ผิดไหม ตอนอวสาน

กวีบ้านไร่

นับจากวันนั้นเป็นต้นมาผมกับหน่อยก็แทบจะไม่ค่อยได้มองหน้ากันเท่าไหร่ วันนี้ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าใส อากาศอบอุ่น เหล่าแมงปอ และหมู่ผีเสื้อหลากสียังคงบินวนรอบๆ ท้องฟ้าราวกับการเต้นระบำยังไงยังงั้น แต่ภายใต้ต้นกาสะลอง(ดอกปีบ) ที่ส่งกลิ่นหอมตลอดปี ผมยังคงนั่งทบทวนความผิดของตัวเองอยู่ตลอดมา ภาพที่ผมเห็นในขณะนั้นมันเหมือนมนต์ตราที่ตราตรึงให้ผมนะจังงัง ทำอะไรไม่ถูก เพราะหน่อยได้นั่งคุยหยอกล้อกระนุ่งกระนิงกับ นิสิตทันตแพทย์รุ่นเดียวกัน จิตใจผมตอนนั้นไม่รู้เป็นไง ทำอะไรไม่ถูก เหมือนไม่พอใจภาพที่เห็นมากเลย ผมจึงเดินออกไปจากที่แห่งนั้นโดยเร็ว
         หลังจากที่เราเรียนจบแล้วต่างคนต่างไปทำงานใช้ทุนในภูมิลำเนาของตัวเอง ผมกับเธอก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย วันนี้ผมไม่รู้เป็นไงคิดถึงหน่อยตลอดมา ผมจึงหยิบจดหมายอีกหนึ่งฉบับที่เขียนไว้เพื่อขอคืนดีกับหน่อย แต่มันคงสายเกินไป เพราะผมไม่อยากทำลายหน่อยอีกครั้ง และไม่ต้องการให้ดอกรักของหน่อยและทันตแพทย์ คนนั้นต้องชอกช้ำเพราะคนเลวๆ อย่างผม อากาศวันนี้เงียบเหงามากผมค่อยๆ คลี่กระดาษความหนาเท่ากับกระดาษเอสี่ เขียนด้วยลายมือ เรียบเรียงเป็นระเบียบมาก  
*************************
ถึง  หน่อย
         จดหมายฉบับนี้ ที่ผมเขียนมาหาหน่อยนี่ใช่ว่าจะมาขอคืนดีหรือขอความเห็นใจแต่อย่างใด แต่เพียงเพื่อขออธิบายเหตุผลที่ผมได้ทำผิดกับหน่อยมาก   ผมได้ทบทวนความผิดของผม ที่ผมทำต่อหน่อยมาโดยตลอดมา หน่อยคงไม่รู้หรอก ว่าผมมีเหตุผลที่สำคัญที่จะต้องออกจากชีวิตรักของเราทั้งสองคน ทั้งที่ผมรักหน่อยมาก ผมไม่เคยรักใครมากเท่ากับหน่อยเลย หน่อยอาจจะมองว่าเป็นคำแก้ตัวยอดฮิตของผู้ชายทั่วไปก็ได้ แต่นี่คือคำสัจจริงของผม
         ผมมีเหตุผลบางอย่างที่ผมไม่ได้บอกให้หน่อยได้ล่วงรู้ในตอนนั้น ในตอนนั้นผมรู้สึกสับสน ทำอะไรไม่ถูกเลย ผมรู้สึกแย่มากเลย แต่ที่ผมทำไปทุกอย่างมีเหตุผลรองรับตลอดมา คือผมไม่อยากให้เราสองคนต้องถลำลึกไปมากกว่านี้  และผมก็รักหน่อยมากด้วย จึงยอมออกไปจากทางรักของเราสองคน ผมได้ทำผิดพลาดไว้ในอดีต เมื่อครั้งผมอยู่ ม.ปลาย ผมได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่ง เราคบกันเป็นแฟนในตอนนั้น และเรื่องราวระหว่าผมกับเขาก็เกินเลยกว่าที่คิด ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายต่างรับรู้เหตุผลซึ่งกันและกัน และได้ทำการหมั่นหมายเราสองคนไว้ว่าหากเรียนจบจะได้จัดงานแต่งงานกัน ซึ่งผมไม่ได้เต็มใจแต่อย่างไร เพียงเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ยอมรับว่า ผมคบกับเขานั้น ผมก็มีความสุขมากแต่ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ ตั้งแต่ผมได้พบกับหน่อยและเมื่อคบกับหน่อยแล้ว ทำให้ผมไม่อยากจากหน่อยไป แต่พันธะของผมยังเป็นโซ่มาคล้องผมไว้ตลอดมา และผมจึงได้ตัดสินใจออกห่างจากหน่อยไปทั้งที่ผมไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นเลย เพื่อจะได้เปิดทางให้หน่อยได้เจอคนที่ดีกว่าผม  
         หน่อยครับอย่าได้เสียใจ หรือเสียน้ำตาต่อคนเลวๆ อย่างผมเลย ผมมีค่าไม่มากพอที่จะทำให้หน่อยต้องเสียน้ำตาได้เลย 
                                                                                                        รักนะครับและจะไม่เคยลืมเลย
                                                                                                                              A
ปล.  ผมจะเก็บภาพแห่งความทรงจำเราไว้ตลอดไป
***************************************
         หลังจากผมได้เรียนจบแล้ว ผู้หญิงที่ผมหมั่นหมายไว้ เธอก็ได้พบรักใหม่ที่ดีและเขาทั้งสองคนก็มีโครงการที่จะใช้ชีตร่วมกันในไม่ช้านี้ ผมยินดีที่จะถอนหมั่นโดยไม่เรียกร้องอะไร ทำให้ผมเสียดายตลอดมาว่า หากผมคิดจะคบกับหน่อยเรื่อยมาผมคงไม่ว่าเปล่า เหมือนทุกวันนี้ และคำถามที่ผมยังถามตัวเองตลอดมาคือเราผิดด้วยหรือ กับสิ่งที่เราทำ?
         ตู๊ดดดดดดดดดดดด       ตู๊ดดดดดดดดดดดด  ผมสะดุ้งตืนจากพวังแห่งความคิด แล้วรีบรับโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงเรียกทันใด สวัสดีครับ ไม่ทราบผมกำลังคุยกับใครครับ       อ๋อคุณทิกิ  เหรอครับ				
comments powered by Disqus
  • tiki

    28 พฤษภาคม 2547 15:32 น. - comment id 74426

    โอ๊ย...อ่านมาก็ดีดีอยู่หรอก ท่านกวีบ้านไร่ค่ะ
    แต่ตอนสุดท้ายทำทิกิ กลิ้งตกเก้าอี้กเลย เหอ เหอ เหอ ตลกร้ายจังคุณหมอเอ..ขา
    
    อย่างนี้ หมอก็หาแฟนใหม่ไม่ได้ล่ะสิ โฮ้ย ลบออกซะเถอะ อิอิ
    
    
     แต่ไม่ใช่นา ...คิดไปก็ดีอยู่ค่ะ...ส่วนใหญ่ ถ้าเห็นทิกิ คุยกับใครอยู่ล่ะ ส่วนใหญ่สาวมารุมจีบคนนั้นกันมั่ง เลยละ แบบ นักโฆษณา เลยค่ะ
    
    ขอหัวเราะอีกทีค่ะ เอิ๊ก
    
    ทิกิ_tiki
  • ดาหลา

    1 มิถุนายน 2547 10:21 น. - comment id 74475

    สวัสดีค่ะคุณกวีบ้านไร่
    ดาหลาติดตามอ่านเรื่องสั้นของคุณมาโดยตลอดนะคะ...
    
    ถ้าเป็นเรื่องจริง....ดาหลารู้สึกเห็นใจคุณ A มากเลยนะคะ...
    
    ชีวิตคนเรามันเลือกไม่ได้ค่ะ...เหมือนดังกับว่าพระพรหมท่านได้ลิขิตมาแล้ว...
    
    บางเรื่อง  ณ  ตอนนั้น  เวลานั้น...เราต้องทำอย่างนั้น...
    มาถึงเวลานี้  ปัจจุบันนี้....ณ เวลานี้....มันต่างกัน....และเราต้องกระทำไปตามบทบาท..ความตามหน้าที่ที่รับผิดชอบ..
    
    บางครั้งกดดันมากมาย..
    บางครั้งสับสน...
    บางครั้งทำอะไรที่บ้าๆออกไป...
    
    และนี่คือชีวิตของคนเราค่ะ...
    
    ไม่มีอะไรแน่นอน...
    ใจเราเป็นนายตัวเราเป็นบ่าว...
    
    ขออภัยที่เข้ามารบกวนในบ้านคุณนะคะ...
    
    ขอให้คุณมีความสุขมากๆนะคะ
  • กวีบ้านไร่

    7 มิถุนายน 2547 09:20 น. - comment id 74568

    ขอบคุณมากครับ ดาหรา
  • rin

    9 มิถุนายน 2547 12:07 น. - comment id 74616

    อยากจะตอบคำถามที่ว่า \"ผิดไหม ตอนอวสาน\" แต่ไม่รู้จะตอบยังไงดี
  • กวีบ้านไร่

    9 มิถุนายน 2547 16:13 น. - comment id 74628

    ครับ rin อย่างไงก็ขอบจัยน่ะครับที่เข้ามาอ่าน
  • oil

    15 กันยายน 2554 13:51 น. - comment id 126434

    สวัสดีค่ะ คุณ ต้อม (กวีบ้านไร่)
    ให้คุณรู้ว่าเป็นกำลังใจให้คุณมาตลอด
    และ ฉันรอติดตามผลงานของคุณต่อไป
    ........................................................
    ฉันเข้าใจคุณดี เพราะฉันก็เคยมีน้ำตา 
     ตอนอวสาน ของหัวใจ.....

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน