Lovely มาเฟีย
หมูก้อย
คนคู่หนึ่งแต่งกายมิดชิดด้วยเสื้อแขนยาวสีเทาตัวโคร่ง ทั้งสองสวมฮู้ดปิดหน้าคล้ายกลัวคนพบเห็นจะรู้ว่าตนเป็นใคร ทั้งสองมีความสูงต่างกันจนเห็นได้ชัดเพราะคนตัวเล็กสูงแค่ไหล่ของอีกคนเท่านั้น
ทั้งคู่เดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยแสงสีและผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจในยามค่ำคืน สถานที่นี้ดูไม่เหมาะอย่างยิ่งกับเด็ก!
เราจะไปไหนดีค่ะคนตัวเล็กถาม เสียงของเธอกังวานใสน่าฟัง
พี่ว่าเรารีบกลับจะดีที่สุด ที่แบบนี้ไม่เหมาะกับเราเลยนะคนตัวสูงตอบ น้ำเสียงเป็นกังวน แต่ก็ยังนุ่มนวลน่าฟัง
คนตัวเล็กท่าทางไม่สนใจที่คนตัวสูงกล่าว เธอกวาดสายตาไปรอบๆอย่างสนใจใคร่รู้ ในที่สุดก็ดึงมือคนตัวสูงเข้าไปในร้านหนึ่งที่มีคนแน่นขนัด
เมื่อเข้ามาในร้านเจ้าตัวเล็กก็กวาดสายตาหาที่นั่งในที่สุดก็ได้ที่ในมุมๆหนึ่งที่ดูจะเงียบที่สุดในร้าน เพราะถึงอย่างไรก็ดูจะไม่มีที่นั่งอื่นเหลืออีกแล้ว
ไม่นานบริกรก็เดินเข้ามาท่าทางลุกลี้ลุกลน
เออโต๊ะนี้นั่งไม่ได้นะครับ ในที่สุดบริกรหนุ่มก็กล่าวออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ
ทำไมล่ะ เจ้าตัวเล็กขมวดคิ้ว
คือโต๊ะนี้มีเจ้าประจำครับ ทางที่ดีคุณรีบเปลี่ยนโต๊ะดีกว่าครับ บริกรหนุ่มอึกอักอยู่ครู่ใหญ่จึงกล่าวมา
แล้วถ้าไม่ย้ายล่ะ เจ้าตัวเล็กถาม
ย้ายเถอะครับ คือคือว่าแขกโต๊ะนี้เป็นอันธพาลใหญ่ในแถบนี้นะครับ ถ้าไม่รีบย้ายน่ากลัวจะเกิดเรื่องแล้วครับ บริกรหนุ่มละล่ำละลัก
เรา-ไม่-กลัว เจ้าตัวเล็กเน้นทีละคำ
เมื่อบริกรหนุ่มได้ยินถึงกับตาเหลือก
แต่แต่คนที่ลองดีกับพวกมันเจ็บตัวทุกรายนะครับ บางรายถึงตายเชียว เจ้าบริกรหนุ่มพยายามอธิบายถึงความน่ากลัว
นั่นเป็นเรื่องของเรา ตอนนี้เอาน้ำมะนาวกับน้ำส้มมาอย่างละแก้วแล้วกัน เจ้าตัวเล็กกลอกตา เธอกำลังนึกอะไรบ้างอย่างที่เธอคิดว่าสนุก!
บริกรหนุมลังเลอยู่ครู่จึงจากไป
คนตัวสูงทอดถอนใจอย่างเป็นกังวนแล้วกล่าวว่า
อายะกะ.กลับกันเถอะ อย่ามีเรื่องเลย
เจ้าตัวเล็กหัวเราะเสียงใสกล่าวว่า
โถ่ พี่ก็ นานๆทีน่า เรื่องสนุกอย่างนี้พลาดได้ไง
คนตัวสูงถอนใจอย่างกึ่งเอ็นดู กึ่งเหนื่อยใจ กับพฤติกรรมของน้องสาวตัวแสบ
ที่แท้คนตัวสูงคือยูเอะและคนตัวเล็กอายะกะลูกสาวของนายยูกิ เจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ในแถบนี้ และเขาก็มีธุรกิจบังหน้าอยู่หลายแห่ง ปีนี้ยูเอะมีอายุ 18 ปีแล้ว ส่วนอายากะอายุ 14 ปี ที่จริงวันนี้ยูเอะไม่ได้คิดจะมาที่นี่เลยแต่เป็นเพราะอายะกะน้องสาวของเธออยากจะมา เธอไม่อาจปล่อยให้อายากะมาคนเดียวได้จึงต้องติดตามมาด้วย
ยูเอะไม่อยากให้เกิดเรื่องที่นี่เลย แต่ตอนนี้คงหลีกเลี่ยงได้ยาก เธอได้แต่ภาวนาให้อายะกะเชื่อตนบ้าง หรือไม่ก็อย่าให้คู่กรณีมาที่นี่เลย แต่ยูเอะก็รู้ว่าคงได้แค่หวัง
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ยังไม่มีวี่แววว่าใครจะมาทวงที่ ยูเอะเริ่มใจชื้นขึ้น หวังว่าอายะกะจะเบื่อที่ต้องรอจนกลับไปเอง แต่แล้วความหวังของยูเอะก็ดับวูบ เมื่อมีเสียงโวยวายดังขึ้นใกล้ๆ
ยูเอะเห็นชายฉกรรจ์ท่าทางเอาเรื่อง 5 คน เดินเข้ามาใกล้
เฮ้ย! เจ้า 2 คนนั่น ลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะถ้าไม่อยากเจ็บตัว เจ้าอันธพาลตัวโตกล่าวพรางหักนิ้ว
ที่ตรงนี้เรานั่งก่อน และก่อนนั่งเราก็ดูดีแล้วว่าไม่มีป้ายจอง อายะกะกล่าว เล่นเอาพวกอัธพาลฉุนกึก
ยูเอะส่งสายตาวิงวอนอายะกะเต็มที่ แต่อายะกะไม่มีท่าว่าจะรับรู้ ยูเอะจึงต้องเอ่ยปากเอง
คือพวกเราไม่รู้ว่ามีเจ้าของก็เลยมานั่งโดยพลการต้องขอโทษด้วยนะค่ะ
พวกอัธพาลมองหน้ากันอย่างชั่งใจ
ก็ได้ น้องสาวเราปล่อยเธอไป แต่! เจ้าคนปากดีต้องอยู่ ในที่สุดอัธพาลคนหนึ่งก็กล่าวออกมา
ยูเอะเริ่มกระสับกระส่ายจนเห็นได้ชัด
พี่จะไปก็ได้ อายะกะกล่าว
ถ้าเธอไม่ไปพี่ก็ไม่ไป! ยูเอะเน้นเสียง
เป็นพี่น้องที่รักกันดีนี่ แต่ว่าก็ว่าเหอะสาวๆจะไม่เปิดหน้าให้พวกพี่ชมเลยเหรอ..เพื่อบางทีพวกพี่อาจใจอ่อนก็ได้ เจ้าอันธพาลกล่าว แล้วพวกมันก็พากันหัวเราะ
แต่เสียงหัวเราะยังไม่ทันขาดอายะกะก็เหวี่ยงหมัดใส่เจ้าคนที่พูดเต็มแรง! เจ้าอันธพาลผู้นั้นถึงกับลงไปกองแน่นิ่งกับพื้น
คนที่เหลือนิ่งไปครู่เพราะไม่คิดว่าเด็กผู้หญิงอย่างอายะกะจะร้ายกาจอย่างนี้ พวกมันมองอายะกะอย่างเหี้ยมเกรียม พวกมันค่อยๆย่างสามขุมเข้าหาอายะกะ ยูเอะเองก็นั่งเฉยต่อไม่ได้ ถึงไม่อยากมีเรื่อง แต่คราวนี้คงเลี่ยงไม่ได้แล้ว
ผู้คนภายในร้านเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ บางคนเดินออกจากร้านไป บางคนใจกล้ายังอยู่ดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในจำนวนนั้นยังมีชายหนุ่มในมุมมืดที่ตั้งตาดูอย่างสนใจ
เจ้าอันธพาลทั้งหมดเข้ารุมยูเอะและอายะกะอย่างบ้าครั่งแต่ก็ทำอะไรทั้งคู่ไม่ได้ แถมพวกมันยังเป็นฝ่ายเจ็บตัวเอง
ไงล่ะ ทีนี้รู้รึยังว่าถูกรังแกเป็นอย่างไร ต่อไปอย่าให้เรารู้นะว่าพวกแกยังทำตัวเป็นอันธพาลอยู่ อายะกะกล่าว แล้วหันหลังจะเดินออกจากร้านไป ทั้งคู่ไม่รับรู้เลยว่าเจ้าอันธพาลคนหนึ่งคว้ามีดหั่นเนื้อจากโต๊ะใกล้ๆ และพุ่งตัวตรงมายังร่างของยูเอะซึ่งเดินรั้งท้ายอย่างรวดเร็ว!
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
แต่ก่อนที่มีดจะสัมผัสตัวยูเอะก็มีมือมือหนึ่งคว้ามือที่จับมีดเอาไว้ได้ ตามมาด้วยเสียงกระดูกหัก และก่อนที่มีดจะหล่นชายหนุ่มลึกลับก็คว้ามันไว้ได้
เจ้าอันธพาลคนนั้นสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ส่วนคนอื่นมีแววทึ่งระคนหวาดกลัวอย่างที่สุด
พวกแกยังไม่ไปอีกรึ หรือว่าจะฉันลงมืออีก! ชายหนุ่มลึกลับถามเสียงเข้ม
ชายหนุ่มกล่าวยังไม่ทันจบพวกอันธพาลก็พากันลนลานจากไป
ชายหนุ่มลึกลับหันมามองยูเอะและอายะกะ ทำให้ยูเอะได้เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน ผมสีดำและนัยตาสีนิลที่คมเป็นประกาย คิ้วดกหนา จมูกที่โด่งเป็นสันชวนมองและบุคลิกอันสง่างามของเขาประกอบกับวีรกรรมที่เขาได้กระทำ ส่งผลให้เขากลายคนที่จะประทับอยู่ในดวงใจของยูเอะไปชั่วนิรันดร์
คนบางจำพวกก็ไม่ควรหันหลังให้ โดยเฉพาะเมื่อเราทำให้มันเจ็บ ชายหนุ่มกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกก่อนเดินจากไป
ยูเอะยังเหม่อมองจนลับสายตา มารู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อสังเกตเห็นดวงตาอีกคู่หนึ่งจ้องมองตนอย่างเจ้าเล่ห์ ถึงอายะกะไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่จากสายตาทำให้ยูเอะรู้ว่ายายตัวแสบเดาความรู้สึกของตนได้แล้ว ยูเอะหน้าแดงขึ้นมาทันตา
เอ่อเดี๋ยวเรื่องค่าเสียหายพรุ่งนี้เราจะมาจัดการให้นะค่ะ ยูเอะหันไปบอกเจ้าของร้านพร้อมยื่นนามบัตรให้ เป็นการเปลี่ยนเรื่อง
เมื่อเจ้าของร้านเห็นนามบัตรก็ละล่ำละลักกล่าวว่า
ไม่ไม่เป็นไรล่ะครับค่าเสียหายผมจัดการเอง
แต่ยูเอะและอายะกะยังคะยั้ยคะยอที่จะรับผิดชอบ จนในที่สุดเจ้าของร้านก็จำต้องรับไว้
อ้อแล้วขอร้องนะค่ะ เรื่องนี้คุณช่วยปิดทีอย่าให้ใครรู้ว่าเราเป็นใครโดยเฉพาะคุณพ่อ อายะกะกล่าวขอร้อง
นาฬิกาส่งเสียงบอกเวลาตี 3 แล้ว
เราก็กลับกันได้แล้วนะ ยูเอะกล่าวชวนอายะกะ
เดินออกจากร้านสักพักอายะกะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วบอกว่า
ศรรักปักอกเหรอค่ะ!
ยูเอะหน้าแดงไม่รู้จะตอบอย่างไร
ตอนนั้นทำไมพี่ไม่วิ่งตามไปนะ ถามชื่อไว้ก็ยังดี หรือไม่ก็อายะกะยังพูดไม่ทันจบก็โดนมะเหงกเข้าอย่างจัง
หยุดพูดถึงเขาได้แล้วแม่คนรู้ดี จะถึงบ้านแล้ว ยูเอะทำเสียงดุ แต่ฟังดูก็รู้ว่าเป็นเพียงการแก้เขิน
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
[โปรดติดตามตอนต่อไป]