมัชชาฯ เพื่อให้นำเรื่องวันวิสาขบูชา เข้าเป็นระเบียบวาระการประชุมของสมัชชาฯ ต่อมาเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2542 General Committee ของสมัชชาฯ ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว โดย ออท.ผู้แทน ถาวรศรีลังกา ได้กล่าวถ้อยแถลงสนับสนุนหนังสือร้องขอให้ที่ประชุมบรรจุระเบียบวาระดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาของ ที่ประชุมสมัชชาเต็มคณะ ออท. ผู้แทนถาวรไทย อินเดีย สเปน บังคลาเทศ ปากีสถาน ไซปรัส ลาว และภูฐาน ได้กล่าวถ้อย แถลงสนับสนุน ซึ่งที่ประชุม General Committee ได้มีมติให้บรรจุเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของสมัชชาเต็มคณะ เมื่อ 15 ธันวาคม 2542 ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 54 ได้พิจารณาระเบียบวาระที่ 174 International recognition of the Day of Visak โดยการเสนอของศรีลังกา ในการพิจารณา ประธานสมัชชาฯ ได้เชิญผู้แทนศรีลังกาขึ้นกล่าวนำเสนอร่างข้อมติ และเชิญผู้แทนไทย สิงคโปร์ บังคลาเทศ ภูฐาน สเปน พม่า เนปาล ปากีสถาน อินเดียขึ้นกล่าวถ้อยแถลง สรุปความว่า วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญของ พุทธศาสนิกชนทั่วโลก เพราะเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ทรงตรัสรู้ เสด็จดับขันธปรินิพพาน พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน ให้มวลมนุษย์มีเมตตาธรรมและขันติธรรม ต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพื่อให้เกิดสันติสุขในสังคม อันเป็นแนวทางของ สหประชาชาติ จึงขอให้ที่ประชุมรับรองข้อมตินี้ ซึ่งเท่ากับเป็นการรับรองความสำคัญของพุทธศาสนาในองค์การสหประชาชาติ โดยถือว่าวันดังกล่าวเป็นที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ และที่ทำการสมัชชาจะจัดให้มีการระลึกถึง(observance) ตามความเหมาะสม ที่ประชุมฯ ได้รับรองร่างข้อมติโดยฉันทามติ ถ้อยแถลงของเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรฯ ศรีลังกาประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ถ้อยแถลงของนายวรวีร์ วีรสัมพันธ์ อุปทูต คณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก เอกสารการรับรองวันวิสาขบูชา ที่มา..http://www.worldbuddhism.net/buddhism-day/visak-day.html
๏ ๏ งามวิสาขะเวียนวน ๏ ๏ ๏ วิสาขะ.ณฯ ขึ้น...................สิบห้า.....คำนอ ใจย่อมหมายบูขา........................รัตน์ล้วน ธรรมเหตุสู่ผลกถา......................พุทธพร่าง....พจน์เฮย รัตน์ก่องแก้วรุจน์ถ้วน..................ถั่งท้นทางธรรม ๚ ๏ สำค้ญหมายมุ่งเน้น............เตือนตน..ตรึงนอ กายก่อกำเนิดคน......................ค่าคู้ สิบห้าค่ำขึ้นวน..........................เวียนร่าย...เทียนแล ประสูติทรงตรัสรู้........................เร่งชี้นิพพาน....องค์ธรรม ๚ ๏ พุทธพจน์แลหลากล้วน........เรียงราย เพียงแต่ตนตกอบาย....................อยู่แล้ว ใจกายบ่อคลอนคลาย..................คำพร่ำ.....ธรรมเธียร เพียงแว่วธรรมเทศน์แพร้ว.............เพิกพ้นเพียรทาง... ๚ ๏ กายก้มคมต่ำเบื้อง................บาทบงส์ เศียรต่ำศอกเข่าลง.......................ติดพื้น เบญจางค์ประดิษฐ์คง...................คำกล่าว..นมะเฮย เวียนวิสาขะครื้น..........................ค่ำนั้นเวียนเทียน ๚ะ๛- ทิกิ_tiki จาร..เคาะแป้นพิมพ์ .. จารจดลงเวลา.ณ. หน้าเครื่อง กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร...ประเทศไทย ณ.ฯ เพลา..๑๑:๐๘ นาฬิกา ใกล้เที่ยงวารพระอังคาร ๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๗ วัน ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๗ สงวนลิขสิทธิ Copyright ..All rights reserved ทิกิ_tiki ๏ ๏ งามวิสาขะเวียนวน ๏ ๏ ภาพโดยอนุเคราะห์หยิบยืมจาก..http://www.praruttanatri.com จึงขออนุญาต นำบทกลอน ในหน้ากลอนทิกิ_tiki มารวมลงด้านนี้ด้วย ขอบคุณค่ะ เวลาที่ ค้อปี้งานมา ๙:๕๕ นาฬิกา วันวิสาขบูชา ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ วันที่ ๒ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๗
ดังนั้น เพื่อเป็นการรวมความคิดของชาวพุทธ ให้เป็นอันหนึ่งเดียวกัน มีการทำงานร่วมกันในด้านกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เป็นการทำงานเพื่อพระพุทธเจ้า แทนที่จะทำงานในนามข้าพเจ้า ชาวพุทธหลายกลุ่มจึงร่วมแรงร่วมใจกัน จัดงาน สัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาล วันวิสาขบูชา ขึ้นในปีพ.ศ. ๒๕๒๗ เป็นครั้งแรก การจัดงานนี้ขึ้นได้ผลคือทำให้ชาวพุทธหันมาสนใจในศาสนาของตนเองมากขึ้น องค์กรชาวพุทธต่างๆมีความสามัคคีกันมากขึ้น และการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนานี้ ก็จัดมากันทุกปี จวบจนปัจจุบัน การบำเพ็ญพระราชกุศล วิสาขบูชา ในรัชสมัยพระบาทมสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน พระองค์ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล เนื่องใน วันวิสาขบูชา ตามแบบฉบับของพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงเป็นพุทธมามกะเสมอทุกปีมิได้ขาด จนกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงประกอบพระราชพิธี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วิสาขบูชา ต่อเนื่อง ๒ วัน คือ วันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ หรือวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๗ ในปีที่มีอธิกมาส เป็นพิธีทรงตั้งพระภิกษุสามเณรเปรียญ วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ หรือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ในปีที่มีอธิกมาส เป็นวันทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา พิธีบำเพ็ญพระราชกุศลทั้ง ๒ วันนี้ ทรงประกอบ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยเฉพาะการพระราชกุศลวิสาขบูชา บรรดาข้าราชการจัดโคมประทีบแขวนที่กำแพงแก้ว และศาลารายรอบพระอุโบสถ เมื่อทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูปที่สำคัญแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยุ่หัวจะทรงจุดเทียนและถือไว้ เพื่อให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการ เข้าไปขอพระราชทานต่อไป สำหรับบูชาพระรัตนตรัยและเวียนเทียน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงนำสวดบูชาพระรัตนตรัยและเวียนเทียน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงนำสวดบูชาพระรัตนตรัยและเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ ๓รอบ แล้วเสด็จขึ้นสู่พระอุโบสถ ทรงโปรยมะลิและกลีบกุหลาบที่ธรรมาสน์ศิลา พระราชาคณะถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนา ๑ กัณฑ์ เสร็จแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรกแล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ การบำเพ็ญกุศลเนื่องใน วันวิสาขบูชา สำหรับพุทธศาสนิกชนทั่วไป เมื่อวันสำคัญทางพระพุทธศาสนามาถึง ก็มักจะมีการบำเพ็ญกุศล มีทั้งทาน ศีล และภาวนา เริ่มตั้งแต่การทำบุญถวายทาน ตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ รักษาศีล ๕ หรือ ศีล ๘ เจริญสมาธิภาวนา ตามวัดต่างๆ หรือมีการฟังพระธรรมเทศนาจากพระภิกษุสงฆ์ การกระทำกิจกุศล ประการหนึ่ง ใน วันวิสาขบูชา หรือวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอื่นใด ที่พุทธศาสนิกชนกระทำ ถือเป็นการเจริญพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ และการน้อมสักการะบูชา น้อมระลึกถึงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนานั้น คือการเวียนเทียน รอบพระสถูป พระพุทธปฏิมา หรือพระอุโบสถ ซึ่งมักทำกันในช่วงเย็น หรือค่ำของวันนั้นๆ
เย...ธมฺมา..โหตุ..ปัพฺพวา .....พระเจ้าอโศก ได้ทรงสั่งจารึก....พระพุทธวัจจนะ...ไว้ ณ.จารึกพระเจ้าอโศก.... พระพุทธวัจจนะ... ....... เย...ธมฺมา..โหตุ..ปัพฺพวา ธรรมทั้งหลายไหลมาแต่เหตุ... ทุกข์เกิดที่ใด ดับที่นั่น.. ฉันใดฉันนั้น...
ภาคพิธีกรรม การเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา ในเมืองไทย ในทุกๆปี ที่วันวิสาขบูชา เวียนมาถึง ในประเทศต่างๆที่นับถือพระพุทธศาสนา ก็จะจัดงานเฉลิมฉลอง เพื่อเป็นการระลึกถึงพระพุทธองค์ ระลึกถึงพระรัตนตรัย การเฉลิมฉลองเกี่ยวกับวันวิสาขบูชา ในเมืองไทยนี้ คาดว่าคงมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยแล้ว โดยอาจจะสืบมาจากการติดต่อกับลังกาทวีป หลักฐานที่พอจะยืนยันได้ ดังความตอนหนึ่งในหนังสือนางนพมาศ ว่า "อันพระนครสุโขทัยราชธานี ถึงวันวิสาข นักขัตฤกษ์ครั้งใด ก็สว่างไสวด้วยแสงประทีบเทียนดอกไม้เพลิง และสล้างสลอนด้วยธงชายธงประดาก(ธงชัย และ ธงปฏาก)ไสวไปด้วยพู่พวงดอกไม้กรองร้อยห้อยแขวน....." ในสมัยอยุธยาก็มีงานฉลองวันวันวิสาขบูชา และเป็นงานฉลองใหญ่ทั้งงานหลวงงานราษฏร์ ครั้นกรุงแตกแล้ว ประเพณีจึงเสื่อมทรามไป จนมีการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ในรัชกาลที่ ๒ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยมีพระราชโองการ เมื่อ จ.ศ. ๑๑๗๙ (พ.ศ. ๒๓๖๐) กำหนดให้มีงานสมโภชประจำปีเป็นการใหญ่ยิ่งกว่างานใดๆ ความในพระราชกำหนดพิธีวิสาขบูชา จ.ศ. ๑๑๗๙ ว่า ทรงมีพระทัยปรารถนาจำบำเพ็ญพระราชกุศล ให้มีผลวิเศษยิ่งกว่าที่ได้ทรงกระทำมา จึงมีพระราชปุจฉาถามคณะสงฆ์ มีสมเด็จพระสังฆราช(มี) เป็นประธาน ซึ่งได้ถวายพระพรถึงโบราณราชประเพณี ดังสมัยพระเจ้าภาติกราชแห่งลังกาทวีป เป็นเหตุให้ทรงมีพระราชโองการกำหนดพิธีวิสาขบูชา นักขัตฤกษ์ใหญ่ ครั้งละ ๓ วัน สืบมา ในสมัยรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดงานวันวิสาขบูชา ให้พิเศษไปกว่าที่เคยจัดในรัชกาลก่อนๆ คือ ให้ตั้งโต๊ะเครื่องบูชาพระพุทธธรรม ณ เฉลียงพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และให้ทำโคมแขวนไว้ตามศาลารายอีกด้วย ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการฝ่ายใน เดินเวียนเทียนและสวดมนต์รอบๆพระพุทธรัตนสถาน วิธีปฏิบัตินี้นับว่าเป็นแบบอย่าง ของการเวียนเทียนในรัชกาลๆต่อมา จนถึงสมัยปัจจุบัน วันวิสาขบูชา Source : ..http://www.worldbuddhism.net/buddhism-day/visak-day.html
2 มิถุนายน 2547 10:25 น. - comment id 74487
ในการเขียนกลอนไว้ที่ ส่วนกลอนเมื่อวานนี้ ทิกิ_tiki ก็ใช้เวลาส่วนหนึ่งค้นหาข้อมูลด้านนี้ คิดว่า ถ้าวันนี้พอมีเวลาว่างจะได้เขียนเรื่องนี้ต่ออีกสักหน่อยในหน้าเรื่องสั้น เป็นสารคดีที่น่าสนใจ ก็เห็น หัวข้อ วันสำคัญของโลก ก็ทำให้คิดถึงว่า วัน วิสาขบูชา นี้ เป็นวันรักแห่งมนุษยชนที่แท้จริง หนึ่งวัน ขออนุญาติ ทาง พุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก นำบทความลง ณ.ที่นี้ http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=2605 เรียนมาด้วยความเคารพทุกท่านก่อนค่ะ 2605 Posted by : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki Source : ..http://www.worldbuddhism.net/buddhism-day/visak-day.html Date - Time: 02 มิ.ย. 47 - 09:47 Note : ๏ ๏ วิสาขะบูชา...สหประชาชาติ ๏ ๏
2 มิถุนายน 2547 14:51 น. - comment id 74493
อนุโมทนาในกุศลจิตเป็นอย่างยิ่งค่ะคุณทิกิ..สาธุ
2 มิถุนายน 2547 17:40 น. - comment id 74499
เย็นนี้เราไปเวียนเทียนกันนะคะ พี่ทิกิ...
2 มิถุนายน 2547 22:45 น. - comment id 74507
อนุโมทนาในกุศลจิตเป็นอย่างยิ่งค่ะคุณทิกิ..สาธุ จาก : รหัสสมาชิก : 4920 - พี่ดอกแก้ว รหัส - วัน เวลา : 9381 - 02 มิ.ย. 47 - 14:51 รับบุญอนุโมทนาคุณดอกแก้วดีกว่าค่ะ
2 มิถุนายน 2547 22:46 น. - comment id 74508
เย็นนี้เราไปเวียนเทียนกันนะคะ พี่ทิกิ... จาก : รหัสสมาชิก : 7383 - fatima รหัส - วัน เวลา : 9387 - 02 มิ.ย. 47 - 17:40 กลับมาแล้วค่ะ ง่วงดีจังวันนี้
2 มิถุนายน 2547 23:34 น. - comment id 74510
พยายามอ่านแล้วจะตอบแล้วค่ะ อนุโมทนาบุญที่ไปเวียนเทียนวัดมานะคะ ดีใจด้วยค่ะ