เพราะ..?

พัชร์

เพราะ..?
             แสงแดดกำลังแผดเผา   ชโลมชะเลียผิวกายของกานต์   ชายหนุ่มวัยกลางคนที่กำลังจ้องมองเม็ดฝนที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าอย่างไม่ขาดสาย   เขากำลังฉงนกับการเล่นตลกของธรรมชาติ   ที่นำทั้งความร้อนและความชุ่มชื้นมาอยู่ในเขตปกคลุมของฟ้าผืนเดียวกัน   กานต์ชูมือขึ้นมาบดบังแสงแดดที่ทำให้เขานั้นรู้สึกระคายตา   ส่วนเม็ดฝนก็เริ่มทวีความถี่ตกกระทบลงบนผิวเนื้อของกานต์อย่างหน่วงหนักและไม่มีทีท่าที่จะหยุดหย่อน   กานต์เริ่มหันซ้ายหันขวาเพื่อหาที่พักพิงโดยหวังที่จะให้ร่างกายได้ละลดความเปียกปอนลงได้ไม่มากก็น้อยแต่มันก็เป็นไปได้อย่างลำบากเพราะความถี่ของเม็ดฝนเริ่มเบียดตัวกันแน่นจนกลายเป็นม่านสีใสบังหนายากแก่การชำเลืองมอง
            เท้าทั้งสองข้างที่ยืนนิ่งแนบอยู่กับพื้นนั้น   ก็เริ่มจะรู้สึกได้ถึงน้ำที่เริ่มเอ่อนองไหลซึมเข้าถึงเส้นรอยแตกตามฝ่าเท้า   กานต์ใช้นิ้วชี้ของเขาป้ายปัดหยดน้ำที่เปื้อนแปะอยู่ตามหน้าปัดนาฬิกาเพื่อดูเวลาที่เลื่อนตามการเคลื่อนเข็ม   ขาทั้งสองที่ย่ำน้ำจนชุ่มแฉะก็ก้าวข้ามเขตขอบฟุตบาทลงบนพื้นถนน   ในชั่วพริบตาที่จ้องมองเข็มนาฬิกาอยู่นั้น   ก็มีแสงสะท้อนกระทบเข้าตาของกานต์   กานต์หันขวับไปหาต้นตอของแสงที่ส่องสอดเข้าตาจนต้องยกมือขึ้นปัดป้อง   วัตถุเจ้าของแสงนั้นพุ่งเข้าชนร่างของกานต์อย่างแรง   ร่างร่วมวิญญาณของกานต์ลอยฝ่ามวลอากาศที่ว่างเปล่าแล้วจึงตกกระทบลงบนผิวพื้นหล่อคอนกรีต   กานต์นอนแน่นิ่งไม่มีแนวโน้มที่จะขยับเขยื้อนเคลื่อนกาย
          กลุ่มคนที่หลบฝนอยู่บริเวณนั้นเริ่มเข้ามารายล้อมมองดูร่างที่หมดสติของเขา   น้ำฝนที่ไหลเปรอะอยู่ตามพื้นนั้นเปลี่ยนจากสีขุ่นเป็นสีแดงจางๆจนกลายเป็นสีแดงก่ำ   สักพักร่างของเขาก็ถูกอุ้มลอยขึ้นมาบนเปลสีขาวแล้วจึงถูกยกขึ้นบนรถที่ติดไฟหมุนสีแดง   กลุ่มคนแตกฮือออกจากกันเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจาก จุดที่เหตุเกิด   เมฆฝนที่ปกคลุมชั้นบรรยากาศอยู่นั้นได้ถูกลมพัดจางหายไป   แสงแดดก็เข้ามาครอบคลุมเขตพื้นที่นั้นอย่างเต็มตัว   สายตาที่จับจ้องอยู่กับเหตุการณ์นั้นได้ละสายตากันไปหมดแล้ว   หลงเหลือเพียงแต่ภาพเก่าๆที่ได้ผ่านตาไป
       อ้าว! รู้สึกตัวแล้วหรือครับคุณ   นี่คุณหลับไปนานเลยนะเนี่ย  เสียงที่ขาดสายได้แทรกสอดเข้าไปถึงโสตประสาทของกานต์
        คุณได้ยินรึเปล่าน่ะ  เสียงดังกล่าวได้ทวีความถี่ชัดขึ้นเรื่อยๆจนได้ยินอย่างชัดเจน   กว่ากานต์จะตอบกลับคำถามนั้นก็มีเสียงดังแทรกเข้ามาอีก
       คงยังมึนๆอยู่ล่ะสิ  ก็คุณโดนรถชนซะกระเด็นเลย   พอจบกลุ่มคำดังกล่าว   กานต์จึงถามขึ้นมาบ้าง
       เออ นี่ผมอยู่ที่ไหน และคุณเป็นใคร
        คุณนี่ถามแปลกๆนะ  คุณก็อยู่ที่โรงพยาบาลน่ะสิครับ  ส่วนผมก็เป็นหมออยู่ที่นี่  พอกานต์ได้ยินอย่างนั้นแล้วจึงรีบถามถึงครอบครัวของเขาทันทีที่ความคิดดังกล่าวนั้นฉุกขึ้นมา
        ครอบครัวของผมล่ะ เขามากันหรือยังครับ
                คำถามดังกล่าวไม่ได้รับการตอบกลับให้กานต์นั้นหายข้องใจ
แล้วกานต์ก็เริ่มรู้สึกว่าเตียงที่เขานอนอยู่นั้นกำลังถูกเข็นไปที่ไหนสักแห่ง   สักพักก็มีเสียงดัง ตึง คล้ายประตูบานใหญ่ปิดสนิทเข้าหากัน   นั่นเป็นเพียงแค่เสียงที่กานต์ได้แต่สันนิษฐานมันขึ้นมา   เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถที่จะขยับแขนขาไปตามที่เขานั้นปรารถนาได้   บรรยากาศรอบกายนั้นเริ่มเย็นลงเปรียบเสมือนว่ามีเกล็ดน้ำแข็งมาติดตามผิวหนังของเขา   แล้วก็มีเสียงประตูเปิดปิดลงอีกครั้งเหมือนกับที่เขานั้นได้ยินในครั้งแรก  เป็นเวลานานแล้วที่ความเงียบงันมาตีแผ่ปกคลุมพื้นที่ที่กานต์นอนอยู่   ไม่มีเสียงใดๆเลยที่ดังเล็ดรอดเข้าถึงโสตประสาทของเขา   กานต์รู้สึกอึดอัด   จึงพยายามขยับตัวเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายจากบรรยากาศรอบเคียง   แต่มันก็ไม่เป็นผล   ถึงจะพยายามมากเท่าไหร่ก็เหมือนกับว่าความรู้สึก อึดอัด นั้นไม่มีทีท่าที่จะหลุดลอยไปจากห้วงความคิดของเขาเลย   ในขณะที่เหตุผลต่างๆนานาเริ่มแตกตัวกันจนปนเปอยู่ในขอบข่ายความคิดอยู่นั้น   ก็มีเสียงจากใครคนหนึ่งที่ดังก้องขึ้นมาพอให้กานต์รู้สึกใจชื้น   ว่าเขาไม่ได้อยู่ในห้องนี้เพียงลำพัง
            สมองของคุณได้รับความกระทบกระเทือนอย่างมาก  ส่วนร่างกายก็บอบช้ำเหลือเกิน  คงต้องนอนอยู่ที่นี่ไปพักหนึ่งก่อนนะครับ  เสียงของหมอคนเดิมหายไปสักระยะหนึ่งแล้วแต่กานต์ยังคงมีเรื่องที่ค้างคาอยู่อีกเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้ถาม  เขาจึงถามหมอว่า
           หมอ  ตาผมเป็นอะไรครับ  ทำทำไมมองอะไรไม่เห็นเลย  แล้วหมอไม่รู้สึกหนาวบ้างหรือครับ   เสียงของกานต์เริ่มสั่นเทาด้วยความหนาวเหน็บ
          ผมเข้ามาที่นี่เพื่อคอยดูแลคนป่วยกรณีเดียวกับคุณอยู่บ่อยๆ  ส่วนอากาศหนาวแบบนี้ ผมเองก็ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะชินกับมัน   และที่คุณมองไม่เห็นก็เพราะว่ามีผ้าบังตาคุณอยู่น่ะสิครับ
          สักพักหนึ่ง เสียงจากประตูใหญ่บานเดิมก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง  แต่คราวนี้มันแตกต่างจากครั้งที่ผ่านๆมา  เพราะเสียงที่กานต์ได้ยินกลับเป็นเสียงแหลมทุ้มราวกับมีเหล็กหนาแผ่นใหญ่มาปิดกั้น  ทำให้ไม่สามารถที่จะเปิดมันขึ้นมาใหม่ได้อีก  เสียงดังกล่าวได้เงียบหายไปครู่หนึ่งแล้ว  หากแต่ว่ามันยังคงดังกึกก้องในโสตประสาทของเขาอยู่อย่างนั้น  ห้องที่เย็นยะเยือกและเงียบสงัดเช่นนี้  ปราศจากเสียงๆหนึ่งที่น่าจะได้ยินมันอย่างชัดเจน  แต่ ห้องที่ไม่มีลมหายใจ อย่างนี้จะไปได้ยินเสียงนั้นได้อย่างไร				
comments powered by Disqus
  • Completely

    3 พฤษภาคม 2547 15:05 น. - comment id 73862

    อืม ... ทั้งหมอทั้งกานต์เป็นผีทั้งคู่หรือเปล่าคะ? สถานที่ใช่ห้องดับจิตหรือเปล่า ... กานต์ถูกเก็บอยู่ในช่องเก็บศพในห้องหรือเปล่าคะ?
    
    อาจเป็นเพราะหิวมาก ... ตั้งแต่ตื่นมายังไม่ได้ทานอะไรเลยคะ ... เลยค่อนข้าง งง กับเรื่อง
    
    ยังไงรบกวนอธิบายหน่อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
  • พัชร์

    4 พฤษภาคม 2547 22:36 น. - comment id 73887

    คุณเข้าใจถูกต้องแล้วครับ (\",)
  • หนิง

    18 เมษายน 2553 13:41 น. - comment id 116594

    พัชร์...วันนี้เป็นวันที่เพื่อน ๆ จะไปส่งพัชร์กลับขึ้นสวรรค์แล้วนะจ๊ะ หนิงแวะมาอ่านเรื่องสั้นของพัชร์อีกครั้ง แล้วก็จะออกไปวัดแล้ว
    
    หลับให้สบายนะเพื่อน แล้วมาเป็นเพื่อนกันใหม่ :)
    
    รักและอาลัย
    เพื่อน ๆ จันทรเกษม

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน