เทอไม่ใช่สิ่งเหม็นคาว แต่คือลูกสาวที่พ่อแม่รัก
Cartoon
เธอไม่ใช่สิ่งเหม็นคาว แต่คือลูกสาวที่พ่อแม่รัก
ความห่วงใยต่อลูกสาว ทำให้เกิดคำกล่าวแบบไทยโบราณว่า 'มีลูกสาวก็เหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน' ซึ่งเป็นคำพูดที่น่าเกลียดที่สุด เพราะทำให้เกิดความรู้สึกทางลบ ไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจ หรือความรู้สึกตระหนักในคุณค่าแห่งตน
ไม่รู้ว่าทำไมต้องเอาลูกสาว ไปเปรียบกับของเน่าเหม็นที่อยู่หน้าบ้าน เหมือนสิ่งเสียหายน่าอับอาย ทั้งๆ ที่ตอนนี้ เขามี 'โครงการหน้าบ้าน น่ามอง' กันแล้ว
สังคมไทย รวมทั้งหลายประเทศในเอเชีย ยกย่องให้คุณค่าแก่ เพศชายหรือลูกชายเกินเหตุ และลดคุณค่าของเพศหญิงจนต้อยต่ำ
แท้ที่จริงแล้วลูกสาว เป็นคนที่พ่อแม่ อยากทะนุถนอมอย่างที่สุด... ไม่มีข้อกำหนดและไม่มีใคร บังคับให้ต้องทำเช่นนั้น จิตอันอุดมด้วยความรัก บอกใจให้รับผิดชอบในหน้าที่
ลูกสาวคือคนที่พ่อแม่หวงแหน... หากลูกสาวถูกทำร้ายจิตใจ พ่อแม่ก็ถูกย่ำยีไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน
ลูกสาวคือ คนที่พ่อแม่ฝากความหวังไว้อย่างสุดชีวิต... ความสำเร็จของลูก ก็เป็นความภูมิใจของพ่อแม่ หากลูกทุกข์ทรมาน พ่อแม่ก็ร้าวรานใจมิต่างกัน
การมีลูกสาว ทำให้ชีวิตผู้ชายหลายคน เป็นคนดีมากขึ้น... ซึ่งพัฒนามาจากการเป็น 'คุณพ่อที่ดี' ก่อน คุณพ่อทั้งหลาย มักให้เกียรติเพศหญิงมากขึ้น เพราะอยากให้ใครๆ เคารพในเกียรติ และศักดิ์ศรีของลูกสาว คุณพ่อต้องไม่ดูหมิ่นเพศหญิง หากไม่ต้องการให้คนอื่นดูหมิ่นลูกสาวที่คุณพ่อรัก
พ่อแม่อยากมอบความรักให้ลูกอย่างเต็มที่... โดยไม่ให้ลูกต้องรู้สึกขาดแคลน พ่อและแม่กังวลว่า ลูกอาจโหยหาความรักจากผู้อื่น... ถ้าได้รับความรักจากพ่อแม่ไม่เพียงพอ
พ่อแม่ทั้งหลายพยายามขวนขวาย ให้ลูกอยู่โรงเรียนที่ดีที่สุด มีชีวิตอยู่ในบรรยากาศสิ่งแวดล้อมที่ดี คบเพื่อนที่ดี เลือกคนที่ดีเป็นคนรัก
เมื่อลูกเข้าสู่วัยสาว และเริ่มสนใจเพศตรงข้าม ผมบอกเขาว่า "คนส่วนมากที่เรารู้จักกัน ส่วนหนึ่ง เราสามารถคบเป็นเพื่อนสนิทได้ และมีเพียงไม่กี่คน ที่เราอาจชอบและรู้สึกกับเขาในฐานะเป็นแฟน แต่เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่เราเลือกเป็นคู่ชีวิต"
การคบคนหรือความใกล้ชิดกับใคร นิสัยใจคอ และพฤติกรรมของผู้ที่เราให้ความสนิทสนม มีผลต่อชีวิต เราอย่างยิ่ง...
เพราะมนุษย์มีลักษณะนิสัย ที่แตกต่างกันมากมายหลายจริต บางจริต ทำให้คนอยู่ใกล้เป็นทุกข์ และเดือดร้อนได้ง่ายๆ เช่นพวกโทสะจริต...ขี้โมโห หงุดหงิดง่าย ชอบมองคนอื่นในแง่ร้าย ขืนคบเป็น เพื่อนมีหวังเสียสุขภาพจิตได้ง่าย เพราะพวกนี้มักเต็มไปด้วยคำพูดเชิงลบ ถ้อยคำเชือดเฉือน น้ำเสียงกระชากวิญญาณ... เป็นพวก 'วจีพิฆาต' มักใช้วาจาเป็นอาวุธ ถ้าคำพูดเขา ไม่ทำร้ายเราให้เจ็บปวด ก็อาจทำร้ายคนอื่น ด้วยการให้ร้ายใส่ความนินทา ให้เราได้ยิน ถ้าเราเป็นคนหูเบา ก็อาจถูกครอบงำ เชื่อตาม... จนกลายเป็นคนมองส่วนดีผู้อื่นไม่เป็น
นอกเหนือจากมโนกรรม (มองโลกทางลบ) วจีกรรม (พูดจาทางลบ) ก็อาจถึงขั้นกายกรรม ทำร้ายร่างกายให้บาดเจ็บ หรือถึงแก่ชีวิต... เราอาจกลายเป็นเหยื่อของกายกรรมนั้น ถ้าไม่ใช่ฐานะโจทก์ ก็อาจเป็นพยาน หรือแม้แต่จำเลยที่ 2 ในฐานะเพื่อนสนิท และอยู่ในเหตุการณ์... จึงมีคำสอนว่า 'คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบพวกโทสะจริต ความผิดจะอยู่ชิดกับตัวเรา'... ประโยคสุดท้ายผมว่าเอง
บางคนเป็นพวกวิตกจริต... ขี้กังวล ฟุ้งซ่าน คิดมากเกินเหตุ เรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็เอามาคิดจนเป็นเรื่อง คิดแล้วใจเป็นทุกข์ พลอยทำให้เพื่อนสนิทเป็นทุกข์ไปด้วย เหลือเวลา คิดสร้างสรรค์น้อยลง เพราะภาวะอ่อนกำลังของศักยภาพทางสมอง
คนสองพวกที่กล่าวมา ถ้าห่างๆ ไว้ได้ก็ดี แต่ถ้าเคยทำบุญร่วมกันมาในอดีตชาติแล้วกลายเป็นเพื่อนสนิทในชาติปัจจุบัน ก็ถือเป็น โอกาสอันดี ที่คุณจะได้ 'สร้างกุศล' ในการรับฟัง และถ่ายทอดวิธีคิดทางบวก (Positive thinking) ให้เขาได้เกิดการพัฒนาตนเอง ชีวิตเขาจะดีขึ้นเพราะคุณ... ถ้าชีวิตคุณไม่แย่ลงก่อนเพราะเขา
เราทุกคนควรเลือกคบคน ที่มีพุทธิจริต จิตใจงดงาม พูดแต่สิ่งที่ดี และเป็นผู้ให้มากกว่าคิดเรื่องอยากได้ เขาเหล่านั้นจะไม่คิด ไม่มีคำพูดหรือ การกระทำใดๆ ที่จะก่อเกิดทุกข์ในใจเรา การอยู่ใกล้คนดี ทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ผู้หญิงที่มีแฟนดีหรือสามีที่ดี จะสัมผัสความสุขทุกวันคืน
คำกล่าวต่างๆ ข้างต้น เป็นสิ่งที่ผมขอพูดเขียนแทนพ่อแม่ทุกคน ที่มีความรักและห่วงใยลูกสาว
และ 'ข้อแลกเปลี่ยน' ที่พ่อแม่ ต้องการจากลูกคือ อยากให้ลูกสาวทุกคน มุมานะดำเนินชีวิตในทางที่ดีขึ้น และรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีที่สุด โดยไม่เอาตัวเอง เข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยง
เพราะความหมายของ 'ลูกสาว' คือ ผู้หญิงที่คุณพ่อคุณแม่รักมากที่สุดในโลก